ตอนที่ 29 สำนักอสูรถูกถล่มราบ กระบี่สะท้านโลกา! (รีไรท์)
“เป็นไปไม่ได้!”
“นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”
จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้จวนจะคลั่งแล้ว!
ก่อนหน้านั้น พวกเขาจักรพรรดิปีศาจทั้งหกมิได้ลังเลใจที่จะระเบิดร่างตนเองให้ตายตกไปพร้อมกับเซียนกระบี่นิรนาม ทว่านั่นเป็นเพียงร่างจำแลงร่างหนึ่งของคนที่อยู่เบื้องหน้านี้หรือ?
ทั่วทั้งโลกนี้ ยังมีสิ่งใดน่าเจ็บแค้นใจยิ่งกว่าเรื่องนี้อีก!
“ทำผิดต่อสวรรค์อาจให้อภัยได้ ทว่าทำผิดต่อข้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้! แม้ว่าเฒ่าชราผู้นี้จะมิรู้ว่าเจ้าใช้กลวิธีใดในการฟื้นคืนชีพ แต่ในเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เหตุใดจึงไม่หาที่แขวนตนเอาไว้ให้ดี ไยต้องกระโดดออกมาวอนหาที่ตาย!”
หนิงฝานยิ้มเย็น ปราณกระบี่ดุจท้องทะเลค่อย ๆ โหมลุกท่วมกายเขา พลังกระบี่อันน่าหวาดหวั่นห้อมล้อมจักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ไว้
ตู้ม!
ทันใดนั้น จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ตกลงไปยังถ้ำน้ำแข็ง กลิ่นอายแห่งความดับสูญลอยละล่องล้อมรอบตัวเขา
“หึ! ร่างจำแลงแล้วอย่างไร ร่างหลักแล้วเช่นไร บัดนี้จักรพรรดิปีศาจผู้นี้เป็นถึงจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสมบูรณ์แบบ มิแน่ว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้เจ้า!”
ตอนนี้เอง จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ร้องคำรามตัดสินใจที่จะลองสู้สักตั้ง!
ตู้ม!
ฉับพลันทันใด กระแสปราณปีศาจสาดซัดออกมาจากร่างกายของเขา พลังปีศาจแห่งขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสมบูรณ์แบบทรงพลังยิ่ง แม้กระทั่งสายโลหิตในร่างกายยังเจือด้วยพลังปีศาจศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง
“เซียนกระบี่นิรนามอันใด ตายด้วยน้ำมือข้าเสียเถอะ!”
ด้วยเสียงดัง ‘ปัง’ จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ระเบิดพลังทันใด มวลพลังในร่างกายเขาราวกับสายน้ำจากขุนเขาสีดำทะมึนซัดเข้าใส่หนิงฝาน ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด พื้นที่แห่งนั้นล้วนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ตู้ม!
แม้เป็นเช่นนี้ หนิงฝานยังคงไม่สะดุ้งสะเทือน ปล่อยให้กระแสพลังสีดำสนิทที่ไหลเชี่ยวกรากเขมือบเขาเข้าไป
“ฮ่า ๆ !”
“ฮ่า ๆๆ!”
“ข้าสงสัยยิ่งนักว่าเซียนกระบี่นิรนามจะเป็นเช่นไร ไม่คาดว่าจะเป็นคนไร้ความสามารถผู้หนึ่ง!”
เมื่อเห็นหนิงฝานจมลงไปกับคลื่นพลังที่ทะลักเข้ามา จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้พลันหัวเราะออกมาอย่างย่ามใจ พลังที่เขาซัดออกไปเมื่อครู่ แม้นมีเนินเขาย่อม ๆ อยู่ตรงหน้าก็ยังถูกพังทลายลงได้ นับประสาอะไรกับเลือดเนื้อเช่นคน
ในความคิดเขา อีกฝ่ายถูกพลังลูกนี้ซัดเข้าไปย่อมตายตกอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ช้าก่อน! เจ้าหัวเราะอันใดน่ะ?”
ฉับพลัน ในชั่วขณะนั้น เสียงเอื่อยระเรื่อยลอยมาจากพลังที่กำลังเดือดคลั่ง จากนั้นเมื่อพลังที่ล้อมรอบเขาเหือดหายไป หนิงฝานก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าจักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้อีกครั้ง บนตัวไร้ร่องรอยขีดข่วนใด ๆ กระทั่งเสื้อคลุมสีเทาที่สวมอย่างหลวม ๆ ยังมิได้รับการรบกวนแม้แต่น้อย
“นี่…เป็นไปได้อย่างไร!”
ยามได้เห็นภาพนี้ จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้พลันตะลึงงันอยู่ตรงนั้น เสียงหัวเราะสะใจเมื่อครู่ชะงักงันอยู่บนใบหน้า พายุทะเลคลั่งก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขาเป็นที่เรียบร้อย
เขาอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสมบูรณ์แบบเชียวนะ!
ภายใต้การจู่โจมที่ทุ่มพลังทั้งหมดของเขาลงไป ยังมิอาจแม้แต่กระดิกชายเสื้อผ้าของศัตรูได้แม้แต่น้อย นี่ช่างกลับมุมมองของเขาที่มีต่อโลกไปโดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่าเขามิได้รู้ว่า บัดนี้หนิงฝานได้ผ่านการชำระกายบริสุทธิ์ ชำระพลังวิญญาณบริสุทธิ์ และชำระจิตวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว พลังแห่งปราชญ์ทั้งสามได้เพิ่มเข้ามาในร่างกายเขา นอกจากปราชญ์ยุทธ์ในตำนานย่อมไม่มีผู้ใดทำให้ชายหนุ่มบาดเจ็บได้
พูดอีกอย่างคือ ภายใต้ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ หนิงฝานแข็งแกร่งไร้เทียมทาน!
ฟุ่บ!
มาตอนนี้ จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ท้ายที่สุดก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา ทั้งยังเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าร่างหลักของเซียนกระบี่นิรนามที่อยู่ต่อหน้าเขา เดิมทีก็มิใช่ผู้ที่เขาจะอาจหาญเป็นคู่ต่อสู้ได้ ฉะนั้นเขาจึงหันกลับด้วยต้องการวิ่งหนีไป!
อย่างไรก็ตาม
ชิ้ง!
เสี้ยวของปราณกระบี่พุ่งออกไป ราวกับรอยริ้วอาชาสีเงินวาบผ่าน แทงทะลุหว่างคิ้วของจักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ในบัดดล
การเคลื่อนไหวหันหลังกลับของจักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ชะงักงันทันที รูม่านตาของเขาเล็กลงประหนึ่งดังเส้นเข็ม พลังชีวิตทั่วทั้งร่างเหือดหายราวกับลูกโป่งที่ถูกเจาะลม
ไม่มีอยู่อีกต่อไป!
“เก้าสำนักมหาอสูร…สิ้นแล้ว!”
เมื่อมองไปยังหนิงฝานผู้ที่ค่อย ๆ เก็บกระบี่เข้าฝักอย่างช้า ๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้เกิดความคิดในเสี้ยววินาทีสุดท้ายแวบผ่านห้วงคำนึง ทั้งร่างร่วงหล่นจากท้องฟ้าและตายตกอย่างสมบูรณ์
“ถัดไป!”
หลังจากสังหารจักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้แล้ว หนิงฝานไม่รั้งรออีกต่อไป เขากลายเป็นเสี้ยวแสงแห่งกระบี่แล้วพุ่งจู่โจมอีกทิศทางในทันที
“เกิดอันใดขึ้น?”
“เมื่อครู่นี้เสี้ยวแสงกระบี่เหล่านั้นมาจากที่ใด?”
“สำนักอสูรพันปรารถนาย่อมเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่!”
ไม่นานหลังจากหนิงฝานจากไป ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปล้วนถูกประกายกระบี่อันน่าตกตะลึงเมื่อครู่นี้ดึงดูดความสนใจ เมื่อมีบางคนกล้าเข้าไปในรังสำนักอสูรพันปรารถนา เขาก็พบซากศพมากมายอยู่ในนั้น
“อ๊า! ตายแล้ว! คนสำนักอสูรพันปรารถนาล้วนตายหมดแล้ว!”
“สวรรค์! แม้แต่จักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ยังตายตกไปแล้ว!”
“เฮือก! ผู้ใดกันที่ทำลายสำนักอสูรพันปรารถนา?”
“เมื่อสักครู่นี้ข้าได้ยินจักรพรรดิปีศาจเชียงอวี้ตะโกนว่าเซียนกระบี่นิรนาม หรือว่าจะเป็นเซียนกระบี่นิรนามผู้ที่ลือกันว่าตายตกในศึกสุสานปราชญ์เป็นผู้ลงมือ”
“เป็นเขา! ย่อมเป็นเขาแน่นอน! ข้ารู้มาว่าในศึกสุสานปราชญ์จักรพรรดิปีศาจทั้งหกตายไม่มีผู้ใดตายอย่างแท้จริง เซียนกระบี่นิรนามแข็งแกร่งเช่นนั้น เขาจะตายไปจริง ๆ ได้อย่างไร!”
“ต้องเป็นเพราะเซียนกระบี่นิรนามผู้ไม่อาจทนเห็นเลือดปุถุชนทั่วหล้าหลั่งเลือดให้สำนักอสูร ด้วยเหตุนี้เขาจึงลงมือกำจัดสำนักอสูรพันปรารถนาอย่างทันท่วงที!”
“ฮ่า ๆ ! ในเมื่อเซียนกระบี่นิรนามเริ่มลงมือ เห็นทีเก้าสำนักมหาอสูรคงถึงคราดับสูญแล้ว!”
“ยอดเยี่ยมนัก! สรรพชีวิตใต้หล้านี้ปลอดภัยแล้ว!”
“…”
ถึงตอนนี้ ข่าวสำนักอสูรพันปรารถนาแพร่สะพัดราวกับพายุคลั่งไปทั่วทุกหนแห่ง ชื่อของเซียนกระบี่นิรนามถูกผู้คนหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง
หนิงฝานไม่ได้รู้ว่าเบื้องหลังเขาเกิดสิ่งใดขึ้น เพราะยามนี้ชายหนุ่มได้มาถึงที่กบดานของสำนักอสูรหลอมโลหิตแล้ว
ตั้งแต่เก้าสำนักมหาอสูรไม่หลบซ่อนอีกต่อไป ช่วยทำให้หนิงฝานเสาะหารังของสำนักอสูรได้ง่ายดายขึ้นเป็นอย่างมาก
“อ๊าาา!”
“เซียนกระบี่นิรนาม!”
“ไม่! เป็นไปไม่ได้! ไม่ใช่ว่าเจ้าตายไปแล้วหรอกหรือ!?”
“…”
ทันทีที่หนิงฝานย่ำเท้าลงไปในรังของสำนักอสูรหลอมโลหิต จักรพรรดิปีศาจเสวี่ยเหลียนผู้ที่กำลังลับคมกระบี่ของตนเตรียมพร้อมย้อมโลกด้วยโลหิต ประหนึ่งเห็นภูตผีขึ้นในทันใด
ทว่าคำตอบที่เขาได้รับ กลับมีเพียงปราณกระบี่พร่างพราวอันทรงพลัง!
ตู้ม!
ปราณกระบี่ฟันฉับลงกลางอากาศ อสูรนับหมื่นทั้งสำนักอสูรหลอมโลหิตถูกกลบฝังในกระบี่เดียว แม้แต่จักรพรรดิปีศาจเสวี่ยเหลียนยังตายตกไปด้วยความไม่ยินยอมและหวาดกลัวในบัดดล!
กระบี่เดียว!
สำนักอสูรหลอมโลหิตพังทลายลง!
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วนและผู้คนโดยรอบสำนักอสูรหลอมโลหิตถูกประกายกระบี่ดึงดูด หนิงฝานก็ได้เร่งรุดไปสำนักอสูรสำนักถัดไปแล้ว
ถัดจากนั้น
สำนักอสูรเจ็ดสังหาร
สำนักอสูรหมื่นสรรพสัตว์
สำนักอสูรร้อยพิษ
สำนักอสูรหุ่นเชิดศพ
สำนักอสูรโรคระบาด
สำนักอสูรมารปีศาจ
สำนักอสูรกลืนกิน
หนิงฝานไปเยือนรังเก้าสำนักมหาอสูรทีละสำนัก ท่ามกลางสายตาหวาดผวาของจักรพรรดิปีศาจแต่ละคน เขาฟาดฟันกระบี่ลงไป!
แต่ละกระบี่ล้วนงดงามยิ่ง!
หลังเก้ากระบี่ฟันลง เก้าสำนักมหาอสูรผู้ที่เดิมทะยานอยากชะล้างใต้หล้าด้วยโลหิต และผู้ที่ยังหวนกลับมาแล้วยังไม่ออกมาจากที่กบดาน ล้วนโดนกลบฝังหมดสิ้น!
ราตรีนี้
แสงแห่งกระบี่ทั้งเก้าส่องสว่างในยามค่ำคืน!
ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนทั่วทั้งใต้หล้าเห็นร่างในชุดคลุมสีเทาแปลงเป็นแสงแห่งกระบี่แสงหนึ่ง!
หนึ่งกระบี่กำราบหนึ่งสำนัก อยู่ออกไปไม่ถึงพันลี้!
“ฮ่า ๆ ! สวรรค์ประทานพรแก่ปุถุชน เซียนกระบี่นิรนามผู้เดิมปรากฏกายอีกครั้งแล้ว!”
“สำนักอสูรพันปรารถนาทลายลง สำนักอสูรหลอมโลหิตทลายลง…”
“ประเสริฐนัก! เก้าจักรพรรดิปีศาจสิ้นแล้ว เก้าสำนักมหาอสูรถูกทำลายล้าง นับแต่นี้เป็นต้นไป ใต้หล้านี้ย่อมไม่มีอสูรสร้างความยุ่งเหยิงอีกแล้ว!”
“เซียนกระบี่นิรนาม กำจัดปีศาจรักษาวิถีธรรม ทั้งยังปกป้องคนธรรมดา ควรให้ผู้คนนับถืออย่างแท้จริง!
“…”
ค่ำคืนนี้ ทุกหนแห่งใต้หล้า ชื่อของเซียนกระบี่นิรนามเลื่องชื่อระบือนามไปไกล!
เมื่อราตรีผ่านพ้นไป พระอาทิตย์แดงฉานดวงโตค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
หนิงฝานกลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนอย่างเงียบงัน
เรื่องจบแล้วก็ปัดเสื้อผ้าจากไป!
ซ่อนเร้นทั้งผลกุศลและชื่อเสียงไว้ลึก ๆ!