องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 165 องค์ชายลงประลอง

บทที่ 165 องค์ชายลงประลอง

อาจารย์​มอง​เหล่า​ผู้ตัดสิน​ที่อยู่​ข้าง​เวที​แล้ว​พยักหน้า​ให้​ ​เขา​ยืน​ขึ้น​ ​แล้วจึง​กระแอม​ออกมา​ดัง​ๆ​ ​สองครั​้ง

หลัง​เสียง​กระแอม​อัน​แหบแห้ง​นั้น​เงียบ​ลง​ ​ทั่วทั้ง​เวที​ประลอง​ก็​กลับคืน​สู่​ความสงบ​อีกครั้ง

สายตา​ที่​เฉียบคม​ของ​อาจารย์​กวาด​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​หลังจาก​แน่ใจ​ว่า​ทุกคน​เงียบ​ลง​แล้ว​ ​เขา​จึง​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​”​การแข่งขัน​ใน​รอบ​ชิงชนะเลิศ​ ​หอ​ชั้นเลิศ​พบ​กับ​หอ​สามัญ​ ​เริ่ม​การ​ประลอง​ลำดับ​ที่หนึ่ง​ใน​สาขา​พลัง​ปราณ​ได้​ ณ​ ​บัดนี้​!​”

หลัง​พูด​จบ​แล้ว​ ​อาจารย์​คน​นั้น​ก็​กลับ​ไป​นั่ง​ประจำตำแหน่ง​ของ​ตน

อาจารย์​ไป๋​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่จำเป็น​ต้อง​ดูการ​ประลอง​ลำดับ​แรก​นี้​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​คนที​่​อยู่​ตรงนี้​คือ​อัจฉริยะ​ผู้​มีฝีมือ​โดดเด่น​ที่สุด​ของ​ตระกูล​หยวน​ ​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​เขา​เป็นรอง​แค่​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​เท่านั้น​ ​แม้แต่​ภายใน​สำนัก​ก็​ยาก​จะ​หา​คนที​่​มีพลัง​เท่าเทียม​กับ​เขา​ได้​ ​แล้ว​นับประสา​อะไร​กับ​ขยะ​จาก​หอ​สามัญ​เล่า

การ​ประลอง​ที่​เขา​ห่วง​ที่สุด​เห็นจะ​เป็นการ​ประลอง​ลำดับ​ที่สอง​ ​ซึ่ง​เป็นการ​ประลอง​ใน​สาขา​อาวุธ​ ​เหตุผล​ที่​ทำให้​เขา​เป็นห่วง​นั้น​ไม่ใช่​ใด​อื่น​ ​หากแต่​เป็น​เพราะ​สาขา​อาวุธ​นั้น​แตกต่าง​จาก​อีก​สอง​สาขา​ ​ใน​รอบ​ชิงชนะเลิศ​นี้​มี​การ​เพิ่ม​การทด​สอบข้อเขียน​เข้ามา​ด้วย

เขา​เกรง​ว่า​เมื่อถึง​ตอนนั้น​ ​ระยะเวลา​ใน​การแข่งขัน​จะ​ยืดยาว​ออก​ไป​ ​จน​ทำให้​ลูกศิษย์​ของ​ทาง​นี้​หมด​ความอดทน​เอา​ได้

เป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​ไม่ยาก​นัก​ ​ในเมื่อ​โดย​พื้นฐาน​แล้ว​ผล​ของ​การ​ประลอง​ย่อม​ไม่มีทาง​เป็นอื่น​ไป​ได้​ ​แต่​พวกเขา​กลับ​ต้อง​เอา​เวลาว่าง​ของ​ตน​มา​ใช้​ใน​การประชัน​ฝีมือ​กับ​บรรดา​คนที​่​ยัง​ไม่รู้​แม้กระทั่ง​ว่าการ​สร้าง​อาวุธ​คือ​อะไร​ ​นับว่า​พวกเขา​เสียเวลา​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​ ​สู้​เอา​เวลา​พวก​นั้น​ไป​นอน​พัก​เสีย​ยังดี​กว่า

อาจารย์​ไป๋​ส่ายหน้า​ ​พร้อมกับ​ถือ​ถ้วย​ชากระ​เบื้อง​สีม่วง​ไว้​ใน​ฝ่ามือ​ ​แล้ว​เริ่ม​หลับตา​ลง​พักผ่อน

ผู้ชม​ที่​เห็นท่า​ทาง​ของ​เขา​ต่าง​พากัน​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​”​เจ้า​ดู​สิว​่า​อาจารย์​ไป๋​มีท​่า​ที​ผ่อนคลาย​เพียงใด​ ​เขา​ให้​คุณชาย​หยวน​ขึ้น​เวที​โดยไม่จำเป็น​ต้อง​ชี้แนะ​อะไร​เลย​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​ข้าว​่า​หน​นี้​ไม่ต้อง​คิด​ก็​รู้​ว่า​ฝ่าย​ที่​ชนะ​จะ​ต้อง​เป็น​หอ​ชั้นเลิศ​อย่างแน่นอน​”

“​ย่อม​เป็น​เช่นนั้น​อยู่​แล้ว​!​ ​สอง​รอบ​แรก​ที่ผ่านมา​ ​ลำดับ​การแข่งขัน​เรียง​จาก​สาขา​โหราศาสตร์​ไป​สิ้นสุด​ที่​สาขา​พลัง​ปราณ​ ​และ​เพราะว่า​สาขา​พลัง​ปราณ​จะ​ได้​แข่ง​เป็นลำดับ​สุดท้าย​ ​พวก​หอ​สามัญ​ถึง​สามารถ​เอาชนะ​มา​ได้​อย่างไรเล่า​ ​แต่​รอบ​ชิงชนะเลิศ​แตกต่าง​กัน​ ​หาก​พวกเขา​แพ้​ใน​รอบ​แรก​ ​มัน​ก็​เท่ากับ​แพ้​การแข่งขัน​นี้​ไป​แล้ว​ครึ่งหนึ่ง​นั่น​ล่ะ​”

“​จริง​สิ​ ​คน​จาก​หอ​สามัญ​คน​นั้น​ ​พวก​เจ้า​รู้​ข้อมูล​ส่วนตัว​ของ​เขา​หรือเปล่า​ ​เขา​เป็น​ผู้ฝึก​ปราณ​ระดับ​ไหน​กัน​ ​ถึง​ได้ใจ​กล้า​บ้าบิ่น​นัก​ ​เขา​ถึงกับ​เคย​ปะทะ​กับ​คุณชาย​หยวน​ซึ่ง​ๆ​ ​หน้า​ทันทีที่​เข้ามา​ด้วย​นะ​”​

“​ข้า​ไม่รู้​ข้อมูล​ส่วนตัว​ของ​เขา​แม้แต่​นิดเดียว​ ​แต่​ตอนที่​ข้า​ดู​ฐานข้อมูล​ของ​สำนัก​เมื่อ​ครั้งก่อน​ ​ดูเหมือนว่า​ระดับ​ของ​เขา​จะ​เป็น​ธาตุ​ดิน​”

“​ฮ่า​ๆ​ๆ​ ​ธาตุ​ดิน​หรือ​ ​เห็นที​การ​ประลอง​นี้​คงได้​กลายเป็น​โศกนาฏกรรม​สำหรับ​เขา​แน่​ ​คุณชาย​หยวน​คง​ไม่​คิด​ที่จะ​ปรานี​ ​แต่​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ตลอด​สอง​รอบ​ที่ผ่านมา​ ​หอ​สามัญ​เอาชนะ​มา​ได้​โดย​ไม่​แพ้​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ​เขา​ก็​เลย​ยัง​ไม่เคย​ขึ้น​แข่ง​มาก​่อน​สินะ​”

“​ไม่ว่า​เขา​จะ​เคย​ขึ้น​แข่ง​หรือไม่​ ​สุดท้าย​เขา​ก็​คง​ถูก​อัด​จน​น่วม​แน่​ ​อย่า​ลืม​สิว​่า​คนที​่​อยู่​ตรงนั้น​คือ​นาย​น้อย​หยวน​”

