ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 113 ข้าคือจวินซ่าง ขอบเขตเทพยุทธ์

ตอนที่ 113 ข้าคือจวินซ่าง ขอบเขตเทพยุทธ์

สิ้นเสียงนั้น หนิงฝานพลันเดินออกมาจากความว่างเปล่า ร่างของเขาปรากฏตรงหน้าหลัวชิงเซียน

ชายหนุ่มสวมใส่เสื้อคลุมเรียบง่ายและสะอาดสะอ้าน ขณะที่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง

“สามี เจ้ามาแล้ว!”

เมื่อเห็นว่าหนิงฝานปรากฏตัว ใบหน้าของหลัวชิงเซียนเผยความสุขออกมาทันที แต่แล้วนางก็รีบกล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า “สามี! รีบกลับไปเร็วเข้า! เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา!”

ในสายตาของนาง หนิงฝานคือปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นแรกมาโดยตลอด แม้เวลานี้เขาจะไม่ต้องคำสาปอมตะ แต่เขาก็คงทำได้เพียงเข้าสู่สวรรค์ขั้นที่สอง แล้วเช่นนี้จะสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ของระดับครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ได้อย่างไร!

หนิงฝานหันมองหลัวชิงเซียน นางเกือบกล่าวถูกต้อง…

ฉับพลันนั้น ผู้พิทักษ์สุสานที่อยู่ด้านข้างคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าหนิงฝาน!

ตึง! ตึง! ตึง!

เมื่อผู้พิทักษ์สุสานเคลื่อนไหว ปราชญ์ทั้งสองแห่งโลกันต์ จิ้งจอกเก้าหาง จักรพรรดิทั้งเจ็ด บรรพชนของราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบ ผู้นำแห่งร้อยอาณาจักรเล็ก และปราชญ์ยุทธ์คนอื่น ๆ ต่างคุกเข่าลงต่อหน้าหนิงฝานอย่างพร้อมเพรียง!

“ยินดีที่ได้พบนายท่านจวินซ่าง!”

เพียงชั่วพริบตา ภายใต้สายตาตื่นตระหนกของผู้คนนับไม่ถ้วน เหล่าปราชญ์ยุทธ์ล้วนเปล่งเสียงเคารพ และเสียงนั้นก็ดังกึกก้องไปทั่วหล้า!

“หา!?”

“ว่ากระไรนะ?!!!”

เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนหรือขันทีเว่ย จักรพรรดิมังกรทั้งเก้า และคนอื่น ๆ ภายในราชวงศ์เทพขนนก ร่างกายของทุกคนแข็งค้างในบัดดล

หนิงฝาน?

จวินซ่าง?

ผู้คนนับไม่ถ้วนหันไปจับจ้องชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว

สำหรับหนิงฝาน พวกเขาทราบดีเสมอว่าอีกฝ่ายต้องคำสาปอมตะ จึงได้ถูกเรียกขานว่าราชบุตรเขยผู้ไร้ประโยชน์

“สามี… เจ้า…”

ในเวลานี้ ดวงตางดงามของจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนเปล่งประกายด้วยความคาดไม่ถึง

เมื่อได้มองภรรยาของตนเต็มตา หนิงฝานพลันเผยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะยอมรับว่า “อืม ข้าคือ… จวินซ่าง!”

สวรรค์!

ผู้คนทั้งหมดต่างตกอยู่ในความโกลาหลทันทีเมื่อได้ยินคำสารภาพของชายหนุ่ม

ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อนเลยว่า จวินซ่างผู้ลึกลับที่สามารถปราบจักรพรรดิทั้งเจ็ด ต่อสู้กับบรรพชนทั้งสิบ และยังสยบร้อยอาณาจักรเล็กได้… ผู้ที่คอยช่วยเหลือราชวงศ์เทพขนนกให้รอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งแล้วครั้งเล่าคือ… ราชบุตรเขยหนิงฝาน!

“สามี? จวินซ่าง!”

ดวงตางดงามของจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนจับจ้องเขาอย่างไม่วางตา

ในเวลานี้ อารมณ์ของนางราวกับถูกย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่นางทราบตัวตนของเซียนกระบี่หนิงเมื่อครั้งอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน!

ตื่นตระหนก! นี่คือความประหลาดใจที่นางไม่อาจระงับลงได้!

หลังจากตกตะลึงไปชั่วขณะ กลุ่มคนจากราชวงศ์เทพขนนกคนอื่น ๆ นำโดยขันทีเว่ย จักรพรรดิเก้ามังกร ทั้งหมดคุกเข่าลงต่อหน้าหนิงฝานทันที

แม้แต่ชาวเมืองหลายร้อยล้านคนภายในเมืองเทพขนนกก็ยังคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง

“นายท่านจวินซ่าง ข้ายังคาดหวังว่าท่านจะช่วยเหลือราชวงศ์เทพขนนกให้รอดพ้นหายนะ!”

“นายท่านจวินซ่าง เวลานี้คงมีเพียงท่านที่จะช่วยเหลือราชวงศ์เทพขนนกได้!”

“นายท่านจวินซ่าง โปรดช่วยเหลือราชวงศ์เทพขนก!”

“…”

ทุกคนต่างเปล่งเสียงเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ

จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนพ่ายแพ้ และปราชญ์ยุทธ์ทั้งหมดไม่อาจต่อสู้ได้ สถานะของหนิงฝานในนามของจวินซ่างจึงกลายเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา!

“ลุกขึ้นเถิด วันนี้ข้าออกจากการปิดด่านแล้ว นั่นหมายความว่าข้าย่อมพร้อมที่จะปกป้องราชวงศ์เทพขนนก!” หนิงฝานกล่าวคำหนักแน่นและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

“ฮ่า ๆๆ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สามผู้ยิ่งใหญ่พลันเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะเยาะทันที

“เจ้าเป็นผู้ใด? ถึงคิดอยากจะปกป้องราชวงศ์เทพขนนก?”

“จวินซ่างงั้นหรือ? ช่างหาญกล้าหยิ่งยโสต่อหน้าพวกเรา!”

“ฮ่า ๆ! ต่อให้หลินไท่ซูจะฟื้นคืนชีพกลับมา ก็ไม่สามารถปกป้องราชวงศ์เทพขนนกมิให้ล่มสลายได้!”

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ทันทีที่กล่าวจบ สามผู้ยิ่งใหญ่ก็ปลดปล่อยลำแสงศักดิ์สิทธิ์สามดวงฉีกผ่านอากาศพุ่งตรงเข้าหาหนิงฝานทันที

“สามี ระวัง!”

หลัวชิงเซียนร้องออกมาด้วยความกังวล แม้นางจะทราบว่าหนิงฝานคือจวินซ่าง แต่นางไม่รู้ว่าหนิงฝานจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของสามผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้หรือไม่

ทว่า…

หนิงฝานเพิกเฉยต่อลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม ชายหนุ่มเพียงหันไปยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับหลัวชิงเซียน “ภรรยา อย่าได้กังวลไป และอย่าได้ลืมเลือนที่ข้าบอกว่า ข้าจะทำให้เจ้าประหลาดใจเมื่อข้าออกจากการฝึกฝน!”

“ประหลาดใจ?”

หลัวชิงเซียนสับสน นามของจวินซ่างยังไม่ประหลาดใจพออีกหรือ? ยังมีสิ่งใดให้นางประหลาดใจอีก?

แต่ก่อนที่นางจะทันได้กล่าวคำ หนิงฝานก็หันกลับมา พร้อมแววตาฉายแววคมปลาบ!

ตู้ม!

ทั่วทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านขึ้นมา พลังศักดิ์สิทธิ์แห่งขอบเขตเทพยุทธ์พลันปะทุออกจากกาย กลิ่นอายอันน่าพรั่นพรึงปรากฏต่อหน้าทุกคน ราวกับมีมังกรศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นตัวอยู่ในร่างกายของชายหนุ่ม!

เพียงพริบตาเดียว พลังศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ภายใต้พลังศักดิ์สิทธิ์ ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สามดวงที่จู่โจมเข้ามาต่างกระจัดกระจายออกไปในความว่างเปล่า และสูญสลายหายไปในพริบตา!

พรึ่บ!

เวลานี้ พลังขอบเขตเทพยุทธ์ของหนิงฝานถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ร่างของเขายืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางอากาศราวกับเทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ ทั้งสง่าผ่าเผยและเคร่งขรึม!

“เอ๊ะ!”

“นี่คือ… ขอบเขตเทพยุทธ์!!!”

“เจ้าอยู่ในขอบเขตเทพยุทธ์ในตำนาน!!!”

เห็นพลังของหนิงฝานแล้ว สามผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเมินเฉยต่อเขา เวลานี้พลันเผยความประหลาดใจและความตื่นตระหนกทันที!

ขณะที่จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนถึงกับม่านตาหดลง หัวใจเต้นเร็วยิ่ง “ขอบเขตเทพยุทธ์!!! นี่หรือความประหลาดใจที่สามีกล่าวถึง!”

ใบหน้าของทุกคนภายในราชวงศ์เทพขนนกตกตะลึงจนซีดขาว

“โอ้! ขอบเขตเทพยุทธ์! นายท่านจวินซ่างเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์แล้ว!”

“สวรรค์! จักรพรรดิองค์เก่ายอมแลกอายุขัยหนึ่งวันเพื่อเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ ทว่าเวลานี้นายท่านจวินซ่างกลับเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์อย่างแท้จริง ซ้ำแล้วอายุของเขายังน้อยนิด พรสวรรค์นี้…ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!”

“ความแข็งแกร่งของจวินซ่างสามารถขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งเทพขนนกได้โดยสมบูรณ์แล้ว!”

“สัตว์ประหลาด! เขาคือสัตว์ประหลาดในตำนาน!”

“พลังศักดิ์สิทธิ์ของจวินซ่าง!”

“จวินซ่างเป็นผู้อมตะที่แท้จริง!”

“…”

ขณะนี้ผู้คนกว่าหลายร้อยล้านคน หรือแม้แต่กองทัพทหารทั้งหมดทั้งในและนอกเมืองเทพขนนก ต่างพูดคุยกันอย่างเดือดพล่าน

“บัดซบ!”

“ข้าไม่เชื่อ!”

“ผู้เยาว์เช่นเจ้าจะเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ได้อย่างไร!”

สามผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นบ้าคลั่ง เขาไม่เชื่อถือสิ่งที่มองเห็นตรงหน้า

ในฐานะปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม พวกเขาใช้เวลากว่าหลายพันปี แต่ก็ยังห่างไกลจากขอบเขตเทพยุทธ์ที่แท้จริง

มาตอนนี้ ชายหนุ่มอายุเพียงไม่กี่สิบปีกลับสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ที่พวกเขาใฝ่ฝันถึงเสมอได้ นี่เป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามพุ่งทะยานออกด้วยความโกรธ พวกเขาไม่คิดเก็บงำความแข็งแกร่งอีกต่อไป

เงาของมังกรลอยขึ้นสูง พลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพเร้นลับทั้งแปดเพิ่มขึ้น ทั้งเทพหมื่นอสูรก็ยังปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึง นี่คือพลังที่พวกเขาไม่เคยเปิดเผยมาก่อน!

“ง้าวผานอู่ ง้าวทลายนภา!”

“กระจกเทพแปดเร้นลับ กระจกสะท้อนแปดแดน!”

“เจดีย์เทพหมื่นอสูร เจดีย์พิทักษ์ฟ้าดิน!”

หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้นสามครั้ง ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามสังเวยอาวุธเทพในทันที สำแดงพลังทำลายล้างที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา

ง้าวผานอู่คล้ายจะเป็นมังกรสวรรค์ทั้งเก้าร้องคำรน ง้าวที่ยาวกว่าสิบจั้งฉีกสวรรค์โลกาให้แยกออก!

กระจกเทพแปดเร้นลับส่องแสงศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่เปรียบพุ่งผ่านปฐพีและสวรรค์

เจดีย์เทพหมื่นอสูรหมุนขึ้นสู่ท้องฟ้า อสุรกายนับหมื่นที่ดุร้ายไร้ผู้ใดเทียบคำรามจนสวรรค์สั่นสะเทือน

สามผู้ยิ่งใหญ่ผนึกกำลังเพื่อสังหารหนิงฝาน!