ตอนที่ 917 ชะตากรรมเปลี่ยนแปลง
เมื่อได้รับสิ่งของจากซ่งอิง แน่นอนว่าต้องมอบบางอย่างกลับคืนไปด้วยเช่นกัน
ฮ่องเต้สั่งการในทันที ให้นำตัวฮั่วเจ้ายวนออกมา
ฮั่วเจ้ายวนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นซ่งอิงในห้องตำราของฮ่องเต้ เขามองนางอย่างสับสนเล็กน้อย
“ขุนนางฮั่วเป็นเทพกลับชาติมาเกิดจริงหรือ” ฮ่องเต้ถามด้วยความสงสัย จากนั้นดวงตาทั้งคู่จับจ้องมองดูอย่างเพ่งพินิจ
พระชายาอ๋องฮั่วผู้นี้กล่าวไว้แล้วว่าฮั่วเจ้ายวนเป็นเทพกลับชาติมาเกิด มีสถานะสูงส่งมากในโลกเทพ
หากไม่เป็นเช่นนี้ เขาก็คงไม่ตอบตกลงอย่างง่ายดายเพียงนี้
แน่นอนว่าจริงๆ แล้วเขาก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน เพียงแต่ในแง่การแสดงภายนอก เขาไม่อยากยอมรับก็เท่านั้นเอง
ฮั่วเจ้ายวนเบิกตาโตชั่วขณะ จากนั้นกล่าว “ทูลฝ่าบาท ใช่พะย่ะค่ะ”
“อ้อ ได้ยินพระชายาอ๋องเอ่ยว่าตอนนี้เจ้าจำเรื่องราวตอนเป็นเทพเซียนได้แล้ว ไม่ทราบว่า…พอจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่” ใครเล่าไม่อยากเป็นเทพเซียน เขาซึ่งเป็นฮ่องเต้ แน่นอนว่ายิ่งอยากจะเป็น
แต่เขารู้เช่นกันว่า เมื่อกลายเป็นเป็นเซียนแล้วก็จะเป็นฮ่องเต้ไม่ได้แล้ว
นอกจากนั้น ตอนที่พระชายาอ๋องผู้นี้พูดคุยสัพเพเหระกับเขายังบอกอีกว่าการเป็นเซียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เพราะเกณฑ์การจะเป็นเทพเซียนสูงมากเป็นพิเศษ
“เรื่องโลกเทพ…ไม่ต่างจากในภาพวาดเท่าไรพะย่ะค่ะ ตอนนี้กระหม่อมยังฟื้นความจำได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น…จึงอธิบายให้พระองค์ฟังไม่ได้พะย่ะค่ะ” ท่าทีฮั่วเจ้ายวนสุภาพมาก
ฮ่องเต้พยักหน้า อันที่จริงเขาก็ไม่ได้หวังให้ฮั่วเจ้ายวนบอกเล่าเหตุผล หรือสาเหตุออกมาจริงๆ เช่นกัน
“ข้าบอกกับฮ่องเต้ไว้แล้วว่าต่อจากนี้เจ้าจะไม่ดำรงตำแหน่งขุนนางแล้ว และเจ้าจะกลับไปเมืองยงกับข้า ข้าหาเลี้ยงเจ้าเอง” ซงอิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“…” ฮั่วเจ้ายวนเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นสีหน้าก็แดงเรื่อ “ตกลง”
ฮ่องเต้เห็นว่าเขาไม่ลังเลอ้อมค้อมเช่นนี้ จึงรู้สึกว่าเขาคงไม่ได้เสียดายพวกเรื่องอำนาจอิทธิพลที่ว่านี้เช่นกัน
คนผู้หนึ่งเกิดมาภายใต้สกุลฮั่ว ผู้หนึ่งปีศาจเข้าครอบงำร่างกาย หากมีความคิดก่อกบฏแม้เพียงน้อยนิด เช่นนั้นตอนนี้โลกนี้ก็น่าจะเปลี่ยนผู้ปกครองไปแล้วกระมัง
เขาถึงกับไม่รู้ว่าควรชมว่าตนเองโชคดีหรือไม่
ฮั่วเจ้ายวนเขียนหนังสือพับของการลาออกจากตำแหน่งขุนนาง ณ ตรงนั้น จากนั้นให้ฮ่องเต้อนุมัติ แล้วเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เดิมทีฮ่องเต้อยากจะพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบสักหน่อย แต่เมื่อมองไปยังซ่งอิงแล้วก็คิดว่าช่างเถิด เขาจึงโบกไม้โบกมือ ส่งสองคนจากไป
และในชั่วพริบตานี้เอง กระดานดวงชะตาของฮั่วเจ้ายวนบนสวรรค์ก็เปลี่ยนไปทันที
ผู้คนในราชวังลับสวรรค์ต่างก็ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
เมื่อไม่มีบรรดาศักดิ์ขุนนางตลอดจนความมั่งคั่งรุ่งเรืองและมีเกียรติแล้ว นี่จะไปคลุกคลีกับคุณหนูกู้ด้อย่างไรอีก!
ไม่สิ คุณหนูกู้ก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน!
ตอนที่เกิดเห็นได้ชัดว่ากำหนดให้เป็นดวงดาวโดดเดี่ยวไร้คู่ครอง เหตุใดตอนนี้จึงไม่เหมือนเดิมแล้ว อีกทั้งกู้หมิงชูผู้นี้ก็ถึงกับอายุขัยเพิ่มขึ้นด้วยหรือ!
พวกเขาย่อมไม่รู้เป็นธรรมดา ซ่งอิงแอบสั่งให้ปีศาจตัวเล็กๆ สองตัวที่บินได้คอยจับตาดูอยู่ที่จวนจงกั๋วกงไว้
หากเทพเซียนต้องการให้กู้หมิงชูและจงกั๋วกงตายโดยเร็ว เช่นนั้นนางก็ต้องให้พวกเขาใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายดี และทำให้กู้หมิงเป่าได้รับความชื่นชอบตลอดชีวิต จะต้องไม่เผชิญชีวิตที่พังทลายไปเด็ดขาด!
การตายของกู้หมิงชู แน่นอนว่าเดิมทีแล้วเป็นเรื่องที่องค์ชายใหญ่กระทำ ตอนนี้ซ่งอิงปรากฏตัว องค์ชายใหญ่จึงจบเห่
พวกซ่งอิงทั้งสองคนเพิ่งจะจากไป ฮ่องเต้ก็มีคำสั่งให้จับกุม ‘นักบวชสมณศักดิ์สูง’ ที่จวนขององค์ชายใหญ่มาแล้วทรมานอย่างสาหัส
นักบวชสมณศักดิ์สูงผู้นั้นตื่นตระหนกเช่นกัน เขาทนความเจ็บปวดไม่ได้ สุดท้ายแล้วก็สารภาพออกมาทั้งหมด หลังจากบอกเล่าจบก็ถูกตัดหัวทันที ต่อจากนั้น องค์ชายใหญ่ก็ถูกตันสินว่ามีความผิด ลอบเลี้ยงปีศาจและเตรียมการกระทำความผิด จึงต้องถูกลดฐานันดรเป็นคนธรรมดาและถูกคุมขังชั่วชีวิต
ในเมื่อผู้ร้ายเภทภัยบ้านเมืองไม่อยู่แล้ว ชะตาทั้งครอบครัวจงกั๋วกงไม่เปลี่ยนไปสิจึงจะแปลกน่าดู
ซ่งอิงไม่ได้รีบร้อนกลับเมืองยงเช่นกัน อย่างไรเสียนางก็ต้องจัดการบางเรื่องเสียก่อน
ฮั่วเจ้ายวนให้คนปล่อยตัวเสิ่นชิงลั่ว แต่เสิ่นชิงลั่วเพิ่งกลับไป ยังไม่ทันได้ล้างแค้นก็ถูกส่งไปยังสถานที่ที่องค์ชายใหญ่ถูกคุมขัง
ไม่ใช่ว่าฮ่องเต้ไม่รักบุตรชายของตน
ตอนนี้หลังจากเขากลายเป็นสามัญชน ก็หย่าร้างกับพระชายาเอกและพระชายารอง เหล่าสนมพวกนั้นล้วนถูกส่งตัวกลับบ้านเช่นกัน ข้างกายไม่มีคนคอยดูแล ในเมื่อเขาชอบเสิ่นชิงลั่วนักหนาก็ให้นางมาคอยดูแลเสียเลย
ตอนที่ 918 เป็นพี่สะใภ้ท่านตกลงหรือไม่
เมื่อองค์ชายใหญ่ล้มลง สถานการณ์ในเมืองหลวงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แน่นอนว่าผู้คนจำนวนมากล้วนตะลึงงัน โดยเฉพาะพวกขุนนางที่อยู่ข้างองค์ชายใหญ่ ยังไม่ทันได้ตอบสนองอันใดองค์ชายใหญ่ก็ถูกจับตัวไปกุมขังแล้ว
แม้อยากจะกู้สถานการณ์ แต่ก็ชัดเจนมากว่าฮ่องเต้ละทิ้งองค์ชายใหญ่แล้ว ไม่เพียงแต่ถูกขัง ทั้งยังถูกถอดยศเป็นสามัญชน ไม่เหลือโอกาสไว้ให้พวกเขาแม้เพียงนิดเดียว!
พวกเขาทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมว่าองค์ชายใหญ่เป็นโอรสที่ถูกทอดทิ้ง
เพียงแต่ว่าเรื่องที่องค์ชายใหญ่ถูกเกลียดชังเป็นเพราะฮั่วเจ้ายวนนั้นไม่ใช่ความลับ ดังนั้นในราชสำนักพลันเงียบเชียบไปในชั่วพริบตา อีกอย่าง ตอนนี้เป็นที่ยืนยันแล้วว่าทั้งเรื่องปีศาจจิ้งจอกและเรื่องนักบวชสมณศักดิ์สูงล้วนเป็นฝีมือขององค์ชายใหญ่ ชื่อเสียงของฮั่วเจ้ายวนในราชสำนักจึงถูกกู้คืนมาในทันที และแน่นอนว่าเหตุผลที่ทำให้พวกเขาสนใจในตัวฮั่วเจ้ายวนนั้นก็คือ…เขาลาออกแล้ว!
ไม่ต้องการยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ต้องการตำแหน่งหน้าที่ ต้องการแค่ไปเป็นคนธรรมดาที่เมืองยง!
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนตกใจจนอ้าปากค้าง
ทว่าทุกคนไม่สะดวกจะถามถึงสาเหตุของเรื่องราวนี้เช่นกัน
ตอนนี้ฮั่วเจ้ายวนติดตามซ่งอิงไปอยู่ในหมู่บ้านสวนชานเมืองแล้วเช่นกัน
ปัจจุบันเขาไม่มีบรรดาศักดิ์อันใดแล้ว ฮั่วเจ้ายวนเองก็ออกจะยังมึนงงอยู่เล็กน้อย เพียงแต่ว่าเมื่อมองซ่งอิง เขาก็รู้สึกใจสงบลงไปมาก
ในเวลานี้เอง ตรงหน้าซ่งอิงก็มีจิ้งจอกขาวนอนแข็งทื่ออยู่ตัวหนึ่ง
จิ้งจอกขาวตัวนี้ไม่มีลมหายใจแม้แต่น้อยแล้ว
ซ่งอิงฆ่าจิ้งจอกขาวตัวนั้น จากนั้นก็โยนเข้าไปในช่องว่างระหว่างมิติ ทำเป็นปุ๋ยสำหรับต้นวัฏจักร
นางไม่ได้มีกิจการอยู่ทางด้านเมืองหลวงมากมาย ซ่งอิงจึงปล่อยปีศาจน้อยสองสามตัวคอยอยู่จัดการที่ทางด้านนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงอันใดที่ผิดปกติก็จะได้สะดวกแก่การรายงาน
เพียงแต่ว่าตามที่นางคำนวณไว้ ความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างต่ำ
นอกเสียจากว่าสมองของฮ่องเต้ไร้รอยหยัก ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางต่อต้านปีศาจเป็นแน่
เช่นเดียวกับเทพเซียนบนสวรรค์…
เหล่าเทพเซียนปฏิกิริยาช้ามาก ปล่อยเทพเซียนรุ่นเล็กลงมาทีละคนเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี ต่อให้มีเทพเซียนรุ่นใหญ่ปรากฏกาย ซ่งอิงก็คิดว่าตนเองจะไม่พ่ายแพ้เป็นแน่ นอกจากนี้ในโลกของเทพยังมี ‘ผู้ทรยศ’ อยู่ในกำมือนาง เหมาะแก่การจะจับมาเป็นตัวประกันนั้น
หลังจากจัดการทรัพย์สินกิจการแล้ว ซ่งอิงก็เตรียม ‘ร่วมมือ’ กับฮั่วเจ้ายวนเพื่อ ‘กลับไปเก็บตัว’
กู้หมิงเป่าได้ยินว่าซ่งอิงจะไปแล้วจึงร้องไห้ยกใหญ่
“พี่ซ่ง ท่านไปแล้วข้าจะทำอย่างไรเล่า” กู้หมิงเป่าเช็ดน้ำตาที่รินไหลลงมา “ข้าไปกับท่านด้วยได้หรือไม่”
“ข้าน่ะไม่ติดอะไรหรอก แต่พี่ชายเจ้าจะยอมหรือไม่ ข้าไม่รู้” ซ่งอิงหัวเราะ “เจ้าอยู่ที่นี่หาชายสักคนแต่งงานด้วยเสีย จะคอยแต่ติดตามข้าก็ไม่ใช่เรื่องเช่นกันนี่”
กู้หมิงเป่าทำเสียงฮึดฮัด นางรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย
ทุกวันนี้ซ่งอิงใช้ชีวิตอย่างอิสระมาก ดูเหมือนคนที่แต่งงานแล้วแต่สามีไม่สนใจ จะไปไหนต่อไหนก็ได้ ดีกว่าเหล่าบุตรในตระกูลร่ำรวยหลายคนในเมืองนี้นัก
“พี่ซ่ง ข้าเป็นพี่สะใภ้ท่านดีหรือไม่” จู่ๆ กู้หมิงเป่าก็กล่าวขึ้นมา
ซ่งอิงแทบสำลัก “ว่าอะไรนะ”
“ให้ข้าเป็นพี่สะใภ้ท่าน” กู้หมิงเป่าดวงตาทอประกาย “ข้าเองก็ไม่รู้ทำไม แต่อยากเป็นคนครอบครัวเดียวกับท่านมาก อีกทั้งช่วงนี้ข้าเอาแต่รู้สึกว่าพี่ใหญ่ซ่งเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างน่าสนใจมาก”
“…” ซ่งอิงเบิกตาโตด้วยความตกใจชั่วขณะ
“พี่ซ่ง ท่านคงไม่คัดค้านใช่หรือไม่ หากท่านไม่คัดค้าน อีกเดี๋ยวข้าจะไปหาท่านปู่ของข้า ให้เขาช่วยพูดให้” กู้หมิงเป่ากล่าวอีกครั้ง
นางครุ่นคิดหลายรอบ ท้ายที่สุดก็ยังคิดว่าซ่งสวินเหมาะสมที่สุดแล้ว
เขาเป็นคนมีความสามารถ หน้าตาก็ดี พื้นฐานต้นตระกูลไม่ได้ร่ำรวยอู้ฟู่ ไม่ต้องกังวลว่าตนเองจะถูกรังแก ที่สำคัญที่สุด ซ่งสวินเป็นคนใสสะอาดมาก เขาอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ ไม่มีสาวใช้แม้แต่คนเดียว อีกอย่าง เขาเองก็มีจิตใจมุ่งมั่น คำนวณดูแล้ว พวกเขาช่างเป็นคู่สวรรค์สรรค์สร้างจริงๆ!
“เจ้าไม่สนหรือว่าเขาจะหวังอย่างอื่นจากเจ้าด้วย” ซ่งอิงรู้สึกว่าสมองของกู้หมิงเป่าไม่ค่อยปกติเท่าไร
“ข้าเองก็มีหวังอย่างอื่นจากเขาเช่นกัน! พี่ซ่ง เรื่องการแต่งงานนี้ หากไม่หวังอะไรจากอีกฝ่ายเลย เช่นนั้นการใช้ชีวิตจะมีความหมายอะไรเล่า”