ทุกคน​กำลัง​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​นี้​กัน​เสียงดัง​เซ็งแซ่​ ​ต่าง​คน​ต่าง​หัวเราะ​อย่าง​มีความสุข​ไป​กับ​ความ​โชคร้าย​ของ​คนอื่น

แต่​เมื่อ​เห็น​ร่าง​ที่​กำลัง​เดิน​ออกมา​จาก​ด้านหลัง​เวที​ ​พวกเขา​ก็​อด​ที่จะ​กลืนน้ำลาย​ไม่ได้

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​้าว​ช้าๆ​ ​ขึ้นไป​บน​เวที​ ​ภาพ​ของ​เสื้อคลุม​ตัว​ยาว​ ​ผ้า​คาด​ไหล่​ทั้งสอง​ข้าง​ที่​ได้รับ​การ​ตกแต่ง​มา​อย่าง​บรรจง​ ​และ​ร่าง​สูงสง่า​ที่​ยืน​อยู่​ภายใต้​แสงอาทิตย์​สีทอง​ยาม​เย็น​นั้น​งดงาม​เสีย​จน​ทำให้​สีสัน​ของ​ฟ้า​ดิน​ดู​ซีด​จาง​ไป​เลย​ทีเดียว​…

คนที​่​อยู่​รอบข้าง​เผลอ​หลีกทาง​ให้​เขา​โดยไม่รู้ตัว

ใน​ดวงตา​ของ​เขา​แทบจะ​ไม่มีใคร​อยู่​ใน​สายตา​ ​ไม่มี​แม้กระทั่ง​ตัวตน​ของ​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​ ​สายตา​ของ​เขา​ยัง​เหมือนเช่น​เคย​ ​ยังคง​ยาก​จะเข้า​ใกล้​ ​เย็นชา​ห่างเหิน​ ​สูงส่ง​ ​และ​ยัง​มีบา​งอย​่าง​ที่​ไม่​อาจ​อธิบาย​ได้​ปรากฏ​อยู่​ด้วย

เพียงแค่​นั้น​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​ก็​กัดฟัน​กรอด​พร้อมกับ​เพลิง​โทสะ​ที่​ปะทุ​ขึ้น​ ​เขา​เกิด​มา​พร้อมกับ​ความหยิ่ง​ผยอง​ ​บรรดา​ขุนนาง​ทั้งหลาย​ไม่ว่า​จะ​ตำแหน่ง​สูง​หรือ​ต่ำ​ ​มี​ใคร​หน้า​ไหน​บ้าง​ที่​ไม่จำเป็น​ต้อง​ใส่ใจ​อารมณ์​ของ​เขา​เพื่อ​ความอยู่รอด​ของ​ตน

แม้แต่​ใน​สำนัก​ไท่​ไป๋​ ​ศิษย์​ทุกคน​จาก​ทั้ง​สี่​หอก​็​ยัง​ต้อง​เชื่อฟัง​คำสั่ง​ของ​เขา

แต่​ชายหนุ่ม​จอม​อวดดี​ผู้​ยากจน​คน​นี้​กลับ​กล้า​ทำให้​เขา​อับอายขายหน้า

หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​ไม่​อยาก​เชื่อ​เลย​ว่า​ผู้ฝึก​ปราณ​ระดับ​ธาตุ​ดิน​คนเดียว​จะ​มีค่า​พอให้​เขา​สนใจ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ชาย​น่ารังเกียจ​คน​นี้​ทำตัว​ยโส​โอหัง​จน​เกินไป​ ​เขา​ก็​คง​ไม่จำเป็น​ต้อง​มาป​รากฏ​ตัว​ที่​เวที​นี้​เลย​ด้วยซ้ำ

แต่​ใน​ตอนนี้​!

เขา​ชัก​อยาก​จะ​อัด​คู่ต่อสู้​ของ​ตน​ให้​เละ​เป็น​โจ๊ก​ขึ้น​มา​แล้ว​สิ​!

โดยเฉพาะ​ใบหน้า​ที่​ยโส​โอหัง​ของ​เจ้า​หมอนั​่น​ ​เขา​จะ​ดูแล​มัน​ให้​เป็น​อย่างดี​เชียว​!

หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ ​พร้อมกับ​ขยับ​เปลือกตา​ขึ้น​ชำเลือง​มอง​ไป​ทาง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​”​ตอนนี้​เจ้า​ก็​น่าจะ​รู้​แล้ว​ว่าความ​ต่าง​ชั้น​ระหว่าง​ข้า​กับ​เจ้า​นั้น​มัน​มากมาย​เพียงใด​ ​เจ้า​กล้า​ยั่วโมโห​ข้า​ตั้งแต่​วัน​แรก​ของ​การเรียน​ ​ข้า​คง​ต้อง​บอกว่า​เจ้า​ช่าง​ไม่รู้​จักรั​กตั​วก​ลัว​ตาย​เอา​เสีย​เลย​ ​หาก​ข้า​เป็น​เจ้า​ ​ข้า​จะ​ทิ้ง​การ​ประลอง​ในเวลานี้​ไป​เสีย​ ​อย่างน้อย​เจ้า​ก็​ยัง​พอที่​จะ​รักษา​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ได้​ ​แต่​แน่นอน​ว่า​ถ้า​เจ้า​ยอม​คุกเข่า​ลง​ขอร้อง​นาย​น้อย​คน​นี้​ ​ข้า​อาจจะ​ยอม​ไว้ชีวิต​เจ้า​สัก​ครึ่งหนึ่ง​ก็แล้วกัน​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ ​คน​แรก​ที่​มี​ปฏิกิริยา​ไม่ใช่​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​แต่​เป็น​องค์​ชาย​เจ็ด​ซึ่ง​นั่ง​อยู่​ใน​บริเวณ​ที่​จัด​ไว้​ให้​กับ​ผู้เข้าแข่งขัน​ของ​หอ​ชั้นเลิศ

คน​ตัวเล็ก​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​ ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ปรากฏ​ความหวาดกลัว​คล้าย​วัน​สิ้น​โลก​กำลังจะ​มา​เยือน

ผู้ชาย​คน​นั้น​กล้า​ดี​ถึงขั้น​สั่ง​ให้​พี่​สาม​คุกเข่า​ให้​เขา

บุตรชาย​ของ​ตระกูล​หยวน​เสียสติ​ไป​แล้ว​หรือ​ไร​!

ไม่ได้​การ​ล่ะ​ ​หลังจาก​จบ​การแข่งขัน​ใน​ครั้งนี้​ ​เขา​ต้อง​ตัดความสัมพันธ์​กับ​หอ​ชั้นเลิศ​เพื่อ​เลี่ยง​ไม่​ให้​ตัวเอง​พลอย​ถูก​หางเลข​ไป​ด้วย​เวลา​ที่​พี่​สาม​คิด​จะ​เอาคืน​!

พี่​สาม​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​ยอมให้​เรื่อง​มัน​จบ​ลง​ง่ายๆ​ ​หลังจาก​อัด​ใคร​เสียด​้วย

หลังจาก​จัดการ​คน​คน​นั้น​ลง​ได้​ ​เขา​ก็​จะ​อัด​การ​โจมตี​อัน​สุด​แสน​จะ​ทรมาน​ซ้ำ​เข้าไป​อีก​!

ยกตัวอย่างเช่น​ ​สั่ง​ให้​เขา​เปลื้องผ้า​แล้ว​เต้นระบำ​ท่า​กบ

โอ้​ ​สวรรค์​!

เขา​ไม่​อยาก​นึก​ภาพ​เลย​จริงๆ​!

องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย​ยกมือ​ขึ้น​กุม​ศีรษะ​ไร้​เส้น​ผม​ของ​ตน​ ​แล้ว​ส่ายหน้า​เป็น​พัลวัน​ ​ร่าง​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เขา​แทบจะ​ยืน​ไม่อยู่​ ​แต่​แก้ม​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​กระเพื่อม​ไปมา​ดู​น่ารัก​มาก

ไม่ว่า​ใคร​ก็​คง​ต้อง​บอกว่า​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​คน​นี้​ช่าง​โง่เขลา​เหลือเกิน​!

ช่าง​โง่เขลา​เสีย​จริง​!

หนา​นกง​เลี่ย​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​ยิ้ม​ออกมา​ ​รอยยิ้ม​นั้น​ดู​ทั้ง​ขี้เล่น​ ​และ​เย็นชา​ราวกับ​น้ำแข็ง

แม้​จะ​ตัด​กิเลน​อัคคี​ออก​ไป​ ​แต่​แค่​พลัง​ปราณ​อัน​ไม่​สามารถ​หยั่งรู้​ได้​ของ​ผู้ชาย​คน​นี้​อย่าง​เดียว​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​กำราบ​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​ลง​ได้​แล้ว

หึ​…​ ​องค์​ชาย​สาม​จะ​มี​ปฏิกิริยาตอบโต้​อย่างไร​กัน

หนา​นกง​เลี่ย​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​ใบหน้า​ด้าน​ข้าง​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​เย็นชา​ขึ้น​เรื่อยๆ

หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​กลับ​ยัง​พูดจา​เจื้อยแจ้ว​อย่างไร​้​ความหวาดกลัว​อยู่​เช่น​เดิม

กระทั่ง​เขา​โอ้อวด​ทุกอย่าง​ใกล้​จะ​จบ​แล้ว​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​จึง​ค่อยๆ​ ​อ้า​ปาก​ ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​เพียง​สาม​คำ​ว่า​ ​”​เจ้า​เป็น​ใคร​”

เจ้า​เป็น​ใคร​ ​เจ้า​เป็น​ใคร​ ​เจ้า​เป็น​ใคร​…

ใบหน้า​ของ​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​เริ่ม​ปรากฏ​รอยร้าว​…

“​อุ​๊บ​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​ได้ยิน​ทุกอย่าง​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​ถึงกับ​ควบคุมตัว​เอง​เอาไว้​ไม่อยู่​ ​นาง​เอา​มือ​กุม​ท้อง​พร้อมกับ​หัวเราะ

ตายคาที่​ ​ตายคาที่​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

เวลา​ที่​คนเรา​เกลียด​ใคร​สัก​คน​ ​เกลียด​เสีย​จน​หัว​แทบ​ระเบิด​ ​แต่​คนที​่​เรา​เกลียด​กลับ​ตอบ​มา​เพียง​ว่า​ ​’​เจ้า​เป็น​ใคร​’

ความรู้สึก​เช่นนั้น​คง​ไม่​อาจ​อธิบาย​ออกมา​เป็น​คำพูด​ได้​ ​เพียงแค่​ได้​เห็น​ใบหน้า​ที่​ซีด​จน​ขาว​ของ​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​เปลี่ยน​จาก​สีขาว​กลับมา​เป็น​สีดำ​ ​และ​กลับ​ไป​เป็น​สีขาว​อีกครั้ง​ก็​นับว่า​เป็นบุญ​ตายิ​่ง​นัก

แต่​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​ยัง​มีท​่า​ที​เช่น​เดิม​ ​เขา​ทำ​ราวกับว่า​เรื่อง​นั้น​ไม่ได้​มี​ความเกี่ยวข้อง​อัน​ใด​กับ​ตน​ ​ใบหน้า​ด้าน​ข้าง​ของ​เขา​ยังคง​เกลี้ยงเกลา​ ​แทบจะ​หารอย​ตำหนิ​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย

หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​โกรธจัด​จน​ควัน​ออก​หู​!

มือ​ข้าง​ซ้าย​ของ​เขา​กำ​แน่น​ ​จากนั้น​เขา​จึง​พลิก​ฝ่ามือ​ขึ้น​ ​เกิด​เสียงดัง​ฟิ​้ว​ไป​ทั่วทั้ง​สนาม​!

แส้​ยาว​ใน​มือ​ของ​เขา​ส่งเสียงฟึ​่บฟั​่บ​ระหว่าง​ก่อตัว​ขึ้น​เป็น​รูปร่าง​ ​หนาม​แหลม​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ตัว​แส้​พร้อมกับ​เปล่งแสง​สีทอง​ออกมา

“​สวรรค์​ ​นั่น​มัน​ธาตุทอง​!​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ข้า​ได้​เห็น​ธาตุทอง​ใน​ตำนาน​นั่น​!​”

“​อย่า​บอก​นะ​ว่านี​่​เป็น​พรสวรรค์​ของ​ทายาท​ที่เกิด​ใน​สี่​ตระกูล​ใหญ่​!​ ​จะ​ยอดเยี่ยม​เกินไป​แล้ว​!​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​ธาตุทอง​สอง​คำ​นั้น​ ​อาจารย์​ตู๋​เทียน​ก็​หันไป​มอง​ทาง​เวที​ประลอง​ ​นั่น​เป็น​ธาตุทอง​จริงๆ​ ​แม้ว่า​แสง​นั้น​จะ​ยัง​จาง​อยู่​ ​แต่​ความ​ชัดเจน​แบบ​นั้น​ก็​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​ใคร​จะ​สามารถ​ต้านทาน​ได้​ ​ดูเหมือนว่า​ครั้งนี้​ ​หอ​สามัญ​ที่​เป็น​ม้ามืด​สร้าง​ผลงาน​ได้​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​ทุกคน​คงจะ​ต้อง​พบ​กับ​ความพ่ายแพ้​เสีย​แล้ว

หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​กำลัง​เพลิดเพลิน​กับ​สายตา​และ​คำสรรเสริญเยินยอ​จาก​ทุกทิศทาง​ ​มุม​ปากของ​เขา​กระตุก​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​อัน​ชั่วร้าย​ ​ก่อน​จะ​พูด​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ว่า​ ​”​เป็น​อย่างไร​ ​อยาก​ร้องขอ​ความเมตตา​แล้ว​หรือยัง​”

ทุกคน​หันหน้า​ไป​มอง​ทาง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​ปกติ​แล้ว​เมื่อ​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ผู้เข้าแข่งขัน​คงจะ​ยอมแพ้​การ​ประลอง​ไป​แล้ว​ ​อย่างไร​เสีย​คู่ต่อสู้​ก็​เป็น​ถึง​ธาตุทอง​ตัวจริง​เสียง​จริง​!

เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​สายตา​กระเหี้ยนกระหือรือ​นั้น​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​ไม่ได้​มีท​่า​ทาง​ผิดหวัง​แต่อย่างใด​ ​เขา​ใช้​มือ​ข้าง​ซ้าย​พับ​แขน​เสื้อ​ของ​ตน​ขึ้น​ ​พร้อมกับ​ชำเลือง​มอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​เฉยเมย​ ​”​ร้องขอ​ความเมตตา​หรือ​ ​เจ้า​กำลัง​พูดถึง​ตัวเอง​อยู่​หรือ​ไร​”

แน่นอน​ว่า​ท่าทาง​เช่นนั้น​ย่อม​ทำให้​หน้าอก​ของ​หยวน​หลิง​เซ​วี​ยน​แทบจะ​ลุกเป็นไฟ​ ​เขา​ขยับ​ฝ่ามือ​ ​ทันใดนั้น​แส้​ก็​ราวกับ​มีชีวิต​ขึ้น​มา​ ​มองดู​แล้ว​คล้าย​กับ​งู​สีดำ​ยาว​ตัว​หนึ่ง​ ​มิหนำซ้ำ​ที่​ปลาย​แส้​ยัง​ส่งเสียง​ฟ่อ​ ​และ​แยก​ออก​กลายเป็น​ลิ้น​งู​อีกด้วย​!

ทุกคน​ต่าง​ก็​ตกตะลึง​ ​พลัง​ปราณ​ของ​เขา​ต้อง​สูง​เพียงใด​ ​ถึง​สามารถ​ทำให้​รูปร่าง​ของ​อาวุธ​เปลี่ยนไป​ ​ซ้ำ​ยัง​เคลื่อนไหว​ได้​ราวกับ​มีชีวิต​ ​การ​แข่ง​นี้​จะ​เป็น​แค่​การ​ประลอง​พลัง​ปราณ​ได้​อย่างไร​ ​มัน​เป็นการ​สังหาร​กัน​ชัดๆ​!

ในเวลานี้​ ​ใน​ใจ​ของ​ทุกคน​ล้วน​มี​เพียง​ความคิด​เดียว​ ​นั่น​คือ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​จะ​ต้องตา​ยอย​่าง​แน่นอน​!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท