ตอนที่ 76 ราชาทั้งสิบเข้าสู่พระราชวังเทพขนนก ความประหลาดใจปรากฏ!
หนึ่งเดือนผ่านไปรวดเร็วราวกะพริบตา
แม้จะไม่แน่ใจว่าราชากบฏทั้งสิบจะมาเยือนหรือไม่ แต่ก็จำเป็นต้องแสดงละครให้เต็มที่
ในช่วงเดือนนี้ พระราชวังเทพขนนกตระเตรียมพิธีศพขององค์จักรพรรดิเทพขนนกหลินไท่ซูอย่างสุดความสามารถ
เมื่อถึงกำหนดของวันพิธีการ
ณ วังกระเรียนตะวันตก
วังกระเรียนตะวันตก เป็นวังที่องค์จักรพรรดิทุกรุ่นจะต้องวางร่างของตนก่อนที่จะถูกเคลื่อนไปยังสุสาน
เวลานี้ ภายในวังกระเรียนตะวันตก โลงศพมังกรถูกตั้งไว้สูงสุด ริบบิ้นสีขาวพลิ้วไหวไปตามสายลม
ไม่ว่าจะเป็นคนของราชวงศ์ หรือกองทัพทหารจักรวรรดิ พลเรือนทั้งหมด พวกเขาล้วนแต่เผยสีหน้าโศกเศร้า
หนิงฝานและหลัวชิงเซียนอยู่ในหมู่พวกเขาด้วยเช่นกัน องค์จักรพรรดิเทพขนนกสวรรคต ในฐานะองค์หญิงและราชบุตรเขยเพียงคนเดียวของราชวงศ์เทพขนนก ย่อมต้องอยู่ร่วมงานเป็นปกติ
แต่หนิงฝานกลับไม่เผยสีหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเขาทราบอยู่แล้วว่านี่คือละครฉากใหญ่
ณ ขณะนี้เขากำลังเฝ้ามองการจัดระเบียบของราชวงศ์เทพขนนกอยู่ในที่สว่าง ภายในวังกระเรียนตะวันตกเต็มไปด้วยบรรยากาศของความอาสัญและการไว้ทุกข์จากราชสำนัก
ทว่าภายในความมืด องครักษ์และกองกำลังทหารจักรวรรดินับไม่ถ้วนล้วนเตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มโจมตี
ดังที่ทราบ ราชวงศ์เทพขนนกตระหนักดีว่าองครักษ์เหล่านี้สามารถจัดการกับศัตรูที่อยู่ภายในขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้น หนิงฝานสัมผัสได้ถึงออร่าของปราชญ์ยุทธ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของตำหนักชัดเจน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นน่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ลับที่ทางราชวงศ์ตระเตรียมไว้จัดการกับปราญช์ยุทธ์ของอีกฝ่าย
‘หวังว่าวันนี้ข้าคงไม่ต้องเคลื่อนไหว!’
หนิงฝานส่ายศีรษะพร้อมถอนสายตากลับคืน
เหง่งหง่าง! เหง่งหง่าง! เหง่งหง่าง! เหง่งหง่าง!
ไม่นานนัก ระฆังก็ดังขึ้นถึงสี่ครั้ง
พิธีการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ผู้นำในพิธีเข้าประจำตำแหน่ง
หลังจากนั้น
“ทำความเคารพเหล่าขุนนาง!”
ขุนนางฝ่ายพิธีการกล่าวคำ เมื่อประตูวังกระเรียนตะวันตกเปิดออก ด้านนอกก็เต็มไปด้วยเหล่าขุนนางทั่วทั้งสามพันดินแดนที่มาร่วมงานแล้ว
“เชิญข้าหลวงใหญ่เก้าสำนักเข้ามาสักการะศพ!”
“เชิญแม่ทัพเจิ่นตงเข้ามาสักการะศพ!”
“เชิญราชากลืนเมฆาเข้ามาสักการะศพ!”
“…”
ท่ามกลางเสียงประกาศของขุนนางดำเนินพิธี เหล่าขุนนางทั้งหลายก็ก้าวเท้าเข้าสู่วังกระเรียนตะวันตกทีละคนเพื่อเคารพศพ
คนเหล่านี้ไม่ทราบว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือโรงละครขนาดใหญ่ พวกเขาคิดว่าจักรพรรดิเทพขนนกหลินไท่ซูจากไปแล้วจริง ๆ ไม่ว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริงหรือไม่ ทั้งหมดล้วนแต่เผยใบหน้าโศกเศร้า
ภายในชั่วขณะหนึ่ง ทั้งเสียงร่ำไห้และบรรยากาศเศร้าสลดปกคลุมไปทั่ววังกระเรียนตะวันตก
หลังจากดำเนินการสักการะศพอย่างต่อเนื่อง
พิธีก็ยังดำเนินการต่อไป
ผู้คนด้านนอกวังเริ่มลดลง แม้ว่าข้าราชบริพารมากมายจะมาถึง แต่ยังไม่มีวี่แววของราชากบฏทั้งสิบที่ราชวงศ์เทพขนนกรอคอย
ในที่ลับ
องค์ชายทั้งห้า ขันทีเว่ย และคนอื่น ๆ ลอบสื่อสารกัน
“เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว เหตุใดราชาทั้งสิบถึงยังไม่โผล่หัวออกมา!”
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเหล่าราชากบฏทั้งสิบจะทราบถึงแผนการของพวกเราแล้ว?”
“บัดซบ! หากพวกมันไม่มา พวกเราที่ตระเตรียมการกว่าหนึ่งเดือนก็นับว่าสูญเปล่าแล้ว!”
“รออีกสักครู่ก็ได้ หากพวกมันไม่มาจริง ๆ พวกเราค่อยใช้หนทางอื่น!”
“…”
หลังจากพูดคุยแล้ว ทุกคนยังเฝ้ารออย่างอดทน
จนกระทั่งยามอู่*[1] ตามธรรมเนียมแล้ว โลงศพมังกรนี้จะถูกเคลื่อนไปยังสุสานเทพ แต่เพราะว่าราชากบฏทั้งสิบยังไม่มา…
“เหมือนว่าราชากบฏทั้งสิบคงจะทราบถึงแผนการของพวกเรา จึงมิกล้าโผล่หน้าออกมา!”
“อย่างไรแล้วนี่คือสัญญาณที่ดี! ชัดเจนว่าราชากบฏทั้งสิบยังหวาดกลัวต่ออำนาจแห่งเมืองเทพขนนก และภูมิหลังของพวกเขามิได้แข็งแกร่งดังเช่นที่พวกเราคิด!”
ขันทีเว่ยเผยความโล่งใจออกมาในที่สุด
จากนั้นองค์ชายหลินเทียนเยวี่ยนก้าวไปด้านหน้าเพื่อจะบอกกล่าวความจริงกับทุกคน
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เปิดปาก พลันได้ยินเสียงโห่ร้องอย่างโศกเศร้าดังขึ้นด้านนอกตำหนัก
“โอ้!”
ทุกคนหันไปมองตามเสียงนั้น ก่อนจะเห็นร่างสิบร่างยืนเคียงข้างกัน บางคนสูงใหญ่กำยำ บางคนเตี้ยล่ำน่าเกลียด บางคนใบหน้ามืดครึ้ม บางคนคล้ายกับต้นหยกพลิ้วไหวตามสายลม พวกเขาล้วนแต่แตกต่าง ทั้งรูปร่าง หน้าตา ส่วนสูง และเสื้อผ้าล้วนบ่งบอกถึงต้นกำเนิด
แต่สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ… ใบหน้าทั้งสิบเชิดขึ้น อกผายไหล่ผึ่ง เดินตรงเข้ามาราวกับมังกรและพยัคฆ์ ซ้ำยังปลดปล่อยกลิ่นอายน่าหวาดกลัวออกมาด้วย
ในเวลานี้ ขุนนางพิธีกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ขอเชิญ… ราชามังกรสวรรค์ ราชาฟ้าสงัด ราชามหาทองคำ ราชาหมื่นคชสาร ราชาไหมสีม่วง ราชาอัคคีทมิฬ ราชาแยกนที ราชาวายุอสนี ราชาเมฆคราม และราชาจ้าวยุทธ์ เข้าสู่ตำหนักเพื่อสักการะ!”
ราชากบฏทั้งสิบ… มาแล้ว!
เมื่อเหล่าราชากบฏทั้งสิบก้าวเข้าสู่วังกระเรียนตะวันตก องค์ชายทั้งห้าที่ผิดหวังก่อนหน้าถึงกับตื่นตระหนกทันที
หลังจากเล่นละครมาร่วมเดือน ในที่สุด คนที่พวกเขาเฝ้ารอก็มาถึง!
“ขอองค์จักรพรรดิหลินไท่ซูหลับให้สบาย!”
“องค์จักรพรรดิไท่ซู ท่านครองบัลลังก์มานานกว่าแปดร้อยปี และเวลานี้เมืองเทพขนนกกำลังรุ่งเรืองยิ่ง เหตุใดจึงรีบจากไปนัก!”
“องค์จักรพรรดิไท่ซู พวกเราทั้งสิบมาที่นี่เพื่อแสดงความเคารพแก่ท่านเป็นครั้งสุดท้าย!”
ทันทีที่ราชากบฏทั้งสิบเข้าสู่วังกระเรียนตะวันตก พวกเขาทั้งหมดก็กล่าวคำพร้อมเผยสีหน้าโศกเศร้า
จากนั้นทั้งสิบถือธูปพร้อมหมอบกราบต่อโลงศพมังกร
หลังจากกราบไหว้เสร็จแล้วก็เผากระดาษต่อ
ระหว่างที่ทำพิธีนี้ ทั้งสิบไม่ได้มองหาผู้ใด ราวกับพวกเขาไร้ซึ่งการป้องกันและไม่ได้เอาใครมาด้วย สิ่งนี้ทำให้องค์ชายทั้งห้ารวมถึงขันทีเว่ยรู้สึกผ่อนคลาย แล้วพวกเขาก็ส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้บุคคลที่ซุ่มอยู่เตรียมพร้อม
เมื่อองค์ชายมังกรทั้งห้ากำลังจะเคลื่อนไหว ราชามังกรสวรรค์ซึ่งกำลังปักธูปพร้อมเผากระดาษตรงหน้า พลันเงยศีรษะขึ้นมองโลงศพมังกรด้านบน
“องค์จักรพรรดิหลินไท่ซู!”
“ในฐานะที่ข้าคือผู้รับใช้สูงสุดของฝ่าบาท ข้าอยากขอพบท่านเป็นการส่วนตัวครั้งสุดท้าย!”
ทันทีที่กล่าวจบ ราชามังกรสวรรค์ก็ทุบโลงศพมังกรตรงหน้าโดยไม่บอกกล่าวผู้ใด
ตู้ม!
แม้ราชามังกรสวรรค์จะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ที่เก่งกาจ แต่เขาก็ยังอยู่ในขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่สาม!
ด้วยฝ่ามือเดียว พลังอันน่าสะพรึงทำลายโลงศพมังกรแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที!
แน่นอนว่าฉากนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนทั้งหมด
“ราชามังกรสวรรค์ เจ้าทำสิ่งใดลงไป!?”
“บังอาจ! กล้าโจมตีโลงศพมังกร นั่นหมายความว่าเจ้าคิดดูหมิ่นร่างมังกรแห่งองค์จักรพรรดิ!”
“บัดซบ! ไอ้สารเลว!”
“…”
ภายในวังนกกระเรียนตะวันตก ผู้คนที่ไม่รู้ความจริงต่างสาปแช่งอย่างเกรี้ยวกราด
“จะโวยวายกันเพื่อสิ่งใดหรือ? เห็นหรือไม่ว่าโลงศพนี้มันว่างเปล่า!”
ในเวลานี้ ราชามังกรสวรรค์คำรามเสียงดัง และเสียงนี้ก็หยุดผู้คนที่กำลังโวยวายทันที
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่โลงศพมังกร จากนั้นก็เผยสีหน้าตกตะลึงอย่างโง่งมออกมา
จักรพรรดิเทพขนนกยังไม่ตายหรือ? เหตุใดโลงศพจึงว่างเปล่า!
“ฮ่า ๆ ไม่แปลกไปหน่อยหรือไร องค์จักรพรรดิเทพขนนกล่วงลับ แต่กลับไร้ซึ่งร่างภายในโลงศพมังกรนี้!”
หลังจากนั้นราชามังกรสวรรค์มองไปรอบ ๆ แล้วเขาก็ตะโกนลั่น “นั่นเป็นเพราะองค์จักรพรรดิหลินไท่ซูยังไม่ตาย! และทั้งหมดนี้เป็นเพียงละครฉากใหญ่เพื่อหลอกล่อพวกเราทั้งสิบเข้าสู่พระราชวังเทพขนนก!”
“ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่… องค์ชายทั้งห้า!”
หลังกล่าวจบ ราชาทั้งสิบก็หันไปจับจ้ององค์ชายทั้งห้าและคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
“หืม?”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว องค์ชายทั้งห้าและคนอื่น ๆ พลันขมวดคิ้วแน่น พวกเขาคิดไม่ถึงว่าราชาทั้งสิบจะทราบถึงแผนการของพวกตน
แม้ว่าแผนการจะพังทลายลง แต่อย่างไรราชาทั้งสิบก็ปรากฏตัวแล้ว องค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนจึงกล่าวตอบอย่างเย้ยหยัน
“เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว นี่คือละครฉากใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อจับกุมพวกเจ้า!”
“แล้วพวกเจ้ายังจะทำสิ่งใดได้? ในเมื่อเวลานี้พวกเจ้าเข้าร่วมในละครนี้แล้ว ย่อมไม่มีหนทางให้หลบหนีไปได้อีก!”
เสียงปรบมือดังขึ้น!
หลินเทียนเยวี่ยนปรบมือส่งสัญญาณทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ทันทีที่เสียงปรบมือดังขึ้น เหล่าองครักษ์ของกองทัพจักรวรรดิและผู้ฝึกยุทธ์โดยรอบที่ซุ่มซ่อนอยู่รอบวังกระเรียนตะวันตก ก็พุ่งเข้ามาล้อมรอบราชาทั้งสิบทันที โดยพวกเขาแบ่งออกเป็นสามชั้นอย่างรัดกุม!
ปราณกระบี่สว่างเจิดจ้าทั่วบริเวณ จิตสังหารพวยพุ่งไร้ที่สิ้นสุด!
*[1] ยามอู่ หมายถึง ช่วงเวลาเที่ยงวัน