ตอนที่ 80 จวินซ่างปรากฏตัว หนึ่งกระบี่ปราบสิบบรรพชน!
เหนือท้องฟ้า ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เวลานี้สงครามแห่งปราชญ์ยุทธ์จึงนับว่าสิ้นสุด
“ราชวงศ์เทพขนนก… ล่มสลายแล้ว!”
“เฮ้อ! ระหว่างราชวงศ์เทพขนนกและราชากบฏทั้งสิบ สุดท้ายแล้วราชาทั้งสิบก็อยู่เหนือกว่า!”
“น่าเสียดายที่ราชวงศ์เทพขนนกเป็นผู้ริเริ่มละครนี้ พวกเขาคงไม่คิดว่าตนเองจะพ่ายแพ้!”
“ดูเหมือนว่าต่อจากนี้จะไร้ซึ่งราชวงศ์เทพขนนกเสียแล้ว คงจะเหลือเพียงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเท่านั้น!”
“…”
ผู้คนนับไม่ถ้วนพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อน และเสียงยังคงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
ใบหน้าของสมาชิกราชวงศ์ทั้งหมดเผยความโศกเศร้าออกมา ขณะที่พลเรือนรวมถึงกองกำลังจักรวรรดิก็เจ็บปวดมากเช่นกัน!
ส่วนเหล่าขุนนาง องค์ชาย และขันทีอื่น ๆ ต่างไม่ได้เผยอารมณ์ออกมามากนัก
ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับพวกเขา ไม่สำคัญว่าจะต้องเป็นราชวงศ์เทพขนนกหรือเหล่าราชากบฏทั้งสิบ หากผู้ใดก็ตามที่ได้รับชัยชนะ พวกเขาย่อมร้องขอสิ่งที่ต้องการ!
“เรื่องนี้… มันเป็นไปได้อย่างไร!”
หลัวชิงเซียนซึ่งเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวแห่งราชวงศ์เทพ ใบหน้างดงามนั้นเผยความหนักอึ้ง มือเรียวยาวกำหมัดไว้แน่นจนซีดขาว นางไม่อาจยอมรับผลของชะตากรรมนี้ได้
“ภรรยาข้า อย่าได้หวาดกลัวไป!”
“เจ้ายังมีข้าอยู่!”
เมื่อเห็นสถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ หนิงฝานกุมมือหลัวชิงเซียนพร้อมปลอบประโลมนาง
ทว่าในใจของเขากลับเย็นเยียบเป็นอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว!
…
กลางอากาศ
บรรพชนทั้งสิบใช้สายตาจับจ้องปราชญ์ยุทธ์จากราชวงศ์อย่างเย็นชา แน่นอนว่าพวกเขาเห็นผู้พิทักษ์สุสานคืนร่างเดิมแล้วเช่นกัน
“หา? ปรากฏว่าเจ้าเป็นปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดเพราะใช้เล่ห์เหลี่ยมหรอกหรือ!”
“หากพวกเราทราบเรื่องเร็วกว่านี้ ก็เพียงแค่รอคอย และไม่ต้องกินเม็ดยาระเบิดศักดิ์สิทธิ์!”
“นี่… ไอ้สารเลว!”
“…”
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่แท้จริงของผู้พิทักษ์สุสาน บรรพชนทั้งสิบอดไม่ได้ที่จะระเบิดความเกรี้ยวกราด
หลังจากนั้น
บรรพชนมังกรสวรรค์กระชับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในมือ ก่อนจะทะยานเข้าหาผู้พิทักษ์สุสาน
“ไปตายเสียไอ้บัดซบ!”
ทันทีที่กล่าวจบ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเปล่งประกายเจิดจ้าก็สับฟันลงทันที วิถีใบมีดพุ่งตรงไปยังศีรษะของผู้พิทักษ์สุสานในฉับพลัน
“ท่านอาวุโส!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ ที่บาดเจ็บสาหัสพลันน้ำตาไหลพรากราวกับว่าพวกเขาได้สูญเสียอาวุโสแห่งราชวงศ์เทพขนนกไปอีกหนึ่งคน
พริบตานั้น บังเกิดเสียงปะทะดังสนั่นขึ้น!
ทว่าช่วงเวลาต่อมา ภาพที่ปรากฏกลับมิใช่ใบมีดสับฟันเข้าที่ศีรษะ แต่กลับเป็นเสียงของโลหะปะทะกันอย่างรุนแรง
เมื่อทุกคนจับจ้อง รูม่านตาของพวกเขาจึงหดลงในฉับพลัน
ผู้พิทักษ์สุสานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยืนขึ้น นัยน์ตาของเขาเย็นชาและน่าหวาดกลัวยิ่ง เขา… ยื่นสองนิ้วออกมาอย่างสบาย ๆ ก่อนจะคีบใบมีดคมกริบตรงหน้าไว้อย่างมั่นคง
“เจ้า เจ้า!”
บรรพชนมังกรสวรรค์ตื่นตระหนก!
ในเวลานี้ ผู้พิทักษ์สุสานที่เคยบาดเจ็บสาหัสลุกขึ้นยืน… กลับใช้สองนิ้วคีบกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าด้วยความเย่อหยิ่ง!
นี่เป็นไปได้อย่างไร!
เพราะขณะนี้ผู้พิทักษ์สุสานร่วงหล่นสู่สวรรค์ขั้นที่หกแล้ว แม้จะมีความแข็งแกร่งของสวรรค์ขั้นที่เจ็ด แต่ก็ไม่สมควรจะกระทำเช่นนี้ได้!
“โง่เง่า อ่อนแอ!”
ตู้ม!
เมื่อผู้พิทักษ์สุสานเปิดปากกล่าวคำ วาจาทั้งหมดกลับรื่นหูไม่ติดขัดอีกต่อไป เพียงแค่ขยับนิ้วทั้งสองเล็กน้อย กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ อีกทั้งเขายังปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมา ก่อนจะส่งร่างของบรรพชนมังกรสวรรค์จนกระเด็นออกไป
สวรรค์!
ภาพที่ปรากฏไม่เพียงแต่สร้างความตกตะลึงให้กับปราชญ์ยุทธ์ที่ต่อสู้บนท้องฟ้าเท่านั้น แม้แต่ผู้คนที่เฝ้ารับชมด้านล่างก็ยังเผยสีหน้าสับสน
นี่มันอันใดกัน?
เห็นได้ชัดว่าผู้พิทักษ์สุสานได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยท่าทางผ่อนคลาย ซ้ำยังสามารถปราบปรามบรรพชนมังกรสวรรค์ขอบเขตปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดได้โดยง่ายอีกด้วย
จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“หืม? ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าจะไม่ใช่ผู้พิทักษ์สุสานแล้ว!”
“ต่อให้เป็นผู้พิทักษ์สุสานในสวรรค์ขั้นที่เจ็ด เขาก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งถึงเพยีงนี้!”
“เช่นนั้น… เจ้าเป็นใคร!”
ในเวลานี้ บรรพชนมังกรสวรรค์คำรามลั่น เขาตระหนักได้ว่าผู้พิทักษ์สุสานตรงหน้านี้แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นสายตา น้ำเสียง หรือความแข็งแกร่ง!
“ฮ่า ๆ! คาดเดาได้ถูกต้อง นั่นเพราะว่าข้าไม่ใช่ผู้พิทักษ์สุสาน!”
หนิงฝานผู้ที่ควบคุมร่างกายผู้พิทักษ์สุสานผ่านพระราชลัญจกรยกยิ้มขึ้น ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สำหรับนามของข้า พวกเจ้าสามารถเรียกขานข้าว่า… จวินซ่าง!”
จวินซ่าง!!!
ทันทีที่ชื่อนี้ถูกเอ่ยออกมา ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ บนท้องฟ้าพลันเผยสีหน้าประหลาดใจทันที
เหล่าราชวงศ์ด้านล่างและกองทัพทหารจักรวรรดิก็ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าพวกเขาเคยได้ยินนามจวินซ่างมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว
ครั้งแรกที่ได้รู้จักจวินซ่าง นั่นคือตอนที่อีกฝ่ายสังหารผู้ร้ายสามคนที่สร้างปัญหาในวิหารทองคำแห่งราชวงศ์เทพขนนก
ครั้งที่สองคือ ตอนที่พวกเขาได้ยินมันจากปากของจักรพรรดิทั้งเจ็ดที่หวนกลับมายังพระราชวังเทพขนนกเพื่อขอโทษในสิ่งที่ล่วงเกิน
และนี่คือครั้งที่สาม!
คราวนี้เขาปรากฏตัวด้วยวิธีการที่น่าเหลือเชื่อจริง ๆ
“จวินซ่างงั้นหรือ ข้าไม่เคยได้ยินนามนี้มาก่อน!”
“เหอะ ก็แค่หนูขยะเล่นซ่อนหา!”
“ไม่สำคัญว่าเจ้าจะมีนามว่าอะไร หรือจะเรียกขานผู้ใดว่าราชา สุดท้ายแล้วหากยังมีสมองก็จงรีบถอยกลับให้เร็ว อย่าได้คิดทำลายสิ่งสวยงามในตำหนักศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้!”
“รีบไสหัวไปซะ หากไม่ พวกเราจะค้นหาร่างที่แท้จริงของเจ้า และเผาตะเกียงวิญญาณเจ้าทิ้งเสีย!”
“…”
เห็นได้ชัดว่าบรรพชนทั้งสิบไม่เคยได้ยินนามของจวินซ่าง และพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มขู่เข็ญขับไล่อย่างกล้าหาญ
“ฮ่า ๆ เอาล่ะ ๆ เรามาเล่นกันสักหน่อยจะดีกว่า!”
หนิงฝานยกยิ้มบาง ๆ ทว่าในใจของเขาเผยความเหยียดหยามยิ่ง แม้บรรพชนทั้งสิบจะได้รับเม็ดยาระเบิดศักดิ์สิทธิ์จนความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมหาศาล แต่สุดท้ายแล้วยังไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับเขา!
“ฮึ่ม! ไอ้บัดซบ ฆ่ามัน!”
ตอนนี้เอง บรรพชนทั้งสิบคำรามลั่นก่อนจะบุกโจมตีพร้อมกัน!
อีกฝ่ายถึงกับเผชิญหน้ากับบรรพชนมังกรสวรรค์ง่ายดาย แม้ว่าพวกเขาจะดูแคลน แต่ก็ไม่คิดประมาทในการต่อสู้ครั้งนี้
ตู้ม!
ในชั่วพริบตานั้น พลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบถาโถมกลายเป็นมังกรคำรามกึกก้องท้องฟ้า ก่อนจะพุ่งเข้าบดขยี้หนิงฝาน!
“จวินซ่างโปรดระวังตัว!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ขันทีเว่ยและคนอื่น ๆ พลันร้องลั่นทันที
สุดท้ายแล้ว แม้ท่านนิรนามที่ชื่อจวินซ่างผู้นี้จะอยู่ในสวรรค์ขั้นที่เจ็ด แต่มันก็ยังน่ากังวลอยู่ดี เพราะบรรพชนทั้งสิบมิได้อ่อนแอเลย ยิ่งเมื่อบรรพชนทั้งสิบร่วมมือกัน พวกเขาสามารถสังหารปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดได้อย่างง่ายดาย
“ฮ่า ๆ ไม่เป็นไรหรอก ภายใต้กระบี่ของข้า พวกมันทุกคนเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น!”
หนิงฝานยกยิ้มเย็นชาก่อนจะเหยียดมือออก และดึงเอากระบี่ยาวออกจากความว่างเปล่า!
“มดปลวก?”
“เย่อหยิ่งนัก!”
“โอ้อวดมากเกินไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว บรรพชนทั้งสิบพลันคำรามอย่างเกรี้ยวกราด พวกเขาต้องการโจมตีสุดกำลัง!
แล้วในชั่วพริบตาต่อมา มังกรพิโรธก็ปรากฏตัวขึ้น
“หยุดซะ!”
หนิงฝานกระชับกระบี่ในมือพร้อมสับฟันออกไป!
ตู้ม!
ปราณกระบี่ระเบิดออกอย่างรวดเร็วจนปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า ทำลายมังกรพิโรธตรงหน้าทิ้งในทันที!
วูบ!
จากนั้นปราณกระบี่ก็สว่างวาบเหนือศีรษะของราชาทั้งสิบ พลังอมตะรุนแรงสะกดข่มร่างของบุคคลทั้งสิบไว้อย่างสมบูรณ์!
“กระไรกัน!”
“เรื่องนี้…!”
“เป็นไปไม่ได้!”
ภายใต้อำนาจแห่งกระบี่ บรรพชนทั้งสิบเผยความหวาดกลัวออกมาทันที ร่างกายสั่นเทาไร้ซึ่งการควบคุมราวกับพวกเขาเป็นมดปลวกที่อ่อนแอ ก่อนที่คนทั้งหมดจะคุกเข่าลงกับความว่างเปล่า!
ตู้ม!
ปราณกระบี่กดทับร่างของบรรพชนทั้งสิบ และพวกเขาก็ถูกปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดกลืนกินโดยสมบูรณ์!