ตอนที่ 49 ผู้แทนจากอาณาจักรต่าง ๆ และการกลับมาอีกครั้ง! (รีไรท์)
เมื่อเหล่าคณะทูตจากหลายดินแดนเข้ามาในงาน บรรยากาศงานเลี้ยงก็เริ่มเข้าสู่ช่วงสำคัญ
อย่างไรเสีย งานเลี้ยงในครั้งนี้ก็เป็นดั่งการแสดงความยิ่งใหญ่ของแต่ละดินแดนต่อนานาอาณาจักร
“อะไรอีกล่ะนั่น?”
ทันใดนั้นเอง หนิงฝานที่กำลังให้ความสนใจกับเหล่าแขกผู้มีเกียรติจากดินแดนต่าง ๆ ก็ถอนหายใจออกมา ดวงตาของเขาพลันเปลี่ยนแปลงไป เพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล
ในเวลานี้ มีกลุ่มคนจากเมืองหนึ่งที่ซ่อนรูปลักษณ์แท้จริงของตัวเองเอาไว้ พวกเขาไม่ได้รวมกันอยู่ แต่กระจายตัวและแฝงตัวอยู่ในบรรดาคณะทูตนับร้อยจากเมืองต่าง ๆ
ซ้ำยังล้วนแต่อยู่ขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์เป็นอย่างต่ำ
คนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขา ดูจะเป็นชายชราที่ปลอมตัวเป็นหัวหน้าคณะทูตจากดินแดนครึ่งปีศาจ ใบหน้าเหี่ยวย่นและดวงตาของเขาสะท้อนความมืดมิดออกมา แม้ว่าเขาจะพยายามใช้พลังเพื่อปกปิดมัน แต่ก็ยังมีออร่าของปราชญ์ยุทธ์หลุดรอดออกมาให้เห็นอยู่
ปราชญ์ยุทธหนึ่งคนกับจักรพรรดิยุทธ์อีกนับร้อยอย่างนั้นหรือ!
‘หรือจะเป็นนักฆ่า?’
ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้หนิงฝานรู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด
งานเลี้ยงเทพขนนกสำคัญถึงเพียงนี้ ย่อมไม่แปลกที่จะมีมือสังหารปะปนเข้ามาด้วย
‘ไม่ว่าจะเป็นคณะทูตหรือนักฆ่า ที่นี่ยังมีคนของราชวงศ์เทพอยู่อีกมากมาย ไม่จำเป็นจะต้องให้ข้าเคลื่อนไหวเองกระมัง!’
หนิงฝานลอบหัวเราะ อย่าไปสนใจเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองจะเป็นการดีที่สุด
ในความรู้สึกของเขา เขาคาดการณ์ว่าน่าจะมีปราชญ์ยุทธ์ไม่น้อยกว่าสามคนอยู่ในงานเลี้ยงนี้แล้ว
ชายชราที่เป็นหัวหน้ามือสังหารเหล่านี้ไม่ได้มีระดับพลังมากไปกว่าปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นแรก เขาไม่น่าจะก่อความวุ่นวายได้มากนัก
ในตอนนี้
เหล่าตัวแทนเมืองต่าง ๆ เดินมาถึงใจกลางของงานเลี้ยงแล้ว ทว่าเหล่ามือสังหารยังคงไม่ได้แสดงทีท่าจะก่อความวุ่นวาย เพียงซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ อยู่ต่อไป
“ผู้แทนเทศมณฑลหนานโถว ขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี!”
เหล่าคณะทูตจากเทศมณฑลหนานโถวก้าวเท้าไปด้านหน้า แสดงความเคารพต่อองค์จักรพรรดิ จากนั้นจึงหยิบเอากล่องของบรรณาการออกมา “เทศมณฑลหนานโถวขอถวายสมบัติล้ำค่าของบ้านเมืองเราให้แก่ราชวงศ์แห่งเทพ นี่คือไข่มุกหนานโถว ซึ่งมีพลังอำนาจแห่งจิตวิญญาณและมีมูลค่าเท่ากับหมื่นศิลาวิญญาณ!”
โอ้!
ทันทีที่กล่องถูกเปิดออกก็ปรากฏไข่มุกที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณและมีรูปร่างทรงกลม ซึ่งงดงามหาที่เปรียบมิได้ ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นจากมหาพลังแห่งฟ้าดิน พลังอำนาจนี้แผ่กำจายออกมาดุจระลอกคลื่น และทำให้ทุกผู้คนในงานเลี้ยงหันมาสนใจเป็นสายตาเดียว
ช่างเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งนัก!
สายตาของบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างเป็นประกายระยิบระยับ
“ขอบใจมาก เทศมณฑลหนานโถว ขอต้อนรับผู้แทนจากเทศมณฑลหนานโถวเข้าสู่งานเลี้ยง!”
องค์จักรพรรดิเทพยิ้มพลางรับไข่มุกหนานโถวมาไว้ในมือ จากนั้นนางกำนัลที่มีหน้าที่รับรองคณะผู้แทนก็พาพวกเขาตรงไปยังที่นั่งที่เตรียมไว้
“อาณาจักรแดนเหนือขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก พวกเราขอถวายกริชมังกรแดนเหนือ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากกระดูกของมังกรทางเหนือ สิ่งนี้แข็งแกร่งยิ่งว่าศิลาใด สามารถตัดได้กระทั่งภูเขาและมหานที!”
เป็นเหล่าทูตจากอาณาจักรคนเถื่อนแดนเหนือที่เข้ามาทำความเคารพต่อ
“ดีมาก เชิญนั่ง ๆ!” องค์จักรพรรดิกล่าว
หลังจากนั้นเหล่าตัวแทนของเมืองต่าง ๆ ก็เริ่มถวายความเคารพทีละกลุ่ม
“อาณาจักรโพ้นทะเลตะวันออกขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก พวกเราขอถวายผลึกเยือกแข็งทมิฬพันปี!”
“อาณาจักรทะเลทรายตะวันตกขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก พวกเราขอถวายวารีร้อยวิญญาณแก่ท่าน!”
“อาณาจักรหมาป่าราตรีขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก พวกเราขอถวายลูกกลอนหมาป่าราตรีหนึ่งพันเม็ด!”
“อาณาจักรบูชาจันทราขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก พวกเราขอถวายชิ้นส่วนของศิลาจันทราอันศักดิ์สิทธิ์!”
“…”
เหล่าคณะทูตเผยสมบัติล้ำค่าออกมาทีละชิ้นจนกลายเป็นที่กล่าวขานไม่หยุด มิหนำซ้ำ สมบัติหลาย ๆ ชิ้นยังมีประโยชน์อย่างมากสำหรับขอบเขตปราชญ์ยุทธ์
“อาณาจักรเหล่านี้ร่ำรวยมากสินะ?”
หนิงฝานเห็นของล้ำค่าเหล่านี้แล้วก็รู้ได้ในทันที
ชายหนุ่มคิดกับตัวเองในใจว่าจะไปเยือนเมืองเหล่านี้เมื่อมีโอกาส นี่เพราะอยากเห็นความร่ำรวยนี้กับตาตัวเอง
ส่วนทางหลัวชิงเซียนที่อยู่ข้างกายก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “หนิงฝาน เจ้าอาจจะยังไม่ทราบ พวกเขาไม่ได้ร่ำรวย แต่สำหรับงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ พวกเขาจะเสียหน้าไม่ได้ ของเหล่านั้นล้วนแต่เป็นสมบัติของอาณาจักร ต่อให้เจ็บปวดเพียงไหนก็ต้องยอมสละมันมา”
“อ้อ เช่นนี้นี่เอง”
หนิงฝานพยักหน้าตาม เขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้ว
การถวายคารวะของเมืองต่าง ๆ ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงคราวผู้แทนจากดินแดนครึ่งปีศาจ ผู้นำของพวกเขาก้าวออกมาข้างหน้าด้วยกลิ่นอายของปราชญ์ยุทธ์ที่จงใจเก็บงำไว้
หนิงฝานมองดูอย่างสนอกสนใจ คนเหล่านี้อาจจะก่อความวุ่นวายกับงานเลี้ยงในตอนนี้ก็ได้
“คณะผู้แทนจากดินแดนครึ่งปีศาจขอคารวะจักรพรรดิเทพขนนก ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี!” ผู้นำคณะทูตที่แฝงตัวมาโค้งคำนับ
องค์จักรพรรดิยิ้มรับจาง ๆ
แล้วปราชญ์ยุทธ์ผู้นั้นก็หยิบกล่องของบรรณาการออกมา พร้อมกับกล่าวว่า “ดินแดนเราขอถวายสมบัติล้ำค่าไร้นามแด่องค์จักรพรรดิ ทว่าหลังจากนี้มันอาจจะได้รับการขนานนาม”
“โอ้ มันคืออะไรล่ะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น องค์จักรพรรดิก็เลิกคิ้วอย่างสงสัย
บรรดาแขกเหรื่อต่างมองดูด้วยความสนอกสนใจ และอยากรู้ว่านั่นคืออะไร
“สิ่งนี้อาจได้รับการขนานนามว่า… เทพสังหาร!”
ตู้ม!
สิ้นเสียงตะโกนอันดุดันของปราชญ์ยุทธ์ กระบี่ยาวสีแดงฉานปานโลหิตก็ถูกดึงออกมา ปลายศัสตราชี้ไปทางองค์จักรพรรดิ จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ในทันที!
‘ว่าแล้วเชียว!’
ในขณะเดียวกัน เหล่านักฆ่าที่แฝงกายอยู่ต่างลุกขึ้นพร้อมกับชักอาวุธออกมา พวกเขาเองก็มีจิตสังหารแผ่ออกมาไม่ต่างกัน
“ท่านผู้นำขวางชื่อ นี่เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“บังอาจนัก! รู้หรือไม่ว่ากำลังกระทำการอุกอาจอันใดอยู่!”
“บัดซบ! นี่จะลอบสังหารฝ่าบาทอย่างนั้นหรือ!”
“…”
เมื่อเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน คณะทูตจากดินแดนต่าง ๆ ก็พากันหน้าซีดเซียวด้วยความตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดเหล่าสหายที่คุ้นเคยถึงได้กลายเป็นมือสังหารไปได้ นี่อาจเป็นการล่อลวงจากกลุ่มกบฏที่อาจนำภัยมาสู่อาณาจักรตนเองได้
“มีการลอบสังหาร!”
“คุ้มกันองค์จักรพรรดิ!”
“ล้อมเหล่าคณะทูตไว้ อย่าให้ผู้ใดหนีไปได้!”
ระหว่างเกิดเสียงชุลมุนวุ่นวายของฝูงชน กองทัพพิทักษ์เทพและเหล่าทหารองค์รักษ์ก็รีบเข้ามาดูแลงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ว
เพียงชั่วครู่ งานเลี้ยงที่แสนมีชีวิตชีวาในตอนแรกก็ตกสู่ความโกลาหล
“โอ้!”
แม้ว่าเหล่ามือสังหารจะเผยตัวออกมาอย่างกะทันหัน แต่องค์จักรพรรดิกลับยังมีรอยยิ้มประดับใบหน้าอยู่ ซ้ำยังไม่มีแววของความตื่นตระหนกอีกด้วย
ในฐานะเทพขนนก ผู้ผ่านภยันตรายมานับไม่ถ้วน การลอบสังหารเช่นนี้ไม่ได้สร้างความกลัวให้แก่เขาเลย
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน รู้ว่างานเลี้ยงของเราได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา แต่ยังกล้าลอบเข้ามาได้ คงไม่ใช่มือสังหารธรรมดาหรอกกระมัง เอาล่ะ เปิดเผยตัวตนออกมาเสีย!”
องค์จักรพรรดินั่งตัวตรง ใบหน้าสงบนิ่ง ทั้งร่างยังมีกลิ่นอายของความสุขุมราวกับขุนเขา และไม่มีท่าทีอื่นใดอีก
“หึ ๆ หลินไท่ซู ช่างสมกับที่เป็นเทพขนนกเสียจริง ยังคงผ่อนคลายเช่นนี้ได้ทั้งที่กำลังจะตายอยู่แล้วแท้ ๆ!”
ปราชญ์ยุทธ์ผู้นั้นคลี่ยิ้มเย็น จากนั้นเขาก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา กลายเป็นชายชราผู้หนึ่ง
นักฆ่าผู้ติดตามของเขาก็คืนร่างเดิมเช่นกัน!
หือ?!
เมื่อได้เห็นร่างที่แท้จริงของพวกเขา ทุกคนก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งไป
“ผู้เหลือรอดจากอาณาจักรสุริยันศักดิ์สิทธิ์!”