ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 171 เติบโต(ปลาย)

ตอนที่ 171 เติบโต(ปลาย)

ดูเหมือนว่า​ไท​เฮา​พึ่ง​จะ​สังเกตเห็น​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ตรัส​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​มาถึง​แล้ว​เหตุใด​จึง​ไม่มีใคร​มารา​ยงาน​”​ ​แล้วยัง​ตำหนิ​คน​รอบตัว​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​พระ​สัส​สุข​อง​ฮ่องเต้​องค์​ปัจจุบัน​จะ​เทียบ​กับ​บรรดาฮู​หยิน​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ได้​อย่างไร​ ​ต่อไปนี้​หาก​ไท่ฮู​หยิน​มา​ขอ​เข้าเฝ้า​ให้​มารา​ยงาน​โดยตรง​ได้​เลย​ไม่ต้อง​รีรอ​”

ขันที​รีบ​ตอบรับ​ทันที​ ​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​รีบ​คุกเข่า​คำนับ​ขอบ​พระทัย​ ​สือ​อี​เหนียง​เดินตาม​หลัง​ไท่ฮู​หยิน​มา​และ​คุกเข่า​ตาม​ไท่ฮู​หยิน

ไท​เฮา​เข้าไป​จับมือ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​พยุง​ลุกขึ้น​ด้วยตัวเอง​ ​“​ข้า​เอง​ก็​หวัง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะเข้า​วัง​มา​พูดคุย​กับ​ข้า​”​ ​ท่าทาง​ทอดถอนใจ​ ​“​ตอนนี้​คนที​่​จะ​พูดคุย​กับ​ข้า​ก็​น้อยลง​เรื่อยๆ​ ​ทำให้​ข้า​ยาก​ที่จะ​ยอมรับ​ความ​แก่​ได้​”​ ​จากนั้น​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​พระตำหนัก​คุน​หนิง​ ​“​พวกเรา​มา​พูดคุย​กัน​เถิด​”

ไท่ฮู​หยิน​ตอบรับ​อย่างนอบน้อม​ ​“​เพ​คะ​”​ ​เดินตาม​ไท​เฮา​ไป​ที่​พระตำหนัก​ตง​หน​่​วน​เก๋อ​ที่​ฮองเฮา​ประทับ​อยู่

ไท​เฮา​และ​ฮองเฮา​นั่งลง​ตามลำดับ​ ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​นั่ง​บน​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถามถึง​อาการ​พระ​ประชวร​ของ​ฮองเฮา​ ​“​…​เมื่อ​ได้ยิน​ราชโองการ​ของ​ฮ่องเต้​ ​หม่อมฉัน​ก็​รู้สึก​กังวล​ตลอดทั้ง​คืน​”

“​ข้า​ไม่เป็นไร​”​ ​ฮองเฮา​เอ่ย​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​แค่​รู้สึก​หนาวเหน็บ​เป็นครั้งคราว​ ​และ​ไม่​ค่อย​สบาย​เพียง​เล็กน้อย​ ​ทาน​ยา​ของ​หมอ​หลวง​หลิว​แล้ว​รู้สึก​ดีขึ้น​มาก​”

ไท​เฮา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ข้ามา​เยี่ยม​ฮองเฮา​ทุกวัน​ ​เมื่อวาน​ยัง​มี​อาการไอ​อยู่เล็ก​น้อย​ ​แต่เช้า​วันนี้​ยัง​ไม่เห็น​ฮองเฮา​ไอ​เลย​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​แล้ว​พูด​อย่างเกรงใจ​ว่า​ ​“​ฮองเฮา​มี​ไท​เฮา​อยู่​ข้าง​กาย​เช่นนี้​ ​คิด​ว่า​อีกไม่นาน​ก็​คง​หาย​ดี​แล้ว​เพ​คะ​”

ไท​เฮา​มอง​ฮองเฮา​แล้ว​ยิ้ม​ ​“​ข้า​เพียงแค่​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​นาง​เท่านั้น​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ ​“​ตาน​หยาง​สบายดี​หรือไม่​ ​ได้ยิน​ว่า​สอง​วันก่อน​ไม่สบาย​หรือ​”

ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​ ​“​นาง​ยัง​เด็ก​ ​นี่​ก็​เป็น​ท้อง​แรก​ ​จึง​ยัง​ไม่​ค่อย​รู้ความ​…​”

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​ ​สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​ไท่ฮู​หยิน​อย่างนอบน้อม​ ​สายตา​จับจ้อง​ไป​ที่​ฮองเฮา

นาง​ยิ้ม​และ​มีสี​หน้า​อ่อนโยน​เช่นเคย​ ​แต่​แววตา​กลับ​เผย​ให้​เห็น​ว่านา​งกำ​ลัง​เหม่อลอย

จะ​ให้​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ไม่ได้​แล้ว

ไม่​กลัว​ความ​พิการ​ทาง​ร่างกาย​ ​จะ​กลัว​ก็​แต่​ความ​พิการ​ทางจิตใจ

ที่นา​งกัง​วล​ใจ​เช่นนี้​เห็นได้ชัด​ว่า​มีเรื่อง​บางอย่าง​ใน​ใจ​ ​หาก​เป็น​สตรี​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​เพียง​ได้​บ่น​กับ​สหาย​สนิท​สัก​สอง​สาม​คำ​ก็​จะ​หายโกรธ​และ​รู้สึก​ดีขึ้น​ ​แต่​นาง​กลับเป็น​มารดา​ของ​แคว้น​ ​ทุก​การกระทำ​ไม่​อาจ​เกินขอบเขต​ได้​ ​เพราะ​บางครั้ง​คำพูด​เพียง​ไม่​กี่​คำ​ก็​จะ​ถูก​ขยาย​ออก​ไป​อย่างไร​้​ขีดจำกัด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​จะ​ทำลาย​ภาพลักษณ์​ของ​ฮองเฮา​ ​และ​เรื่อง​ความลับ​ของ​ราชวงศ์​ ​นาง​จึง​ไม่​สามารถ​เอ่ยปาก​พูด​กับ​ใคร​ได้​…​ในเมื่อ​ฮ่องเต้​คือ​ความโดดเดี่ยว​ ​แล้ว​ฮองเฮา​เล่า​จะ​ไม่​โดดเดี่ยว​ได้​อย่างไร​!

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​สือ​อี​เหนียง​ก็​เงยหน้า​มอง​ฮองเฮา​อย่างกล้าหาญ

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ฮองเฮา​ก็​รู้สึก​ว่า​มีบา​งอย​่า​งกำ​ลัง​มอง​มาที​่​ตัวเอง​ ​เมื่อ​หันไป​ก็​เห็น​น้อง​สะใภ้​ที่​อายุ​เพียง​สิบ​สี่​ปีกำ​ลัง​กะพริบตา​ให้​นาง

ฮองเฮา​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

เบิกตา​โต​แล้ว​หันกลับ​ไป​มอง​อีกครั้ง

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ยิ้ม​ให้​ฮองเฮา

แววตา​ของ​ฮองเฮา​เผย​ให้​เห็น​ความประหลาดใจ​ ​แต่​ไม่นาน​ก็​กลับมา​ดู​สงบ​อีกครั้ง

เมื่อ​ไท​เฮา​กับ​ไท่ฮู​หยิน​พูดคุย​กัน​เสร็จ​ ​ฮองเฮา​ก็​ถามถึง​เรื่อง​สือ​อี​เหนียง​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​…​ได้ยิน​มา​ว่าฮู​หยิน​หย่ง​ผิง​โหว​ไม่สบาย​ ​ต่อมา​ข้า​ไม่​ค่อย​สบาย​จึง​ไม่ได้​เรียก​หมอ​หลวง​หลิว​มาซั​กถาม​ ​ตรวจ​พบ​สาเหตุ​หรือไม่​ว่า​เป็น​อะไร​กัน​แน่​”

คำถาม​นี้​นาง​ไม่​ควร​เป็น​คน​ตอบ

สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​ลง

ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​ ​“​ระดู​ของ​นาง​มักจะ​มา​ไม่​ตรง​ ​จึง​ให้​หมอ​หลวง​หลิว​มาช​่วย​จับชีพจร​ให้​”

“​ตาย​จริง​”​ ​ไท​เฮา​พูด​ขึ้น​ ​“​นี่​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​จะ​ละเลย​ไม่ได้​”

“​ใช่​แล้ว​เพ​คะ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​ตอนนี้​เลย​กำลัง​ทาน​ยาบำรุง​อยู่​”

ฮองเฮา​เรียก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ตาม​ข้า​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ตะวันออก​”​ ​ให้​นางใน​ข้าง​กาย​รอ​อยู่​ที่​ห้องโถง​หลัก

สือ​อี​เหนียง​ย่อเข่า​คำนับ​อย่างว่า​ง่าย​ ​“​เพ​คะ​”​ ​แล้ว​เดินตาม​ฮองเฮา​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ตะวันออก

ไท่ฮู​หยิน​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก

ไท​เฮา​กลับ​มอง​แล้ว​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข

ดูเหมือนว่า​ฮองเฮา​จะ​เรียก​ลูกสะใภ้​ของ​ตน​ไป​ถาม​เรื่อง​นี้​เป็นการ​ส่วนตัว​…​บุตรชาย​สกุล​สวี​มักจะ​มี​ร่างกาย​ซูบผอม​ ​จนถึง​ตอนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​มีบุ​ตร​ชาย​จาก​ภรรยา​เอก​เพียง​คนเดียว​ ​ซ้ำ​ยัง​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​ ​ไม่​แปลกที่​ฮองเฮา​ได้ยิน​แล้ว​จะ​รู้สึก​กังวลใจ

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​ไท​เฮา​ก็​ยิ้ม​แล้ว​สั่ง​ให้​คน​ยก​ถั่ว​ตัดออก​มา​ ​“​ห้องครัว​พึ่ง​ทำ​มา​ใหม่​ ​รสชาติ​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​กล่าว​ขอบ​พระทัย​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​นึกถึง​ฮองเฮา​และ​สือ​อี​เหนียง​ที่อยู่​ห้อง​ปีก​ตะวันออก

******

นั่ง​อยู่​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​ฮองเฮา​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างหน้า​ตัวเอง​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อย่างไร​ดี

แน่นอน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่มีทาง​จะ​จ้องมอง​อย่างกล้าหาญ​โดย​ไม่มีเหตุผล​ ​ซ้ำ​ยัง​ยิ้ม​ให้​ตัวเอง​อีก​ ​แต่​การ​ที่​พูดคุย​เรื่อง​ความรุ่งเรือง​ของ​ครอบครัว​และ​เรื่อง​สามีภรรยา​กับ​เด็กสาว​ที่​ไม่​คุ้นเคย​และ​อายุ​มากกว่า​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ไม่​เกิน​สอง​ปีก​็​กระไร​อยู่​ ​เพราะ​นาง​เอง​ก็​ไม่ใช่​คนที​่​หัว​ช้า​!

สีหน้า​ของ​นาง​เผย​ให้​เห็น​ความลังเล

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​นาง​ก็​ตัดสินใจ​เริ่ม​ก่อน​ ​ก้มหน้า​อย่างนอบน้อม​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​หม่อมฉัน​แค่​รู้สึก​ไม่สบาย​เล็กน้อย​ ​ไม่เพียงแต่​ทำให้​ท่าน​โหว​เอ่ย​ถาม​ ​แต่​ยัง​ทำให้​ฮองเฮา​ต้อง​ทรง​เอ่ย​ถาม​เพราะ​กังวล​เช่นนี้​ ​หม่อมฉัน​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เลย​เพ​คะ​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​ย่อเข่า​ลง​ ​“​ตอนที่​หม่อมฉัน​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​เข้ามา​ ​เห็น​ว่า​ท่าน​โหวดู​เคร่งขรึม​เป็นอย่างมาก​ ​ใน​ใจ​จึง​รู้สึก​หวาดกลัว​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ดู​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​พูดถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​นอนไม่หลับ​เพราะ​เรื่อง​บุตร​ ​“​…​ถึง​ได้​รู้​ว่า​ถึง​จะ​ดู​เย็นชา​แต่​จริงๆ​ ​แล้ว​ข้างใน​เขา​เป็น​คน​อบอุ่น​”​ ​จากนั้น​ก็​เล่า​ถึง​เรื่อง​ที่ฮู​หยิน​สาม​เอา​ข้าว​ดี​ๆ​ ​ไป​เปลี่ยนเป็น​ข้าว​รามา​ทำ​โจ๊ก​“​ ​ท่าน​โหว​ใจกว้าง​มาก​ ​ไม่เพียงแต่​ไม่​ตำหนิ​คุณชาย​สาม​และ​พี่สะใภ้​สาม​ที่​ประพฤติ​ตัว​ไม่เหมาะสม​ ​แต่กลับ​ไป​ทบทวน​ตัวเอง​ ​แล้วไป​จัดการ​เรื่อง​ด้วยตัวเอง​ที่​ประตูเมือง​ฟู่​เฉิง​ ​ซ้ำ​ยัง​นัด​คุณชาย​สาม​มา​พูดคุย​เรื่อง​ใน​ใจ​ใน​คืน​นั้น​…​”​ ​อธิบาย​กับ​ฮองเฮา​ถึง​ความคิด​ของ​คุณชาย​สาม​กับฮู​หยิน​สาม​ ​แล้วก็​แผนที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เตรียม​จะ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ให้​คุณชาย​สาม​ไป​เป็น​ขุนนาง​เพื่อ​เป็นหน้าเป็นตา​ให้​แก่​สกุล

ฮองเฮา​เริ่ม​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​ ​ยิ่ง​สือ​อี​เหนียง​พูด​นาง​ก็​ยิ่ง​มีสี​หน้า​จริงจัง​ ​เมื่อ​พูดว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลังจะ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​นาง​ก็​มีสี​หน้า​ตกตะลึง​ ​“​เหตุใด​ท่าน​โหว​ถึง​ไม่เคย​เอ่ย​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​เลย​”

“​ท่าน​โหว​ประพฤติ​ตัว​ด้วย​ความชอบธรรม​ ​ทั้ง​ยัง​มีน้ำใจ​และ​คุณธรรม​ต่อ​พี่น้อง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ข้า​อาศัย​อยู่​เรือน​เดียวกัน​กับ​ท่าน​โหว​ ​ก็​คง​มิ​อาจม​อง​เจตนา​ที่​ลึกซึ้ง​ของ​เขา​ออก​ได้​”

เมื่อ​ฮองเฮา​ได้ยิน​ก็​ตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ดู​อบอุ่น​ ​“​ดูแล​้วฮู​หยิน​จะ​ใส่ใจ​เรื่อง​ของ​ท่าน​โหว​เป็นอย่างมาก​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เหงื่อ​แตก​พลั่ก

แต่​ก็​ปฏิเสธ​ไม่ได้

“​ท่าน​โหว​มีกิริยา​มารยาท​สูงส่ง​ ​หม่อมฉัน​ชื่นชม​เป็นอย่างมาก​เพ​คะ​”​ ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ฮองเฮา​ที่​เป็น​พี่สาว​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​แต่​ยกยอปอปั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋

ฮองเฮา​เห็น​ว่านา​งดู​สงบนิ่ง​ ​แต่​แก้ม​ของ​นาง​กลับ​แดง​ระเรื่อ​ ​แววตา​ดู​เขินอาย​ ​ก็​สัมผัส​ได้​ว่านาง​พยายาม​ปกปิด​ความห่วงใย​ที่​มีต​่​อส​วีลิ​่​งอี​๋​อย่าง​สุดกำลัง​ ​แววตา​ของ​ฮองเฮา​จึง​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ขึ้น

“​หม่อมฉัน​โง่เขลา​ ​ไม่มี​กำลัง​ที่จะ​ไป​ยุ่งเกี่ยว​กับ​กิจ​ของ​ราชสำนัก​ ​ได้​แต่​ดูแล​ชีวิตประจำวัน​ของ​ท่าน​โหว​อย่างสุดความสามารถ​ ​เพื่อ​ไม่​ให้ท่าน​โหวต​้​อง​ถูก​รบกวน​จาก​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ใน​เรือน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​เมื่อ​อากาศ​หนาว​ก็​อุ่น​เตาผิง​มือ​ให้ท่าน​โหว​ ​เมื่อ​ท่าน​โหว​อารมณ์ไม่ดี​ก็​เล่าเรื่อง​ตลก​ให้ท่าน​โหว​ฟัง​ ​ช่วยดูแล​อวี​้​เกอ​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​และ​จุน​เกอ​…​”

เมื่อ​ฮองเฮา​ได้ยิน​ก็​มีสี​หน้า​นิ่ง​ ​พึมพำ​ออกมา​ว่า​ ​“​ไม่​ให้​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ใน​เรือน​มาร​บก​วน​ท่าน​โหว​…​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​เล่า​ให้​ฮองเฮา​ฟัง​อย่างละเอียด​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ใน​คืน​นั้น​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​ชีวิต​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ที่อยู่​กับ​ฮองเฮา​หลังจากที่​องค์​ชาย​ห้า​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​“​…​ต่อให้​ไม่สบายใจ​ก็​ทำได้​เพียง​พูด​ต่อหน้า​หม่อมฉัน​เท่านั้น​ ​วันรุ่งขึ้น​เขา​ก็​ออก​ไป​ข้างนอก​เหมือน​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​หม่อมฉัน​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​สงสาร​ท่าน​โหว​”​ ​พูด​พลาง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มาซั​บที​่​หาง​ตา​ ​“​และ​ยิ่ง​เป็นห่วง​ฮองเฮา​กับ​ฮ่องเต้​ ​ฮองเฮา​นอกจาก​จะ​ทรง​เป็น​พระราช​มารดา​ของ​องค์​ชาย​ห้า​แล้ว​ ​ยัง​ทรง​เป็นมา​รดา​ของ​แคว้น​นี้​ ​ฮ่องเต้​นอกจาก​จะ​ทรง​เป็น​พระราช​บิดา​ของ​องค์​ชาย​ห้า​แล้ว​ ​ก็​ยัง​ทรง​เป็น​บิดา​ของ​แคว้น​นี้​ ​ไม่เพียงแต่​มีนั​กป​ระ​วัติ​ศาสตร์​เหล่านั้น​ที่​คอย​จับตาดู​ ​แต่​ยัง​รวมไปถึง​ขุนนาง​นักปราชญ์​และ​ขุนนาง​ทหาร​ใน​ราชสำนัก​อีกด้วย​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​สถานการณ์​ของ​ท่าน​โหว​แล้ว​ ​พระองค์​ทรง​ลำบาก​กว่า​เป็น​เท่าตัว​”

ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​หาง​ตาของ​ฮองเฮา​ก็​มีน​้ำ​ตา​คลอ

ยังดี​ที่สามา​รถ​ร้องไห้​ได้​…

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ก่อน​จะ​คุกเข่า​ลง​ ​“​หม่อมฉัน​พูดจา​เหลวไหล​ทำให้​ฮองเฮา​ทรง​เสีย​พระทัย​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​หาก​ท่าน​โหว​รู้​เข้า​ไม่รู้​ว่า​จะ​เสียใจ​เพียงใด​”

ฮองเฮา​มอง​นาง​โดย​ไม่พูดไม่จา

สือ​อี​เหนียง​ไม่มีเวลา​ที่จะ​มานิ​่ง​เงียบ​ใส่​นาง

พูด​ทั้งๆ​ ​ที่​คุกเข่า​อยู่​ ​“​ก่อนที่​หม่อมฉัน​จะ​มา​ ​ท่าน​โหว​ได้​ให้​หม่อมฉัน​มาบ​อก​กับ​พระองค์​ว่า​ให้พระ​องค์​ทำตาม​พระ​ประสงค์​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​กังวล​สิ่ง​อื่นใด​ ​ถึง​เขา​จะ​เป็น​ขุนนาง​แต่​เขา​ก็​เป็น​พระอนุชา​ของ​พระองค์​เช่นกัน​ ​แม้ว่า​จะ​ต้อง​บุก​น้ำ​ลุย​ไฟ​ ​เพียงแค่​พระองค์​ตรัส​มาคำ​เดียว​ ​เขา​ก็​พร้อม​ที่จะ​ทำตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​เพ​คะ​”

ดวงตา​ของ​ฮองเฮา​ค่อยๆ​ ​ลุกโชน​ ​จ้องมอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ถ้า​ข้า​ต้องการ​ให้​เขา​ฆ่า​คน​ล่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​ฮองเฮา​อย่าง​แน่วแน่​ ​สีหน้า​สงบ​เยือกเย็น​ ​ราวกับว่า​ฮองเฮา​กำลัง​ถาม​ว่า​ ​‘​วันนี้​อากาศ​เป็น​อย่างไรบ้าง​’​ ​นาง​ตอบ​อย่างใจ​เย็น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​บอกว่า​ลูกน้อง​ของ​เขา​มีทั​้ง​ทหาร​และ​กุนซือ​ ​ไม่ว่า​ฮองเฮา​จะ​มี​รับสั่ง​อย่างไร​ ​หม่อมฉัน​ก็​เพียงแค่​นำ​ข่าว​ไป​บอก​เพียง​เท่านั้น​ ​แม้ว่า​จวน​ของ​พวกเขา​จะ​อาศัย​กรมพระราชวัง​หาเงิน​ได้มา​กมาย​จน​ร่ำรวย​คับ​ฟ้า​ ​แต่​สกุล​สวี​ของ​เรา​ก็​ไม่ได้​กระจอก​ ​หาก​หาเงิน​เทียบ​พวกเขา​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​ก็​ตัด​ลู่ทาง​คน​พวก​นั้น​เสีย​ ​การ​ที่จะ​ทำให้​สูญเสีย​พันธมิตร​นั้น​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​”

ฮองเฮา​ฟัง​อยู่​พักใหญ่​แต่​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ทว่า​หาง​ตากลับ​มีน​้ำ​ตา​คลอ

“​น้อง​สี่​ยังคง​ดื้อรั้น​เหมือนเดิม​”​ ​ขณะที่​พูด​น้ำตา​ก็​ไหลริน​ออกมา​ ​“​เจ้า​ไป​บอก​เขา​ ​อย่า​ให้​เขา​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​”​ ​พูด​พลาง​สะอึกสะอื้น​ ​“​การ​ที่​ยอม​ถอย​ให้​คนอื่น​จะ​ทำให้​ตัวเอง​ได้​พบ​กับ​สิ่ง​ที่​มีความสุข​ยิ่งกว่า​ ​พวกเขา​เป็น​หม้อดิน​เผา​ ​แต่​น้อง​ร่วมท้อง​ของ​ข้า​กลับเป็น​เครื่องลายคราม​ที่​ละเอียดอ่อน​ ​หาก​ทำ​แตก​พวกเขา​ก็​ไม่มี​ปัญญา​จะ​ชดใช้​ได้​ ​ตอนนี้​ฝ่า​บาท​เพียงแค่​นึกถึง​บุญคุณ​ใน​ตอนนั้น​ก็​เท่านั้น​…​แต่​เสือ​จะ​ดุร้าย​แค่ไหน​มัน​ก็​ไม่​กิน​ลูก​ตัวเอง​ ​ฮ่องเต้​ย่อม​มีแผน​การ​ของ​ตัวเอง​ ​จะ​ทำลาย​แผนการ​ใหญ่​ของ​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ ​จะ​ทำให้​ศัตรู​หัวเราะเยาะ​และ​คนที​่​รัก​ต้อง​เจ็บปวด​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​ฮองเฮา​ด้วย​ความประหลาดใจ

นาง​คิด​ว่า​ตัวเอง​จะ​ต้อง​พูดพล่าม​มากกว่า​นี้​เสียอีก​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​…

ใน​ใจ​ของ​ฮองเฮา​คงจะ​รู้ดี​อยู่​แล้ว​!

สิ่ง​ที่นาง​ต้องการ​คือ​บันได​และ​โอกาส​ที่​ทำให้​ฮองเฮา​เปลี่ยนความคิด​ได้​!

ฮองเฮา​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​แววตา​ดู​แปลกใจ​จึง​รู้​ว่าการ​เปลี่ยนแปลง​ของ​ตัวเอง​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

นาง​รู้สึก​เจ็บปวด​ใจ

แต่​ก็​แอบ​ชื่นชม​สือ​อี​เหนียง​อยู่เล็ก​น้อย

ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​นั้น​เป็นความ​จริง​ ​ไม่ใช่​ว่า​ได้รับ​คำสั่ง​เพื่อให้​มาทด​สอบ​นาง​…

น้อง​สี่​ยัง​ไม่​เปลี่ยน

ยัง​เหมือน​เมื่อก่อน

มี​รอยยิ้ม​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​นาง

ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​หยาดน้ำ​ตาดู​น่าสงสาร​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​ขอบตา​แดง​ ​น้ำตาไหล​ออกมา​อย่าง​ช่วยไม่ได้

******

ทั้งสอง​ร้องไห้​อย่าง​เงียบๆ​ ​เมื่อ​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​นั้น​พวก​นาง​ขอบตา​แดง​ทั้งคู่​ ​แววตา​ไท่ฮู​หยิน​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ ​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ฮู​หยิน​หย่ง​ผิง​โหว​ของ​พวกเรา​ทำให้​ฮองเฮา​ต้อง​เสีย​พระทัย​อย่างนั้น​หรือ​”

เมื่อ​ฮองเฮา​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​น้ำตาไหล​ออกมา​อีกครั้ง​ ​“​ก็​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ท่าน​โหว​จึง​มีบุ​ตร​ยาก​เช่นนี้​”

เมื่อ​ไท​เฮา​ได้ยิน​แววตา​ก็​กลับมา​มีความสุข​เช่น​เดิม​ ​“ฮู​หยิน​ของ​ท่าน​โหว​มิใช่​ว่า​อายุ​ยังน้อย​อยู่​หรอก​หรือ​ ​อีก​ไม่​กี่​ปีก​็​ดีขึ้น​แล้ว​ ​หาก​ฮองเฮา​กังวล​มาก​จริงๆ​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​จะ​มี​การ​เลือก​สาวงาม​ ​มิสู​้​ให้​ฮ่องเต้​เลือก​คนสวย​ๆ​ ​มาม​อบ​ให้ท่าน​โหว​ ​คิด​ว่า​ฤดูใบไม้ผลิ​ปี​ถัดไป​ไท่ฮู​หยิน​ก็​จะ​ได้​อุ้ม​หลานชาย​แล้ว​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​พยายาม​ปกปิด​ความตกใจ​ไว้​ใน​ใจ​ ​ก้มหน้า​ไม่พูดไม่จา​ ​ที่นี่​ยัง​มี​ฮองเฮา​และ​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ ​ไม่มี​ความจำเป็น​ที่นาง​จะ​ต้อง​พูด

เมื่อ​ฮองเฮา​ได้​ฟัง​ก็​ถอนหายใจ​ยาว​ ​“​แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่ใช่​บุตร​ของ​ภรรยา​เอก​ ​จะ​มี​อีก​สัก​กี่​คน​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​”

ไท​เฮา​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

ฮองเฮา​ตรัส​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​นี่​ก็​ล่วงเวลา​เลย​มามาก​แล้ว​ ​อีกสักครู่​ฝ่า​บาท​ก็​จะ​มา​เสวย​พระ​กระยาหาร​ ​ข้า​ไม่​รั้ง​ท่าน​ไว้​แล้ว​”

ไท่ฮู​หยิน​ลุกขึ้น​อย่าง​เงียบๆ​ ​คำนับ​พร้อม​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท