ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 120 พลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน เปลี่ยนแปลงไปจนน่าตกใจ

ตอนที่ 120 พลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน เปลี่ยนแปลงไปจนน่าตกใจ

ตอนที่ 120 พลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน เปลี่ยนแปลงไปจนน่าตกใจ

เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้คนทั้งเมืองเทพต่างพากันพูดคุยกันอย่างดุเดือด

“ฮ่า ๆๆ ผู้พิทักษ์เก่งกาจยิ่งนัก! เพียงกระบี่เดียวก็กำราบขอบเขตเทพยุทธ์ได้แล้ว”

“นับว่าไร้คู่ต่อกรโดยแท้ แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับขอบเขตเทพยุทธ์ ผู้พิทักษ์ก็ยังเอาชนะได้!”

“ผู้พิทักษ์ไร้คู่ต่อกร!”

“ผู้พิทักษ์ไร้คู่ต่อกร!”

“…”

ผู้คนจำนวนมากพากันพูดคุยกันอย่างดุเดือด แม้แต่ดวงตาขององค์จักรพรรดินีก็เบิกกว้าง เป็นเพราะนางคิดไม่ถึงเลยว่า แม้แต่เหลียงอิ้นหยวน ผู้ฝึกยุทธ์เทพยุทธ์ที่แข็งแกร่งปานนี้ หนิงฝานยังสามารถบดขยี้เอาชนะเขาได้

ในเวลานี้เอง หนิงฝานก้าวเดินไปอยู่เบื้องหน้าของเหลียงอิ้นหยวน

เหลียงอิ้นหยวนถูกปราณกระบี่พุ่งเข้าใส่จนทะลุร่าง โลหิตย้อมสีแดงไปทั้งคอปกเสื้อ ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความกลัวไม่รู้จบ ไร้ซึ่งแรงโต้กลับ!

ตลอดชีวิตเขาระมัดระวังในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาโดยตลอด แม้กระทั่งยามนี้ก็ยังคงยึดถือสิ่งนี้อยู่

“หากไม่อยากตาย ก็จงยอมสละจิตวิญญาณของเจ้า และยอมจำนนต่อข้า”

เนื่องจากพระราชลัจญกรไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อขอบเขตเทพ หนิงฝานจึงออกคำสั่งให้เขามอบจิตวิญญาณให้ตน

“ข้า…ให้”

ระหว่างยอมจำนนกับตาย เหลียงอิ้นหยวนรู้ดีว่าควรเลือกสิ่งใด จึงรีบมอบจิตวิญญาณให้เขาทันที

หลังจากหลอมจิตวิญญาณแล้ว หนิงฝานถึงได้พยักหน้าและถาม “เจ้าพูดมาเถอะ เจ้าเป็นใคร มาจากที่ใด เหตุใดถึงมุ่งมายังราชวงศ์เทพขนนก”

เหลียงอิ้นหยวนกล่าวตอบอย่างนอบน้อม “เรียนนายท่าน ข้าเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์อิสระ มาจากแคว้นอุทกหนึ่งในเก้าแคว้นแดนมนุษย์ ที่ข้ามุ่งมายังราชวงศ์เทพขนนกเพราะว่าข้าตรวจพบโดยบังเอิญว่าพลังจิตวิญญาณในแคว้นรกร้างกำลังฟื้นขึ้นคืนสู่สภาพเดิม ข้าจึงอยากมาดูสถานการณ์เสียหน่อย”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น หนิงฝานพลันสีหน้าเคร่งขรึม เพราะรับรู้ดีถึงเรื่องที่พลังจิตวิญญาณกำลังฟื้นขึ้นคืนสู่สภาพเดิม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้ว่าต้องมีผู้แข็งแกร่งมาที่แคว้นรกร้างเป็นแน่

เพียงแต่หนิงฝานไม่คิดเลยว่า พลังจิตวิญญาณของแคว้นรกร้างเพิ่งจะเริ่มฟื้นคืนสู่สภาพเดิม เหลียงอิ้นหยวนกลับมาตรวจสอบแล้ว

ชายหนุ่มจึงสอบถามต่อ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพลังจิตวิญญาณของแคว้นรกร้างกำลังฟื้นคืนสู่สภาพเดิม แล้วยังมีผู้ใดที่รู้เรื่องนี้อีกบ้าง”

เหลียงอิ้นหยวนส่ายหน้า และตอบว่า “ข้าอาศัยเข็มทิศเร้นลับถึงได้รู้ว่ามีพลังจิตวิญญาณฟ้าดินเกิดขึ้นในแคว้นรกร้าง ยามนี้ นอกจากข้าแล้วก็ไม่ควรมีผู้ใดรู้เรื่องนี้”

“ชั่วคราวใช่หรือไม่?” หนิงฝานหน้าบึ้งขึ้นมาเมื่อได้ยินคำนั้น

เหลียงอิ้นหยวนอธิบายต่อ “ปกติแล้วการฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณนั้น ในตอนแรกจะไม่ปรากฏความเคลื่อนไหว เพียงแต่หลังจากที่เวลาผ่านไป การเคลื่อนไหวจะยิ่งกว้างใหญ่ขึ้น ตอนนั้นย่อมต้องดึงดูดความสนใจของผู้แข็งแกร่งได้ไม่น้อย แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวยังขึ้นอยู่กับสามระดับใหญ่ของพลังจิตวิญญาณฟ้าดิน ส่วนใหญ่การเคลื่อนไหวของพลังจิตวิญญาณระดับดารา จะแพร่กระจายไกลได้เพียงหนึ่งถึงสองแคว้น ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวของพลังจิตวิญญาณระดับจันทรา จะแพร่กระจ่ายไปอย่างน้อยห้าแคว้น”

“ถ้าเป็นระดับสุริยันล่ะ?” หนิงฝานถามขึ้น

“การเคลื่อนไหวพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันย่อมใหญ่ที่สุด ได้ยินมาว่าในวันที่พลังจิตวิญญาณระดับสุริยันฟื้นคืนเต็มที่ สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนไปได้ทั่วทั้งเก้าแคว้นได้ เพียงแต่พลังจิตวิญญาณฟ้าดินของระดับสุริยันไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ปัจจุบันนี้แคว้นที่แข็งแกร่งที่สุดในเก้าแคว้นหลักคือ แคว้นเซียนโจว แต่ก็เป็นได้เพียงสถานที่ที่ฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณระดับจันทรา…” เหลียงอิ้นหยวนพูดไป ดวงตาก็เบิกกว้างไป ความเหลือเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา

หนิงฝานไม่ได้ถามอะไรอีก ทว่าสีหน้าของเขากลับเคร่งขรึมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

บัดนี้ การที่พลังของแคว้นรกร้างฟื้นฟู ดูเหมือนว่าจะร้ายแรงกว่าที่เขาจินตนาการไว้

แต่ในขณะที่หนิงฝานกับเหลียงอิ้นหยวนกำลังคุยกัน องค์จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนและปราชญ์ยุทธ์ของราชวงศ์ที่อยู่ข้าง ๆ กลับมีสีหน้างุนงง เนื่องจากฟังไม่เข้าใจเลย

หลัวชิงเซียนอดไม่ได้ที่จะถาม “สามี พลังจิตวิญญาณฟ้าดินคืออะไร พลังฟื้นคืนสู่สภาพเดิมด้วย เหตุใดพวกข้าฟังแล้วไม่เข้าใจ”

เรื่องที่พลังของแคว้นรกร้างฟื้นคืนสู่สภาพเดิม หนิงฝานไม่เคยบอกกับหลัวชิงเซียน เพียงแต่วันนี้เมื่อรู้แล้วว่าเรื่องนี้รุนแรง เขาจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก

“ภรรยา พวกเจ้าตามข้ามา”

หนิงฝานเอ่ยปาก หลังจากนั้นเขาก็ให้เหลียงอิ้นหยวนลุกขึ้น และนำทุกคนเหาะเหินขึ้นไปสู่ท้องฟ้าระยะทางกว่าสองร้อยลี้

เมื่อขึ้นมาถึง พวกเขาก็ได้เห็นแหล่งพลังจิตวิญญาณฟ้าดินใหญ่ราวกับดวงอาทิตย์ดวงโต เหลียงอิ้นหยวนก็ตะโกนขึ้นมาทันที “สวรรค์! พลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน ช่างใหญ่โตสมกับเป็นพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันจริง ๆ!”

