ตอนที่ 111 จักรพรรดินีเสียเปรียบ ศึกระหว่างเทพยุทธ์!
ตู้ม!
หลัวชิงเซียนอยู่ในชุดธรรมดา ทว่าทั่วร่างกลับเปี่ยมไปด้วยพลังระดับครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ และด้วยการกวัดแกว่งกระบี่เทพขนนกอย่างคล่องแคล่ว มันก็บังเกิดเป็นปราณกระบี่สามทิศทางพุ่งสู่สามผู้ยิ่งใหญ่ในฉับพลัน!
เมื่อปราณกระบี่ปะทุออก มันแหวกผ่านอากาศจนเกิดเสียงแสบแก้วหู
“หืม? ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว สามผู้ยิ่งใหญ่ต่างเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
ทว่าเพียงอึดใจ พวกเขาก็เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาแล้วจึงเคลื่อนไหวพร้อมกัน
ผู้ปกครองแห่งผานอู่ยกมือขึ้น มังกรทั้งเก้าเหยียดกรงเล็บคมปลาบขึ้นสู่ท้องฟ้า ลำคอเปล่งเสียงคำรามดุร้าย
ขณะที่ร่างกายของผู้ปกครองเทพเร้นลับทั้งแปดสั่นสะท้านพร้อมกับชกหมัดออก
ส่วนผู้ปกครองแห่งเทพหมื่นอสูรปลดปล่อยเสียงคำรามพยัคฆ์จนสั่นสะท้านลั่นโลกา
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ปราณกระบี่เทพขนนกทั้งสามแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“จักรพรรดินีเทพขนนก เจ้าเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์และเป็นแค่ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์”
สามผู้ยิ่งใหญ่เผยสีหน้าเย้ยหยัน แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ตาย!”
หลัวชิงเซียนไม่ได้กล่าวมากความ วันนี้คำพูดทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์ และมีเพียงการต่อสู้เท่านั้น แม้ความหวังของราชวงศ์เทพขนนกจะริบหรี่ก็ตาม
เคร้ง เคร้ง เคร้ง!
กระบี่ขนนกส่งเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานเปล่งประกายออก เงาศักดิ์สิทธิ์แห่งอมตะแท้จริงโบยบินดุจเทพขนนกปรากฏ!
ในขณะนี้ การฝึกฝนของหลัวชิงเซียนและพลังที่ได้รับจากมรดกแห่งจักรพรรดิถูกเปิดใช้งานจนถึงขีดสูงสุด
“โฮก!”
“ในเมื่อเจ้าคิดแสวงหาความตาย ก็อย่าได้กล่าวหาว่าพวกเราไร้ความปรานี!”
“สังหารเจ้าแล้วค่อยทำลายราชวงศ์เทพขนนกภายหลัง สุดท้ายแล้วราชวงศ์เทพขนนกก็ต้องตกอยู่ในมือของพวกเราอยู่ดี!”
เมื่อเห็นหลัวชิงเซียนเปิดฉากโจมตี ดวงตาของสามผู้ยิ่งใหญ่พลันเผยความเย็นชา จิตสังหารฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
“ง้าวเทพผานอู่!”
“กระจกเทพแปดเร้นลับ!”
“เจดีย์เทพหมื่นอสูร!”
สิ้นสุรเสียงคำรนของสามผู้ยิ่งใหญ่ ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเปล่งประกายออกต่อหน้าของพวกเขา และทันใดนั้นอาวุธเทวะก็ปรากฏตัวขึ้น
ด้วยอาวุธเทวะทั้งสามในมือพลันเปิดเผยพลังไร้เทียมทาน ก็สัมผัสได้ว่านี่คือครึ่งก้าวสู่ขั้นเทพยุทธ์!
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
หลังจากเกิดระเบิดอันน่าสยดสยองสองสามครั้ง อาวุธเทวะทั้งสามพลันถูกเซ่นสังเวยโดยสามผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยพละกำลังมหาศาลที่สามารถทำลายฟ้าดินได้ พวกเขาระดมโจมตีใส่หลัวชิงเซียนอย่างไม่ลดละ
ตู้ม!
ครู่ต่อมา อาวุธเทวะทั้งสามปะทะกับปราณกระบี่เทพขนนก คลื่นพลังงานมหาศาลปะทุออกบีบบังคับให้หลัวชิงเซียนต้องหยุดเคลื่อนไหว
ก่อนที่สามผู้ยิ่งใหญ่จะพุ่งทะยานเข้าหานางในระยะประชิด!
ผู้ปกครองผานอู่ก้าวออกจากราชรถ แล้วทะยานขึ้นบนอากาศ เพียงแค่สั่นฝ่ามือแผ่วเบา นิ้วทั้งห้าของเขาก็กลายเป็นเงาอสูรดุร้ายปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า!
ผู้ปกครองเทพเร้นลับทั้งแปดกระทืบเท้าบนรถม้าโบราณ ร่างของเขาทะยานขึ้นสู่อากาศ ก่อนที่กำปั้นยิ่งใหญ่ราวกับค้อนหนักจะปรากฏ ยามนี้เอง เขาออกหมัดตรงชกหลัวชิงเซียนด้วยพละกำลังมหาศาล เพียงหมัดเดียว บรรยากาศโดยรอบพลันถูกฉีกออกในพริบตา!
ร่างเสือดำขนาดยักษ์ของเทพหมื่นอสูรสูงใหญ่หลายจั้งถลาลงมาจากฟากฟ้า กรงเล็บยิ่งใหญ่ทั้งยังคมปลาบปรากฏสู่สายตาผู้คน แสงศักดิ์สิทธิ์แห่งอำนาจเปล่งประกาย ฉีกขาดอากาศและคว้าร่างของหลัวชิงเซียนไว้อย่างแม่นยำ!
ในตอนนี้เอง สามผู้ยิ่งใหญ่ยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศราวกับทวยเทพเสด็จลงจากสวรรค์ พลังที่เปิดเผยออกทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
“ราชวงศ์!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ดวงตางดงามของหลัวชิงเซียนหดลงอย่างกะทันหัน กระบี่เทพขนนกทำได้เพียงตั้งรับการโจมตีของอาวุธเทวะทั้งสามเท่านั้น เวลานี้พลังงานในร่างกายของนางรั่วไหลราวกับเขื่อนแตก ก่อเกิดเป็นป้อมปราการหนาปิดกั้นร่างของสามผู้ยิ่งใหญ่เอาไว้
ชั่วอึดใจนั้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เมื่อสามผู้ยิ่งใหญ่โจมตีพร้อมกัน ป้อมปราการหนาด้านหน้ากลายเป็นแตกออก มันไม่อาจต้านทานพลังงานอันน่าสะพรึงนี้ได้
ปัง!
พลังที่เหลืออยู่ปะทะกับร่างบางของหลัวชิงเซียนในทันที ส่งนางกระเด็นออกไปไกลพร้อมโลหิตหลั่งรินสู่พสุธา
อั่ก อั่ก อั่ก! หลัวชิงเซียนลอยกลับหลัง กระอักโลหิตคำใหญ่ออกจากปากครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้นางจะอยู่ในระดับครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ด้วยความช่วยเหลือจากมรดกแห่งจักรพรรดิ แต่ท้ายที่สุดแล้วนางเป็นเพียงผู้เยาว์ และยังมีช่องว่างขนาดใหญ่เมื่ออยู่ต่อหน้ากับสามผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในระดับครึ่งก้าวสู่ขั้นเทพยุทธ์มาเนิ่นนาน!
“องค์จักรพรรดินี!”
เมื่อเห็นหลัวชิงเซียนกระอักโลหิตคำใหญ่ออกมา ราชวงศ์เทพขนนกทั้งหมดเผยความตกตะลึงและเจ็บปวดผ่านสีหน้าทันที
เวลานี้ขอบเขตการฝึกฝนของหลัวชิงเซียนอยู่ในจุดสูงสุดของราชวงศ์เทพขนนกแล้ว หากนางไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของสามผู้ยิ่งใหญ่ ก็คงถึงคราวที่ราชวงศ์เทพขนนกจะต้องล่มสลายอย่างแท้จริงแล้ว!
“หึ! จักรพรรดินีเทพขนนก เวลานี้เจ้าทราบถึงความแตกต่างของเราแล้วหรือยัง!”
“ยอมจำนนเสีย! เพื่อเห็นแก่ใบหน้าของหลินไท่ซู เราจะยอมไว้ชีวิตเจ้า!”
“วันนี้ราชวงศ์เทพขนนกจะต้องล่มสลาย ไม่มีผู้ใดขวางทางพวกเราได้!”
สามผู้ยิ่งใหญ่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า ร่างกายปลดปล่อยออร่าศักดิ์สิทธิ์ท่วมท้น แววตาเปล่งประกายความละโมบยิ่ง!
“หากพวกท่านคิดทำลายราชวงศ์เทพขนนกก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”
ขณะมองสามผู้ยิ่งใหญ่ตรงหน้า หลัวชิงเซียนก็เช็ดเลือดที่มุมปากออก ดวงหน้าพิลาสล้ำเผยความเด็ดเดี่ยวคล้ายกับยอมละทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
ชิ้ง!
นางเหยียดมือออก กระบี่เทพขนนกถูกดึงออกมาอีกครั้ง
“มาสู้กันอีกครั้ง!”
ตู้ม!
หลัวชิงเซียนควบแน่นพลังครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์อีกครั้ง ก่อนจะสับฟันเข้าใส่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามตรงหน้า
“ฮ่า ๆๆ เอาล่ะ ย่อมได้! ในเมื่อเจ้ายืนกรานที่จะแสวงหาความตาย ข้าก็จะทำให้เจ้าสมหวังเอง!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ สามผู้ยิ่งใหญ่ไม่คิดเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายยอมจำนนอีกต่อไป จิตสังหารเยือกเย็นและไร้ความปรานีปรากฏออกบนใบหน้าชัดเจน
หลังจากนั้นพวกเขาก็เรียกอาวุธเทพออกมาอีกครั้งเพื่อสัประยุทธ์กับหลัวชิงเซียน
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
บังเกิดเสียงกัมปนาทราวกับมีเทพเจ้าสายฟ้าวิ่งไปมาในอากาศ พลังงานท่วมท้นเปล่งประกายไร้สิ้นสุด เพียงชั่วครู่คล้ายกับว่าถึงคราวโลกจะล่มสลาย
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสามผู้ยิ่งใหญ่ หลัวชิงเซียนย่อมเสียเปรียบ ยามร่างของนางกระเด็นลอยกลับ ทุกครั้งพลันต้องบ้วนโลหิตคำโตเพื่อจ่ายให้กับพลังงานที่ใช้ออกไป!
ในการต่อสู้คราวนี้ นางไม่มีหนทางที่จะเอาชนะได้ แต่… นางไม่คิดถอย!
เพราะเบื้องหลังของนางคือผู้คนในราชวงศ์เทพขนนกนับร้อยล้าน!
“องค์จักรพรรดินี พวกเราจะยืนหยัดช่วยเหลือท่าน!”
เมื่อเห็นว่าหลัวชิงเซียนหลั่งโลหิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างเผยสีหน้าเจ็บปวด ปราชญ์ยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่นำโดยขันทีเว่ยล้วนเจ็บปวด ดวงตาของจักรพรรดิเก้ามังกรรื้นไปด้วยน้ำตา พวกเขาไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป เวลานี้ทุกคนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลัวชิงเซียน
“หยุด!”
เมื่อเห็นว่าทุกคนทนไม่ไหว หลัวชิงเซียนจึงร้องห้ามทั้งหมดในทันที
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ในเวลานี้ทั้งสี่เข้าปะทะอย่างดุเดือดกันอีกครั้ง แล้วพลังอันน่าพรั่นพรึงก็ถูกพัดสลายหายไป ท่ามกลางเสียงคำรามกึกก้อง ปราชญ์ยุทธ์ที่พยายามจะเข้าร่วมการต่อสู้ถูกทุบตีอย่างรุนแรง พวกเขาล้มลงในเสี้ยวพริบตาพร้อมกับบ้วนโลหิตคำใหญ่ออก… ทุกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส!
การต่อสู้ของระดับครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์น่าหวาดกลัวเกินไป พวกเขาไม่อาจต้านทานได้แม้จะมีพละกำลังเต็มเปี่ยม!
“ไอ้บัดซบ!”
“เราควรทำอย่างไรดี?”
“จักรพรรดินีของข้าคิดต่อสู้จนตัวตาย เราทำได้เพียงยืนเฉยอย่างนั้นหรือ!”
ทุกคนเริ่มกระวนกระวายใจ
ทว่าในเวลานี้เอง…
“นี่คือค่ายกลเทพสงคราม อาจจะถ่วงเวลาได้สักครู่หนึ่ง ข้า… จะออกมาในอีกไม่ช้า!”
ร่างของผู้พิทักษ์สุสานแข็งทื่อ เสียงของหนิงฝานดังขึ้นในใจของเขาพร้อมกับอักขระบางอย่างปรากฏขึ้น
ขณะเดียวกัน เสียงและข้อความเดียวกันก็ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของเจ็ดมหาจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ บรรพชนทั้งสิบแห่งราชาศักดิ์สิทธิ์ ผู้นำแห่งร้อยอาณาจักรเล็ก ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนได้รับข้อความเช่นเดียวกัน!