บทที่ 176 ไม่เห็นเลือด ไม่หลั่งน้ำตา!
“โหดร้ายปานนั้นเชียว?”
เจ้าสำนักหยวนอีสงสัย เขาไม่เชื่อว่าสือเฟิงจะกล้าลงดาบกันที่นี่
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเป็นกังวลกับแดนบูรพาทิศอย่างมาก บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินและลูกรักสวรรค์ของภาคกลางจึงไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวซี้ซั้ว
“สือเฟิง หากข้าต้องการพาเด็กไปสักคนเล่า?” บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินกล่าว
เบื้องหลังของเขาคือแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลิน สือเฟิง…กล้าแตะต้องเขาหรือ?
สือเฟิงหาได้ใส่ใจเจ้าสำนักหยวนอีกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินไม่
เขาเพียงมองไปที่อันหลานเสวี่ยแล้วยิ้มพลางพูดว่า “ข้ารบกวนแม่นางพาอ้ายฉานและเด็กคนอื่นออกไปก่อนได้หรือไม่?”
อีกไม่นานที่แห่งนี้จักนองไปด้วยธารโลหิต
เขาไม่อยากให้อ้ายฉานและเด็กคนอื่นเห็นภาพเช่นนี้
“ข้าหรือ?”
อันหลานเสวี่ยถาม
นางรู้ดีว่าสือเฟิงต้องการจะทำอะไร
แต่ผลที่ตามมานั้นร้ายแรงเกินไป…
“ไม่มีปัญหา”
สือเฟิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฝากดูแลเด็ก ๆ ด้วย”
“ตกลง”
อันหลานเสวี่ยพยักหน้า ก่อนจะพาอ้ายฉานและคนอื่นออกไป
เดิมทีไม่ใช่นางที่ควรพาอ้ายฉานและเด็ก ๆ คนอื่นไป
เพราะตอนนี้พรรคจื่อเสียกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับทุกอย่าง
แต่นางรู้ว่าอีกประเดี๋ยวจะมีการนองเลือด จึงไม่อยากให้เด็ก ๆ เห็นฉากนองเลือดเหล่านั้น
ส่วนผู้อาวุโสของพรรคจื่อเสียได้แต่มองดู ทว่ามิอาจพูดสิ่งใดออกมาได้
เฮ้อ…
เขาถอนหายใจอย่างหมดหนทาง
ไม่ว่าจะเป็นสือเฟิง ยอดฝีมือแดนบูรพาทิศ หรือลูกรักสวรรค์จากภาคกลาง เขาไม่อาจแตะต้องใครได้เลยสักคน แต่หากเขาไม่ฟังใครเลยย่อมเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเป็นแน่…
“พวกเจ้าจะไม่ไปจริง ๆ หรือ?”
สือเฟิงสาวเท้ามาด้านหน้า ดวงตาจับจ้องไปที่ยอดฝีมือแดนบูรพาทิศและลูกรักสวรรค์จากภาคกลาง ก่อนจะปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง
เขาหาได้ต้องการฆ่าคนไม่ ทว่าน่าเสียดายยิ่ง อีกฝ่ายไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เขาจึงไม่รังเกียจที่มือจะเปื้อนเลือด!
“ฆ่าคน… เจ้ากล้าหรือ!?”
เจ้าสำนักหยวนอีพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ และไม่มีความหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
“สือเฟิง จงคิดให้ดี ๆ หากเจ้าแตะต้องพวกข้า เจ้าและนิกายอวี้ซวีจักแบกรับผลที่ตามมาได้จริงหรือ!?”
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินก็มิได้หวาดกลัวเช่นกัน
ครานี้ สือเฟิงไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาอีก
เด็กหนุ่มเพียงเหยียดนิ้วออก แล้วลำแสงก็พุ่งออกมาทันที มันทะลุผ่านหน้าผากของเจ้าสำนักหยวนอีอย่างรวดเร็ว
บังเกิดเสียงกึกก้อง เจ้าสำนักหยวนอีล้มลงทันที
ปัง!
สือเฟิงยกมือขึ้นอีกครั้ง แล้วลำแสงอีกลำก็พุ่งออกมา ตรงไปยังบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลิน!
ทว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินมีขอบเขตสูงส่ง จึงตอบสนองได้เร็วกว่าเจ้าสำนักหยวนอี
เขาตบมันด้วยฝ่ามือ แล้วพลังแกร่งกล้าก็ปะทุขึ้นฉับพลัน พยายามปิดกั้นมันอย่างรวดเร็ว
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่อาจทำได้ เพราะช่องว่างของพลังนั้นใหญ่เกินไป!
ลำแสงทะลวงผ่านไปโดยไร้ซึ่งการต่อต้าน มันทะลุกลางหน้าผากของบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลิน!
ตู้ม!
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินล้มลงทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างก่อนจะสิ้นชีพ ณ จุดนั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าสือเฟิงจะกล้าฆ่าเขาจริง ๆ!
“ฆ่ากันแล้ว!”
ฝูงชนทั้งหมดพลันตกอยู่ในความโกลาหล และเสียงกลืนน้ำลายก็ดังไปทั่ว
ในตอนนี้ สายตาของผู้ฝึกตนทุกคนที่มองไปยังสือเฟิงนั้นเปลี่ยนไป
กลายเป็นยำเกรงและหวาดกลัว!
นี่คือธรรมชาติของมนุษย์
หากไม่เห็นเลือดย่อมไม่หลั่งน้ำตา มันมักจะมีคนที่ไม่รู้จักกลัวแล้วยังชอบเพ้อฝันอยู่ในใจ!
“ข้าหวังว่าพวกท่านจักจดจำสิ่งที่ข้าพูดได้ เลิกคิดถึงอ้ายฉานกับเด็ก ๆ คนอื่น และอย่าได้เข้ามายุ่มย่ามพรรคจื่อเสียอีก” สือเฟิงกล่าวอย่างเรียบเฉย
ยอดฝีมือแดนบูรพาทิศคิดว่าเขาไม่กล้าลงดาบสังหารคนที่นี่…
เขาไม่กล้าหรือ?
ย่อมไม่!
เขาเพียงแค่ไม่อยากแสดงฝีมือออกมาเท่านั้น!
ยอดฝีมือแดนบูรพาทิศอาจไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน จึงใคร่สนใจแดนบูรพาทิศมาก
แต่เขารู้!
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนรับคำสั่งมาจากท่านเซียน
หากเขาลงมือที่นี่ ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะตามหาเขาหรือ?
คิดอันใดกันอยู่…
เขากำลังปกป้องพวกเด็ก ๆ ที่ท่านเซียนชอบ!
สำหรับบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินและกองกำลังแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้องหลังของลูกรักสวรรค์ภาคกลาง เขาก็ไม่กังวลเช่นกัน
ด้วยภาพวาดสองภาพเทพแห่งดวงจันทร์และเหลยเจิ้นจื่อ แดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะคุกคามเขาได้อย่างไร?
น่าเสียดายที่เจ้าสำนักหยวนอีและบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินยืนกรานรนหาที่ตาย ยั่วยุเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้ เขาต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อบีบบังคับให้คนเหล่านี้ล่าถอยออกไปจากที่นี่
ไม่เห็นเลือด… คนเหล่านี้ก็ไม่ฟังอันใดหรอก
“แยกย้ายกันเถิด เรื่องนี้จบแล้ว” สือเฟิงว่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ครานี้ไม่มีผู้ใดไม่กล้าไม่สนใจคำพูดของเขาอีกแล้ว ต่างคนต่างเริ่มล่าถอยไป
น่าขันแล้ว…
เจ้าสำนักหยวนอีกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลิน… สือเฟิงพูดฆ่าก็คือฆ่า แล้วพวกเขาจะยังกล้าอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร?
คิดว่าตนเองมีหลายชีวิตนักหรือไร?
แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาบางคนไม่ยอมรับ
โดยเฉพาะลูกรักสวรรค์จากภาคกลางเหล่านั้น
การจากไปตอนนี้ เป็นเพราะพวกเขาไม่อาจเอาชนะสือเฟิงได้
ทว่ายอดฝีมือแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาสามารถเอาชนะสือเฟิงได้!
ประเดี๋ยวพวกเขากลับไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จะพายอดฝีมือดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลับมา ณ ที่แห่งนี้ด้วย ถึงเวลานั้นจะได้เห็นดีกันว่าสือเฟิงยังจะทำอันใดได้บ้าง!
“ทุกท่านยังไม่ยอมรับอีกหรือ?”
ในเวลานี้ เวิงอู๋โยวพลันพูดออกมาอย่างเย็นชา
เพราะเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่จบไม่สิ้นเสียที
“ฟังให้ดี! ผู้ใดก็ตามที่กล้าเอาเปรียบเด็กเหล่านี้ ทั้งยังกล้าแตะต้องพรรคจื่อเสีย ล้วนถือเป็นศัตรูกับสำนักไท่หัวของข้า!” เขาตะโกนออกมาเสียงดังก้อง
“และถือเป็นศัตรูกับสำนักเมฆาลับฟ้าของข้าด้วย!” โจวตงก็ออกมาตะโกนเช่นกัน
สิ้นเสียงกล่าวของทั้งสอง ใบหน้าผู้ฝึกตนทั้งหมดก็เปลี่ยนไปทันที
ผู้ฝึกตนคนอื่นของแดนบูรพาทิศไม่ต้องพูดถึง
เพียงแค่เวิงอู๋โยวกับโจวตง ทั้งสองเคยเผยความแข็งแกร่งของพวกเขาออกมาให้เห็นแล้ว ฝูงชนทั้งหลายย่อมไม่กล้ายั่วยุสำนักไท่หัวและสำนักเมฆาลับฟ้า
แน่นอนว่า ลูกรักสวรรค์พวกนั้นเองก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อเวิงอู๋โยวและโจวตง
พวกเขาได้ยินมาว่า ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนสุภาพกับเวิงอู๋โยวและโจวตงมาก!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะไม่หวาดกลัวต่อเวิงอู๋โยวและโจวตงได้อย่างไร?
“มิกล้า มิกล้า!”
“เด็กเหล่านี้คือคนของพรรคจื่อเสีย พวกข้าย่อมไม่กล้าคิดเห็นเป็นอื่น!” พวกเขาพูดอย่างรวดเร็ว
“เช่นนี้ก็ดี” เวิงอู๋โยวพยักหน้า
“คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินอยู่หรือไม่”
เขามองไปที่ลูกรักสวรรค์จากภาคกลางเหล่านั้น
พลันมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมา เขาผู้นั้นมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลิน
“กลับไปบอกปรมาจารย์สวรรค์ของเจ้า ว่าอย่าได้พยายามแก้แค้นสือเฟิง สือเฟิงถือเป็นสหายกับสำนักไท่หัวของข้า!”
เวิงอู๋โยวเปิดปากพูดว่า “ข้าไม่รังเกียจที่จะพูดอีกว่า สือเฟิงเองก็เป็นสหายกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน!”
“กระไรนะ!” สีหน้าของผู้ฝึกตนเหล่านี้เปลี่ยนไปทันที
สือเฟิงเป็นสหายกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน?
มิแปลกใจแล้วว่า เหตุใดสือเฟิงถึงไม่หวาดเกรงที่จะลงดาบสังหารคน นั่นเพราะเขามีผู้หนุนหลังที่ยิ่งใหญ่อย่างไรเล่า!
“มิกล้า มิกล้า!”
ชายหนุ่มจากแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินตอบกลับทันที
สวรรค์! ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนปลิดชีพประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผา และประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิด แล้วแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงหลินของพวกเขาจะกล้ายั่วยุประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนได้อย่างไร?
หากไม่ยินยอมจบเรื่อง พวกเขาคงได้เหลือแต่หัว!
“เอาล่ะ แยกย้ายกันเถิด” เวิงอู๋โยวกล่าวเสียงเบา
หลังจากนั้น ฝูงชนทั้งหมดก็ล่าถอยจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป
สือเฟิงมองเวิงอู๋โยวด้วยความคาดไม่ถึง พวกเขากลายเป็นสหายกันได้อย่างไร?
เขาจำได้ว่าตนไม่เคยเห็นเวิงอู๋โยวมาก่อน
ทว่าเวิงอู๋โยวแย้มยิ้ม เพราะรู้ว่าสือเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่
เขาส่งเสียงไปยังสือเฟิงผ่านทางกระแสจิต “สหาย เจ้าเคยพบคุณชายแล้วหรือยัง?”
คุณชาย!
สีหน้าของสือเฟิงเปลี่ยนไปทันที
“ท่านเป็นใคร?”
เด็กหนุ่มถามอีกฝ่ายกลับผ่านทางกระแสจิต
“มิต้องกังวลไป พวกเราเคยพบคุณชายมาก่อนแล้ว…”
“เช่นนี้นี่เอง!” สือเฟิงเข้าใจในบัดดล
มิแปลกใจแล้วว่าเหตุใดเวิงอู๋โยวจึงพูดคำดังกล่าว
เพราะเวิงอู๋โยวรู้จักตัวตนของคุณชาย!
…
“ถึงแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตในเสื้อคลุมสีดำเดินออกมาจากความว่างเปล่า และหยุดอยู่ในเวหา เหนือสถานที่แห่งหนึ่งทางแดนบูรพาทิศ