“สามี อันใดคือพลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน? ที่นี่ไม่เห็นมีสิ่งใดเลย”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเอ่ย ทุกคนซึ่งนำโดยองค์จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนต่างงุนงงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากความแตกต่างในการบำเพ็ญ ทำให้พวกเขามองไม่เห็นพลังจิตวิญญาณระดับสุริยัน

ยามนี้เอง เนตรสลายภาพลวงตาของหนิงฝานได้ระเบิดพลังสลายภาพลวงตาออกมาอย่างไม่รู้จบ เมื่อพลังสลายภาพลวงตาหลั่งไหลเข้าไปในดวงตาของทุกคน ทุกคนก็สามารถมองเห็นพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันที่ใหญ่ราวดวงอาทิตย์ได้

“บัดซบ!”

“สวรรค์! นี่มันอันใดกัน!?”

“ช่างเป็นพลังฟ้าดินที่หอมอะไรเยี่ยงนี้!”

“…”

ทุกคนซึ่งนำโดยองค์จักรพรรดินีต่างก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

ในขณะที่กำลังตกใจ หนิงฝานก็บอกข้อดีข้อเสียของพลังจิตวิญญาณฟ้าดินและพลังที่ฟื้นฟูสู่สภาพเดิมแก่ทุกคน

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ข้าว่าแล้วเชียวว่าช่วงหลายปีมานี้ เหตุใดผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เทพขนนกถึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ปราชญ์ยุทธ์ก็เติบโตขึ้นเป็นร้อยคน ข้ายังคิดอยู่เลยว่าเป็นความโชคดีของราชวงศ์เทพขนนกของเรา ที่แท้ก็เป็นเพราะพลังของแคว้นรกร้างฟื้นฟูสู่สภาพเดิม”

“จุ๊ ๆๆ พลังของแคว้นรกร้างกำลังฟื้นฟูสู่สภาพเดิม และในตอนนี้ราชวงศ์เทพขนนกของเราก็เป็นหนึ่งเดียวกับแคว้นรกร้าง ราชวงศ์เทพขนนกของพวกเราต้องถือโอกาสนี้ขยายความเจริญรุ่งเรืองขึ้นในตอนที่พลังจิตวิญญาณฟื้นฟู”

“อย่าคิดอะไรสวยงามขนาดนั้น ไม่ได้ยินที่ผู้พิทักษ์พูดหรือ แม้ว่าพลังจิตวิญญาณฟื้นฟูจะดี แต่จะดึงดูดความโลภของผู้แข็งแกร่ง เหลียงอิ้นหยวนก็เป็นตัวอย่างแล้วไม่ใช่หรือ”

“ใช่ เหลียงอิ้นหยวนยังเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเทพ ถ้าแคว้นอื่น ๆ มีผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งเข้ามายังแคว้นรกร้าง สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกคือราชวงศ์เทพขนนกของพวกเรา”

“การฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับราชวงศ์เทพขนนกของพวกเราเสมอไป”

“…”

ทุกคนพูดคุยถกเถียงกัน มีทั้งคนที่ยินดี และมีทั้งคนที่กลัดกลุ้ม

แต่องค์จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนกลับมีทั้งความยินดีและความกลัดกลุ้ม

ในท้ายที่สุด นางมองไปทางหนิงฝาน “สามี ท่านจะทำอย่างไร”

หนิงฝานตอบเสียงเบา “ภรรยา พลังที่ฟื้นฟูของแคว้นรกร้างถือเป็นโอกาสที่ดีและเป็นโอกาสที่ไม่ดี ต้องดูว่าราชวงศ์เทพขนนกของเราจะคว้าอะไรไว้”

“อืม ราชวงศ์เทพขนนกของพวกเราก่อตั้งขึ้นในแคว้นรกร้างแห่งนี้มากว่าหนึ่งหมื่นแปดพันปี ย่อมไม่สามารถออกไปจากแคว้นรกร้างได้ ในเมื่อไม่สามารถย้ายออกไปได้ เช่นนั้นก็จงใช้ประโยชน์จากพลังที่ฟื้นฟูในครั้งนี้ในการพัฒนา การทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นที่จะสามารถต้านทานศัตรูจากแคว้นอื่นได้” หลัวชิงเซียนเอ่ยพลางขมวดคิ้วแน่น

หนิงฝานเอ่ย “ภรรยา เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลมาก มีข้าอยู่ เจ้าเพียงพัฒนาราชวงศ์ให้ดีเป็นพอ”

“อืม”

หลัวชิงเซียนพยักหน้า หลังจากนั้นก็นำเหล่าปราชญ์ยุทธ์กลับไปยังพระราชวัง เพื่อเตรียมแผนการพัฒนาของราชวงศ์เทพขนนก

แต่หลังจากที่หลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว เหลียงอิ้นหยวนกลับส่ายหน้า “นายท่านคิดง่ายเกินไปแล้ว ท่านไม่ได้สังเกตเห็นหรือว่าพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันน่ากลัวเพียงใด การฟื้นคืนของพลังงานจิตวิญญาณที่เกิดจากแหล่งจิตวิญญาณนี้จะทำให้ทั้งเก้าแคว้นตื่นตระหนก และต้องรู้ไปถึงหูแคว้นอุทกแน่ แม้แต่แคว้นเซียนโจวที่คนแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเก้าแคว้นหลัก ก็จะเกิดความโลภต่อพื้นที่ของแคว้นรกร้างแห่งนี้”

“หึ ๆ เจ้าก็คิดว่าข้าความคิดตื้นเขินเช่นนั้นหรือ”

ในเวลานี้ หนิงฝานก็เผยยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

เหลียงอิ้นหยวนเงียบขรึม

ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ทันที ชายตรงหน้าใช้เวลากี่สิบปีถึงสามารถฝึกฝนจากขอบเขตปราชญ์ยุทธ์จนก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทพระดับเทพมนุษย์ หรือที่เรียกว่าขอบเขตมนุษย์กึ่งเทพได้

นี่ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่จินตนาการไว้แน่

หลังจากเหลียงอิ้นหยวนยอมจำนวนต่อหนิงฝาน เขาย่อมไม่กลับไปแคว้นอุทกอีก และกลายเป็นเทพยุทธ์ผู้แข็งแกร่งอันดับที่สองของราชวงศ์เทพขนนก

ทางด้านองค์จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนก็เริ่มประกาศใช้กฎหมายต่าง ๆ เริ่มใช้ประโยชน์จากการฟื้นฟูของพลังจิตวิญญาณพัฒนาราชวงศ์เทพขนนก

เช่น ใช้อำนาจราชวงศ์จัดตั้งกองกำลังปกป้องราชวงศ์

และอย่างเช่น ก่อตั้งสำนักปราชญ์ยุทธ์ เพื่อบ่มเพาะปราชญ์ยุทธ์ที่เก่งกาจของราชวงศ์

และยังสร้างกองทัพเซียนฝาน ฝึกฝนให้เป็นกองทัพที่ไร้คู่ต่อกร เป็นต้น

ภายใต้การนำขององค์จักรพรรดินีหลัวชิงเซียน ทั้งราชวงศ์เทพขนนกก็เริ่มเจริญรุ่งเรือง กองกำลังของชาติมีความเติบโตขึ้น

หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจฟังเสียงใดจากภายนอกหน้าต่างเลย เพียงมุ่งมั่นพัฒนาขอบเขตเทพต่อไป

เพียงแต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขาลำบากในตอนนี้คือ หลังจากที่เขาได้รับการเลื่อนระดับขึ้นสู่ขอบเขตมนุษย์กึ่งเทพแล้ว ตอนนี้สถานที่ลงชื่อเข้าใช้ของราชวงศ์ใหญ่ทั้งสี่ เมื่อลงชื่อและได้สมบัติล้ำค่า มันก็ไม่มีผลกับเขาแล้ว

และไม่มีที่ลงชื่อเข้าใช้ใหม่ เขาทำได้เพียงฝึกฝนไปได้ทีละขั้นตอนเท่านั้น

ห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

การฝึกฝนของหนิงฝานแม้จะเพิ่มขึ้นตลอด แต่ยังห่างไกลจากเทพปฐพี

“เฮ้อ ต้องหาสมบัติเพื่อลงชื่อเข้าใช้สักหน่อย ไม่อย่างนั้นอาศัยการฝึกฝนทีละขั้นตอนเพียงอย่างเดียว ไม่รู้ต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะสามารถเลื่อนระดับเป็นเทพปฐพีได้”

หนิงฝานถอดหายใจเฮือกใหญ่ เขาได้ขอให้หลัวชิงเซียนค้นหาโบราณสถานและสถานที่ลับให้เขาแล้ว แต่วิถีอุบัติยังไม่สามารถทำได้

และหนิงฝานยังประสบปัญหาเรื่องเวลาในการค้นหาสถานที่ใหม่เพื่อลงชื่อเข้าใช้

ในวันนี้

เมืองเทพขนนก จู่ ๆ ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซ้ำยังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจ!

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท