ตอนที่ 919 มีอันใดไม่พอใจ
ครั้นสิ้นเสียงถ้อยคำของกู้หมิงเป่า ซ่งอิงถึงกับรู้สึกยอมด้วยความจริงใจ
พูดได้ไม่เลว
การทำไปโดยหวังในบางสิ่งบางอย่าง เช่นนี้จึงจะได้ใช้ชีวิตสุขสบาย ก็เหมือนเช่นตอนนี้ นางรู้สึกสบายตาเป็นพิเศษขณะมองฮั่วเจ้ายวน
“มิใช่ว่าข้าไม่เห็นด้วย เพียงแต่…หากไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เลย ก็ไม่ง่ายเช่นกันหากจะอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต” ซ่งอิงกล่าว
กู้หมิงเป่าหน้าแดงเล็กน้อย “ก็ใช่ว่าจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเลยนี่เจ้าคะ ก็เพราะรู้สึกว่าพี่ใหญ่ซ่งน่าสนใจมาก เป็นคนประพฤติตัวดีเอาจริงเอาจัง แต่ไม่นึกเลยว่าในความเป็นจริงยังขี้ขลาดหวาดกลัวภูตผีอีกด้วย เมื่อคิดๆ ดูโดยละเอียด ทั่วหล้าในปัจจุบันนี้ คนที่ข้ายอมรับได้มีน้อยมาก ซึ่งพี่ใหญ่ซ่งถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนเจ้าค่ะ”
ซ่งอิงได้ยินถ้อยคำนี้ รู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย
คิดๆ ดูแล้วก็จริงอย่างว่า ตั้งแต่เกิดมา ฮั่วเจ้ายวนก็ถูกกำหนดให้อยู่ในกระดานชะตาชีวิตนาง
ผลสุดท้ายเดินไปถึงครึ่งทาง ฮั่วเจ้ายวนก็หายไปแล้ว อยากจะหาคนอื่นมาแทนที่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน
“หากพวกเจ้าชอบพอกันจริงและต่างฝ่ายต่างยินยอมพร้อมใจ ข้าก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้วเช่นกัน” นางไม่ได้มีความคิดจะพรากคู่รักของใคร ต่อให้ทั้งสองคนไม่ได้ชอบพอกัน แต่หากมีฝ่ายหนึ่งเต็มใจสู้ ฝ่ายหนึ่งเต็มใจยอมรับ นางก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดอีกเหมือนกัน
เมื่อซ่งอิงกล่าวเช่นนี้ กู้หมิงเป่าก็คลี่ยิ้มกว้างทันที
หากนางแต่งงานกับซ่งสวินได้จริงๆ เช่นนั้นต่อไปการที่ซ่งอิงจะลืมนางผู้เป็นสหายคนนี้ก็ไม่ง่ายดายแล้ว นอกจากนี้ การเป็นพี่สะใภ้ของซ่งอิง…ให้ความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก นางเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไม
“เช่นนั้น…อาอิง ท่านรออีกหน่อยค่อยไปเถิดนะ ไม่แน่ว่าจะได้ดื่มสุรามงคลฉลองการแต่งงานให้ข้ากับพี่ใหญ่ซ่ง” กู้หมิงเป่ากล่าวอีกครั้ง
“…” ซ่งอิงรู้สึกเหมือนถูกมีดทิ่มแทงอยู่ในใจ
การเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานเช่นนี้มันไม่เร็วไปหน่อยหรือ
เพียงแต่ว่า ตอนนี้ซ่งสวินเป็นข้าราชการอยู่ที่เมืองหลวง หากต้องการแต่งงาน จะไปจัดที่หมู่บ้านซิ่งฮวาก็คงไม่ดีนัก หากตกลงกันได้แล้วจริงๆ ถึงตอนนั้นตระกูลซ่งอาจจะต้องมาที่เมืองหลวงกันทั้งหมด แน่นอนว่าจะไม่มาก็ได้เช่นกัน ตราบใดที่ตระกูลกู้ไม่ถือสาก็ไม่เป็นไร ขอเพียงดำเนินการครบทั้งหกพิธีกรรม ก็ไม่ต้องกลัวคำครหาใดๆ ทั้งนั้น
กู้หมิงเป่ามาอย่างโศกเศร้า ทว่ากลับไปอย่างมีความสุข
หลังจากกลับไปก็แสดงออกถึงความคิดของตนในทันที
จงกั๋วกงเตรียมใจไว้แล้วเช่นกัน เมื่อได้ยินผลเช่นนี้ก็โมโหจนพรูลมจนหนวดกระดิกยกใหญ่ แต่กลับตำหนิหลานสาวไม่ลง
หลานสาวของเขาผู้นี้มองดูคล้ายว่าอ่อนแอ แต่จริงๆ แล้วนางมีความคิดเป็นของตนเองมาโดยตลอด เรื่องไหนที่ตัดสินใจแล้วก็ไม่มีใครมาเปลี่ยนได้
“เลือกเขาจริงๆ หรือ” จงกั๋วกงถาม
กู้หมิงเป่าพยักหน้า “เจ้าค่ะ เลือกเขาเจ้าค่ะ ไว้วันหลังท่านปู่ช่วยไปคุยกับเขาทีนะเจ้าคะ หากพี่ใหญ่ซ่งไม่ยินยอม…ท่านปู่ก็ใช้อารมณ์สัมผัสใจและใช้เหตุผลทำให้เขาเข้าใจทีนะเจ้าคะ…”
กู้หมิงเป่าน้ำเสียงอ่อนโยนและเผยสีหน้าเขินอาย
จงกั๋วกงเข้าใจได้
ไม่ยินยอมหรือ ยังจะไม่ยินยอมได้อีกหรือ
จงกั๋วกงย่อมรู้สึกว่าหลานสาวของตนเองดีพร้อมทุกด้านอยู่แล้ว มีเพียงนางเท่านั้นที่มีสิทธิ์ไม่ชอบในตัวผู้อื่น ส่วนผู้อื่นไม่มีสิทธิ์รังเกียจนางโดยเด็ดขาด ดังนั้นวันต่อมาเขาจึงนัดเจอซ่งสวินทันที
จงกั๋วกงสื่อให้เห็นถึงความหมายของเขา ทั้งใบหน้าเผยอารมณ์ตั้งหน้าตั้งตารอคอยขณะมองซ่งสวิน เอ่ยถามเขาว่าเตรียมจะมาส่งสินสอดแต่งงานเมื่อไร ซ่งสวินถึงกับงุนงงไปหมดเล็กน้อย
“ส่งสินสอดหรือขอรับ ท่านหมายความว่า…”
“จะหมายความว่าอะไรได้อีก หรือว่าเจ้ามีอันใดไม่พอใจในตัวหลานสาวข้า” จงกั๋วกงกล่าวทันที
ซ่งสวินรีบส่ายหน้าพัลวัน “มิใช่เช่นนั้นขอรับ เพียงแต่ว่า ข้ากับแม่นางกู้…ไม่มี…”
“ข้าได้ยินเป่าเอ๋อร์กล่าวว่าก่อนหน้านี้เจ้านัดหมายนางไปเดินเล่นด้วยกันมิใช่หรือ ตอนนั้นที่ไปเดินเล่นกัน เป่าเอ๋อร์ของข้าก็ถูกคนลักพาตัวด้วยกระมัง” จงกั๋วกงถอนหายใจ “เจ้าเป็นคนเล่าเรียนหนังสือ หากไม่รู้สึกอะไรกับหลานสาวข้าแล้วจะชวนนางออกไปข้างนอกทำไม ตอนนี้เป่าเอ๋อร์ของข้าก็นำของที่เจ้ามอบให้เมื่อตอนนั้นมาให้ข้าแล้วด้วย…”
ซ่งสวินหน้าแดงก่ำในทันที
เขารู้สึกลำบากใจเป็นที่สุด ตอนนั้นเป็นความผิดพลาดของเขาเอง
ตอนที่ 920 เกิดอะไรขึ้น
ซ่งสวินไม่ใช่คนชั่วช้าที่จะไม่รับผิดชอบในความผิดพลาด หลังจากได้ยินคำพูดของจงกั๋วกงในขณะนี้ก็ยืนขึ้นคำนับทันที “เด็กรุ่นหลังอย่างข้าไร้สมบัติติดกาย หากกั๋วกงไม่รังเกียจ ข้าน้อยก็ยินดีสู่ขอคุณหนูเป็นภรรยา ชั่วชีวิตนี้จะมีนางเพียงผู้เดียวและไม่ทำร้ายจิตใจนางโดยเด็ดขาดขอรับ”
จงกั๋วกงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าอย่างพอใจ
แม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ดูลักษณะเหมือนผู้หญิง เพียงแต่ว่าตอนที่พูดจากลับเต็มไปด้วยพลัง จึงน่าจะไม่ใช่คนที่ใจโลเล
“เรื่องนี้ยังต้องให้บิดามารดาเจ้าจัดการ ข้าได้ยินว่าน้องสาวเจ้ากำลังจะไปจากเมืองหลวง ไม่สู้ให้นางอยู่อีกสักระยะ รอจัดงานแต่งของเจ้าเสร็จแล้วค่อยกลับไปพร้อมกับพ่อแม่เจ้า เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร” ปฏิบัติกับคนของตนเอง จงกั๋วกงจึงเผยทีท่าที่ดูอ่อนโยนลงมาก
ซ่งสวินไม่มีความเห็นคัดค้านอันใดในเรื่องนี้ “เรื่องออกจากเมืองหลวงดูเหมือนเป็นผลจากการเจรจาหารือกับฮ่องเต้ เดี๋ยวข้ากลับไปจะถามน้องสาวดูว่าพอจะทำเช่นนั้นได้หรือไม่ขอรับ”
จงกั๋วกงพยักหน้า
ซ่งอิงคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเรื่องนี้จะมีการเจรจากันลงตัวแล้วจริงๆ
ก่อนหน้านี้นางคุยกับซ่งสวินแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้เมื่อซ่งสวินตอบตงลง เช่นนั้นนางก็ทำได้เพียงอวยพร
นางให้อิงต้าซานนำจดหมายพร้อมกับกลับไปที่บ้าน จากนั้นให้รับคนในครอบครัวมา
นางมีเงินเยอะแยะจนไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหน จึงเป็นฝ่ายอาสาทำตัวเป็นผู้ดูแลพี่ชายอย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้นในด้านของสินสอดทองหมั้น นางจึงพร้อมออกให้เต็มกำลัง ทว่าซ่งสวินปฏิเสธยกใหญ่ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะแม้แต่กู้หมิงเป่าก็เข้าข้างนางไม่ว่าถูกหรือผิด
อีกทั้งหลังจากชะตากู้หมิงเป่าเปลี่ยนไป นางก็นิสัยใจคอไม่ห่อเหี่ยวเช่นเมื่อก่อนแล้ว ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะได้รับผลอิทธิพลจากสืออิ๋งหรือไม่ นางจึงไม่เห็นตนเองเป็นคนนอกเลยสักนิดและให้ความสนใจในสมบัติล้ำค่าของนางเป็นพิเศษ
เกือบสองเดือนต่อมา ทั้งตระกลูซ่งก็พากันมาหลายคน
นอกจากผู้เฒ่าซ่งแล้ว ยังมีสองแม่ลูกจากครอบครัวบุตรคนโต ครอบครัวบุตรลำดับที่สามพร้อมลูกๆ ทั้งยังมีซ่งหม่านซานที่พาบุตรชายของเขามาด้วย ล้วนมาถึงกันเป็นที่เรียบร้อย
หร่วนซื่อและซ่งจินซานต่างก็ยิ้มแย้มหน้าบาน พวกเขาภูมิใจเป็นอย่างมาก
ไม่ได้พบกับภูตโสมมานาน ซ่งอิงคิดถึงเขาไม่น้อยทีเดียว โชคดีที่ต่อไปนางจะได้อยู่ในเมืองยงไปตลอด ไม่ต้องห่วงว่าจะทำให้ฮั่วหลินรู้สึกถูกละเลยอีกแล้วเช่นกัน
กู้หมิงเป่าออกเรือน เห็นงานมงคลยิ่งใหญ่มาแต่ไกลๆ
วันนั้นหร่วนซื่อตื่นเต้นมาก แม้กระทั่งซ่งจินซานก็ยังอดตาแดงเรื่อไม่ได้
ความจริงว่ากันตามสถานการณ์ของซ่งสวินในตอนนี้ แม้ว่าเขาไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่เรื่องการเลี้ยงบิดามารดาไม่ใช่ปัญหา หร่วนซื่อและซ่งจินซานเองก็ควรอยู่ในเมืองหลวงให้ซ่งสวินดูแลจึงจะถูก
เพียงแต่หร่วนซื่อและซ่งจินซานทั้งสองคนไม่ได้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเช่นกัน
คู่หนุ่มสาวเพิ่งแต่งงานกันเป็นข้าวใหม่ปลามัน ผู้ใหญ่อย่างพวกเขามาอยู่ด้วยคงไม่เหมาะสมนัก
อีกอย่าง พวกเขาเองก็รู้ตัวดีว่าเป็นผู้มาจากชนบท ด้านการใช้ชีวิตอาจจะไม่ได้เหมือนกับคุณหนูตระกูลกู้ หากอยู่ต่อ จะต้องมีความขัดแย้งบ้างเป็นแน่
ตอนนี้พวกเขายังเคลื่อนไหวได้ แทนที่จะอยู่ในเมืองหลวงที่ไม่คุ้นเคย กลับไปอยู่ที่หมู่บ้านเสียยังดีกว่า ซึ่งก็ยังได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดีไม่แพ้กัน
…
ในวังลับสวรรค์ เหล่าเทพเซียนเห็นดวงชะตาที่เปลี่ยนไป ต่างก็ไม่รู้แล้วว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ชะตากรรมของซ่งสวินผู้นี้ เดิมทีก็มีการเปลี่ยนผันอยู่เรื่อยๆ นี่ยังมีกู้หมิงเป่าเพิ่มอีกคน เมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่ชะตาชีวิตที่พวกเขาจะไปปรับเปลี่ยนได้สุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว ต่อให้มีความคิดอยากจะเปลี่ยน ก็เกรงว่าจะทำอันใดกับกระดานชะตาชีวิตนี้ไม่ได้แล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ ก่อนหน้านี้พวกเขายังจับตาดูกู้หมิงเป่าอยู่ตลอด บัดนี้เมื่อมองดู ปรากฏว่าไอปีศาจบนเรือนร่างของกู้หมิงเป่ามีบ้างไม่มีบ้าง กลับกลายเป็นว่าตามสถานที่อื่นๆ กลับมีปราณพวกปีศาจรวมตัวกันอยู่จำนวนมากแล้ว
พวกเขาจึงรายงานจักรพรรดิสวรรค์ในทันที
เทพเซียนรุ่นเล็กที่ส่งลงไปครั้งนี้นำสมบัติล้ำค่าไปด้วย สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้จะช่วยให้เทพเซียนพ้นภัยและฟื้นฟูสติปัญญาเทพเซียนได้ เพียงแต่หลังจากที่ใช้แล้วจะส่งผลกระทบกับวิญญาณเทพเซียนอยู่บ้าง ดังนั้นโดยทั่วไปจึงเอาออกมากใช้งานน้อยครั้งมาก
แต่ตอนนี้ จะอย่างไรก็จำเป็นต้องใช้ท่านเทพชางเวยที่ลงไปจุติในโลกมนุษย์ตรวจสอบดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกนี้กันแน่