ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 2-2

ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 2-2

ดิ๊งด่อง

เสียงกริ่งดังขึ้น พอไม่มีการตอบรับกลับมา ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูก็กดกริ่งต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ลังเล

ดิ๊งด่อง ดิ๊งด่อง ดิ๊งด่อง ดิ๊งด่อง ดิ๊งด่อง

กดซ้ำประมาณสิบรอบดีไหมนะ ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงที่รีบร้อนตอบกลับมาว่า ‘กำลังออกไปครับ’ พร้อมกับเสียงตึงตังด้านใน ชายหนุ่มที่สวมแว่นกันแดดยืนลงน้ำหนักที่เท้าข้างหนึ่งพร้อมกอดอก

ประตูหน้าบ้านถูกเปิดออก

“ใครคระ… อ๊ะ? คุณอูยอน? มีเรื่องอะไร…”

อีอูยอนมองเสื้อผ้าของอินซอบ และถอดแว่นกันแดดออกพลางขมวดคิ้ว

“คุณเปิดประตูโดยไม่ดูเหรอครับว่าเป็นใคร แล้วแต่งตัวแบบนั้นเนี่ยนะครับ”

น้ำหยดลงมาจากผมของอินซอบที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้น

“ถ้าพวกคนเลวที่มีจิตใจที่สกปรกทำเรื่องแย่ๆ ขึ้นมาจะทำยังไงครับ”

คนชั่วที่ร้ายกาจยิ่งกว่าใครเอ่ยถามด้วยเจตนาร้ายและจิตใจที่เลวทราม อินซอบกะพริบตาปริบๆ พลางพูดว่า ‘ผมจะระวังครับ’ และกล่าวขอโทษ

“ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ครับ”

“ผมอาบน้ำอยู่เลยไม่รู้น่ะครับ คุณโทรศัพท์มาเหรอครับ”

อีอูยอนเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ตอบ อินซอบปิดประตูและรีบหาโทรศัพท์ก่อนจะเช็กดู มีสายที่ไม่ได้รับถึง 23 สาย

“ขอโทษครับ ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้ยิน เพราะมัวแต่อาบน้ำ ว่าแต่มีเรื่องอะไร…”

“ผมผ่านมาก็เลยแวะมาหาน่ะครับ”

อีอูยอนยิ้มพลางเอ่ยตอบ แต่สายตาของเขากลับสำรวจทุกที่ภายในห้อง อินซอบถามว่า ‘หาอะไรอยู่เหรอครับ’

“หาว่าคุณซ่อนอะไรไว้หรือเปล่าน่ะสิครับ”

“ครับ?”

“ล้อเล่นครับ”

อีอูยอนนั่งอย่างหมิ่นเหม่บนเตียง

พออินซอบกลับบ้านไป อีอูยอนก็อารมณ์ไม่ดี แม้เขาจะลองพยายามทำความเข้าใจ แต่ความตั้งใจของอินซอบที่อยากจะมีเวลาเป็นของตัวเองทำให้เขาไม่สบอารมณ์ แม้เขาจะเกลี้ยกล่อมด้วยคำพูดหวานๆ และทำให้อีกฝ่ายนอนค้างที่บ้านได้ แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่วัน อินซอบก็อยากจะกลับบ้านของตัวเองเหมือนคนที่ซ่อนอะไรบางอย่างไว้

พอเขาคิดไปจนถึงเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่าง ‘หรือว่าอินซอบมีคนอื่น’ เขาก็ไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ ได้อีกต่อไป พอตั้งสติได้ เขาก็เอามีดพกที่วางอยู่บนโต๊ะใส่กระเป๋าและกำลังขับรถอยู่แล้ว แม้เขาจะโทรศัพท์หาอินซอบ แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับ อารมณ์ของเขาไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะแทบไม่มีโอกาส แต่เขาก็คิดว่าถ้าหากอีกฝ่ายซ่อนใครเอาไว้เหมือนกับซ่อนขวดน้ำผึ้งไว้ที่บ้าน เขาจะตัดคอมันทิ้งในขณะเดียวกันก็เหยียบคันเร่งไปด้วย

“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อนเถอะครับ”

ชายหนุ่มที่มีมีดพกอยู่ในกระเป๋าข้างหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดในโลก

“ไม่ครับ ไม่เป็นไร ผมอาบน้ำเสร็จแล้วครับ”

อินซอบใช้ผ้าขนหนูซับเส้นผมที่เปียกพลางเอ่ยตอบ อีอูยอนพูดว่า ‘มานี่ครับ’ ก่อนจะจับมือของอีกฝ่าย และทำให้นั่งลงตรงหน้าตัวเอง จากนั้นเขาก็แย่งผ้าขนหนูมาและเริ่มเช็ดผมให้อินซอบ

“…ขอบคุณครับ”

“ด้วยความยินดีครับ”

เสื้อยืดที่ตัวใหญ่และย้วยทำให้พอมองจากด้านบน เขาก็เห็นยอดอกของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ร่องรอยต่างๆ ที่เขาทำไว้ปรากฏให้เห็นถี่ๆ รอบๆ ยอดอก อีอูยอนยิ้มอย่างพอใจพลางเช็ดผมของอินซอบให้แห้ง ภาพของอินซอบที่ลูบชายเสื้อไปมาเข้ามาในครรลองสายตา นี่เป็นนิสัยที่อีกฝ่ายชอบทำเมื่ออยากพูดอะไรบางอย่าง อีอูยอนแกล้งทำเป็นไม่รู้ และนวดหัวของอินซอบไปเรื่อยๆ พลางเอ่ยถามว่า ‘สบายไหมครับ’

“ครับ สบายมากเลยครับ ขอบคุณนะครับ คือว่า…”

“มีอะไรเหรอครับ”

อีอูยอนเอาผ้าขนหนูออกพร้อมกับสบตาอีกฝ่าย

“ผมว่าจะโทรไปหาอยู่พอดีเลยครับ คือผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

ขนตายาวๆ ขยับ อีอูยอนจ้องมองภาพนั้นจากทางด้านบน

สวยจัง

รอยยิ้มเนิบช้าปรากฏขึ้นในสายตาของอีอูยอนครู่หนึ่ง

“คือว่าผม…”

วินาทีที่อินซอบเริ่มพูด พวกเขาก็ได้ยินเสียงเด็กเล็กๆ ร้องไห้อยู่นอกประตู ดวงตาของอินซอบสั่นไหว ความรู้สึกตะลึงงันโผล่ขึ้นมาในดวงตาของอินซอบที่ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกได้ อีอูยอนที่วางมือไว้บนศีรษะของอินซอบเผลอเพิ่มแรงลงไปที่มือนั้นโดยไม่รู้ตัว พอได้ยินอินซอบส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด อีอูยอนจึงคลายมือออก

“ขอโทษครับ ผมกะแรงไม่ถูก”

“ไม่เป็นไรครับ”

อินซอบลูบและหมุนผ้าขนหนูที่ยับยู่ยี่ไปมาก่อนจะอ้าปากพูด

“ผมขอออกไปข้างนอกสักครู่ได้ไหมครับ”

อีอูยอนค่อยๆ ลุกจากเตียงแทนคำตอบ

“ผมไปคนเดียวได้ครับ…”

“ผมจะไปด้วยครับ”

แม้จะพูดอย่างอ่อนโยน แต่อีอูยอนในตอนนี้รู้สึกรำคาญจนขึ้นสมอง ในขณะที่อินซอบกำลังกระวนกระวายเพราะเสียงเด็กร้องไห้ที่ได้ยินอยู่นอกประตู

ของที่ซ่อนไว้คือเด็กเหรอ

“จะออกไปทั้งๆ แบบนั้นเหรอครับ คุณจะเป็นหวัดเอาได้นะครับ”

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ”

อีอูยอนมองอินซอบเดินไปหาเสื้อวอร์มมาใส่จากทางด้านหลัง ขาเรียวบางที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นเข้ามาในสายตาของเขา

ร่างกายแบบนั้นไม่น่าจะไปทำผู้หญิงท้องได้นะ

“จะตามไปจริงๆ เหรอครับ”

อินซอบถามอีกครั้ง อีอูยอนพยักหน้าทั้งๆ ที่ยังยิ้มอยู่ อินซอบหนีบขวดน้ำไว้ข้างลำตัว และหยิบถุงสีดำออกมาจากตู้กับข้าว

อีอูยอนฮัมเพลงพลางเดินตามหลังอินซอบไปติดๆ พวกเขาขึ้นมาถึงดาดฟ้าผ่านบันไดหนีไฟ พอประตูเหล็กที่ขึ้นสนิมเปิดออก เสียงร้องที่ได้ยินตั้งแต่เมื่อกี้ก็ใกล้เข้ามา

“อยู่ตรงนี้แป๊บหนึ่งนะครับ”

อินซอบช้อนตามองอีอูยอนตรงหน้าประตูก่อนจะพูด อีอูยอนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและพยักหน้า พออินซอบเขย่าถุงสีดำพร้อมกับเดินไปที่มุมดาดฟ้า พวกลูกแมวก็โผล่มาจากทั่วทุกที่และเริ่มมารวมตัวกัน เสียงร้อง หง่าวๆ ฟังดูเหมือนกับเป็นเสียงร้องไห้ของเด็กเล็กๆ อย่างไรอย่างนั้น

“ผมให้อาหารเป็นบางครั้งน่ะครับ”

อินซอบเทอาหารสัตว์ลงในชามที่วางอยู่บนพื้น ดูเหมือนของที่อยู่ในถุงสีดำจะเป็นอาหารสัตว์ พวกลูกแมววิ่งตาลีตาเหลือกใส่ชามอาหาร

“ค่อยๆ กินนะ ดื่มน้ำด้วย”

อินซอบเทน้ำลงในชามอีกใบพลางพูด

“น้ำสะอาดๆ ก็สำคัญกับเด็กๆ พวกนี้มากครับ ถ้าคุ้ยขยะหรือกินอาหารคนจะไม่ดีต่อร่างกาย ผมอ่านและศึกษาจากอินเทอร์เน็ตน่ะครับ …เรื่องแบบนี้ไม่สนุกใช่ไหมล่ะครับ”

แม้จะไม่สนุกเลยจริงๆ แต่อีอูยอนก็ยิ้มอย่างนุ่มนวลคล้ายจะบอกให้เล่าต่อ

“ประมาณหนึ่งเดือนก่อนผมได้ยินเสียงร้อง ก็เลยขึ้นมาดู แล้วผมก็ได้รู้ว่ามันคลอดลูกไว้ตรงมุมนั้นน่ะครับ เจ้านี่ชื่อโลอิสครับ เป็นแม่ ส่วนตัวโน้นชื่ออาเธอร์ ตัวที่มีหางงอๆ นั่นชื่อไอแซค ส่วนจอห์นคือตัวที่มีลายทางตรงนั้น เป็นตัวที่ตัวเล็กและอ่อนแอที่สุดครับ กินเยอะๆ สิ”

อินซอบดันชามให้แมวลายทางตัวเล็กพร้อมกับพูดพึมพำ

“เป็นชื่อที่ดีมากเลยครับ”

การหัวเราะเจืออยู่ในน้ำเสียงของอีอูยอน

โลอิส แมคมาสเตอร์ อาเธอร์ โคนัน ดอลย์ ไอแซค อาซิมอฟ จอห์น สกัลชี ทั้งหมดเป็นชื่อที่อินซอบเคยเห็นในหน้าหนังสือ อีอูยอนคิดว่านี่เป็นรสนิยมที่เหมือนกับเด็กช่างฝันต่างกับตัวเอง

“ผมขอลองลูบดูได้ไหมครับ”

พออีอูยอนกำลังจะเดินมาข้างๆ อินซอบก็ห้ามว่า ‘อยู่ตรงนั้นเถอะครับ’

“พวกเด็กๆ ขี้กลัวมาก ก็เลยกลัวคนแปลกหน้าน่ะครับ ผมเองยังใช้เวลาตั้งสองสัปดาห์เลยนะครับกว่าจะลูบได้ขนาดนี้”

อินซอบยิ้มร่า ก้อนขนเล็กๆ ร้องครางพร้อมกับพันอยู่ใต้มือของเขา

“ทำไมถึงไม่เอาไปเลี้ยงล่ะครับ”

อินซอบส่ายหน้าให้กับคำพูดของอีอูยอน

“บ้านผมห้ามเลี้ยงสัตว์ครับ แม้แต่ข้าวผมยังแอบเอามาให้เลย …อย่าบอกเจ้าของบ้านนะครับ”

อินซอบทำเสียงเบาเหมือนกับพูดเรื่องที่เป็นความลับมากๆ

ถ้าคุณต้องการ ผมจะซื้ออพาร์ทเมนต์ทั้งตึกให้คุณตอนนี้ยังได้เลย อีอูยอนยืนพิงกำแพง เขาจ้องมองอินซอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“ต่อให้อยากเลี้ยง แต่ด้วยเงื่อนไขของผมก็เลี้ยงไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ค่อยอยู่บ้าน โลอิส แกต้องกินเยอะๆ แล้วก็ต้องแข็งแรงนะ เพราะแกเป็นแม่ ขอโทษนะ ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะขึ้นมาได้อีกเมื่อไหร่”

ถ้าไปนอนค้างที่บ้านของอีอูยอนนานๆ อินซอบก็จะกระวนกระวายจนสังเกตได้ ตอนนี้เขาพอจะเดาเหตุผลนั้นออกแล้ว อีอูยอนลูบมีดที่อยู่ในกระเป๋า

ถ้าไม่มีไอ้พวกนี้ ต่อให้พาไปอยู่ที่บ้านอีกกี่วัน ก็ไม่มีเรื่องที่อินซอบจะต้องกระวนกระวายใจ นี่เป็นปัญหาที่ง่ายมาก แต่เขาไม่อยากทำให้มันจบไปอย่างง่ายๆ ขนาดนั้น เพราะเขารู้ดีว่าอินซอบเป็นคนแบบไหน

อินซอบทำสุดความสามารถ และให้ข้าวให้น้ำก่อนที่พวกมันจะจากไปที่อื่น แม้สักวันหนึ่งพวกลูกแมวอาจจะไม่มาแล้ว แต่ความลำบากที่เปล่าประโยชน์นั้นก็จะยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อยู่ดี ถ้าลองนึกถึงการที่อีกฝ่ายมาที่เกาหลีและแก้แค้นตนเพื่อเพื่อนที่ตายไปแล้ว มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ

ไม่มีทางที่ชเวอินซอบจะทิ้งไอ้พวกนั้นไปก่อนแน่ๆ

อีอูยอนมองด้านหลังของอินซอบ ในตอนนั้นเองความเห็นแก่ตัวแบบเด็กๆ ที่เขาไม่เข้าใจก็ก่อตัวขึ้น เขาสับสนนิดหน่อยกับความรู้สึกที่ได้รับรู้เป็นครั้งแรก แม้แต่ตอนที่ตัดขาดกับพ่อแม่หรือครอบครัว เขายังไม่คิดแบบนี้เลย ถ้าจะทิ้งได้ ก็ต้องเป็นเจ้าของก่อน เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้

ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น แต่…

“ไว้จะมาใหม่นะ ขอโทษด้วยนะที่มาทุกวันไม่ได้”

อินซอบลูบแมวที่สกปรกทีละตัวพร้อมกับกระซิบอย่างอ่อนโยน

ไม่อยากถูกคุณทิ้งเลย

นั่นเป็นความรู้สึกที่ชัดเจนจนอีอูยอนตกใจ ไม่สิ เป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับความต้องการมากกว่า ทันใดนั้นอีอูยอนก็เอ่ยเรียกอีกฝ่าย ‘คุณอินซอบ’

“เสร็จแล้วครับ”

ชเวอินซอบลุกขึ้นพลางเอ่ยตอบ อีอูยอนค่อยๆ เดินเข้าไปหาอินซอบ การเข้าใกล้ของคนแปลกหน้าทำให้พวกแมวที่กินอาหารอยู่กระจายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว แม้อินซอบจะลองเรียกพวกลูกแมวด้วยความว้าวุ่นใจ แต่สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอพวกนั้นก็ไม่ลดความระมัดระวังตัวลงเลย อีอูยอนจับคางของอินซอบ และทำให้สายตาของเจ้าตัวมองมาทางตน

“ทำไมถึงบอกว่าชอบผมล่ะครับ”

“ครับ?”

คำถามที่ถูกโยนมาอย่างกะทันหันทำให้อินซอบไม่สามารถหาคำตอบได้เร็วนัก

“ชอบที่ตรงไหนเหรอครับ”

“เอ่อ ผม…ผม…”

อินซอบหลบตาพร้อมกับพึมพำว่า ‘ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่เหมือนจะชอบทั้งหมดเลย’

“ขอแบบเป็นรูปธรรมทีครับว่าส่วนไหน”

อีอูยอนลูบแก้มของอินซอบอย่างอ่อนโยนเหมือนปลอบสัตว์ขี้กลัว สีหน้าของอินซอบที่เคร่งเครียด เพราะความประหม่าสงบลงเล็กน้อยด้วยพอใจกับสัมผัสจากมือนั้น

“ตอนที่ตั้งใจทำงานก็เท่…แล้วตอนที่อ่านบท คุณก็จำได้แม้กระทั่งบทพูดของคนอื่น ผมคิดว่าผมชอบที่คุณใช้ความพยายามด้วยเหมือนกันครับ ตอนที่ออกกำลังกายอย่างตั้งใจ และ…”

“และอะไรเหรอครับ”

เขาคิดว่าถ้าทำให้อินซอบอยู่ข้างๆ เขาได้ เขาจะทำตัวแบบที่อีกฝ่ายชอบ ของพวกนั้นเขาทำได้อยู่แล้ว

“การประมาทโดยจงใจครับ”

อีอูยอนหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง เพราะสิ่งที่ออกมาจากปากของอินซอบ

“คุณเคยบอกว่ามันยากใช่ไหมล่ะครับ การให้ความสำคัญด้วยวิธีของคนปกติน่ะ”

“ครับ”

เขาไม่คิดเลยว่าอินซอบจะพูดถึงปัญหานี้ เขารู้สึกเหมือนโดนชก

“ผมไม่รู้นะครับว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่ผมคิดว่าคุณอีอูยอนยอดเยี่ยมมากเลยครับ เพราะคุณหาสมดุลท่ามกลางการประมาทโดยจงใจเจอ และอยู่ตรงนั้นเสมอเลย”

อีอูยอนมองอินซอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตาของเขาเย็นชาราวกับความรู้สึกได้หายไปแล้ว

“ขอโทษครับ ผมพูดอะไรไร้ประโยชน์…”

อีอูยอนกอดอินซอบไว้ เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นตึกตัก

“คุณอินซอบ”

ชเวอินซอบรู้สึกว่าหัวใจตกลงไปที่ตาตุ่ม เพราะการเรียกที่ฟังดูเศร้าและน่าสงสาร

“…ครับ”

แม้แต่ขณะที่ตอบ อินซอบก็รู้สึกร้อนที่ใบหู

“จะชอบผมไปเรื่อยๆ ไหมครับ”

“ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสิครับ”

อีอูยอนฝังหน้าลงกับซอกคอของอินซอบ หลังจากสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด เขาก็อุ้มอินซอบขึ้น

“คะ คุณอูยอน ถ้าใครมาเห็นล่ะครับ”

“นอกจากไอ้พวกนั้น ก็ไม่มีใครเห็นหรอกครับ”

อีอูยอนยื่นหน้าไปทางพวกแมวที่ทำขนตั้งพร้อมกับร้องขู่อยู่ที่มุมดาดฟ้า อินซอบพูดว่า ‘แต่ถึงอย่างนั้นก็ปล่อยเถอะครับ’ พร้อมกับดิ้นไปมา ยิ่งเขาทำแบบนั้น อีอูยอนก็ยิ่งเพิ่มแรงไปที่แขนที่กอดอินซอบไว้

“ไม่ปล่อยครับ ไม่สิ ปล่อยไม่ได้ต่างหาก”

เป็นน้ำเสียงที่แยกไม่ออกเลยว่าพูดจริงหรือพูดเล่น

“ผมจะไม่ทำในสิ่งที่คุณห้ามทำครับ ทั้งการฆ่าคน การลอบวางเพลิง การขโมย การขืนใจ มีอะไรอีกไหมครับ”

“…คุณอูยอน”

“แล้วผมควรจะเป็นนักแสดงที่ดีด้วยหรือเปล่าครับ”

อินซอบกลั้นหายใจเบาๆ ให้กับคำว่านักแสดงที่ดี

“คุณอินซอบบอกว่าชอบนักแสดงอีอูยอนนี่ครับ”

“…ครับ ชอบครับ”

“งั้นผมจะเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศเลยครับ เท่านี้คุณจะพอใจไหมครับ คุณผู้จัดการส่วนตัว”

อินซอบรู้ถึงความจริงใจที่เจืออยู่ในคำพูดขี้เล่นนั้น เขาได้ฟังจากอีอูยอน และรู้ความจริงที่ว่าแรงจูงใจที่ทำให้อีกฝ่ายเริ่มเข้าวงการนั้นไม่ปกติ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ชอบอีกฝ่ายที่พยายามอยู่เสมออยู่ดี เขาคิดว่าไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีความตั้งใจแบบไหน มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย คนที่ชื่อว่าอีอูยอนในภาพยนตร์ หรือละครเปล่งประกายกว่าใคร เขาชอบความเปล่งประกายนั้น ดังนั้นเขาจึงมีความปรารถนาส่วนตัวว่าอยากให้อีอูยอนทำงานเป็นนักแสดงไปนานๆ

และตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่าจะทำสิ่งนั้นเพื่อเขา

“ไม่ชอบเหรอครับ ให้ผมทำเรื่องอื่นให้ด้วยไหมครับ”

อินซอบส่ายหน้า

“แค่นั้นก็พอครับ แค่…แค่ชอบผมก็พอครับ”

เขาก้มตัวลงไปโอบรอบคอของอีอูยอน

“แม้คุณอินซอบจะบอกว่าจะทิ้งผมไป ผมก็จะรอจนกว่าคุณจะถือกล่องเค้กกลับมาครับ ผมจะไม่ทำเรื่องที่ทำให้คุณอินซอบเจ็บปวดอีกแล้ว”

อินซอบลูบต้นคอของอีอูยอน เขาม้วนเส้นผมนุ่มๆ ของอีกฝ่ายเข้ากับนิ้วของตัวเอง แม้จะบอกใครไม่ได้ แต่ก็มีช่วงที่เขารู้สึกว่าอีอูยอนเหมือนกับลูกสัตว์ตัวเล็กๆ อยู่บ้างเหมือนกัน

อินซอบกระซิบทั้งๆ ที่ยังกอดอีอูยอนเอาไว้ ว่า ‘ผมชอบคุณอูยอนนะครับ’

เขารู้สึกถึงการหัวเราะจากร่างกายที่สั่นเบาๆ

“ผมจะทำทุกอย่างตามที่คุณสั่งเลยครับ ช่วยชอบผมไปเรื่อยๆ ด้วยนะครับ”

อีอูยอนร้องขอความรักจากอินซอบด้วยถ้อยคำที่ว่านอนสอนง่ายเหมือนเป็นเด็กดี อินซอบพยักหน้า

“คุณอินซอบ ผมขออะไรอีกอย่างได้ไหมครับ”

มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อินซอบตอบว่า ‘ครับ’ ทั้งที่ยังประหม่าเพราะคำพูดที่อีกฝ่ายพูดเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอย่างกะทันหัน

“ห้ามป่วยนะครับ”

คำขอนั้นเพ้อเจ้อจนเขาต้องหัวเราะอย่างอ่อนแรงออกมา อินซอบพยักหน้าแรงกว่าเมื่อกี้

“ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้นหรอกครับ”

อีอูยอนยิ้มกว้างเหมือนเด็กที่ได้ครอบครองโลกทั้งใบ ผู้ชายคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ อินซอบกระชับอ้อมแขนที่โอบรอบคออีกฝ่าย

สุดท้ายวันนั้นเขาก็ไม่กล้าพูดเรื่องอื่นที่ฝึกพูดไว้ออกมา แต่ถึงอย่างนั้น อินซอบก็ปลอบใจตัวเองว่าโชคดีแล้วที่ได้พูดสิ่งที่อยากพูดที่สุดออกไปอย่างตรงไปตรงมา

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท