ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 46 ลงชื่อเข้าใช้พระราชวัง เลื่อนสู่ระดับสวรรค์ขั้นที่สอง!

ตอนที่ 46 ลงชื่อเข้าใช้พระราชวัง เลื่อนสู่ระดับสวรรค์ขั้นที่สอง!

ตอนที่ 46 ลงชื่อเข้าใช้พระราชวัง เลื่อนสู่ระดับสวรรค์ขั้นที่สอง! (รีไรท์)

ตู้ม!

เมื่อได้ยินคำกล่าวของหนิงฝาน ม่านตาของหลินไท่ซูหดลงในฉับพลัน แววตาตกตะลึงฉายชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อ

ดังที่ทราบ เขาอยู่ในขอบเขตปราชญ์ยุทธ์อันดับต้น ๆ ทั้งยังครอบครองปราณมังกรม่วง แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตเดียวกันยังไม่อาจมองเห็นความจริงที่เขาซุกซ่อนไว้ได้ ทว่าเวลานี้เห็นได้ชัดว่าหนิงฝานอยู่เพียงสวรรค์ขั้นแรกของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ อ่อนแอกว่าเขาแต่กลับมองเห็นทุกสิ่งอย่างทะลุปรุโปร่ง

“หากข้าคาดเดาไม่ผิด เหตุการณ์ทั้งหมดนี้หาได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่มันค่อย ๆ แทรกซึมและปรากฏขึ้นในร่างกาย กว่าท่านจะทราบถึงสถานการณ์ของตนเอง ทุกสิ่งก็สายไปเสียแล้ว”

หนิงฝานกล่าวต่อไปราวกับแพทย์อัจฉริยะที่กำลังบอกเล่าอาการของคนไข้อย่างใจเย็น

“เจ้า… ทราบได้อย่างไร!?”

แววตาของหลินไท่ซูยิ่งตื่นตระหนก

สาเหตุที่เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้คงต้องกล่าวโทษแม่มดในเวลานั้น ไม่เพียงแต่นางจะหลอกลวงให้เขาข่มเหงมารดาของหลัวชิงเซียนจนนางต้องจมน้ำตาย แต่มันผู้นั้นยังวางยาพิษร้ายแรงในคืนแห่งความสุขของเขา… อนิจจา! กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว!

แต่ทั้งหมดนี้เขาไม่เคยบอกกล่าวผู้ใด แม้แต่ทาสชราชุดสีเทาก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้ ทว่าหนิงฝานผู้มาใหม่กลับทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว

หนิงฝานไม่คิดเปิดปากอธิบาย

วันนี้เขาครอบครองพลังเนตรศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถมองผ่านความจริงทั้งหมดได้เพียงแค่จับจ้อง

แม้หลินไท่ซูจะแข็งแกร่ง ซ้ำยังครอบครองปราณมังกรม่วง แต่มันมิอาจซุกซ่อนสิ่งใดภายใต้พลังเนตรศักดิ์สิทธิ์ได้

“เป็นเพราะเสี่ยวหนิงสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้แล้ว ข้าจึงใคร่ทราบว่าเสี่ยวหนิงสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่?”

น้ำเสียงของหลินไท่ซูอ่อนลง แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ย่อมไม่!”

“ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้ท่านคืออมตะยุทธ์ที่แท้จริง ทว่านั่นก็ไม่อาจรอดพ้นจากความตายได้อยู่ดี!”

หนิงฝานกล่าวอย่างสบาย ๆ

“…”

ดวงตาของหลินไท่ซูแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขารู้สึกว่าถ้อยคำที่รับฟังรุนแรงเกินกว่าจะรับไหว และเขาก็ไม่คิดมาก่อนว่า สิ่งที่เขากล่าวกระทบกระแทกหนิงฝานก่อนหน้าจะกลับคืนสู่เขารวดเร็วเช่นนี้

“อืม แค่นั้นก็แค่นั้น!”

หลินไท่ซูจับจ้องหนิงฝานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาแล้วกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่าทั้งข้าและเจ้าต่างก็ประสบเหตุเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าข้าไม่อาจขอร้องสิ่งใดจากเจ้าได้ นอกจากดูแลเซียนเอ๋อให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงวันที่ร่างกายของเจ้าไร้ประโยชน์!”

“กลับ!”

หลังกล่าวจบ หลินไท่ซูก็หันหลังกลับแล้วเดินออกจากตำหนักองค์หญิงในทันที พร้อมกับชายชราในชุดสีเทา แม้เขาจะมีท่วงท่าองอาจราวกับพยัคฆ์ แต่หนิงฝานกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความหดหู่ที่สิ้นหวังในจิตใจ

หลังจากที่หลินไท่ซูออกไปแล้ว หลัวชิงเซียนก็รีบกล่าวถามอย่างรวดเร็ว “หนิงฝาน เขากล่าวอันใดกับเจ้าหรือ?”

“ไม่มีเรื่องอันใดหรอก เขาเพียงชื่นชมว่าข้าเป็นอัจฉริยะไร้ผู้ใดเทียบ แล้วยังมีอนาคตที่สดใสอีก ส่วนตัวข้าก็บอกกล่าวขอให้เขามีอายุยืนยาวและแข็งแรงตลอดไป!” หนิงฝานยิ้ม

“ดูเหมือนว่าจะเข้ากันได้ดีเชียว” หลัวชิงเซียนกล่าว

หลินไท่ซู “…”

“หนิงฝาน แม้จะมีปรมาจารย์มากมายภายในหอค้นคว้าลี้ลับ แต่ข้าก็ไม่อาจฝากความหวังไว้กับหอลี้ลับเพียงที่เดียวได้ อย่างไรข้าก็จะออกไปค้นหาวิธีทำลายคำสาปให้เจ้าต่อ”

“นอกจากนี้ ข้าตระหนักแล้วว่าเจ้าสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ นี่คือคำสั่งขององค์หญิงซึ่งอนุญาตให้เจ้าสามารถเข้าและออกพระราชวังได้อย่างอิสระ”

จากนั้นหลัวชิงเซียนก็ทิ้งตราประทับขององค์หญิงเอาไว้ให้เขา และออกจากตำหนักไป

“เฮ้อ! ภรรยาข้าช่างโง่เขลานัก!”

หนิงฝานส่ายหัวเล็กน้อยก่อนถอนหายใจยาว แล้วจึงเข้าสู่สมาธิเพื่อฝึกฝนต่อ

หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ เขายังตระหนักได้ว่า แม้แต่ปราชญ์ยุทธ์ที่ถูกเรียกขานว่าเป็นอมตะแห่งดินแดนรกร้างทางเหนือ ทว่าสำหรับในเมืองเทพแห่งนี้ เขายังห่างไกลจากความแข็งแกร่งนัก

ไม่ต้องกล่าวถึงหลินไท่ซู แม้แต่ทาสชราผู้นั้นยังแข็งแกร่งยิ่ง หากเขาไร้ซึ่งพลังเนตรศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้เป็นแน่

“ดูเหมือนว่าหากต้องการจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ภายในดินแดนแห่งนี้ จะต้องทะลวงผ่านสวรรค์ขั้นเก้าแห่งขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ไปให้จงได้”

เมื่อตั้งเป้าหมายในใจได้แล้ว หนิงฝานเริ่มฝึกฝนอย่างหนัก

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เวลานี้เขาครอบครองร่างเซียนกระบี่บรรพกาลและคัมภีร์เซียนขนนก มันสามารถทำให้ขอบเขตของเขาก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และด้วยคำสาปอมตะในร่างกาย เขาสามารถควบแน่นพลังในร่างกายและพลังจิตวิญญาณได้อย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ ความแข็งแกร่งของหนิงฝานจึงเพิ่มขึ้นในทุกชั่วขณะ

ชายหนุ่มสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ตอนนี้เขาอยู่ไม่ไกลจากสวรรค์ขั้นที่สองแห่งขอบเขตปราชญ์ยุทธ์แล้ว

วันถัดมา

เมื่อวันใหม่มาถึง ระบบลงชื่อเข้าใช้สถานที่รีเฟรชแล้ว เขาจึงหยุดการฝึกฝนลง

“พระราชวังเทพขนนกยิ่งใหญ่เพียงนี้ น่าจะมีวิถีอุบัติมากมายให้ลงชื่อเข้าใช้”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หนิงฝานก็ลุกขึ้นยืนและออกจากตำหนักองค์หญิง เพื่อค้นหาสถานที่ลงชื่อเข้าใช้

แม้ว่าทหารองครักษ์ในพระราชวังเทพขนนกจะมากมาย แต่เขามีตราประทับจากองค์หญิงอยู่ จึงสามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระ

ไม่นานนัก

ชายหนุ่มก็มาถึงลานกว้างแห่งหนึ่ง

[ติ๊ง! ท่านต้องการลงชื่อเข้าใช้ที่จตุรัสปราณสวรรค์หรือไม่?]

“ลงชื่อเข้าใช้!”

[ติ๊ง! ท่านลงชื่อเข้าใช้ที่จตุรัสปราณสวรรค์ได้สำเร็จ ได้รับหยาดวิญญาณแก่นแท้ ของเหลวชนิดนี้หายากยิ่งและมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์]

พรึ่บ!

สิ้นเสียงของระบบ ของเหลวสีเขียวมรกตหยดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในมิติเก็บของ

“เยี่ยมไปเลย! ในพระราชวังแห่งนี้มีวิถีอุบัติอยู่มากมายจริงด้วย!”

หนิงฝานมีความสุขมาก เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วเขาก็เดินกลับตำหนักองค์หญิง และเริ่มฝึกฝนผ่านหยาดวิญญาณแก่นแท้นี้ทันที

ตู้ม!

หยาดวิญญาณแก่นแท้แปรเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณฟ้าดินบริสุทธิ์ ก่อนจะทะลักเข้าสู่ร่างกายก่อเกิดเป็นพลังงานยิ่งใหญ่ จนทำให้เขารู้สึกเหมือนกับร่างกายกำลังจะระเบิดออกมาจากพลังงานที่อัดแน่นนี้

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หนิงฝานจึงเปิดใช้งานคัมภีร์เซียนสวรรค์และเริ่มขัดเกลาพลังบริสุทธิ์นี้ทันที

ไม่กี่ชั่วยามต่อมา หยาดวิญญาณแก่นแท้นี้ได้รับการขัดเกลาโดยสมบูรณ์ การฝึกฝนของหนิงฝานจึงพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

‘อืม! พลังของหยาดวิญญาณแก่นแท้นี้แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดว่าไว้มาก หากข้าได้รับมันอีกสักหน่อย เพียงเวลาสามเดือนข้าน่าจะเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่สองได้แล้ว!’

หนิงฝานลอบคิดในใจพร้อมยิ้มยินดี

หลังจากนั้นชีวิตของหนิงฝานก็กลับสู่สภาวะปกติ เขาลงชื่อเข้าใช้ทุกวันเพื่อฝึกฝน

สิ่งที่แตกต่างเพียงอย่างเดียวในเวลานี้คือการเปลี่ยนสถานที่

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว…

ผ่านไปแล้วกว่าสองเดือน

วันนี้หลัวชิงเซียนกลับมาที่ตำหนักองค์หญิงอีกครั้งด้วยใบหน้าโศกเศร้า เห็นได้ชัดว่านางไม่อาจค้นพบวิธีทำลายคำสาปอมตะ

“หนิงฝาน อยู่ภายในพระราชวังเทพขนนกนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

หลัวชิงเซียนกล่าวถาม

นางเติบโตขึ้นภายในตำหนักองค์หญิง ย่อมทราบดีว่าแม้พระราชวังจะใหญ่โตและหรูหรา แต่มันกลับซุกซ่อนความน่าเบื่อเอาไว้มากมาย

“สบายดี! ดีมากด้วย!”

เมื่อได้ยินคำพูดของภรรยา หนิงฝานก็ยิ้มออกมาและนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาในใจ

ลงชื่อเข้าใช้ที่จตุรัสปราณสวรรค์ ได้รับหยาดวิญญาณแก่นแท้

ลงชื่อเข้าใช้ที่แท่นบูชาเซียน ได้รับกระบี่เฉือนนภา!

ลงชื่อเข้าใช้ที่ห้องโถงนิรันดร์ ได้รับเม็ดยานิรันดร์!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หอดวงดารา ได้รับคัมภีร์ดารา!

วิถีอุบัติของพระราชวังเทพขนนกนั้นแข็งแกร่งยิ่ง อีกทั้งสมบัติทุกสิ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อปราชญ์ยุทธ์

นอกจากนี้ พระราชวังยังใหญ่โตและมีสถานที่มากมายให้ลงชื่อเข้าใช้ทุกวัน หมู่นี้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสำรวจสถานที่ แม้อย่างนั้นก็ยังมีสถานที่มากมายรอให้เขาไปค้นพบ

“ทุกอย่างล้วนสุขสบายดี!”

หลัวชิงเซียนพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง ตราบใดที่หนิงฝานยังไม่เบื่อหน่ายแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว นางจะได้ออกไปค้นหาวิธีแก้คำสาปอย่างไม่ต้องกังวลอีก

ไม่กี่วันถัดมา

ตู้ม!

วันนี้ภายในตำหนักองค์หญิง หนิงฝานปลดปล่อยกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังออกมา เขาประสบความสำเร็จในการเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่สองของขอบเขตปราชญ์ยุทธ์แล้ว!

“ทักษะลมหายใจขนนก!”

หนิงฝานคำรามเสียงต่ำ ชั่วพริบตานั้นออร่าอันน่าสะพรึงกลัวพลันแผ่กำจายออกมาโดยรอบ แต่แล้วมันก็ถูกดูดซึมสู่ร่างกายของเขาในทันที และสถานที่แห่งนี้ก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

“โชคดีที่มีทักษะลมหายใจขนนก มิฉะนั้น การทะลวงผ่านของข้าอาจทำให้ทั้งเมืองแตกตื่นเอาได้!”

หนิงฝานถอนหายใจแผ่วเบา

ทักษะลมหายใจขนนกนั้นเป็นสิ่งที่เขาได้รับจากคัมภีร์เซียนนกขน นับว่าเป็นทักษะแห่งเทพยุทธ์ที่แท้จริง มันมีพลังยิ่งกว่าเสื้อคลุมเร้นลับก่อนหน้านี้เสียอีก ต่อให้มีผู้ฝึกยุทธ์แข็งแกร่งเหนือกว่าขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นเก้า ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถตรวจสอบร่างกายของหนิงฝานโดยละเอียดได้

แม้หนิงฝานจะเปิดเผยพลังการโจมตี แต่คนอื่น ๆ ทำได้เพียงคาดเดาขอบเขตของเขา และไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้!

“ฮ่า ๆ! ปราชยุทธ์สวรรค์ขั้นเก้า… สวรรค์ขั้นที่หนึ่งเพิ่งผ่านพ้นไป และแม้ข้าจะเข้าสู่สวรรค์ขั้นสองแล้ว แต่ความแข็งแกร่งข้ากลับเพิ่มพูนหลายเท่า ต่อให้ข้าไม่ใช้พลังเนตรศักดิ์สิทธิ์… เกรงว่าข้ายังสามารถเอาชนะทาสชราติดตามของหลินไท่ซูได้โดยง่ายดาย!”

ชายหนุ่มสำรวจความแข็งแกร่งของตนเอง และในขณะเดียวกันก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา

เมืองเทพแห่งนี้ช่างยอดเยี่ยม หากเขายังอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนตลอดไป ก็เกรงว่าจะไม่มีวันทะลวงเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่สองได้

ปัง ปัง ปัง!

ขณะที่หนิงฝานกำลังยินดี พลันมีเสียงเคาะประตูจากหน้าตำหนักดังขึ้น และตามมาด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย

“ฝ่าบาท! หลินชิงอวี่มาขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ!”

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

  1. สสสสส พูดว่า:

    รู่สึกไม่ค่อยชอบพระเอกเท่าไหรตอนมันโดนคำสาปอมตะพอมันหายมันกลับไม่ยอมบอกเมียมันเห้อออ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท