ตอนที่ 122 โลหิตของปีศาจบรรพกาล ก้าวเข้าสู่ชั้นที่สอง
ชิ้ง!
ปราชญ์ยุทธ์ปีศาจล่าถอยไปเพราะโลหิตหลั่งริน ทว่าร่างทั้งร่างยังไม่ทันได้หยุดเคลื่อนไหว คอของเขาก็มีกระบี่เล่มหนึ่งจ่อรออยู่แล้ว
หนิงฝานเอยเสียงเย็นชา “พวกเจ้าเป็นผู้ใด แล้วถ้ำปีศาจบรรพกาลแห่งนี้เป็นสถานที่เช่นไร!”
“ผู้มาเยือนถ้ำปีศาจ จงตายเสีย”
ผู้ใดจะรู้ว่า ปีศาจแห่งขอบเขตเทพยุทธ์กลับไม่ได้สนใจว่ามันจะตายตกเพราะหนิงฝานหรือไม่ ดวงตาของมันแดงก่ำ ร่างทั้งร่างแม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างหนักแล้ว แต่ก็ยังต้องการจะลุกขึ้นเพื่อฆ่าหนิงฝาน
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หนิงฝานพลันขมวดคิ้วแน่น เมื่อรู้ว่าคนผู้นี้ไม่มีสติสัมปชัญญะเหมือนกับคนปกติทั่วไป เขาจึงเกียจคร้านเกินกว่าจะถามต่อ เพียงสับฟันกระบี่ออกไปโดยตรง
ฉัวะ!
หัวของปราชญ์ยุทธ์ปีศาจกระเด็นลอยขึ้นไป วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในที่แห่งนั้นก็จบลงด้วยปราณกระบี่ ร่างกายของพวกมันชักกระตุกอยู่สองสามครั้ง และตายตกไปอย่างสมบูรณ์
วูบ!
ขณะที่ปราชญ์ยุทธ์ปีศาจล้มลงมา ป้ายคำสั่งสีดําก็ลอยออกมาจากร่างของเขา
หนิงฝานรู้สึกประหลาดใจ มือพลันเอื้อมออกไปคว้าป้ายคำสั่งขนาดเท่าฝ่ามือ ที่ปิดทับด้วยอักขระมนต์ดำสลักลายประตูมิติเอาไว้
‘นี่มันอะไรกัน หรือจะเป็นป้ายคําสั่งผ่านทางขึ้นไปยังชั้นสองของถ้ำปีศาจหรือ?’
หนิงฝานคาดเดาในใจ
เพราะตอนที่เพิ่งลงชื่อเข้าใช้ ตามคำเตือนของระบบ ที่นี่เป็นชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาล และหากมีชั้นแรกก็ย่อมต้องมีชั้นที่สอง
ครืน!
อย่างที่คาดไว้ หลังจากที่เขาใส่พลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในป้ายคำสั่ง จู่ ๆ ป้ายคำสั่งก็มีพลังงานขึ้นมา ภายในพริบตา ประตูบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ประตูนั้นลึกสุดตาและปราณปีศาจที่อยู่ภายในนั้นก็กำลังเดือดพล่าน
“ดูเหมือนว่าประตูบานนี้จะนําไปสู่อีกชั้นหนึ่งของถ้ำปีศาจ”
หนิงฝานพยักหน้า
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เลือกที่จะก้าวเข้าสู่ชั้นที่สอง
ประการแรก มีปีศาจจำนวนมากในชั้นแรก ซึ่งแน่นอนว่าในชั้นที่สองจะต้องน่ากลัวกว่า ถ้าเขาสามารถจัดการกับมันได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาไม่สามารถจัดการกับมันได้ มันคงจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสําหรับราชวงศ์เทพขนนกที่อยู่ในโลกภายนอก
ประการที่สอง หลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ยังคงรออยู่ในโลกภายนอก เขากลัวว่าหลังจากผ่านไปนาน หลัวชิงเซียนกับคนอื่น ๆ จะอดไม่ได้ที่จะมาพบเขาที่นี่ และอาจมีคนต้องตกอยู่ในอันตราย
ด้วยเหตุนี้ หนิงฝานจึงถอนป้ายคำสั่ง แล้วประตูมิติก็หายไปทันที
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและออกจากถ้ำปีศาจไปอย่างไม่ลังเล
เมื่อมาถึงด้านนอกถ้ำปีศาจ
เพื่อป้องกันไม่ให้ปราณปีศาจแพร่กระจายไปทั่วเมืองเทพขนนกอีก และเพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจภายในนั้นออกมาได้ หนิงฝานทำการสร้างค่ายกลเทวะที่ทางเข้าเพื่อปิดผนึกถ้ำปีศาจนี้
หลังจากทําทั้งหมดจนเสร็จสิ้นแล้ว ชายหนุ่มพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะเหาะเหินขึ้นไปด้านบน
พรึ่บ!
ไม่นานนัก หนิงฝานก็กลับมามาบนพื้นดินอีกครั้ง
“สามี เป็นอย่างไรบ้าง?” เมื่อเห็นหนิงฝานกลับมา หลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ก็ก้าวเข้ามาสอบถามทันที
ชายหนุ่มจึงบอกเรื่องถ้ำปีศาจบรรพกาลใต้พื้นดิน
“บัดซบ! ชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาลมีปีศาจแห่งขอบเขตเทพยุทธ์อยู่!”
เมื่อได้ยินคำบอกเล่า หลัวชิงเซียนและคนอื่น ๆ ถึงกับอ้าปากค้างทันที
ถ้ำปีศาจบรรพกาลแห่งนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว หากปีศาจในนั้นออกมาอาละวาด เกรงว่าราชวงศ์เทพขนนกจะต้องถูกทําลายอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าทุกคนค่อนข้างตื่นตระหนก หนิงฝานจึงเอ่ยปลอบโยนว่า “ภรรยา เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าได้ปิดผนึกทางเข้าถ้ำปีศาจไว้แล้ว ต่อไปข้าจะหมั่นลงไปตรวจตราความเคลื่อนไหวของถ้ำปีศาจ มันจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน”
วิถีอุบัติของถ้ำปีศาจบรรพกาลนั้นเหนือกว่าที่เมืองเทพขนนก เขาย่อมต้องการให้ถ้ำปีศาจบรรพกาลเป็นสถานที่ใหม่ในการลงชื่อเข้าใช้
“อืม ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็หมดกังวลแล้ว”
จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนพยักหน้า แล้วสีหน้าของนางก็คลายกังวลลงทันที
ทว่าความกดดันภายในใจของนางกลับเพิ่มขึ้น มันยิ่งทำให้นางกระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่จะพัฒนาราชวงศ์เทพขนนก
เพียงแค่ศัตรูนอกดินแดนกดดันก็มากพอแล้ว มาตอนนี้ยังมีถ้ำปีศาจบรรพกาลอยู่ใต้เมืองเทพอีก
สามารถจินตนาการได้เลยว่า หากราชวงศ์เทพขนนกไม่มีกําลังพลเพียงพอที่จะต้านทานศัตรูนอกดินแดน ต่อไปราชวงศ์คงได้ล่มสลายลงจริง ๆ
แม้ตอนนี้จะมีหนิงฝาน แต่นางยังคงหวังว่าราชวงศ์เทพขนนกจะยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง แทนที่จะพึ่งพาหนิงฝานไปตลอด
หากเป็นเช่นนั้น สามีของนางจะยิ่งเหนื่อยมาก
ท้ายที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนในเมืองเทพเกิดความตื่นตระหนกเพราะเรื่องของถ้ำปีศาจบรรพกาล หลัวชิงเซียนจึงสั่งให้สร้างเหตุผลหนึ่งขึ้นมา เพื่ออธิบายเรื่องของปราณปีศาจที่ปกคลุมท้องฟ้าแก่ประชาชน
ส่วนหนิงฝานกลับไปที่ตำหนักองค์จักรพรรดินี และเรียกหยดโลหิตของปีศาจบรรพกาลขึ้นมา
ฟึ่บ!
เมื่อหยดโลหิตของปีศาจบรรพกาลปรากฏขึ้น ทั้งตำหนักจักรพรรดินีก็เปล่งประกายด้วยแสงจากโลหิต หนิงฝานกลืนโลหิตของปีศาจบรรพกาลเข้าไป ก่อนที่ปราณโลหิตไร้ที่สิ้นสุดจะแผ่ซ่านออกไป
ตู้ม!
ทันทีที่โลหิตของปีศาจบรรพกาลเข้าปาก มันก็กลายเป็นพลังงานไร้ที่สิ้นสุดทันที ก่อนจะเริ่มแผ่ขยายไปทั่วร่างกายทั้งแขนขาและกระดูกของหนิงฝาน พลังงานที่น่ากลัวนี้ทําให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากการฝึกตนหนึ่งคืน เมื่อโลหิตของปีศาจบรรพกาลนี้ได้รับการหลอมรวมอย่างสมบูรณ์ พลังของหนิงฝานก็ก้าวกระโดดขึ้นอย่างมาก
“อืม! โลหิตของปีศาจบรรพกาลเพียงหยดเดียวนี้ นับว่าคุ้มค่ากับการฝึกตนอย่างหนักถึงห้าปีของข้าจริง ๆ”
หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เมื่อรู้สึกถึงการก้าวกระโดดของการบำเพ็ญในร่างกาย
แม้ว่าการฝึกตนและการบำเพ็ญที่เพิ่มขึ้นทีละขั้นตอนจะยังห่างชั้นจากคนอื่น ๆ แต่สําหรับเขาก็ถือว่าสุดยอดอยู่ดี
หากมีของแบบนี้มาช่วยในการฝึกตนบ่อย ๆ หนิงฝานเชื่อว่าเขาจะสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตเทพขั้นต่อไปได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อโอกาสในการลงชื่อเข้าใช้ได้รับการฟื้นฟู วันต่อมาหนิงฝานก็ลงไปยังทางเข้าถ้ำปีศาจ ซึ่งอยู่ใต้ดินที่ระยะแสนจั้งอีกครั้งโดยไม่ลังเล
ฟึ่บ!
หลังจากเข้าไปในถ้ำปีศาจบรรพกาลแล้ว เขาก็ลงชื่อเข้าใช้ทันที
[ติ๊ง! ชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาลได้รับการลงชื่อเข้าใช้เรียบร้อยแล้ว ได้รับหยดโลหิตของปีศาจบรรพกาลหนึ่งหยด]
หลังจากระบบแจ้งเตือนแล้ว หนิงฝานก็ได้รับหยดโลหิตของปีศาจบรรพกาลอีกครั้ง
พลังบำเพ็ญของหนิงฝานพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เมื่ออาศัยหยดโลหิตของปีศาจบรรพกาลหยดใหม่นี้
ต่อมา หนิงฝานก็มาลงชื่อเข้าใช้ที่ชั้นหนึ่งของถ้ำปีศาจบรรพกาลทุกวัน
[ชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาลถูกลงชื่อเข้าใช้เรียบร้อยแล้ว ได้รับหยดโลหิตของปีศาจบรรพกาลหนึ่งหยด]
[ชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาลถูกลงชื่อเข้าใช้เรียบร้อยแล้ว ได้รับกระดูกบรรพกาลหนึ่งชิ้น]
[ชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาลถูกลงชื่อเข้าใช้เรียบร้อยแล้ว ได้รับโอสถพลังศักดิ์สิทธิ์หนึ่งเม็ด]
…
เป็นแบบนี้ ติดต่อกันมาถึงห้าปี
หนิงฝานยังคงลงชื่อเข้าใช้ที่ชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาล และไม่ได้รีบร้อนเข้าไปในชั้นสองของถ้ำปีศาจแต่อย่างใด
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เพราะพึ่งพาสิ่งของต่าง ๆ ที่ได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ในชั้นแรกของถ้ำปีศาจบรรพกาล พลังบำเพ็ญของหนิงฝานจึงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ระดับเทพปฐพีซึ่งก่อนหน้านี้ยังรู้สึกว่าห่างไกล ก็กําลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
และหลังจากห้าปีของการลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่อง รางวัลของถ้ำปีศาจบรรพกาลในชั้นแรกก็เริ่มลดลง มินหนำซ้ำ พลังก็ค่อย ๆ น้อยลงด้วย
“ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่จะเข้าสู่ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาล”
วันนี้เอง ในที่สุดหนิงฝานก็ตั้งใจจะเข้าไปในชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาล
เมื่อมาถึงถ้ำปีศาจบรรพกาล ชายหนุ่มก็หยิบป้ายคำสั่งนั้นออกมา
ฟึ่บ!
ประตูสู่ชั้นที่สองปรากฏขึ้นด้วยการกระตุ้นของพลังศักดิ์สิทธิ์
หนิงฝานก้าวเข้าสู่ชั้นสองอย่างไม่ลังเล
ชั้นที่สองของถ้ำปีศาจบรรพกาลนั้นกว้างกว่าชั้นแรก ทว่าสิ่งที่แตกต่างจากพื้นที่โล่งในชั้นแรกคือ พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชั้นภูเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
และปราณปีศาจชั้นที่สองก็รุนแรงยิ่งกว่า ปราณปีศาจที่เดือดพล่าน มันก่อตัวเป็นลมวายุพัดผ่านไปทั่วเทือกเขา มิติถูกคลื่นลมพัดจนเกิดแรงกระเพื่อมเล็กน้อย
เขาสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมแย่ ๆ ของชั้นที่สองนี้ได้พอสมควร
[ติ๊ง! ต้องการลงชื่อเข้าใช้ที่ชั้นสองของถ้ำปีศาจบรรพกาลหรือไม่?]
ในเวลานี้เอง เสียงเตือนของระบบแว่วดังผ่านหูของเขา
แต่ก่อนที่หนิงฝานจะทันได้ตอบสนอง ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในอากาศ แล้วแสงเยือกเย็นที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาเช่นเดียวกัน!