บทที่ 161 เล่นอันใดกัน ยังไม่รีบออกไปอีก!
ได้กินเนื้อหนึ่งคำ สุราหนึ่งอึก หลี่จิ่วเต้าสบายใจเป็นอย่างยิ่ง
เฮ่อเหยียนกับหูช่วงและคนอื่น ๆ พากันกินอย่างเอร็ดอร่อย
รสชาติของเนื้อตุ๋นกลมกล่อมดีมาก!
โดยเฉพาะเนื้อตุ๋นแฝงไปด้วยพลังชีวิตมากมาย พวกเขารู้สึกถึงพลังชีวิตเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซ้ำแล้วอายุขัยก็เพิ่มขึ้นด้วย!
ยอดเยี่ยมจริง ๆ เนื้อตุ๋นในหม้อร้ายกาจยิ่งกว่าโอสถวิเศษเสียอีก!
เพราะท่านเซียนกล่าวเตือน เฮ่อเหยียนกับหูช่วงจึงไม่กล้าดื่มมากเกินไป ทว่าหลังจากพวกเขาดื่มเพียงเล็กน้อย พวกเขาก็มึนเมาแล้วเช่นกัน!
ความแรงของสุรานี้ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง!
สุดท้ายกินเสร็จดื่มเสร็จ พวกเขาก็ลุกขึ้นคารวะกล่าวอำลาท่านเซียน
“หากมีโอกาสก็มาอีกนะ”
หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้มส่งเฮ่อเหยียนกับหูช่วงออกไป
เซี่ยเหยียนกับหลิงอินเองก็กล่าวลาท่านเซียนด้วยเช่นกัน จากนั้นทั้งสองก็เดินออกจากลานบ้านไป
ส่วนชายหนุ่มนั้นดื่มสุราเข้าไปไม่น้อย ทำให้มีอาการเมาเล็กน้อย พอกลับมาถึงห้องนอนก็เขาผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
…
ยามค่ำคืน
ดวงจันทราสุกสกาว ดวงดาราเรียงราย เมื่อแสงจันทร์สาดส่องมายังพื้นดินก็ราวกับว่าพื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน
นอกเมืองชิงซาน
หลี่จิ่วเต้ามักจะมาตกปลาแม่น้ำสายนี้เป็นประจำ
ทุกอย่างเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าทันใดนั้นความเงียบนี้ก็พลันถูกทำลาย!
จู่ ๆ ต้นหลิวริมแม่น้ำก็สั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง กิ่งก้านต้นหลิวโบกพลิ้วไหวอยู่กลางอากาศ!
ฟึ่บ ฟึ่บ!
แล้วกลางอากาศตรงนั้นก็บิดเบี้ยว ชั่วอึดใจต่อปรากฏเงาดำสองเงาพุ่งออกมาจากความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว!
“อันใดกัน! กล้าดีอย่างไรถึงมาโจมตีมาพวกข้า!”
“อยากตายนักหรือ!”
เงาดำทั้งสองตะโกนด้วยความโมโห ก่อนที่ลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวจะพุ่งสูงเทียมฟ้า หมอกสีดำประหลาดกระเพื่อมออกจากร่างกายของพวกเขา ชวนให้ดูน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่าเดิม!
พวกเขาใม่ใช่ใครอื่นนอกจากสองสิ่งมีชีวิตที่กำลังตามหาผู้หวนคืน!
ทั้งสองสวมอาภรณ์สีดำปกปิดรูปร่างและหน้าตา ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์อื่น
ครืน!
ต้นหลิวริมแม่น้ำขยับตัว ธารนทีพลันสั่นไหวเป็นคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่า สกัดกั้นลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวที่พวยพุ่งออกมาจากร่างดำทมิฬทั้งสอง ซึ่งพยายามแผ่ไอปราณอันน่าสะพรึงกลัวไปยังเมืองชิงซาน
“พวกเจ้าทั้งสองมีร่างกายแปลกประหลาดยิ่ง บนตัวมีแต่ความมืดเวียนวน ดูแล้วไม่ต่างกับสิ่งอัปมงคลแม้แต่น้อย จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”
ต้นหลิวใหญ่ตะโกนเสียงดัง
ด้านหลังของมันคือเมืองชิงซาน
และท่านเซียนอาศัยอยู่ในเมืองชิงซาน
มันจะกล้าปล่อยให้ตัวประหลาดเช่นนี้เข้าไปในเมืองชิงซานได้อย่างไร?
ย่อมเป็นไปไม่ได้!
ตอนนี้ท่านเซียนอาจจะหลับไปแล้ว หากตัวประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยความมืดมนเช่นนี้เข้าไปรบกวนการนอนของท่านเซียน นี่ย่อมเป็นความผิดใหญ่หลวงของมัน!
ตัวมันอยู่ ณ ที่แห่งนี้มาโดยตลอด ท่านเซียนมักจะมาดีดฉินและวาดภาพที่นี่ ด้วยเหตุนี้ ขอบเขตของมันจึงก้าวหน้าไปไกลเหนือจินตนาการแล้ว!
อันที่จริง เงาดำทั้งสองเพียงแค่เดินทางผ่านความว่างเปล่า ทว่าต้นหลิวสัมผัสถึงเงาดำทั้งสองได้ในฉับพลันจึงทำการรีบหยุดทั้งสองไว้
อีกอย่าง แม้ว่าเงาทั้งสองนี้จะไม่ได้จงใจมายังเมืองชิงซาน
แต่มันย่อมไม่มีวันปล่อยให้เงาดำทั้งสองนี้เหาะเหินเหนือเมืองชิงซานแน่นอน!
อย่าลืมว่าท่านเซียนอยู่ในเมืองชิงซาน
แล้วมันจะยอมให้เงาดำทั้งสองเหาะเหินอยู่เหนือหัวท่านเซียนได้อย่างไร?
เป็นไปไม่ได้!
“ต้นหลิวน้อยกล้าดีอย่างไรมาพูดกับพวกข้าเช่นนี้!”
“ข้าจะสับเจ้าเอามาทำเป็นฟืนเสีย!”
เงาดำทั้งสองตะโกนอย่างเย็นชา จิตสังหารของพวกเขารุนแรงขึ้นทันตาเห็น
ฐานะพวกเขาคืออะไร?
คือผู้มาจากแดนสังสารวัฏอย่างไรเล่า!
หมื่นอาณาจักรบนสวรรค์ หรือกระทั่งอาณาจักรเก้าตอนบนก็มิอาจอวดอ้างตนต่อหน้าผู้มาจากแดนสังสารวัฏอย่างพวกเขาได้
ทว่ายามนี้ ต้นหลิวของแดนดินตอนล่างกลับกล้าโจมตีพวกเขา แล้วจะไม่ให้โกรธเกรี้ยวได้อย่างไร?
เพียงทั้งสองลงมือ พลังอันท่วมท้นก็พุ่งสูงขึ้นท้องนภา ผืนฟ้าจนถึงปฐพีสั่นสะเทือนเลือนลั่น นับว่าเป็นฉากที่น่ากลัวมิน้อย!
พลังซ่อนเร้นที่สืบทอดมาจากสมัยโบราณนั้นไม่แข็งแกร่งเท่าเงาทั้งสอง ความแตกต่างนั้นเทียบไม่ได้แม้แต่ครึ่งเดียว!
ไม่ใช่เรื่องที่กล่าวเกินจริง เหล่ายอดฝีมือที่เร้นกายพวกนั้นยังไม่สามารถทนต่อลมปราณผันผวนจากเงาทั้งสองได้!
นี่เพราะขอบเขตของเงาดำทั้งสองนั้นแข็งแกร่งและอยู่เหนืออาณาจักรเก้าตอนบนไปแล้ว!
ทว่าขณะนั้นเอง พลันมีหินก้อนใหญ่ปรากฏขึ้นด้านหลังของทั้งคู่ จากนั้นก็ฉวยโอกาสที่ทั้งสองไม่ทันสังเกต กระแทกเข้าที่หัวของพวกเขา!
“โอ๊ย!”
“เจ็บยิ่งนัก!”
พวกเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลังศีรษะมีรอยปูดบวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วทั้งสองก็ถูกกระแทกล้มลงกับพื้นในชั่วพริบตา!
“บัดซบ! หัวแข็งเสียจริง ท่านปู่หินจะทำให้พวกเจ้าเจ็บเจียนตายเอง!”
พลันมีเสียงแปลกประหลาดดังมาจากด้านข้างของหิน
หินก้อนนี้คือเจ้าก้อนหินที่หลี่จิ่วเต้ามักจะมานั่งเล่นตรงริมแม่น้ำเป็นประจำ
พวกเจ้าจงเจ็บจนตายไปเสีย!
เงาดำทั้งสองแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด นี่มันช่างแปลกยิ่งนัก ในแดนตอนล่างเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับต้นหลิวและก้อนหินแปลกประหลาด!
ผ่านเส้นทางสังสารวัฏ สามารถกลับชาติมาเกิดและได้รับอายุขัยใหม่อีกครั้ง
เพราะเส้นทางเซียนนั้นเลือนราง และการกลายเป็นเซียนก็เป็นได้เพียงแค่ความฝัน
ยอดฝีมือที่ใกล้สิ้นอายุขัยมากมายต่างเลือกเข้าสู้เส้นทางสังสารวัฏ แสวงหาการเกิดใหม่ของชีวิต
ทว่าบนเส้นทางแห่งการเกิดใหม่ที่พวกเขาจากมานั้น กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตแม้แต่ตัวเดียว!
นี่กล่าวได้ว่าแดนดินหมื่นอาณาจักรถึงคราวย่ำแย่แล้ว เพราะมันไร้ซึ่งกำลังรบอันแข็งแกร่งให้เห็น…
ยิ่งหลังจากพวกเขามาถึงแดนตอนล่างแห่งนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าแดนแห่งนี้เลวร้ายยิ่งนัก กฎแห่งสวรรค์และโลกไม่สมบูรณ์ ซ้ำแล้ววัตถุดิบฝึกตนก็หาได้ยากมากเกินไป!
ที่แห่งนี้กลายเป็นดินแดนเลวร้าย แต่จู่ ๆ พวกเขากลับถูกต้นหลิวผลักออกมาจากความว่างเปล่า ซ้ำยังถูกก้อนหินทุบหัวอีกด้วย!
ช่างน่าอับอายและไม่น่าอภิรมย์ยิ่งนัก!
“หากไม่สังหารพวกเจ้า มันก็ยากจะแก้ความเกลียดชังในใจข้า! “
“ตาย!”
ชุดสีดำบนร่างกายของพวกเขาระเบิดออก ไอปราณอันน่าสะพรึงกลัวปะทุขึ้นมา เผยให้เห็นร่างกายของพวกเขา!
พวกเขา… ไม่ใช่คนเผ่ามนุษย์!
หนึ่งคือสิ่งมีชีวิตที่มีหัวเป็นเสือดาวและร่างกายเป็นมนุษย์ ด้านหลังมีเดือยกระดูกติดอยู่ ส่วนอีกหนึ่งคือสิ่งมีชีวิตที่มีหัวเป็นมนุษย์และลำตัวเป็นงู ซ้ำยังมีแปดแขน!
เมื่อหมอกสีดำแปลกประหลาดกระเพื่อม หนึ่งในพวกเขาก็ชักดาบสีทมิฬออกมา ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นอ้าปากคายอาวุธกระดูกแปดชิ้นออกมา เพื่อแยกกันสังหารต้นหลิวกับก้อนหิน!
สามารถกล่าวได้เลยว่า ความแข็งแกร่งของพวกเขาที่เดิมปลดปล่อยออกมาอยู่แล้วทรงพลังยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นอกจากนี้ ไอปราณที่ผันผวนก็เกือบจะฉีกกระชากความว่างเปล่าและทำลายทุกสรรพสิ่ง!
“พวกเจ้าเป็นตัวอันใดกัน!? จงออกไปจากที่นี่ประเดี๋ยวนี้!”
ต้นหลิวจะปล่อยให้เจ้าสองตนนี้มากำเริบเสิบสานในที่แห่งนี้ได้อย่างไร?
อย่าลืมว่าท่านเซียนมักจะมาบรรเลงฉินและวาดภาพที่นี่เสมอ!
หากตอนนี้สภาพแวดล้อมถูกทำลายไป ถึงตอนนั้นจะทำอย่างไรเล่า?
กิ่งก้านของต้นหลิวพุ่งออกไปประดุจแส้วิเศษ มันระเบิดแสงอันเกินคณานับ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่สิ่งมีชีวิตที่มีหัวเป็นเสือดาวในชั่วพริบตา!
ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตซึ่งมีหัวเสือดาวก็ถูกส่งขึ้นไปบนนภายามราตรี ภาพนี้ราวกับดาวตกมิปาน ทั้งยังไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันจักถูกส่งไปที่ใด!
“กล้าโผล่หน้าตาน่าขยะแขยงเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร? ไม่กลัวเด็ก ๆ กลัวหรือ?”
พลังของเจ้าก้อนหินนั้นไร้ขอบเขต ประดุจหินอุกกาบาตตกลงจากท้องฟ้า ความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งเข้าใส่สิ่งมีชีวิตที่หัวเป็นมนุษย์ตัวเป็นงู!
ในชั่วพริบตา สิ่งมีชีวิตหัวเป็นมนุษย์ตัวเป็นงูก็พุ่งขึ้นไปบนนภายามค่ำคืนราวกับดาวตก ซ้ำยังไม่รู้จะบินไปตกที่ใด!
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ต้นหลิวเก็บกิ่งก้านคืน ส่วนก้อนหินเขยิบไปใกล้ริมแม่น้ำ
และแล้วความเงียบสงบก็กลับคืนมาอีกครั้ง