ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 83 แผนการขององค์ชาย ความวุ่นวายบังเกิดขึ้น!

ตอนที่ 83 แผนการขององค์ชาย ความวุ่นวายบังเกิดขึ้น!

ตอนที่ 83 แผนการขององค์ชาย ความวุ่นวายบังเกิดขึ้น!

“หืม? บรรพชนแห่งราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบ!”

“พวกเขาไม่ได้ถูกจับกุมโดยผู้พิทักษ์สุสานแห่งอาวุโสจวินซ่างหรอกหรือ?!”

“หรือพวกมันหลบหนีออกมาได้?”

“บัดซบ! เร็วเข้า! แจ้งข่าวนี้กับจักรพรรดิเก้ามังกรเร็ว!”

“…”

เมื่อเห็นการมาเยือนอย่างกะทันหันของบรรพชนทั้งสิบ วิหารทองคำพลันตกอยู่ในความโกลาหลทันที

แม้แต่พวกขันทีเว่ยและปราชญ์ยุทธ์ทั้งสามยังอดไม่ได้ที่จะตึงเครียด พวกเขาหยิบยันต์สื่อสารออกมาเพื่อแจ้งข่าวแก่จักรพรรดิเก้ามังกรและอาวุโสทั้งสามที่เพิ่งเข้าสู่การหลับใหล

“เดี๋ยว… หยุดก่อน!”

ร่างของผู้พิทักษ์สุสานปรากฏขึ้นข้างกายของบรรพชนทั้งสิบ

เมื่อเห็นการปรากฏตัวของผู้พิทักษ์สุสานแล้ว ทุกคนในห้องโถงเผยความโล่งใจ แต่ก็ยังลอบกระวนกระวายไม่น้อย

ท้ายที่สุดแล้ว ผู้พิทักษ์สุสานก็ไม่ได้เป็นศัตรูเช่นเดียวกับบรรพชนทั้งสิบ

จากนั้นผู้พิทักษ์สุสานก็หันหน้ามองบรรพชนทั้งสิบพร้อมกล่าวคำ “รีบ… กล่าว!”

ตุบ!

ภายใต้สายตาตื่นตระหนกของทุกคน บรรพชนทั้งสิบคุกเข่าลงภายในวิหารทองคำทันที

“ราชวงศ์เทพขนนกโปรดยกโทษให้กับบาปของพวกเรา บรรพชนทั้งสิบเช่นพวกเราสำนึกผิดอย่างแท้จริงแล้ว!”

“พวกเราทราบดีว่าการก่อกบฏคืออาชญากรรมร้ายแรง ดังนั้นเราจึงจะมอบทรัพยากรครึ่งหนึ่งของตำหนักราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเพื่อเป็นการไถ่โทษ!”

“ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากวันนี้ไปตำหนักราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบจะให้ความเคารพแก่ราชวงศ์เทพขนนกตลอดไป จะไม่มีการก่อกบฏเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด!”

“พวกเราทั้งหมดทราบความผิดแล้ว ราชวงศ์เทพขนนกโปรดให้อภัย!”

“…”

บรรพชนทั้งสิบกล่าวพร้อมเพรียง ถ้อยคำทั้งหมดชัดเจนและเต็มไปด้วยความมั่นคง

“เรื่องนี้?”

เมื่อเห็นบรรพชนทั้งสิบยอมคุกเข่าลง ทุกคนในวิหารทองคำเผยสีหน้าประหลาดใจ

เวลานี้ผู้พิทักษ์สุสานจึงกล่าวเสริมว่า “นี่… คือความ… ประสงค์… ของจวินซ่าง!”

“ข้าทราบแล้ว!”

จู่ ๆ ราชวงศ์ก็ตระหนักได้ว่า ไม่มีสิ่งใดน่าประหลาดใจเลยที่บรรพชนทั้งสิบจะปรากฏตัวด้วยท่าทางต่ำต้อยเช่นนี้ เพราะพวกเขาถูกจวินซ่างปราบปรามเสียแล้ว!

แต่ถึงกระนั้น ทุกคนกลับยิ่งสงสัยและใคร่อยากจะรู้ในบางสิ่ง!

เพราะอย่างไรแล้ว บุรุษที่แข็งแกร่งและทะเยอทะยานเช่นบรรพชนทั้งสิบเหล่านี้ มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะสังหารพวกเขา แต่การทำให้พวกเขายอมจำนนนั้นยากยิ่งกว่า!

ทว่าทั้งหมดนี้ จวินซ่างกลับทำได้!

“ในเมื่อพวกเจ้ายอมจำนนแล้ว และตอนนี้ยังยอมรับความผิดอย่างจริงใจ ราชวงศ์เทพจะไม่ส่งกองกำลังไปทำลายดินแดนของพวกเจ้า!”

องค์ชายมังกรทั้งห้าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยินยอมยกเลิกกลยุทธ์ในการถอนรากถอนโคนเหล่าบรรพชนทั้งสิบ

“ขอบคุณราชวงศ์แล้ว!”

บรรพชนทั้งสิบแสดงความขอบคุณ ก่อนจะลุกขึ้นออกจากวิหารทองคำพร้อมกับผู้พิทักษ์สุสาน

หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว ทุกคนภายในวิหารทองคำก็หันมองหน้ากันด้วยสายตาประหลาดใจ

การเคลื่อนไหวของจวินซ่างช่วยกำจัดความวุ่นวายภายในตำหนักเทพขนนกได้โดยสมบูรณ์ พวกเขาไม่ต้องทำสิ่งใดเลย

หลังจากนั้นไม่นาน ราชวงศ์ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไป

เวลานี้องค์ชายทั้งห้าคนที่เหลืออยู่ ก็มารวมตัวกันอย่างลับ ๆ ภายในตำหนักหนึ่ง

พวกเขาคือองค์ชายใหญ่ หลินเทียนเยวี่ยน องค์ชายสาม หลินเฟิงอวิ๋น องค์ชายหก หลินซิงเซียว องค์ชายเจ็ด หลินเอ้าซื่อ และองค์ชายเก้า หลินเซวียนเฉิน

“พี่น้องเอ๋ย พวกเจ้าคิดอย่างไรกับจวินซ่างผู้ลึกลับนี้?” ในเวลานี้องค์ชายใหญ่ หลินเทียนเยวี่ยนกล่าวคำเบากับคนรอบข้าง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ องค์ชายเจ็ดหลินเอ้าซื่อหัวเราะออกมาทันที “ฮ่า ๆ ไม่น่าถาม แน่นอนว่าข้าชื่นชมเขา ความแข็งแกร่งของเขานับว่ายอดเยี่ยมแล้ว มันอาจจะเกินจริงไปหน่อยหากกล่าวว่าเขาคืออมตะที่แท้จริง แต่หากมองดูในอาณาจักรเทพขนนกทั้งหมดแล้ว ไม่มีผู้ใดจะต่อสู้กับเขาได้!”

“ถูกต้องแล้ว สิ่งสำคัญคือคนผู้นี้ช่วยเหลือราชวงศ์ของพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่า และทำให้พวกเรารอดพ้นจากภัยพิบัติมากมาย!”

“ใช่แล้ว เราควรจะพูดเรื่องราชาศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อความวุ่นวายดีกว่า หากไม่มีจวินซ่างแล้ว แม้ราชวงศ์ของเราจะไม่ถูกทำลายจนสิ้น แต่ข้าเกรงว่าพลังชีวิตของพวกเราอาจจะต้องสูญสิ้น!”

องค์ชายเก้าหลินเซวียนเฉิน และองค์ชายหกหลินซิงเซียวคิดเช่นเดียวกัน

มีเพียงองค์ชายสาม หลินเฟิงอวิ๋นที่ยังคงเงียบ

“เจ้าสาม พูดออกมา!”

หลินเทียนเยวี่ยนขมวดคิ้วพร้อมหันมองหลินเฟิงอวิ๋น

หลินเฟิงอวิ๋นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ กล่าวคำ “จวินซ่างมีอำนาจมากขึ้นแล้ว คราวแรกเขาสังหารผู้ร้ายทั้งสามให้กับพวกเรา และครั้งที่สองเขาปราบปรามจักรพรรดิทั้งเจ็ดเพื่อพวกเรา ทั้งในเวลานี้เขายังแก้ไขปัญหาของราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบที่ก่อกบฏกับราชวงศ์เทพอย่างเรียบร้อย อย่างไรราชวงศ์จำเป็นต้องขอบคุณเขา แต่ว่า…”

คำพูดของหลินเฟิงอวิ๋นเงียบลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา “พวกท่านไม่เคยคิดหรือว่าเขาไม่ได้สนใจใบหน้าขององค์ชายเช่นพวกเรา? พวกเราอยู่ที่ใดเล่า? เป็นเพียงขยะกองโต หรือฝูงแมลงวันที่เอาแต่กินและนอน? หากท่านพ่อออกจากการปิดด่านฝึกตน แล้วพวกเราจะได้รับสิ่งใด? จะสามารถรับตำแหน่งจักรพรรดิได้งั้นหรือ?”

ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา องค์ชายที่เคยชื่นชมอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วแน่นทันที

หลินเฟิงอวิ๋นกล่าวต่อ “แน่นอนว่ามันคงดี หากจวินซ่างผู้นี้ช่วยเหลือราชวงศ์ของพวกเรา แต่หากจวินซ่างช่วยเหลือองค์ชายอื่นที่ไม่ใช่พวกเรา หรือว่าจวินซ่างมีความสัมพันธ์กับองค์ชายคนใดคนหนึ่ง แล้วเมื่อใดพวกเราจึงจะได้เป็นจักรพรรดิ?”

“หืม? เรื่องนี้!”

หลังจากฟังคำพูดของหลินเฟิงอวิ๋นแล้ว ใบหน้าองค์ชายทั้งหมดเผยความเคร่งเครียด

ยิ่งพวกเขาคิดไตร่ตรอง ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันมีเหตุผลและยิ่งน่าหวาดกลัวมาก!

เป็นเช่นหลินเฟิงอวิ๋นกล่าว ไม่กลัวหนึ่งหมื่น กลัวแต่หนึ่งในหมื่น*[1]

หากจวินซ่างมีความเกี่ยวข้องกับองค์ชายคนใดคนหนึ่งจริง ๆ จากสิ่งที่เขากระทำแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ตราบใดที่เขาเอ่ยปากให้กับคนคนนั้น แล้วองค์ชายที่เหลือจะสามารถนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิได้อย่างไร?

“สิ่งที่เจ้าสามกล่าวก็เป็นเรื่องที่ข้าคิดเช่นกัน”

ในเวลานี้ องค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนพยักหน้าด้วยแววตาเคร่งขรึม “จวินซ่างดีต่อราชวงศ์มาก แต่ไม่ดีกับพวกเรา!”

“แล้วท่านต้องการทำสิ่งใด?”

ความชื่นชมและความเคารพก่อนหน้าเลือนหายไปจากแววตาองค์ชายทั้งหมด ก่อนที่แววตาจะเริ่มแปรเปลี่ยนจากเศร้าหมองกลายเป็นเย็นชา

สำหรับพวกเขาแล้ว ใครก็ตามที่ขัดขวางการขึ้นครองบัลลังก์คือศัตรู!

“เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการกับจวินซ่างโดยตรง และความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะรับมือได้ สิ่งที่เราต้องทำคือค้นหาว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังคนผู้นี้ หากไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากมี…”

องค์ชายใหญ่หลินเทียนเยวี่ยนไม่ได้กล่าวจนจบประโยค ทว่าจิตสังหารรุนแรงกลับเผยให้เห็นชัดผ่านแววตาของเขา

มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจว่าหลินเทียนเยวี่ยนหมายถึงสิ่งใด หากมีใครสักคนจริง ๆ พวกเขาจะหาโอกาสเพื่อสังหารคนผู้นั้นแน่นอน ไม่ว่าจวินซ่างจะยิ่งใหญ่เพียงใด คนตายก็ไม่อาจขึ้นครองบัลลังก์จักรพรรดิได้!

หลังจากองค์ชายมังกรทั้งห้าสมรู้ร่วมคิดแผนลับ พวกเขาก็เริ่มสืบสวนเหล่าราชาและผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนอย่างลับ ๆ

ทว่าก่อนที่พวกเขาจะทันได้พบเจอเบาะแสใด ราชวงศ์เทพขนนกพลันตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง

เพราะในการประชุมราชสำนักวันนี้ มีรายงานการเกิดสงครามจากเขตชายแดนของราชวงศ์เทพ

“รายงาน! กองทัพของเทศมณฑลหนานโถวบุกเข้าถึงเขตชายแดนของราชวงศ์เทพแล้ว!”

“รายงาน! อาณาจักรบูชาจันทราบุกเข้าถึงเขตชายแดนของราชวงศ์เทพแล้ว!”

“รายงาน! ดินแดนครึ่งปีศาจบุกเข้าถึงเขตชายแดนของราชวงศ์เทพแล้ว!”

“รายงาน! อาณาจักรโพ้นทะเลตะวันออก…”

“รายงาน! อาณาจักรทะเลทรายตะวันตก…”

“รายงาน! อาณาจักรหมาป่าราตรี…”

“…”

ภายในวิหารทองคำ หน่วยข่าวกรองกล่าวรายงานการต่อสู้ในเขตชายแดนต่อราชสำนักทีละคน และพวกเขามีกว่าหลายร้อยคน!

ในวันนี้…

อาณาจักรหลายร้อยที่ใกล้เคียงเริ่มบุกรุกรานราชวงศ์เทพขนนก และในสามพันดินแดนของราชวงศ์เทพกำลังลุกเป็นไฟ!

*[1] ไม่กลัวหนึ่งหมื่น กลัวแต่หนึ่งในหมื่น หมายถึง ไม่กลัวสิ่งที่คิดว่าอาจจะเกิด ตรงกันข้าม กลัวแต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท