ตอนที่ 925 ภูตผีปีศาจ
นึกถึงตอนนั้น แม้ว่าพ่อหนุ่มผู้นี้จะเก่งกาจเช่นกัน แต่ดูไม่ได้ให้ความรู้สึกที่สูงส่งเพียงนี้
ซ่งอิงครุ่นคิดอย่างละเอียด ชางเวยถือเป็นคนที่ช่วยโลกเช่นกัน ทั้งยังเป็นเทพเซียน ก็เป็นปกติที่จะมีบุญบารมีติดตัวมากเพียงนี้ น่าสงสารก็แต่นางซึ่งเป็นปีศาจ ทุ่มเทไปมากมายเพียงนี้ยังดูไม่สมบูรณ์เช่นเขาเลย
ซ่งอิงไม่ใช่ว่าจะหาเส้นทางของโลกเทพไม่เจอ เพียงแต่ได้ยินว่ามีการควบคุมค่อนข้างเข้มงวด นางคนแปลกหน้าผู้นี้หากไปเยือน เกรงว่ายังไม่ทันสอบถามถึงที่อยู่ของราชันปีศาจก็เป็นเรื่องราวใหญ่โตแล้ว ถึงตอนนั้นบรรดาราชันปีศาจไม่มีชีวิตรอดแล้วจะทำอย่างไร
ดังนั้นซ่งอิงจึงทำตัวซื่อตรง เป็นมนุษย์ที่ถูกรักและเมตตาผู้หนึ่ง
ถูกบันไดสวรรค์นำทางขึ้นไปพร้อมกับฮั่วเจ้ายวน
โลกเทพ ได้เห็นบ่อยครั้งในช่วงหลายปีนั้น แต่ปัจจุบันกลับโชติช่วงรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น
หลายปีก่อนยังมีลักษณะอย่างเรียบง่าย ไม่มีกฎเกณฑ์เท่าไร บัดนี้มองดูเข้มงวดกวดขันขึ้นมาก ดูท่าหลายปีมานี้จะวางตัวเองอยู่ในจุดสำคัญไม่น้อยเลย!
“ยินดีต้อนรับการกลับมาของท่านเทพ” ครั้นชางเวยปรากฏตัว ข้างๆ ก็มีเทพเซียนโผล่ออกมาตรงหน้าไม่น้อย
ชางเวยพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะดึงซ่งอิงเดินตรงดิ่งไป
“ไฉนท่านเทพจึงพาสตรีมาด้วย เป็นใครมาจากไหน!” โลกเทพเกิดปฏิกิริยากว้างขวางขึ้นมาในทันที เทพเซียนจำนวนไม่น้อยล้วนเริ่มสืบถามสถานการณ์
เทพชางเวยผู้นี้จะร้ายจะดีก็เป็นเทพรุ่นใหญ่ตั้งแต่ยุคโบราณกาล พลังแข็งแกร่ง ผู้ที่อยากเข้าประตูวังสวรรค์มีจำนวนไม่น้อย แต่เหล่าเทพธิดายังไม่มีโอกาสเลย เทพชางเวยลงไปจุติภพชาติเดียว ไม่นึกเลยว่าจะพามนุษย์ปุถุชนตัวน้อยๆ ติดมือมาด้วย
พวกเขาจึงไปสืบเสาะจากทางด้านวังลับสวรรค์ทันที ครั้นสืบถามก็ได้ความมาว่า คนผู้นี้คือซ่งซื่อ ภรรยาของฮั่วเจ้ายวนในโลกมนุษย์
“ได้ยินว่าตอนที่อยู่โลกมนุษย์ ซ่งซื่อกบท่านเทพชางเวยมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน ทั้งสองพูดจาและกระทำเหมือนกัน แทบจะเป็นเงาติดตัวก็ว่าได้ ตลอดชีวิตซ่งซื่อผู้นี้ไม่ได้ให้กำเนิดทายาทแก่เทพชางเวย แต่กลับไม่ถูกหย่าร้าง!”
“หรือว่ามีวิชาปีศาจอันใด อยู่ในโลกมนุษย์มีความรู้สึกดีๆ ต่อกันก็ช่าง แต่ไฉนหลังจากเทพชางเวยกลับมาแล้วยังต้องพานางมาด้วย”
“แม่นางผู้นี้รูปลักษณ์ห่างชั้นกับเทพธิดาในโลกเทพของพวกเรามาก เหตุใดจึงทำให้ท่านเทพรักและโปรดปรานได้เช่นนี้เล่า!”
“…”
ซ่งอิงยังคงกำลังทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของโลกเทพ แต่ถ้อยคำนี้แพร่งพรายไปถึงหูของนางไม่น้อย
นางไม่โกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด
หากมีคนอยู่ นางก็จะอยู่ข้างกายชางเวย แสร้งทำเป็นลักษณะอย่างผู้ใสซื่อน่าสงสาร หากไม่มีใครอยู่ก็จะเปลี่ยนไปเป็นร่างเดิมแล้วเตร็ดเตร่ไปทั่วโลกเทพแห่งนี้
ก็แค่กลุ่มก้อนอากาศเท่านั้นเอง ทั้งยังหลอมเข้ากับธาตุทั้งห้าได้ ย่อมไม่มีใครค้นพบเป็นธรรมดา
นึกถึงช่วงยุคโบราณกาล เทพผู้ยิ่งใหญ่ในแต่ละสายทางบังเกิดไม่หยุดหย่อน ตอนนั้นนางเดินเล่นไปทั่วก็ไม่มีผู้ใดสังเกตุเห็น บัดนี้ความสามารถเทพเซียนในโลกเทพด้อยลงมาก จึงยิ่งไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของนาง
เดินเล่นคราวนี้สร้างความโมโหให้ซ่งอิงไม่น้อยจริงๆ
โลกเทพแห่งนี้มีหอคอยฝึกฝนเทพเซียนอยู่แห่งหนึ่ง ในนั้นกักขังภูตผีปีศาจเอาไว้ไม่น้อย
ภูตผีปีศาจพวกนี้ แน่นอนว่าเป็นส่วนที่เหลือจากยุคโบราณกาล ส่วนปีศาจอย่างพวกซ่งอิง บ้างก็เติบโตมาด้วยพลังหลิงชี่ในโลกมนุษย์ที่มีมากพอ บ้างก็เป็นราชันปีศาจที่อยู่ใต้บัญชาการของนางตลอดจนดวงวิญญาณปีศาจรุ่นใหญ่จากแต่ละสายทาง
ส่วนที่แห่งนี้ใช้สำหรับการฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้ของเหล่าเทพเซียน
ตอนที่มีเทพเซียนมาก็จะปล่อยภูตผีปีศาจออกมา ตอนที่ไม่มีเทพเซียน พวกเขาก็จะถูกปิดผนึกให้หลับใหล
ซ่งอิงมุ่งเข้าไปในหอคอยฝึกฝนเทพเซียนแห่งนี้ จากนั้นใช้พลังปีศาจที่มีอยู่ในมือทำลายสิ่งที่ปิดผนึกอยู่ให้แตกละเอียด
ปีศาจเหล่านี้ถูกย่ำยีมาเป็นเวลายาวนาน จู่ๆ มีคนนอกปรากฏตัวจึงจู่โจมขึ้นมาโดยทันที ซ่งอิงจึงอาศัยพลังปีศาจลุกล้ำเข้าไปในเรือนร่างของพวกเขาทันที
ความรู้สึกที่คุ้นเคยค่อยๆ ปรากฏขึ้น
“จักรพรรดิ…” น้ำเสียงแหบพร่าอย่างผู้หลับลึกแว่วมาจากหอคอยแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง
“หลายปีมานี้ ลำบากพวกเจ้าแล้ว” ซ่งอิงเผยสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย ครั้นนางตวัดวาดด้วยนิ้วมือก็นำพาพวกเขาไปยังโลกปีศาจเป็นที่เรียบร้อย
ปีศาจสิบแปดตน ในนั้นมีราชันปีศาจสองตน ที่เหลือเหล่านั้น พละกำลังสู้ราชันปีศาจไม่ได้ อีกทั้งล่วงเลยมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ร่างกายจึงเสื่อมโทรมไปไม่น้อย
ซ่งอิงจึงนำดวงวิญญาณปีศาจของพวกเขาไปเลี้ยงบำรุงบนต้นวัฏจักรที่คุ้นเคย
ตอนที่ 926 อายุยืนยาวตลอดไป
หลายปีก่อน ปีศาจที่อยู่ในหอคอยฝึกฝนเทพแห่งนี้มีมากกว่าปัจจุบันสามถึงห้าเท่าตัว เพียงแต่หลายปีมานี้กำลังความสามารถไม่มากพอ และตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปนานแล้ว ที่เหลืออยู่เหล่านี้ต่างก็เป็นผู้ที่เมื่อตอนอยู่โลกปีศาจมีพลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ซ่งอิงมีความทรงจำของอดีตแล้ว ในใจจึงรู้สึกละอายใจต่อปีศาจเหล่านี้เล็กน้อย
หากไม่ใช่เพราะนางไม่ระมัดระวัง ก็คงไม่ถึงขั้นทำให้โลกปีศาจถูกโจมตีจนเสียหายเช่นนี้
โชคดีที่ปีศาจตนอื่นๆ เหล่านั้นไม่ได้มีความกล้า หรือเต็มไปด้วยความแค้นจนต้องการตั้งตนเป็นศัตรูเฉกเช่นพวกปีศาจที่อยู่ในหอคอยฝึกฝนเทพ ดังนั้นบัดนี้ส่วนใหญ่ล้วนถูกผนึกดวงวิญญาณปีศาจไว้แล้วกลายเป็นสัตว์ธรรมดาๆ บัดนี้นางกลับมาแล้ว จึงปลดปล่อยความทรงจำในอดีตของพวกมันได้ทีละน้อย
ซ่งอิงลอยละลิ่วออกมาจากหอคอยฝึกฝนเทพในชั่วพริบตา แล้วกลับไปยังขุนเขาผูอิ่งของชางเวย
บนขุนเขาผูอิ่งแห่งนี้ดูเหมือนว่างเปล่ามาหลายปี หลังจากเทพชางเวยกลับมาจุติใหม่ก็อยู่ในที่ของตนเอง บริเวณโดยรอบเหมือนป่าช้าก็ไม่ปาน เงียบสงัดจนน่าหวาดกลัวเล็กน้อย
เพียงแต่ว่าซ่งอิงกลับค่อนข้างชื่นชอบสถานที่ซึ่งไม่มีการประดับตกแต่งใดๆ แห่งนี้ บนขุนเขาผูอิ่งมีของล้ำค่าค่อนข้างมาก มีของบางอย่างที่โลกปีศาจไม่มี ซ่งอิงก็จะขนย้ายเอากลับไปทั้งนั้น
บัดนี้โลกปีศาจแห่งนี้ใหญ่โตเหลือเกิน ซ่งอิงจึงแบ่งพื้นที่ได้เป็นหลายส่วน
ต้นวัฏจักรตลอดจนทะเลสาบวิญญาณเป็นใจกลางของโลกปีศาจ บริเวณใจกลางเป็นเขตหวงห้าม ส่วนสถานที่อื่น บรรดาปีศาจเลือกสรรได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ การอาศัยสายตาของตนเองหาสถานที่บำเพ็ญเพียรที่เหมาะสมกับตนเองเจอก็คือความสามารถของพวกเขาเช่นกัน
บัดนี้ ในหอคอยเทพเซียนมีปีศาจหายตัวไปจำนวนมากเพียงนี้ กลับยังไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
หอคอยฝึกฝนเทพแห่งนี้ค่อนข้างโหดเหี้ยม ดังนั้นเทพเซียนที่เข้าไปจึงมีไม่มาก
เทพชางเวยเองก็รู้ถึงสิ่งที่นางทำทั้งหมดเป็นอย่างดี แต่กลับสงบนิ่งมาก
หลังจากซ่งอิงกลับจากหอคอยฝึกฝนเทพ ขุนเขาผูอิ่งก็มีแขกมาเยือน
“ท่านเทพ ภาพม้วนกลุ่มดวงดาวของเทพชีมู่แต่งแต้มสมบูรณ์แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเรียนเชิญเทพทุกท่านไปเข้าร่วมพิธีรับชม” เซียนรุ่นเล็กตนหนึ่งนำเทียบเชิญมามอบให้
“ภาพม้วนกลุ่มดวงดาวคืออันใดหรือ เทพชีมู่ ไฉนเหมือนคุ้นๆ ชื่อนี้” ซ่งอิงงุนงง
“ในอดีตเทพชีมู่เคยตามจีบเจ้า เพราะเขาตอแยไม่เลิกจึงทำให้เจ้ารำคาญ เจ้าเลยจับเขาโยนลงไปในถ้ำงูนับหมื่นของโลกปีศาจ…” ชางเวยมองซ่งอิงแวบสายตาหนึ่งด้วยสีหน้าสับสน “นี่เจ้าลืมง่ายเกินไปหน่อยแล้ว เทพชีมู่ยังแค้นฝังใจถึงทุกวันนี้ มองเห็นเทพธิดาก็ยิ่งเอาแต่หนีห่าง จะว่าไปก็น่าสงสารมาก”
ซ่งอิงครุ่นคิด ดูเหมือนมีคนที่ว่านี้อยู่จริงๆ
นึกถึงตอนนั้นยามที่นางเป็นมังกรตนหนึ่ง ออกจะเจ้าชู้เล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่กินไม่เลือกนี่
เทพชีมู่ผู้นี้ไม่รู้ว่านางเป็นจักรพรรดิปีศาจ ต้องการเอานางกลับไปเลี้ยงไว้ให้จงได้ มิหนำซ้ำยังบอกนางว่าเป็นลูกมักรที่งดงามที่สุดในสวรรค์ทั้งเก้า
ถ้อยคำนี้เป็นการดูถูกนาง นางย่อมไม่ยินดีเป็นธรรมดา จึงจับโยนไปเสียเลย…
ถ้ำงูนับหมื่น
ใช่ มีสถานที่เช่นนี้อยู่
นั่นคือถิ่นปีศาจงู ข้างในมีงูน้อยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนร่างนับพันนับหมื่น เขาอยู่โลกปีศาจ มิหนำซ้ำความสามารถเทพเซียนยังถูกควบคุมและถูกนางปิดผนึกพลังเอาไว้ เขาจึงทำได้เพียงตะเกียกตะกายอยู่ในนั้น น่างสารอย่างยิ่ง
“คิดไม่ถึงเลย เขาโง่เขลาขนาดนี้ ยังจะอยู่รอดมาถึงตอนนี้อีกด้วย จุ๊ๆๆ” ซ่งอิงเผยสีหน้าตระหนกตกใจระคนประหลาดใจ
“อาจารย์ของเทพชีมู่ตอนนั้นอย่างน้อยก็เป็นหนึ่งในสามมหาเทพ มีของล้ำค่าประจำกายนับไม่ถ้วน ปกป้องเขากลับชาติเกิดใหม่ได้โดยง่ายดาย ยิ่งไปว่านั้น ด้วยวัยเขาของก็ยังไม่ถือว่าแก่” ชางเวยกล่าวอีกครั้ง
แน่นอนว่าเทพเซียนแตกต่างจากคน
เทพเซียนอายุขัยไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งไม่ใช่ดูที่อายุขัย แต่ดูที่วาสนา บุญบารมีและชะตาชีวิตตลอดจนพลังความสามารถ
ก็อย่างเช่นเขา ตอนนั้นหากไม่ใช่เพื่อปกป้องโลกมนุษย์จึงแบกรับภาระอันหนักอึ้ง ไม่ต้องกลับชาติไปเกิดก็มีชิวิตอยู่ได้ถึงตอนนี้ และถึงขั้นเมื่อเทียบกับในหมู่มนุษย์ยังถือว่าเป็นวัยหนุ่มกำยำอีกด้วย
มีพลังความสามารถ การจะมีอายุยืนยาวตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา