เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองทุกคนในห้องแล้วก็มองไปยังลู่เจียว
ลู่เจียวกล่าวว่า “ชีวิตพวกเขาไม่ง่ายเลยจริงๆ รับพวกเขาไว้เถอะ”
นางกล่าวจบก็มองไปยังหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากง “พวกเจ้ารับไว้ได้ แต่พวกเจ้าต้องลงนามในสัญญาขายตัว ตระกูลเซี่ยข้าไม่รับคนนอก ลงนามในสัญญาขายตัวก็เป็นคนตระกูลเซี่ยเรา จึงจะอยู่ต่อได้แน่นอนว่าหากพวกเจ้ายังคิดภักดีทำงานให้นายเจ้า วันหน้าสัญญาขายตัวนี้ก็คืนให้พวกเจ้าได้”
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงเตรียมใจไว้แล้ว พวกเขารีบรับปากทันที “ได้ พวกเราเห็นด้วย”
นอกประตู ลู่กุ้ยกำลังพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กับจ้าวอวี้หลัวเข้ามา พอเข้ามาเห็นในห้องคนเต็มไปหมด ลู่กุ้ยกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่และจ้าวอวี้หลัวมองผู้ใหญ่กับเด็กๆ ในห้องอย่างตกใจ
ลู่เจียวมองไปยังหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงถามว่า “วันหน้าหลี่หนานเทียนรับหน้าที่คุ้มกันดูแลในบ้าน พร้อมกับสอนคุณชายน้อยทั้งหลายฝึกยุทธ์ โจวเส้ากงรับหน้าที่คุ้มกันรถม้าท่านพี่ข้า”
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดซื้อคนขับรถม้า ตอนนี้พอดีได้สองคนเช่นนี้มา
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ เอ้อร์เป่าในห้องก็ดีใจรีบเข้ามามองลู่เจียวถามว่า “ฝึกยุทธ์หรือ ข้าจะฝึกยุทธ์ วันหน้าข้าจะเป็นแม่ทัพ”
พอเอ้อร์เป่าพูด หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงก็มองเขาอย่างตื่นเต้น คุณชายน้อยผู้นี้น่าจะตั้งใจอบรมให้ดีๆ ได้ ความปรารถนาที่พวกเขาทำไม่สำเร็จ ก็ฝากให้คุณชายน้อยผู้นี้สานต่อได้
ลู่เจียวลูบศีรษะ กำชับเอ้อร์เป่ากล่าวว่า “ต้องตั้งใจเรียน รู้ไหม”
เอ้อร์เป่าพยักหน้าเต็มแรง “ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว”
ลู่เจียวชี้ไปยังเจ้าหนูน้อยสามคนในห้อง กล่าวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่า “ที่บ้านเราแต่นี้ไปมีเด็กสี่คน ท่านแม่ตัดสินใจจัดให้ติดตามพวกเจ้าคนละคน วันหน้าพวกเจ้าก็มีคนของตนเอง เป็นเพื่อนเล่นเพื่อนเรียนพวกเจ้า เติบโตไปพร้อมกับพวกเจ้า พวกเจ้าต้องดีต่อพวกเขา”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่แปลกใจหันไปมองเด็กสามคนในห้อง เด็กสามคนตกใจมองแฝดสี่
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงตื้นตันใจมาก ทั้งสองคนได้ยินเหนียงจื่อว่าลูกๆ พวกเขาก็จะได้ติดตามเล่าเรียนกับคุณชายน้อย
“นายหญิง วันหน้าลูกๆ เราก็จะได้ติดตามเรียนกับคุณชายน้อยหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้า “ใช่ วันหน้าพวกเขาก็จะได้เรียนพร้อมกับคุณชายน้อย ส่วนจะเรียนได้เท่าไรก็ขึ้นกับความขยันของพวกเขาแล้ว”
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงดีใจมาก พากันคุกเข่าลงโขกศีรษะขอบคุณ “ขอบคุณนายหญิง”
ลู่เจียวมองไปยังลู่กุ้ยกล่าวว่า “พาพวกเขาออกไปจัดการให้เรียบร้อย”
ที่บ้านมีคนพวกนี้มา คนมากเกินไปจริงๆ นี่แค่ไม่นานเท่าไรเอง
ลู่กุ้ยรับคำพาหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงออกไป เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ตามสามหนูน้อยออกไป
ในห้องจ้าวหลิงเฟิงรีบเอ่ยว่า “คนก็ส่งมอบแล้ว ข้ามีธุระขอตัวก่อน”
เขากล่าวจบก็ดึงจ้าวอวี้หลัวขึ้นจะกลับ จ้าวอวี้หลัวไม่พอใจยู่ปากมองบิดาตนกล่าวว่า “ท่านพ่อ ทำไมแฝดสี่มีคนติดตามเป็นเพื่อน ข้าไม่มี ข้าก็อยากได้”
จ้าวอวี้หลัวโมโห จ้าวหลิงเฟิงรีบเอ่ยว่า “ได้ ท่านพ่อกลับไปหาให้เจ้า เลือกเด็กผู้หญิงสักคนมารับใช้เจ้า”
“อืม”
พอจ้าวอวี้หลัวดีใจ จ้าวหลิงเฟิงก็ดึงนางหันไปกล่าวอำลาเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว “วันนี้ข้าพานางกลับก่อน พรุ่งนี้ค่อยมา”
ลู่เจียวพยักหน้า จ้าวหลิงเฟิงรีบพาคนกลับ คุณหนูหกตระกูลเถียนก็เอ่ยขอตัวกลับกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียว
“เจียวเจียว รอให้พ้นวิกฤตนี้ไป ก็มาเป็นแขกบ้านข้านะ”
“ได้ ถึงตอนนั้นย่อมไปเป็นแขกบ้านเจ้า”
ลู่เจียวเรียกเฝิงจือเข้ามาพาคุณหนูหกตระกูลเถียนไปส่ง
ในห้อง สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นมองตามคุณหนูหกตระกูลเถียนไปอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหันกลับมามองลู่เจียว สีหน้าพลันอ่อนโยนเป็นพิเศษ กล่าวกับลู่เจียวอย่างอ่อนโยนว่า “จู่ๆ ที่บ้านมีคนรับใช้มากมายขนาดนี้ ค่ำนี้ต้องเรียกประชุมทุกคน จัดสรรงานให้ดี อย่าได้สับสนกัน ต้องปฏิบัติงานตามระเบียบวินัยเคร่งครัด”
ลู่เจียวเห็นด้วยกับคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นจะวุ่นวายสับสนไปหมด
ตกค่ำ นางก็เรียกประชุมคนรับใช้มาอบรมที่เรือนด้านหน้า
ลู่เจียวมองทุกคน เวลาเพียงไม่นาน บ้านเราก็มีคนเพิ่มมาไม่น้อย บ้านเราจากตอนนั้นที่มีคนรับใช้เจ็ดคนกลายมาเป็นสิบกว่าคน
ความจริงหากไม่ใช่หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงเป็นสองคนสนิทของเซี่ยอวิ๋นจิ่นในนิยาย ลู่เจียวก็คงไม่คิดรับสองครอบครัวนี้ไว้ แต่เพราะนางปรากฏตัว ทำให้เรื่องราวในนิยายเปลี่ยนไป ดังนั้นนางได้แต่รับหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงไว้
แต่แม้ว่าตอนนี้คนมากไปสักหน่อย แต่รอให้นางแยกทางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น คนรับใช้พวกนี้แบ่งเป็นสองส่วนก็น่าจะไม่มากแล้ว
ลู่เจียวจัดการคิดเองเสร็จสรรพได้แล้วก็อารมณ์สงบลงมาก
นางมองบรรดาคนรับใช้กล่าวว่า “วันนี้เรียกทุกคนมารวมกัน ก็คิดอยากแจกแจงงานกับทุกคนสักหน่อย ตอนนี้คนในบ้านเรามากขึ้น ดังนั้นต้องแบ่งงานรับผิดชอบกันใหม่ วันหน้าแต่ละคนทำงานของตนเอง ห้ามละเมิดวินัย”
ทุกคนรับคำพร้อมกัน “ขอรับ/เจ้าค่ะ เหนียงจื่อ”
ลู่เจียวกวาดตามองทุกคน เริ่มจัดสรรงานขึ้น “วันหน้าลู่กุ้ยคือพ่อบ้านเรือนด้านนอก”
ลู่กุ้ยรีบก้าวออกมามองทุกคนอย่างดีอกดีใจ นี่แค่ไม่นานเท่าไร บ้านพี่สาวเขามีคนรับใช้มากมายเช่นนี้ ส่วนเขา ตอนนี้ดูแลคนมากมายเช่นนี้ สวรรค์ ลู่กุ้ยรู้สึกว่าตนเองอยากจะเป็นลม
ลู่เจียวเห็นหน้าตาเซ่อซ่าลู่กุ้ยก็ปวดหัวมาก ขี้เกียจจะมองเขา นางมองบ่าวที่เหลือกล่าวว่า “หลินต้ารับหน้าที่ดูแลรถม้า ฮวาเสิ่นรับหน้าที่ดูแลห้องครัว หลินตงรับหน้าที่คอยรับใช้ท่านพี่ ท่านอาเหวินดูแลเฝ้าประตู ท่านป้าชิวดูแลงานต่างๆ ในบ้าน เฝิงจือวันหน้าเป็นหัวหน้าสาวใช้ข้า ช่วยดูแลงานสมาคมรับมอบของขวัญกับภายนอกให้ข้า”
ทุกคนที่ได้รับการจัดสรรงานต่างรับคำพร้อมกันว่า “ขอรับ/เจ้าค่ะ เหนียงจื่อ”
ลู่เจียวมองไปยังหลิ่วอันกับหลิ่วฝู
“หลิ่วอันกับหลิ่วฝูก็อยู่ทำงานในเรือนข้า หร่วนไคเป็นผู้คุ้มกันให้ท่านพี่ หร่วนจู๋เป็นผู้คุ้มกันให้ข้าแล้วกัน”
แต่ละคนที่ได้รับการจัดสรรงานก็พากันตอบรับคำพร้อมเพรียง “ขอรับ/เจ้าค่ะ เหนียงจื่อ”
ลู่เจียวมองไปยังครอบครัวหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากง
“หลี่หนานเทียนเป็นผู้คุ้มกันบ้านตระกูลเซี่ยควบตำแหน่งสอนวิชายุทธ์คุณชายน้อย แน่นอน หากท่านพี่ข้ามีอะไรเรียกใช้เจ้า เจ้าก็ต้องไปจัดการตามคำสั่งเขา”
“โจวเส้ากงก็เป็นคนขับรถม้าประจำตัวท่านพี่แล้วกัน”
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงสองคนรับคำพร้อมกัน
ลู่เจียวก้มหน้ามองไปยังลูกๆ ของหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากง เด็กชายสามคนรวมกับหลินซีก็เป็นสี่คนพอดี
“ส่วนเจ้าหนูน้อยทั้งสี่คนนี้ก็จัดให้บุตรชายข้าสี่คนพอดี ให้เป็นเพื่อนเล่นเพื่อนเรียนประจำตัวพวกเขาแต่ละคน”
พอลู่เจียวกล่าวจบ หลินต้ากับหลี่หนานเทียนและโจวเส้ากงต่างก็ดีใจมาก พวกเขามองออกว่าคุณชายน้อยตระกูลเซี่ยได้รับการอบรมมาดีและมีมารยาท เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยังฉลาดมาก วันหน้าย่อมต้องมีอนาคต ลูกๆ พวกเขาติดตามพวกเขา วันหน้าย่อมมีอนาคตไม่น้อย นับประสาอันใดกับติดตามคุณชายน้อยแล้วยังได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย