ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 61 พระสนมเหยา จวินซ่าง!

ตอนที่ 61 พระสนมเหยา จวินซ่าง!

ตอนที่ 61 พระสนมเหยา จวินซ่าง!

หน้าวิหารทองคำ

สตรีงดงามวัยกลางคนไม่ทราบว่าโผล่มาจากที่ใด นางแต่งกายดูดีเผยให้เห็นถึงยศถาบรรดาศักดิ์ รูปร่างเพรียวบางไม่ต่างจากเด็กสาว แม้ใบหน้าจะเผยถึงอายุเล็กน้อย แต่ทรวดทรงยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวน

ทว่าในเวลานี้ แววตาคู่งามนั้นเผยให้เห็นถึงความขุ่นเคืองยิ่ง

“หืม? มารดาขององค์ชายหลงเซี่ยง… พระสนมเหยา!”

“หึ! ไม่ใช่เรื่องดีแล้วหากมีเรื่องกับพระสนมเหยา นางคือผู้ที่กล้าต่อสู้เพื่อตำแหน่งจักรพรรดินีแห่งเมืองเทพขนนก!”

“มันจบสิ้นแล้ว! บุตรชายนั้นถือว่าเป็นชีวิตและหัวใจของนาง เวลานี้องค์ชายหลงเซี่ยงตายตกไปแล้ว เกรงว่าต่อไปนางคงให้อีกฝ่ายชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน!”

“…”

พรึ่บ พรึ่บ!

ทันทีที่พระสนมเหยาเดินตรงเข้ามาด้วยความขุ่นเคืองฉายชัดในแววตา ขุนนางและกองทัพอารักขาทั้งหมดก็ถอยห่างจากหนิงฝานราวกับหลีกเลี่ยงอสรพิษ

“หนิงฝาน เจ้าสังหารหลงเซี่ยงของข้า! มันเป็นเพราะเจ้า!”

แน่นอนว่า ทันทีที่พระสนมเหยามาถึง นางก็ชี้นิ้วด่าทอหนิงฝานในทันที

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ขันทีเว่ยกับคนอื่นถึงกับเร่งรีบอธิบาย “พระสนมเหยา ข้าเกรงว่าท่านคงเข้าใจผิดแล้ว องค์ชายหลงเซี่ยง…”

แต่ก่อนที่ขันทีเว่ยจะทันได้กล่าว พระสนมเหยาก็หันมาตวาดเสียงใส่หน้าพวกเขา “แล้วยังมีสุนัขรับใช้อีกสามตัว! ตัวหนึ่งเป็นถึงผู้บังคับบัญชา ตัวหนึ่งเป็นแม่ทัพรักษาพระองค์ และอีกตัวเป็นถึงแม่ทัพแห่งกองทัพจักรวรรดิ พวกเจ้ายังจะปกป้องเมืองเทพขนนกได้อีกหรือ? เพราะเพียงแค่บุตรชายคนเดียวของข้า พวกเจ้าก็ยังมิอาจปกป้องเขาไว้ได้!”

“เป็นพวกเจ้า! พวกเจ้าคือผู้สมรู้ร่วมคิดในการสังหารหลงเซี่ยงบุตรชายของข้า!”

“ข้าจะบอกกล่าวกับไท่ซู ให้เขาออกคำสั่งตัดศีรษะพวกเจ้าทุกคน แล้วฝังศีรษะไว้กับหลุมศพหลงเซี่ยงบุตรชายของข้า!”

“…”

พระสนมเหยาเผยความเกรี้ยวกราด นางยังคงลั่นวาจารุนแรงไม่หยุด

หากไม่ใช่เพราะสวมใส่ชุดงดงาม เวลานี้นางคงไม่ต่างจากแม่ค้าตามแผงลอยในตลาด

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าขันทีเว่ยทั้งสามถึงกับมืดมน

ในฐานะที่เป็นปราชญ์ยุทธ์ พวกเขาทั้งสามจึงอารมณ์เสียเมื่อถูกสตรีตรงหน้าดุด่า แต่เพราะสถานะพระสนมผู้สูงศักดิ์ของนาง พวกเขาจึงไม่อาจทำสิ่งใดได้มากกว่าลอบขุ่นเคืองในใจ

หนิงฝานยังไม่กล่าวคำ เพียงแค่ขมวดคิ้วเท่านั้น

เขาลอบคิดในใจ ‘ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลินหลงเซี่ยงจึงโง่เขลานัก ก็เพราะเขามีมารดาเช่นนี้!’

ยิ่งขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ ตกอยู่ในความเงียบ พระสนมเหยายิ่งฮึกเหิมมากขึ้น แม้กระทั่งพ่นถ้อยคำหยาบคายสาปแช่ง คำพูดของนางยิ่งน่าเกลียดขึ้นทุกครั้งที่อ้าปาก

“พระสนมเหยา ท่านกล่าวมากเกินไปแล้ว เสด็จพี่หลงเซี่ยงถูกสังหารโดยนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิต หากไม่มีหนิงฝานกับขันทีเว่ย ทุกคนจะเป็นเช่นไรทราบหรือไม่? พวกเขาจะต้องตายตกหมดสิ้น!”

เวลานี้หลัวชิงเซียนกล่าวออกไปอย่างไม่อาจอดกลั้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พระสนมเหยาก็หันมองหลัวชิงเซียนพร้อมสาปแช่งทันที “โอ้ ปรากฏว่าเป็นธิดาของนังหลัว มารดาเจ้าเป็นคนคดโกง แน่นอนว่าบุตรสาวคงไม่แตกต่าง เจ้า…”

เพียะ!

ก่อนที่พระสนมเหยาจะกล่าวจบ นางก็ถูกตบใบหน้าจนร่างกายกระเด็นไปไกล

“บังอาจนักที่กล้าชี้หน้าด่าภรรยาของข้า!”

หนิงฝานเผยแววตาเย็นชา

เดิมทีหนิงฝานไม่ต้องการโต้เถียงกับนางผู้นี้ แต่เขาไม่อาจอดทนได้หากมีผู้ใดมาต่อว่าหลัวชิงเซียน

เขาจะอดทนได้อย่างไร!?

“อะไรกัน!”

“ไอ้สารเลว ไอ้คนชั้นต่ำ แกกล้าดีอย่างไรมาทุบตีข้า!”

“ข้าจะบอกให้ไท่ซูตัดหัวและสับเจ้าออกเป็นพันชิ้น!!!”

พระสนมเหยาลูบแก้มที่เจ็บปวด พร้อมทั้งเผยท่าทีทำอะไรไม่ถูก

เพียะ! เพียะ!

แน่นอนว่าหนิงฝานไม่สนใจนาง เขาตบนางซ้ำด้วยหน้ามือและหลังมือ ทำให้ใบหน้าของนางบวมเป่งพร้อมโลหิตไหลออกจากมุมปาก

“อ๊ะ! ไอ้ตัวบัดซบ!”

“พวกเจ้าไม่เห็นหรือไรว่ามันผู้นี้ทุบตีพระสนมสูงศักดิ์เช่นข้า? ฆ่ามันเดี๋ยวนี้!”

พระสนมเหยากลายเป็นคนบ้าคลั่ง แล้วนางก็หันไปตะคอกใส่ขันทีเว่ยกับคนอื่น ๆ ทันที

ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ ไม่คิดจะดำเนินการใด ๆ ไม่ต้องกล่าวถึงว่าหนิงฝานนั้นมีส่วนร่วมอย่างยิ่งในการช่วยราชวงศ์เทพขนนกให้พ้นจากอันตราย พวกเขาจึงไม่คิดสนใจใบหน้าของพระสนมเหยาในตอนนี้

กลับกล้าปล่อยให้มันลงมือต่อไป!

“ไอ้พวกชั่วช้า ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”

“พวกเจ้าคิดก่อกบฏ!”

ทันทีที่เห็นว่าขันทีเว่ยและคนอื่นเพิกเฉยต่อตนเอง พระสนมเหยายิ่งบันดาลโทสะเข้าไปใหญ่

ทว่าในเวลานี้เอง กองทัพจักรวรรดิตรงเข้ามารายงานสถานการณ์อย่างกะทันหัน

“กล่าวรายงานผู้บังคับบัญชา มีบางสิ่งเกิดขึ้น! มีคนสังหารอาชญากรบุกรุกตำหนักเทพขนนก และศพของพวกมันถูกแขวนไว้ที่ประตูเมืองเทพขนนกแล้ว!”

“ว่ากระไรนะ!”

“พาข้าไปดู เร็ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ ถึงกับตื่นตระหนกทั้งสิ้น พวกเขาใช้โอกาสนี้เมินเฉยต่อพระสนมเหยา และตรงไปหน้าประตูเมืองเทพขนนกทันที

บรรดาเหล่าขันทีและทหารทั้งหมดก็ตรงไปยังประตูเมืองหลังจากได้รับข่าวสารเช่นกัน

ในชั่วพริบตา ฝูงชนที่เคยอยู่ที่หน้าวิหารทองคำก็แยกย้ายกันไป

เหลือเพียงไม่กี่คนในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งก็คือหนิงฝาน หลัวชิงเซียน และพระสนมเหยา

เมื่อเห็นว่าทุกคนแยกย้ายไปแล้ว พระสนมเหยาถึงกับเผยท่าทีหวาดกลัว

นางไม่กล้าตะโกนด่าทออีกต่อไป เพราะกลัวว่าจะถูกหนิงฝานตบอีกครั้ง

“ภรรยาข้า วันนี้พวกเราเหนื่อยมามาก กลับกันเถิด!”

หนิงฝานไม่สนใจพระสนมเหยาอีกต่อไป เขากลับสู่ตำหนักองค์หญิงพร้อมกับหลัวชิงเซียนในทันที

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มจากไปแล้ว ดวงตาของพระสนมเหยาก็เผยความเกลียดชังออกมา

“หนิงฝาน ไอ้ตัวบัดซบ เจ้าทำร้ายจักรพรรดิของข้า แล้วยังบังอาจทุบตีพระสนมผู้สูงศักดิ์นี้ คอยดูเถิด สนมผู้นี้จักสังหารเจ้าให้ตายตกและไม่มอบแผ่นดินให้ฝังศพ!”

บนประตูเมืองเทพขนนก มีซากศพทั้งสามห้อยอยู่

มันคือค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัว เซวี่ยเซียวจื่อ กระบี่ภูตผีชางหมิง

ในเวลานี้ ด้านล่างของประตูเมืองถูกล้อมรอบด้วยกองกำลังลาดตระเวนของจักรวรรดิ

ด้านนอกของกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นโดยกองทัพลาดตระเวนจักรวรรดิ มีผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังยืนพูดคุยกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหลยิ่ง

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!

ในเวลานี้เองก็ปรากฏลำแสงทั้งสามพุ่งเข้ามา เป็นขันทีเว่ยมาถึงสถานที่นี้แล้ว

“เคารพผู้บังคับบัญชาทั้งสาม!”

เมื่อเห็นว่าทั้งสามมาถึงแล้ว ผู้คนในบริเวณก็คุกเข่าลงทันที

ขันทีเว่ยโบกมืออย่างเร่งรีบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้านบนของประตูเมือง

“หืม? เป็นค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัว เซวี่ยเซียวจื่อกับกระบี่ภูตผีชางหมิงจริง ๆ ด้วย แต่นักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตกลับหายไป!”

“เกิดอันใดขึ้น? สามคนนี้อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือได้โดยง่าย โดยเฉพาะทักษะการหลบหนีของพวกมันทั้งสาม หากเราไม่ได้ต่อสู้กันตัวต่อตัว แม้แต่พวกเราสามคนยังไม่อาจสังหารพวกมันให้ตายตกได้!”

“ภายในเมืองเทพขนนกนี้ นอกจากองค์จักรพรรดิแล้ว ยังจะมีผู้ใดสามารถสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดายอีก!”

ใบหน้าของทั้งสามพลันเคร่งขรึมในทันที

แล้วเวลานี้เอง เว่ยเสวียนก็พึมพำคำเบา “เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจมีปราชญ์ยุทธ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในตำหนักเทพขนนกเป็นผู้ลงมือ?”

ขันทีเว่ยส่ายศีรษะ “ไม่แล้ว หากมีปราชญ์ยุทธ์ซุกซ่อนอยู่ในตำหนักและพวกเขาเคลื่อนไหว เราจักต้องทราบเรื่องแน่นอน”

“แล้วเช่นนั้นเป็นผู้ใด?”

ทั้งสามถึงกับสับสน

หลังจากทั้งสามตรวจสอบดูให้ดี ทั้งหมดพลันเผยสีหน้าตื่นตระหนก

“มีอักษรเขียนเอาไว้!”

ทั้งสามเข้าไปใกล้และพบว่าเหนือร่างทั้งสามมีอักขระขนาดใหญ่สองตัวสลักไว้ด้านบน… จวินซ่าง!

“หืม? หรืออาจจะเป็นนามของผู้ลงมือ?”

“จวินซ่าง? ข้าไม่เคยได้ยินนามของบุรุษผู้แข็งแกร่งนามว่า จวินซ่าง ในเมืองเทพขนนกศักดิ์สิทธิ์นี้สักครั้ง!”

“หรือมันอาจจะเป็นนามแฝง? ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องการให้เราทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา!”

“…”

ทั้งสามมองหน้ากันอย่างใคร่รู้

“ลืมมันไปเสีย ไม่ว่าจวินซ่างผู้นี้จะเป็นใคร หากเขาสามารถสังหารพวกมันทั้งสามได้ เช่นนั้นเขาก็มิใช่ศัตรูของเรา!”

ขันทีเว่ยกับคนอื่นหารือกันต่อไป ก่อนจะออกคำสั่งให้กองทัพลาดตระเวนจักรวรรดิเก็บศพเหล่านี้ออกไป

ค้างคาวสวรรค์เหล่าหมัว เซวี่ยเซียวจื่อ และกระบี่ภูตผีชางหมิงล้วนแต่เป็นอาชญากรระดับสูงในรายชื่อของเมืองเทพขนนก ในที่สุดเวลานี้พวกมันก็ถูกกำจัดสิ้นแล้ว

สิ่งเดียวที่นึกเสียใจคือ พวกเขายังไม่สามารถจับกุมนักฆ่าจากหอคอยเมฆาโลหิตได้

ห่างออกไปไกล มีเงาร่างหนึ่งกำลังเฝ้าดูสถานการณ์ทั้งหมดอยู่

หลังจากเห็นว่าขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ เก็บศพเหล่านั้นแล้ว แววตานักฆ่าหมายเลขสิบสามก็วูบไหว ก่อนจะหายลับไปในเงามืด

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท