สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – บทที่ 291 หยอกล้อ

บทที่ 291 หยอกล้อ

สายตา​ของ​เสี่ยว​จิ้ง​คง​จับจ้อง​ไป​ที่​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ราวกับ​กำลัง​มอง​คน​สติ​ฟั่นเฟือน​ ​“​ไก่​น้อย​…​”

พอ​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​เอ่ย​จบ​ ​เขา​ก็​เพิ่ง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เขา​ไม่​ควร​พูด​ออก​ไป​ ​ไม่เช่นนั้น​เจ้าตัว​เล็ก​ต้อง​เข้าใจผิด​แน่ๆ​

และ​แล้วก็​เป็น​อย่างนั้น​จริงๆ​

“​เงียบ​!​ ​ไม่ต้อง​พูด​ต่อ​แล้ว​!​”​ ​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ผวา​ยิ่งกว่า​ตอน​ไป​ออกรบ​เสียอีก

เสี่ยว​จิ้ง​คง​จึง​ต้อง​ยอม​เงียบเสียง​ลง

โธ่​ ​ก็ได้

พลาง​คิด​ ​โลก​ของ​ผู้ใหญ่​นี่​มัน​ช่าง​ซับซ้อน​จริงๆ​ ​นอกจาก​จะ​ตั้งชื่อ​แปลก​ๆ​ ​แล้ว​ ​ยัง​เอา​หมู​เห็ด​เป็ด​ไก่​มา​พ่วง​ด้วย​อีก​!

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ถอนหายใจ​โล่งอก

สักพัก​เสี่ยว​จิ้ง​คง​เริ่ม​เอา​มือ​ไขว้หลัง​ ​ก่อน​จะ​เอียง​หัว​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​แปด​”

จนแล้วจนรอด​ก็​พูด​คำ​นั้น​ออกมา​อยู่ดี

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ ​“​…​!​!​”

คน​อย่าง​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ยอม​เสีย​เลือด​แต่​ไม่ยอม​เสียน้ำตา​ ​ไม่เคย​เกรงกลัว​คม​ดาบ​คม​มีด​ใดๆ​ ​ทั้งนั้น​ ​แต่​เจ้าหัว​เหม่ง​นี่​กลับ​มี​รังสี​อำมหิต​ที่​รุนแรง​กว่า​ฝูง​ม้า​เหล็ก​หรือ​ทหาร​เป็น​พัน​เป็น​หมื่น​นาย​เสียอีก​ ​รู้ตัว​อีกที​ ​เซ​วี​ยน​ผิง​โหวก​็​ดัน​เผลอ​ปล่อยไก่​ตัว​เบ้อเร่อ​ออกมา​เสีย​แล้ว​!

น่ากลัว​ชะมัด​เจ้า​เด็ก​นี่​!

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ผู้​ที่​ทั้ง​ชีวิต​กุม​ชะตา​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​คนอื่น​มาโดยตลอด​ ​บัดนี้​เขา​กลับมา​โดน​เข้า​เสีย​เอง

นี่​สินะ​สิ่ง​ที่​เรียกว่า​ ​กรรม​ใด​ใคร​ก่อ​ ​กรรม​นั้น​คืน​สนอง​อย่างนั้น​หรือ

เสี่ยว​จิ้ง​คงน้อย​ถอนหายใจ​ ​“​เฮ้อ​ ​ที่​เรือน​ข้า​น่ะ​มีลูก​ไก่​เจ็ด​ตัว​แล้ว​ ​ท่าน​จะ​มา​เป็นตัว​ที่​แปด​ไม่ได้​แล้ว​นะ​”

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​นึกในใจ​ ​…​เดี๋ยวก่อน​ ​นี่​เรา​คิดมาก​ไป​สินะ

ด้วย​ความ​ที่​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​เติบโต​มา​ใน​หมู่​โจร​ ​คำพูดคำจา​ของ​เขา​จึง​สกปรก​กว่า​คน​ปกติ​ทั่วไป​ ​แต่​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​การ​ที่มา​บอก​ให้​เขา​ไป​เป็น​ลูก​ไก่​อีก​คน​ก็​ดูจะ​ไม่ได้​คำพูด​ที่​ดี​เท่าไหร่​เลย​นี่​นา​!

ต่าง​อะไร​กับ​การ​ด่า​เขา​ว่า​เป็น​ไอ้​ไก่อ่อน​กัน​!

แม่ทัพ​ทหาร​ผู้ยิ่งใหญ่​อย่าง​เขา​จะ​เป็น​ลูก​ไก่​ไป​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​!

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ได้​แต่​คิด​ว่า​จะ​มาต​่​อล​้อ​ต่อ​เถียง​กับ​เด็กน้อย​ไม่รู้​ประสีประสา​แบบนี้​คงจะ​ไม่ได้​การ​ ​จึง​สูด​หายใจ​ลึก​ๆ​ ​ก่อน​จะ​พูด​กับ​เจ้าตัว​เล็ก​ด้วย​ความ​ใจเย็น​ ​“​ถ้า​ข้า​บอกว่า​ ​ข้า​เป็น​พ่อ​แท้ๆ​ ​ของ​พี่เขย​เจ้า​ ​เจ้า​เชื่อ​ข้า​หรือไม่​”

เสี่ยว​จิ้ง​คง​ขมวดคิ้ว​พลาง​มอง​คนตรง​หน้า​ด้วย​สายตา​กึ่ง​ประหลาดใจ​กึ่ง​เข้าใจ​ ​ก่อน​จะ​พยักหน้า​ ​“​มิน่าล่ะ​”

“​มิน่า​อะไร​”​ ​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​เอ่ย​ถาม

“​มิน่า​พี่เขย​ตัวแสบ​ถึง​ชอบ​สอบ​ได้ที่​โหล่​”​ ​เสี่ยว​จิ้ง​คง​เอา​มือ​ลูบ​คาง

ที่ผ่านมา​เสี่ยว​จิ้ง​คงน้อย​เอ่ย​โทษ​พี่เขย​ตัวแสบ​มาต​ลอด​ว่า​เขา​ไม่​ขยัน​ ​ที่ไหนได้​ ​เป็น​เพราะ​บิดา​ของ​เขา​เอง​ที่​ไม่​ฉลาด​ ​ตัวเอง​เป็น​ไก่​หรือ​เป็น​ลิง​ยัง​ไม่รู้​ตัว​เลย​!

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ ​“​…​”

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​รู้สึก​ราวกับ​หัวใจ​ของ​เขา​เต้น​รัว​นับ​หมื่น​หน​ ​จน​เขา​จำ​ไม่ได้​แล้ว​ว่า​เขา​มาที​่​นี่​เพื่อ​อะไร​ ​ในเมื่อ​ลูกชาย​ของ​เขา​จำ​เขา​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ ​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​เอา​มือ​กุม​อก​และ​เรียก​ฉัง​จิ​่ง​ ​”​แบก​ ​แบก​ข้า​กลับ​จวน​ที​”

ฉัง​จิ​่ง​ ​“​ท่าน​เดิน​ไม่ไหว​หรือ​”

เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​นึกในใจ​ ​ถ้า​ข้า​เดิน​ไหว​ ​ข้า​จะ​เรียก​เจ้า​มาทำ​พระ​แสง​อะไร​!​ ​มา​!​ ​เจ้า​มา​!​ ​เจ้า​ลอง​มา​โดน​เจ้า​เด็ก​นี่​ดูถูก​สิ​!

แต่​ดูเหมือน​ฉัง​จิ​่​งดู​จะ​ไม่​ค่อย​อยาก​กลับ​เท่าใด​นัก​ ​เพราะ​พอ​เขา​เห็น​ลูกแก้ว​กลม​ๆ​ ​บน​พื้น​ ​ก็​เกิด​อยาก​อยู่​ต่อ​เพื่อ​เล่น​ตีลูก​แก้ว

แต่​เขา​ก็​มิ​อาจ​ขัดคำสั่ง​ของ​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ได้

เลย​จำต้อง​พา​เซ​วี​ยน​ผิง​โหว​ออก​ไป​จาก​ตรงนั้น

สักพัก​ ​กู้​เจียว​ก็​เดินทาง​กลับมา​ถึง​เรือน​พอดี

เสี่ยว​จิ้ง​คง​พอ​เห็น​เจียว​เจียว​เดิน​เข้ามา​ ​ก็​ทำตา​เป็นประกาย​ ​ก่อน​จะ​วิ่ง​ตึงตัง​เข้าไป​หา​แล้ว​กอด​ขา​ของ​กู้​เจียว​ ​“​เจียว​เจียว​!​ ​ในที่สุด​เจ้า​ก็​กลับมา​เสียที​!​ ​ข้า​คิดถึง​เจ้า​จะ​แย่​แล้ว​!​”

เสี่ยว​จิ้ง​คงน้อย​คลาย​กอด​ ​แล้ว​วิ่ง​ไป​ที่​ด้านหลัง​กู้​เจียว​ก่อน​จะ​คว้า​ตะกร้า​ที่​กู้​เจียว​สะพาย​หลัง​ ​พลาง​เอ่ย​ ​“​เดี๋ยว​ข้า​ช่วย​สะพาย​ให้​เอง​!​”

กู้​เจียว​วาง​ตะกร้า​ลง​ ​ก่อน​จะ​หยิบ​กล่อง​ยา​และ​ของ​อื่นๆ​ ​ออกมา

แม้​จะ​เป็น​ตะกร้า​เล็ก​ๆ​ ​แต่​สำหรับ​เสี่ยว​จิ้ง​คง​แล้ว​ตะกร้า​นี้​ใหญ่​กว่า​ตัว​เขา​เสียอีก

เสี่ยว​จิ้ง​คง​ทั้ง​แบก​ทั้ง​ลาก​เจ้า​ตะกร้า​ยักษ์​ก่อน​จะ​เดิน​เข้า​ห้อง​ไป​อย่าง​ทุ​ลัก​ทะเล

ส่วน​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ก็​กำลัง​ง่วนอยู่กับ​การ​ทำ​โจทย์​คำนวณ​ ​ตั้งแต่​ที่​เขา​ได้รับ​หนังสือ​ที่​สงสัย​ว่า​เป็น​หนังสือ​ของ​แคว้น​เยียน​จาก​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ ​ตราบใดที่​เขา​มี​เวลาว่าง​ ​เขา​จะ​ศึกษา​เนื้อหา​ของ​หนังสือ​เล่ม​นี้​อย่างจริงจัง

เนื่องจาก​ข้อความ​ใน​หนังสือ​เป็น​ภาษา​ที่​แตกต่าง​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​แม้ว่า​จะ​มีคำ​อธิบาย​ประกอบ​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ก็​ยัง​เข้าใจยาก

แต่​อักขระ​แปลก​ๆ​ ​ที่​ใช้​แทน​ตัวเลข​กระตุ้น​ความสนใจ​อย่างมาก​ของ​เขา​ ​และ​สิ่ง​ที่​เรียกว่า​สูตร​ซึ่ง​ระบุ​โดย​อักขระ​และ​สัญลักษณ์​เหล่านั้น​ก็​ทำให้​เขา​ประหลาดใจ​เช่นกัน

เนื่องจาก​ตำรา​การคำนวณ​นั้น​สูญหาย​ไป​ ​แคว้น​เจา​ยังคง​ใช้​วิธีการ​ตัด​วงกลม​เพื่อ​คำนวณ​วงกลม​ ​แต่​ก็​ยาก​ที่จะ​มานั​่ง​ขีดเส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​เป็น​พัน​เป็น​หมื่น​เส้น​เพื่อที่จะ​คำนวณ​พื้นที่​วงกลม​ออกมา​ได้

สูตร​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​เล่ม​นี้​ง่าย​กว่า​มาก​ ​แต่​เขา​ยัง​ไม่ได้​เจาะ​สูตร​เหล่านี้

ขณะที่​เซียว​ลิ่ว​หลัง​กำลัง​ก้มหน้าก้มตา​แกะ​โจทย์​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​ดัง​ขึ้น​ ​เขามอ​งอ​อก​ไปนอก​หน้าต่าง​ ​และ​เห็น​ว่า​เจ้าตัว​เล็ก​กำลัง​เดิน​แบก​ตะกร้า​ของ​กู้​เจียว

ด้านหลัง​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ ​คือ​กู้​เจียว​ที่​กำลัง​เดินตาม​ ​วันนี้​นาง​ใส่​ชุด​สีฟ้า​ราว​อ่อน​กับ​น้ำแข็ง​ ​มอง​เผินๆ​ ​ราวกับ​นก​นางแอ่น​ที่​บิน​อยู่​บน​ท้อง​นภา

ในขณะเดียวกัน​ ​กู้​เจียว​เอง​ก็​เหมือน​จะ​รู้สึก​ได้​ว่า​มี​ใคร​กำลัง​มอง​มา​ ​จึง​หันไป​ทาง​หน้าต่าง​ห้อง​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง

ดวงตา​สอง​คู่​ประสาน​สบ​กัน

กู้​เจียว​คลี่​ยิ้ม​ให้​เขา

สำหรับ​เขา​ ​รอยยิ้ม​นั้น​เฉกเช่น​ดอก​ไห่​ถัง​ที่​บานสะพรั่ง​ท่ามกลาง​สายลม​ยามค่ำคืน​ใต้​แสงดาว​

หัวใจ​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เต้น​ระรัว​ขึ้น​ใน​พริบตา​ ​ก่อน​จะ​รีบ​เบน​สายตา​หนี​แล้ว​หันไป​อ่านหนังสือ​ต่อ

อย่างไรก็ตาม​ ​ดูเหมือนว่า​กู้​เจียว​ไม่​อยาก​แสร้งทำ​เป็น​ว่า​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​จึง​เดิน​มาทาง​หน้าต่าง​ ​วาง​แขน​ข้าง​หนึ่ง​บน​ขอบ​หน้าต่าง​และ​เท้า​แก้ม​ลง​ไป​บน​มือ​ ​“​ทำ​อะไร​อยู่​”

ลม​กลางคืน​พัดมา​จาก​ข้างหลัง​ร่าง​ของ​กู้​เจียว​อย่าง​ช้าๆ​ ​พัด​กลิ่นหอม​จางๆ​ ​ที่อยู่​บน​ร่างกาย​ของ​กู้​เจียว​ ​กลบ​กลิ่น​น้ำหมึก​ของ​พู่กัน​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง

จู่ๆ​ ​เขา​ก็​รู้สึก​รุ่มร้อน​ที่​บริเวณ​หน้าอก

เขา​ยังคง​ก้มหน้าก้มตา​จดจ่อ​กับ​หนังสือ​ ​ไม่​หันไป​ชายตามอง​คนพูด​ทัก​แม้แต่​นิด

“​อ่านหนังสือ​”​ ​เขา​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​นิ่ง​และ​ราบเรียบ

“​อ๋อ​”​ ​กู้​เจียว​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​ก่อน​จะ​ยื่น​ตัว​เข้าไป​ใน​ห้อง

พอ​เห็น​ว่านาง​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​กะทันหัน​ ​ร่าง​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เกิด​แข็งทื่อ

นาง​อยู่​ใกล้​เขา​มาก​จน​ดูเหมือน​แก้ม​ของ​พวกเขา​กำลัง​สัมผัส​กัน

ใน​หัว​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอาแต่​จินตนาการ​ว่านา​งกำ​ลัง​จะ​คว้า​เขา​มา​จูบ​ราวกับ​ลูก​แมว​น้อย​ที่​เพิ่ง​ดื่มเหล้า​เมา​กรึ​่ม​ๆ

จู่ๆ​ ​เขา​ก็​เริ่ม​คอแห้ง

“​เจ้า​…​”​ ​ขณะที่​เขา​คิด​ว่า​กู้​เจียว​จะ​ทำ​แบบ​นั้น​กับ​เขา​ ​แต่​กู้​เจียว​กลับ​แค่​ยื่นมือ​ออก​ไป​แล้ว​หยิบ​กระดาษ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เขา

พอ​หยิบ​กระดาษ​เสร็จ​ก็​กลับ​ไป​ยืน​ที่​เดิม​เหมือนเดิม

จู่ๆ​ ​ลมหายใจ​ที่​แก้ม​และ​ปลายจมูก​เมื่อครู่นี้​ก็​หาย​ไป​ ​แต่​ไม่รู้​เป็น​เพราะอะไร

เขา​ถึง​รู้สึก​เสียดาย​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

จากนั้น​กู้​เจียว​หยิบ​ดินสอ​ออกมา​แล้ว​เขียน​คำ​สอง​สาม​คำ​ลง​บน​กระดาษ​ ​ก่อน​จะ​ทิ้ง​กระดาษ​ไว้​ให้​เขา​พร้อมกับ​ยิ้ม​มุม​ปาก​หนึ่ง​ที​ ​แล้ว​เดิน​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ตามเดิม

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ใช้เวลา​อยู่นาน​สอง​นาน​กว่า​จะ​ให้​หน้า​ของ​เขา​หาย​ร้อน​ ​จากนั้น​จึง​หยิบ​กระดาษ​ของ​กู้​เจียว​ขึ้น​มาดู

เขา​หยิบ​มัน​ขึ้น​มาดู​ ​และ​เห็น​ตัวอักษร​ขนาดใหญ่​สอง​สาม​ตัวเขียน​ไว้​ว่า​ ​‘​อ่าน​ ​หนัง​ ​สือ​ ​กลับ​ ​หัว​ ​นะ​!​’

เขา​อ่าน​มัน​พลาง​นึก​สีหน้า​ที่​กู้​เจียว​มอง​เขา​มา​เมื่อครู่นี้​ ​และ​แล้ว​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ร้อนผ่าว​ขึ้น​อีกครั้ง​…

ระหว่าง​ทานอาหาร​เย็น​ ​แม่นาง​เหยา​และ​กู้​เหยี​่​ยน​มอง​ทะลุ​ท่าที​สงบนิ่ง​อัน​เสแสร้ง​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ได้​ในทันที​ ​มี​เพียง​กู้​เสี่ยว​ซุ่น​เท่านั้น​ที่​จ้องมอง​ที่​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ครู่หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​”​พี่เขย​ ​หน้าเป็น​อะไร​นั่น​ ​แดง​แจ๋​เชียว​”

เจ้า​เด็ก​นี่​ ​พูด​เรื่อง​ไม่​ควร​พูด​อีกแล้ว​สินะ

เซียว​ลิ่ว​หลัง​พยายาม​ตีหน้า​จริงจัง​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ตอบ​ ​“​ข้า​ร้อน​น่ะ​”

“​อ๋อ​”​ ​กู้​เสี่ยว​ซุ่น​พยักหน้า​ ​“​นั่นสิ​นะ​”

แม่นาง​เหยา​ก้มหน้า​แอบ​หัวเราะ

กู้​เหยี​่​ยน​เห็น​ดังนั้น​ก็​รีบ​เอา​ไก่​ยัด​ปาก​กู้​เสี่ยว​ซุ่น​ก่อนที่​เขา​จะ​ถาม​อะไร​ไม่เข้าเรื่อง​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​“​กินข้าว​ของ​เจ้า​ไป​!​”

“​อืม​”​ ​กู้​เสี่ยว​ซุ่น​ปาก​ไม่ว่าง​แล้ว​และ​ลืม​ไป​ในที่สุด​ว่า​ตัวเอง​จะ​ถาม​อะไร​ต่อ

หลังจาก​ทานข้าว​เย็น​กัน​เสร็จ​ ​หลังจากที่​โดน​พี่เขย​ตัวแสบ​บังคับ​ขู่เข็ญ​ ​ในที่สุด​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ก็​ยอมรับ​สารภาพ​เรื่อง​ที่​เขา​โกน​หัว​เพื่อน​ใน​ชั้นเรียน

“​คนที​่​เขา​เลือก​โกน​คน​แรก​ก็​คือ​ฉู่​อวี​้​”​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​เสริม

เสี่ยว​จิ้ง​คง​ไม่รู้​ว่า​ฉิน​ฉู่​อวี​้​เป็น​องค์​ชาย​ ​แต่​กู้​เจียว​รู้

กู้​เจียว​นึกในใจ​ ​โอ้โห​ ​ถึงขั้น​โกน​หัว​องค์​ชายเลย​หรือ​นี่

เซียว​ลิ่ว​หลัง​พอ​เห็นท่า​ที​ของ​กู้​เจียว​ก็​นึกในใจ​ ​เหตุใด​ถึง​ทำ​หน้า​ภูมิ​อก​ภูมิใจ​เช่นนั้น​!​ ​ที่​เจ้า​เด็ก​นี่​โตมา​กร่าง​ขนาด​นี้​เป็น​เพราะ​ใคร​กัน​ล่ะ​!

กู้​เจียว​รับรู้​ได้​ถึง​สายตา​อาฆาต​จาก​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​เดิม​นาง​จะ​เอ่ย​ชม​เจ้าตัว​เล็ก​สักหน่อย​ ​จึง​พลัน​ต้อง​รีบ​คืนคำ​ ​และ​ทำท่า​จริงจัง​หนักแน่น​ใส่​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ ​“​ต่อไป​ห้าม​พก​มีดโกน​ไป​ที่​โรงเรียน​เด็ดขาด​ ​เรา​จะ​โกน​ผม​ให้​ใคร​โดย​ไม่​คิดเงิน​พวกเขา​ไม่ได้​หรอก​นะ​”​

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​“​…​”

ขณะเดียวกัน​ ​เหล่า​คนใน​วัง​เอง​ก็​ตกใจ​ไม่น้อย​กับ​เหตุการณ์​นี้

เหล่า​ขันที​ที่มา​รอ​รับ​องค์​ชาย​ฉิน​ฉู่​อวี​้​ต่าง​พากัน​ตกใจ​เสีย​จน​ลูกตา​แทบ​หลุด​จาก​เบ้า​เมื่อ​ได้​เห็น​หัว​กลม​ๆ​ ​ราวกับ​ลูกชิ้น​ของ​องค์​ชาย

ฉิน​ฉู่​อวี​้​ยัง​ไม่รู้​ตัว​ว่า​คน​รอบ​ๆ​ ​เขา​มี​ปฏิกิริยา​อย่างไร​ ​เขา​ขึ้นรถ​ม้า​กลับ​ไป​ที่​วัง​และ​รอ​อย่างกระตือรือร้น​เพื่อให้​เขา​ฉลาด​ขึ้น​เมื่อ​เขา​ตื่นขึ้น

ที่​ฉิน​ฉู่​อวี​้​เข้ามา​ใน​ชั้นเรียน​เด็ก​พิเศษ​ได้​นั้น​เป็น​เพราะ​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​ไท่​จื่อ​เฟ​ยล​้​วน​ๆ​ ​และ​นั่น​ทำให้​เขา​ตกที่นั่งลำบาก​ทุกครั้งที่​มี​การ​สอบ​ ​เพราะ​เขา​มักจะ​ได้ที่​โหล่​ของ​ห้อง​อยู่​เสมอ

อาจารย์​รู้​ถึง​ตัวตน​ของ​เขา​แม้ว่า​เขา​จะ​ไม่กล้า​พูด​คำหยาบ​ ​แต่​เขา​อายุ​แปด​ขวบ​และ​เป็น​ชาย​ร่าง​เล็ก​ที่​โต​แล้ว​ ​และ​แน่นอน​ว่า​เด็ก​แปด​ขวบ​ก็​คง​ไม่​อยาก​เสียหน้า

ความปรารถนา​ที่จะ​ฉลาด​ของ​เขา​แก​แกร่ง​กว่า​ใครๆ​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ขอ​โกน​ผม​คน​แรก​อย่าง​ไม่​ลังเล

เขา​เดิน​เข้าไป​ที่​วัง​คุน​หนิง​พร้อมกับ​หัว​เหม่ง​ของ​เขา

“​เสด็จ​แม่​!​”

เซียว​ฮองเฮา​กำลัง​เลือก​วัสดุ​ใหม่​เพื่อ​ใช้​เป็น​เครื่องบรรณาการ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​จึง​หันไป​หาด​้วย​รอยยิ้ม​ ​ก่อน​จะ​เป็นลม​ล้ม​ไป

ทันที​หลังจากนั้น​ ​ฮ่องเต้​เอง​ก็​ตกใจ

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ​คนใน​วัง​ทั้งหมด​ก็​รู้เรื่อง

จวง​กุ้ย​เฟย​ถึงขั้น​ต้อง​วาน​คน​ให้​ไป​สืบ​ความ​มา​ว่า​องค์​ชาย​เจ็ด​จะ​ออกบวช

“​ใคร​เป็น​คน​โกน​หัว​ให้​เจ้า​”​ ​ฮ่องเต้​เอ่ย​ถาม​ด้วย​เสียง​โกรธ​กริ้ว

บังอาจ​มา​โกน​หัว​องค์​ชาย​ ​โอหัง​นัก​!

ฉิน​ฉู่​อวี​้​ที่​คิด​ว่า​มัน​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี​ ​เพราะ​เขา​กำลังจะ​ฉลาด​ขึ้น​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่​ปิดบัง​อะไร​:​ ​”​เสี่ยว​จิ้ง​คง​เป็น​คน​โกน​ให้​กระหม่อม​เอง​เสด็จ​พ่อ​!​”

“​ใคร​นะ​”​ ​ฮ่องเต้​ถาม​ย้ำ

“​เสี่ยว​จิ้ง​คง​อย่างไรเล่า​ ​เสด็จ​พ่อ​เคย​เจอ​เขา​แล้ว​นี่​ ​ลืม​แล้ว​รึ​”

น้องชาย​ของ​หมอ​เทวดา​อย่างนั้น​รึ

ฮ่องเต้​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ชัก​โกรธ​ไม่​ลง​ ​“​เขา​ ​เขา​โกน​หัว​เจ้า​ไป​เพื่อ​อะไร​กัน​”

ฉิน​ฉู่​อวี​้​เอ่ย​ตอบ​ ​“​ข้า​ให้​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ทำ​เอง​ ​ข้า​อยาก​ฉลาด​เหมือน​เขา​นี่​นา​!​”

จากนั้น​ฉิน​ฉู่​อวี​้​ก็​อธิบาย​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​อย่างละเอียด​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ดู​สดใส​มาก​ ​เพราะ​เขา​คิด​ว่า​เขา​กำลังจะ​ฉลาด​ขึ้น​แล้ว​!

ฮ่องเต้​เริ่ม​กำหมัด​ ​และ​มุม​ปากของ​เขา​กระตุก

เจ้า​ลูก​โง่​เอ๊ย​!

ส่ง​ให้​ไป​เรียนหนังสือ​ดี​ๆ​ ​แล้ว​ดูซิ​ ​ได้​อะไร​กลับมา

ท้ายที่สุด​ ​ฉิน​ฉู่​อวี​้​ก็​โดน​ไม้เรียว​ของ​เสด็จ​พ่อ​ไป​เต็มๆ​

ฮือ​ ​ฮือ​ ​ฮือ​ ​!​ ​เจ็บ​ชะมัด​!

ที่​ฮ่องเต้​ลงโทษ​เขา​ไม่ใช่​เพราะ​เขา​โกน​หัว​ ​แต่​เป็น​เพราะ​ฮ่องเต้​ลอง​ให้​เขา​ท่อง​การบ้าน​ ​แต่​เขา​กลับ​ท่อง​ให้​ไม่ได้

เจ้าหน้าที่​และ​ผู้ปกครอง​ของ​เจ้าตัว​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ถูก​เสี่ยว​จิ้ง​คง​โกน​หัว​ได้​แต่​รอคำ​ตรัส​ของ​ฮ่องเต้​ ​แต่​ท้ายที่สุด​ ​ฮ่องเต้​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​พวกเขา​จึง​เลือก​ปล่อย​ผ่าน​เรื่อง​นี้​ไป

ว่า​กันตาม​ตรง​ ​หาก​จะ​กล่าวโทษ​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ก็​คงจะ​ไม่​ถูกต้อง​เสียที​เดียว​

แม้ว่า​เสี่ยว​จิ้ง​คงจะ​จงใจ​ทำ​จริงๆ​ ​เด็กโต​อย่าง​พวก​เจ้า​ถูก​เด็ก​สี่​ขวบ​หลอก​นี่​มัน​ใช่​เรื่อง​ที่ไหน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​เอง​ที่​โง่

จาก​ความตกใจ​ ​ความโกรธ​ ​และ​ความอัปยศ​ใน​ครั้งนี้​ ​ทุกคน​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​จากนั้น​พวกเขา​ก็​ค้นพบ​สิ่ง​หนึ่ง​…

ก็​คือ​เสี่ยว​จิ้ง​คง​โกน​หัว​พวกเขา​ได้​เนียน​เกลี้ยง​มาก​เลย​ทีเดียว​!

เนียน​เรียบ​เสมอกัน​ทุก​ระ​เบียด​นิ้ว​บน​หนัง​ศีรษะ​เลย​ก็​ว่า​ได้

นี่​มัน​ ​มืออาชีพ​ชัดๆ​ ​!

“​ลูกชาย​คน​สุดท้อง​ของ​ข้า​อายุ​เกือบ​หนึ่ง​เดือน​แล้ว​ ​ข้า​ต้องการ​หา​คน​มา​โกน​ผม​ให้​”

“​หลานชาย​ของ​ข้า​อายุ​สอง​ขวบ​ ​และ​เขา​ก็​อยาก​จะ​โกน​หัว​ด้วย​ ​แต่​ข้า​หา​อาจารย์​ช่าง​ผม​ที่​เหมาะสม​ไม่​เจอ​ที​”

“​ของ​ข้า​ก็​เป็น​เหมือนกัน​ ​โกน​ไป​โกน​มา​ ​เลือด​ออก​เฉย​!​”

หลังจากที่​เหล่า​ผู้ปกครอง​พากัน​ส่ง​ลูก​เข้ากั​๋​วจื​่อ​เจียน​เสร็จ​แล้ว​ ​ก็​ชวน​คุย​เรื่อง​นี้​กัน​ให้​จ้าละหวั่น

จะ​ว่า​ไป​ ​พอ​มานึ​กดู​ดี​ๆ​ ​แล้ว​ ​มีที​่​ไหน​ที่​เชิญ​เด็ก​สี่​ขวบ​ไป​โกน​ผม​ให้​ที่​เรือน​กัน​เล่า

“​ข้าว​่า​ไม่​เหมาะ​เท่าไหร่​”

“​ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​”

“​ถ้าอย่างนั้น​…​พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​”

“​ไป​กัน​!​”

เช้าตรู่​ของ​วันรุ่งขึ้น​ ​ขณะที่​เซียว​เสี่ยว​จิ้ง​คง​กำลัง​เดิน​เข้ากั​๋​วจื​่อ​เจียน​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​สังเกตเห็น​ถึง​สายตา​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความโลภ​ของ​คน​รอบ​ๆ​ ​กำลัง​จ้อง​มาที​่​เขา

เขา​ไม่เข้าใจ​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น

เซียว​ลิ่ว​หลัง​รีบ​ให้​เขา​เข้าไป​ข้างใน​ก่อน

จากนั้น​คน​กลุ่ม​นั้น​ก็​เดิน​มา​ล้อมรอบ​ที่​เซียว​ลิ่ว​หลัง

เซียว​ลิ่ว​หลัง​คิด​ว่า​ทุกคน​มาหา​เขา​เพื่อ​พูดคุย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​และ​เขา​ก็​พร้อม​ที่จะ​ถูก​วิพากษ์วิจารณ์​จาก​คน​นับ​หมื่น​ ​แต่​พวกเขา​กลับ​เดิน​เข้ามา​แล้ว​พูด​กับ​เขา​ว่า​ ​”​น้องชาย​ของ​เจ้า​รับ​งาน​โกน​ผม​หรือไม่​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​“​…​”

เรื่อง​แบบนี้​ใคร​จะ​ไปรับ​ปาก​ล่ะ

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ได้​แต่​นึกในใจ​ ​เจ้า​เด็ก​นี่​นอกจาก​จะ​เป็นเจ้าของ​เรือน​ใน​เมืองหลวง​แล้ว​ ​หาก​ปล่อย​ให้​ออก​ไป​ทำ​ธุรกิจ​อีก​ ​แล้ว​ตัว​เขา​เอง​ที่​เป็น​พี่เขย​ก็​ยิ่ง​มีส​ถานะ​ต่ำ​เตี้ย​เรี่ย​ดิน​เข้าไป​อีก​น่ะ​สิ

ดังนั้น​ ​สิ่ง​ที่​เสี่ยว​จิ้ง​คง​ไม่รู้​ก็​คือ​ ​อาชีพ​ช่าง​โกน​ผม​ของ​เขา​ต้อง​พังทลาย​ลง​อย่าง​โหดเหี้ยม​โดย​พี่เขย​ตัวแสบ

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท