ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 34 ตัวตนที่เปิดเผยของผู้อาวุโสนิรนาม

ตอนที่ 34 ตัวตนที่เปิดเผยของผู้อาวุโสนิรนาม

ตอนที่ 34 ตัวตนที่เปิดเผยของผู้อาวุโสนิรนาม (รีไรท์)

ประตูภูเขาหยกขาว ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน

หนิงฝานในชุดเรียบง่ายก้าวออกมา และเดินอย่างสบาย ๆ ไปทางบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์

สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่เขา

“เพ้ย นั่นหนิงฝาน เขาจะทำอะไรน่ะ”

“บ้าหรือไร ยังจะกล้าไปยุ่งกับบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์อีกงั้นหรือ”

“ยามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เจ้านั่นยังจะมาเล่นตลกอะไรอีก”

“ไร้สาระ หยุดเขาไว้ ไม่คิดว่าท่านผู้อาวุโสนิรนามจะยังไม่มาแต่ดันเป็นเจ้านี่”

“…”

ผู้คนต่างขมวดคิ้ว

พวกเขาตั้งใจจะเรียกท่านเซียนกระบี่นิรนามให้มาช่วย แต่ไม่คาดว่าจะได้หนิงฝานมาก่อปัญหาแทน

พรึ่บ!

แม้แต่หลัวชิงเซียนในชุดขาวเปื้อนเลือดก็ยังรีบตรงเข้ามาห้ามสามี

“หนิงฝาน! เจ้าจะทำอะไร รีบกลับไป!”

หลัวชิงเซียนขึ้นเสียง นางไม่เคยควบคุมสามีไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดในเวลาปกติ ทว่าวันนี้จะปล่อยให้เขาไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้

“ภรรยา เจ้าไม่ได้เรียกหาข้าหรอกหรือ”

หนิงฝานเลิกคิ้วถามแล้วยิ้มจาง ๆ

“หนิงฝาน เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอันใด เรากำลังขอให้ท่านผู้อาวุโสนิรนามออกมาจัดการกับศัตรู” หลัวชิงเซียนเริ่มร้อนรนด้วยความโกรธ

“ก็ข้าไง เซียนกระบี่นิรนามที่เจ้ากำลังพูดถึง”

หนิงฝานผายมือออก

ไม่อยากจะเชื่อว่ายังจะเล่นอะไรแบบนี้อีก ฝูงชนต่างพากันโกรธเคือง

“บัดซบ”

“ไร้สาระ”

“นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ทำไมยังกล้าเอาเรื่องนี้มาพูดพล่อย ๆ อีก”

ผู้คนที่นี่ทั้งหมดต่างไม่มีใครเชื่อเขา

หนิงฝานเป็นเพียงปลิงที่เกาะกินเลือดขององค์จักรพรรดินีเท่านั้น

ตอนนี้กลับกล้าพูดออกมาอย่างไร้ยางอายว่า ตนคือผู้อาวุโสนิรนามที่ยิ่งใหญ่

ช่างน่าขันนัก!

“หนิงฝาน ตอนนี้ทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เจ้ากลับมาพูดเล่นอยู่อีก ช่างน่าผิดหวังเสียจริง”

ไม่ต้องกล่าวถึงผู้อื่นใด แม้แต่องค์จักรพรรดินีก็ส่ายหน้า ดวงตางดงามของนางฉายแววผิดหวัง

“หึ ๆ”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะเลือนลั่นก็ดังขึ้น บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ระเบิดพลังปีศาจอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ปราณปีศาจระดับมหึมาพวยพุ่งออกจากร่างผอมบาง ปกคลุมทั่วทั้งแผ่นฟ้าในพริบตาเดียว

ผู้คนที่เห็นปราณนั่นพลันหน้าถอดสีไปตาม ๆ กัน

“อย่าชักช้าอยู่เลย ไม่ว่าเจ้าเซียนกระบี่อะไรนั่นจะเป็นใคร ก็ไม่อาจขวางการล่มสลายของดินแดนแห่งนี้ได้อีกแล้ว!”

“อสูรโลหิตทั้งหลาย เวลารื่นเริงของพวกเจ้ามาถึงแล้ว!”

บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ออกคำสั่ง ทำให้เหล่าข้าทาสที่เป็นอสูรโลหิตคำรามลั่น เริ่มสังหารผู้คนที่ขวางทางของพวกมัน มุ่งตรงสู่ใจกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจากทุกทิศทาง

จิตสังหารสั่นสะเทือนไปทั้งใต้หล้า เหล่าอสูรโลหิตคำรามลั่นจากทั่วทุกสารทิศ

“เหล่าผู้กล้าแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ประจันหน้ากับอสูรโลหิต ปกป้องดินแดนของเรา!”

หลัวชิงเซียนประกาศกร้าว เรียกกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนขึ้นมาอีกครั้ง ไม่สนว่าร่างกายตนเองจะบาดเจ็บ ใบหน้าอันงดงามไร้ซึ่งความขลาดเขลา

“กำจัดพวกมัน ปกป้องดินแดนของเรา!”

“กำจัดพวกมัน ปกป้องดินแดนของเรา!”

“กำจัดพวกมัน ปกป้องดินแดนของเรา!”

“…”

ชิ้ง! ชิ้ง!

เหล่าสาวกและผู้อาวุโสนับแสนคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างเรียกอาวุธของตัวเองออกมา พร้อมกู่ร้องตะโกนเรียกขวัญกำลังใจ แม้จะรู้สึกหวั่นเกรงว่านี่คงจะเป็นเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว

การต่อสู้นองเลือดกำลังจะเริ่มขึ้น

“โอ๊ย บางทีพูดความจริงคนก็ไม่ยอมเชื่อแฮะ”

หนิงฝานก้มหน้าพึมพำแล้วถอนหายใจออกมา

เมื่อเงยหน้าขึ้น สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

“เมื่อสิบสามปีก่อน ในคืนวันอภิเษกสมรสกับองค์จักรพรรดินี นิมิตของเซียนกระบี่ได้ปรากฏขึ้นมา”

ชายหนุ่มตะโกนลั่น เสียงนั้นสะเทือนฟ้าสะท้านดินยิ่ง

ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง ชายหนุ่มก็ก้าวออกไปข้างหน้า เพียงหนึ่งก้าว โลกพลันสั่นไหว พลังอันไร้ขอบเขตค่อย ๆ แผ่ขยายออกจากร่างนั้น

“นั่นอะไรกัน”

ทั้งชาวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน และบรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ต่างจ้องไปทางหนิงฝานเป็นตาเดียว

“เมื่อสิบสองปีก่อน ข้านี่แหละที่บุกเข้าไปในหอคอยสวรรค์ทะนงกลางดึก และผ่านขั้นที่สิบไปแล้ว”

เอ่ยหนึ่งประโยค ก็ก้าวเท้าอีกก้าว

พลังอำนาจของหนิงฝานแผ่ขยายออกอีก

“เมื่อเก้าปีก่อน ในการต่อสู้ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้านี่แหละที่เอาชนะทั้งสิบสำนักด้วยกระบี่เดียว”

“เมื่อหกปีก่อน หอคอยปราบอสูรถูกทำลาย เกิดความโกลาหลขึ้น ข้าก็เป็นคนจัดการจักรพรรดิทั้งสองด้วยกระบี่เดียว”

“สามปีที่แล้ว ระหว่างเดินทางไปยังสุสานปราชญ์ ข้าใช้ร่างจำแลงจัดการกับปีศาจทั้งหก”

“ครึ่งปีก่อน ข้าออกจากไท่เสวียนตอนกลางดึก เดินทางเป็นพันลี้ทำลายเก้าสำนักมหาอสูรด้วยกระบี่นี้”

หนิงฝานขยับหนึ่งก้าวไล่เหตุการณ์ทีละเรื่อง

หกก้าวต่อมา เขาก็ก้าวขึ้นไปในอากาศ เผยให้เห็นพลังอำนาจไร้ขอบเขตแผ่ขยายไปทั่วท้องฟ้าของเขา

“ข้านี่แหละ…เซียนกระบี่นิรนาม”

ตู้ม!

หนิงฝานย่างก้าวสุดท้าย พลังอันไร้ขอบเขตก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีก ในเวลาเดียวกันนั้น เงาของเซียนกระบี่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของชายหนุ่ม เหยียดตรงทะลุท้องฟ้าพร้อมสำหรับการต่อสู้ ปราณกระบี่มหาศาลกำลังแผ่ออกรอบตัวเขา

ชั่วพริบตา ไม่ว่าตะวันหรือจันทราต่างก็ดับมืด ท้องนภาและพสุธาสั่นสะเทือนเลือนลั่น

ตู้ม!

เห็นเช่นนั้นแล้ว ผู้กล้าทั้งหลายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างพากันตกตะลึง

พลังอันไร้ขอบเขต… เงาของเซียนกระบี่… ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน!

“สวรรค์! นี่ นี่มัน…!”

“ท่านเซียนกระบี่นิรนาม หนิงฝาน เขาคือท่านผู้อาวุโสนิรนามจริง ๆ ด้วย!”

“เขา…เขาเป็นเพียงสวามีไร้ประโยชน์ขององค์จักรพรรดินีไม่ใช่หรือ? จะเป็นผู้อาวุโสนิรนามไปได้อย่างไร!?”

“ไม่จริงน่า! ได้อย่างไรกัน?”

“…”

คนหนึ่งคือสามีที่ไร้ค่า ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ได้มีหน้าที่อะไรในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเพียงรอองค์จักรพรรดินีประทานความตายให้

อีกหนึ่งท่านเซียนกระบี่นิรนามผู้ปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงสองครา และกอบกู้ความสงบของใต้หล้าด้วยพลังอันยิ่งใหญ่

เวลานี้ตัวตนทั้งสองกลับกลายเป็นคนคนเดียวกัน ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างพากันตกตะลึง ด้วยไม่อยากจะเชื่อสายตา

“หนิงฝาน? ผู้อาวุโสนิรนาม!”

คนที่ตกใจที่สุดย่อมเป็นภรรยาของเขา องค์จักรพรรดินีแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน

ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ท่านผู้อาวุโสนิรนามที่นางเคารพชื่นชมมาตลอด แท้จริงแล้วกลับเป็นสามีของตัวเองที่ไม่ทำอะไรไปวัน ๆ

จริงสิ

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ไม่ว่าจะพยายามตามหาตัวท่านผู้อาวุโสนิรนามเท่าไรก็มีแต่จะล้มเหลว

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่สำนักทั้งสิบจะมีท่าทีเปลี่ยนไปเมื่อกล่าวถึงชัยชนะในการต่อสู้

ไม่น่าแปลกใจเลย ที่หนิงฝานจะห้ามปรามไม่ให้นางสร้างสุสาน

ไม่น่าแปลกใจเลย…

คำถามมากมายที่เคยอยู่ในหัวนางพลันชัดเจนในคำตอบขึ้นมา

“สามี มันไม่ง่ายเลยนะที่จะปิดบังมันต่อข้า”

หลัวชิงเซียนส่ายหน้า ก่อนจะเผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย เป็นรอยยิ้มแสนประทับใจที่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะปรากฏบนหน้านาง

“หึ ๆ”

“ฮ่า ๆ”

เห็นว่าชาวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึงกับตัวตนของเซียนกระบี่นิรนาม บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็หัวเราะเสียงแหลมขึ้นมา

“นี่น่ะเหรอเซียนกระบี่นิรนาม ก็อย่างที่ข้าว่า นอกจากปรมาจารย์ไท่เสวียนจะคืนชีพ ย่อมไม่มีใครขวางข้าได้!”

“ฆ่าให้หมด!”

สิ้นคำสั่งนั้น กองทัพอสูรโลหิตนับล้านที่ชะงักด้วยแรงกดดันจากหนิงฝาน ก็คำรามกู่ก้องขึ้นมาอีกครั้ง ธารโลหิตบ้าคลั่งเริ่มทำงานพร้อมสังหารอย่างไม่ยอมหยุดยั้ง

“สามี ระวังตัวให้ดี อสูรชราผู้นี้อยู่ห่างจากปราชญ์ยุทธ์เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น”

“หนิง…ท่านผู้อาวุโส อย่าได้ประมาทไป”

“ท่านผู้อาวุโส โปรดระวังตัวด้วย”

“…”

เห็นท่าทางบ้าคลั่งของเหล่าอสูรโลหิตที่หลั่งไหลกันเข้ามา ชาวดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลับมาอยู่ในอาการประหม่าอีกครั้ง

แม้ว่าจะได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของหนิงฝาน แต่บรรพบุรุษอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็แข็งแกร่งมาก เขาอยู่ห่างจากปราชญ์ยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานเพียงก้าวเดียวเท่านั้น

หนิงฝานจะต่อกรได้หรือไม่?

“ฮ่า ๆ อย่าได้กังวลไป ข้าอยู่ในวังขององค์จักรพรรดินีมาสิบสามปี นับตั้งแต่ตื่นขึ้นมาในร่างนี้ นั่นก็พิสูจน์ความคงกระพันของข้าได้แล้ว”

หนิงฝานหัวเราะด้วยความมั่นใจที่ไร้ผู้ใดเทียบเทียม

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท