ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 181 งบปลายปี(ต้น)

ตอนที่ 181 งบปลายปี(ต้น)

นาง​เคย​ไป​บอก​ให้​กรมพระราชวัง​ทำ​รู​บิค​ ​มัน​เกี่ยวกับ​กระดานหมากรุก​และ​เก้าอี้​อย่างไร​กัน

ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​นำภาพ​วาด​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​นาง​เคย​บอก​เขา​แล้ว​ว่า​ ​ให้​คนที​่​ทำนา​ฬิ​กา​เป็น​ของ​กรมพระราชวัง​ดู​…​หรือว่า​ทำผิด

นาง​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ด้วย​ความ​สับสน​ ​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอา​มือ​ไขว้หลัง​มอง​ของ​ชิ้น​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ ​มัน​เป็น​สี่เหลี่ยม​ ​สูง​เท่า​เอว​ ​ข้างบน​เป็น​สีแดง​ ​ข้าง​ซ้าย​เป็น​สีเขียว​ ​ข้าง​ขวา​เป็น​สีเหลือง​ ​และ​ข้างหน้า​เป็น​สีฟ้า​ ​ทุก​ด้าน​ทำ​ด้วย​แก้วสี​หลื​อง​เก้า​ชิ้น​ ​ส่องแสง​ภายใต้​แสงไฟ​ ​ช่าง​งดงาม

สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ตก

นี่​มัน​ไม่ใช่​รู​บิค​ที่​คน​ถือ​เล่น​ใน​มือ​ ​มัน​คือ​ประติมากรรม​ชัดๆ

นาง​หยุด​เดิน​แล้ว​ยืน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ได้ยิน​เสียง​การเคลื่อนไหว​เห็น​ว่า​ภรรยา​ของ​ตัวเอง​กลับมา​แล้ว​ ​เขา​ก็​กวักมือ​เรียก​นาง​ ​“​เจ้า​บอก​ให้​กรมพระราชวัง​ทำ​สิ่งใด​กัน​ ​เขา​บอกว่า​ทุก​ตาราง​สามารถ​หมุน​ได้​ตาม​ต้องการ​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​กด​ตรง​มุม​ ​“​ข้า​หา​อยู่​ตั้ง​นาน​ก็​หากล​ไก​ไม่​เจอ​”

รู​บิค​ต้อง​นำมา​หมุน​เล่น​ใน​มือ​ ​เอา​วาง​ไว้​บน​พื้น​เช่นนี้​ ​มัน​จะ​หมุน​ได้​เช่นไร

สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก​ ​นาง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ตอบคำถาม​เช่นไร

“​หรือว่า​ทำ​กล่อง​สมบัติ​รูปแบบ​ใหม่​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พึมพำ​ ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ยืน​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เลิก​คิ้ว​ ​“​ทำไม​หรือ​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​ตรอก​กง​เสียน​”

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

นาง​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ถาม​ต่อ​ ​นาง​รีบ​พยักหน้า​ ​ไล่​คนที​่อ​ยู​ใน​ห้อง​ออก​ไป​ ​เล่า​แผนการ​ของ​นาย​ทาน​ใหญ่​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​…​ข้า​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​บอก​ท่าน​พ่อ​เช่นไร​ ​จึง​ให้​เขา​มาถา​มท​่าน​เอง​”​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถูก​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ ​เดิน​เข้าไป​ยัง​ห้อง​ข้างใน​ ​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​“​หาก​เจิ​้น​ซิ่ง​มา​ ​ข้า​จะ​บอก​เขา​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​เข้าใจผิด​สวี​ลิ่ง​อี๋​เมื่อวาน​ ​นาง​ก็​ชงชา​ร้อน​ด้วยตัวเอง​ ​“​โชคดี​ที่​ท่าน​โหว​ช่วย​เตรียม​เงิน​พวก​นั้น​ให้​ข้า​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​วันนี้​คงจะ​ขายหน้า​จริงๆ​”

ที่จริง​แล้ว​เหรียญเงิน​และ​ตั๋วเงิน​ไม่ได้​ใช้​เลย​สักนิด​ ​เดิมที​นาง​อยาก​จะ​แอบ​มอบ​ตั๋วเงิน​ให้​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​แต่​อี๋​เหนียง​ห้า​คอย​รับใช้​นาย​หญิง​ใหญ่​อยู่​ตลอดเวลา​ ​นาง​ไม่มี​โอกาส​มอบให้​ ​สำหรับ​เหรียญเงิน​พวก​นั้น​ ​ซื่อ​เหนียง​และ​อู่​เหนียง​ก็​ไม่มี​ท่าที​อะไร​ ​นาง​ก็​ไม่​อยาก​ทำให้​ตัวเอง​ดู​สูงส่ง​ต่อหน้า​พวก​นาง

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​อืม​”​ ​รับ​ถ้วยชามา​ด้วย​สีหน้า​ที่​นิ่งเฉย​ ​ทำท่า​ที​เหมือน​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​นี้

สือ​อี​เหนียง​ไม่แน่ใจ​ว่า​เขา​ยังคง​โกรธ​เรื่อง​นี้​อยู่​หรือไม่​ ​แต่​ทุกคน​ล้วนแต่​ชอบ​ฟัง​คำพูด​ประจบสอพลอ​ ​เห็นแก่​ตอนเช้า​ที่​ตัวเอง​ทำผิด​ ​ยอม​ก้มหัว​ให้​เขา​คง​ไม่เป็นไร​ ​นาง​จึง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​วันนี้​ท่าน​โหว​อ่านหนังสือ​ทั้งวัน​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​ของ​ท่าน​แม่​”

“​ตอนเที่ยง​ไป​ทานข้าว​ที่​เรือน​ท่าน​แม่​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จิบ​ชา​อีกครั้ง​ ​“​จากนั้น​ก็​ไปหา​ฉิน​อี๋​เหนียง​กับ​อวี​้​เกอ​ ​ไป​เจอ​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ ​ฟัง​เฉียว​อี๋​เหนียง​ดีด​พิณ​เพลง​ ​‘​แอบ​คิดถึง​’​”

ดีด​เพลง​ ​‘​แอบ​คิดถึง​’​ ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สือ​อี​เหนียง​พยายาม​กลั้น​หัวเราะ

ดูเหมือนว่า​เขา​สามารถ​สร้าง​ความสนุก​สนาน​ให้​ตัวเอง​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​มองดู​สีหน้า​ที่​เรียบ​นิ่ง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ ​ไม่​แตกต่าง​จาก​วัน​ปกติ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​นาง​ก็​คิด​ว่า​ตัวเอง​นั้น​คิดมาก​เกินไป​ ​จึง​โล่งใจ​ขึ้น​มา

“​ทักษะ​ดีด​พิณ​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​นั้น​ยอดเยี่ยม​ ​ข้า​เคย​ได้ยิน​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​”​ ​นาง​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ ​“​ท่าน​โหว​ช่าง​มี​วาสนา​เสีย​จริง​”​ ​รีบ​บอก​ให้​คน​ไป​ยก​ขนม​วัว​ซือ​ถัง​ ​แตง​และ​เชอร์รี่​น้ำผึ้ง​มา​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ลุกขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​พึ่ง​กลับมา​ ​ประเดี๋ยว​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้ว​จะ​ออกมา​คุย​เป็นเพื่อน​ท่าน​โหว​นะ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​นาง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​แววตา​ของ​เขา​ก็​เข้ม​ขึ้น

ยิ้ม​แล้ว​เรียก​ลี่ว​์​อวิ​๋น​และ​หง​ซิ่ว​เข้ามา​รับใช้​นาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​ล้างหน้าล้างตา​ ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชำระ​แล้วยัง​แอบ​พูด​กับ​ซวง​อวี​้​ ​“​ไป​บอก​หู่​พั่ว​ว่า​ ​นำ​ของ​ที่​กรมพระราชวัง​ส่ง​มา​ไป​ไว้​ใน​ห้องเก็บของ​”

ซวง​อวี​้​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​กลับมา​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ป้า​ห้า​หก​คน​ก็​ย้าย​ไม่ไหว​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​ว่า​ ​เรียก​บ่าว​รับใช้​ชาย​มาย​้าย​ไป​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

ตอนนี้​สือ​อี​เหนียง​อยาก​ให้​ของ​สิ่ง​นั้น​รีบ​หาย​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​“​ไป​บอก​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​บอก​ให้​เขา​ย้าย​มัน​ไป​ที่​ห้องเก็บของ​ของ​ข้า​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ซวง​อวี​้​หันหลัง​เดิน​ออก​ไป​ ​สือ​อี​เหนียง​เรียก​นาง​อีกครั้ง​ ​“​เจ้า​ไป​ถาม​พ่อบ้าน​ไป๋​ว่า​ของ​สิ่ง​นี้​หมด​เงิน​ไป​เท่าไร​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ซวง​อวี​้​ไป​เรียก​คน​มาย​้าย​ของ​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เก็บ​ข้าวของ​เรียบร้อย​แล้ว​นาง​ก็​กลับมา​ ​“ฮู​หยิน​ ​ย้าย​ของ​ไป​ไว้​ที่​ห้องเก็บของ​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​บอกว่า​ ​ซุ่น​อ๋อง​เป็น​คน​ส่ง​ของ​มา​ ​ให้เงิน​ไป​แค่​สาม​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​ของ​สิ่ง​นี้​ทำ​จาก​ทองเหลือง​ชั้นดี​ ​เครื่องเคลือบ​ก็​ทำ​มาจาก​เตาเผา​ ​แค่​ชิ้น​เดียว​ก็​ราคา​ยี่สิบ​สามสิบ​ตำลึง​ ​สาม​ร้อย​ตำลึง​ไม่​แพง​เจ้าค่ะ​”

หนึ่ง​ชิ้น​ยี่สิบ​สามสิบ​ตำลึง​ ​รู​บิค​มี​หก​ด้าน​ ​แต่ละ​ด้าน​มี​เก้า​ชิ้น​…​พ่อ​ไป๋​กำลัง​บอก​นาง​ว่า​ ​ที่​กรมพระราชวัง​ได้รับ​จาก​สกุล​สวี​ไป​สาม​ร้อย​ตำลึง​ ​นั่น​ก็เพราะว่า​ซุ่น​อ๋อง​เป็น​คนดู​แลก​รม​พระราชวัง​ ​สกุล​สวี​จึง​ออก​เงิน​แค่นิด​หน่อย

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แตะ​หน้าผาก​ตัวเอง

เดิมที​คิด​ว่า​มัน​เป็นเรื่อง​เล็กน้อย​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ไป​เกี่ยวข้อง​กับ​ซุ่น​อ๋อง

บางที​พ่อบ้าน​ไป๋​อาจจะ​อธิบาย​เรื่อง​นี้​ให้​เขา​ฟัง​แล้ว​ ​แต่​ใน​ฐานะ​คน​เริ่ม​คิด​ ​ต้อง​ไป​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วยตัวเอง​ ​ที่​ซุ่น​อ๋อง​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​นี้​ ​ก็เพราะว่า​เห็นแก่หน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไม่รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​ยัง​มี​ลับลมคมใน​อะไร​อีก​หรือไม่​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​สุดท้าย​คนที​่​ต้อง​ออก​ไป​แก้ไข​ก็​คือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​ให้​เขา​รู้​ ​นาง​รู้จัก​เขา​ดี​

ออกจาก​ห้อง​ชำระ​ ​ก้มหน้า​แล้ว​เดิน​ไป​นั่ง​ตรงข้าม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​ ​เดิมที​ข้าง​อยาก​ทำ​กล่อง​สมบัติ​สวย​ๆ​ ​สัก​กล่อง​ ​ดังนั้น​จึง​วาดภาพ​เอาไว้​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่า​คน​ข้างนอก​ไม่มีใคร​ทำเป็น​เลย​สัก​คน​ ​จึง​ขอให้​กรมพระราชวัง​ทำให้​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ทำให้​ซุ่น​อ๋อง​ตกใจ​ ​แล้วยัง​เก็บเงิน​แค่​สาม​ร้อย​ตำลึง​…​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​เขา​อย่าง​กังวล​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ว่า​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​ควรจะ​จัดการ​เช่นไร​ดีเจ​้า​คะ​”

เห็น​สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ใจสั่น​ไหว​

“​หาก​อยาก​กล่าวหา​ใคร​ ​ยัง​กังวล​ว่า​จะ​หา​ข้ออ้าง​ไม่ได้​เช่นนั้น​หรือ​ ​หาก​ฮ่องเต้​อยาก​จะ​จัดการ​ข้า​ ​หรือ​ตุลาการ​อยาก​จะ​เล่นงาน​ข้า​พวกเขา​ก็​ต้อง​มี​ข้ออ้าง​อยู่​แล้ว​ ​ไม่​มาสน​ใจ​เรื่องเล็ก​เช่น​เรื่อง​นี้​หรอก​ ​เรื่อง​นี้​เจ้า​ไม่ต้อง​สนใจ​ ​ข้า​จัดการ​เอง​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​ถามถึง​เรื่อง​ที่นา​งก​ลับ​สกุล​เดิม​ ​“​…​พ่อตา​สบายดี​หรือไม่​”

ถึงแม้​ปาก​จะ​บอกว่า​ไม่เป็นอะไร​ ​แต่​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ยัง​เคร่งขรึม

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

เรื่อง​นี้​ทำให้​เขา​ลำบากใจ​…

แต่​เมื่อ​เห็นท่า​ที​ที่​ไม่​อยาก​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​จึง​ต้อง​เก็บ​เรื่อง​นี้​ไว้​ใน​ใจ​ก่อน​ชั่วคราว​ ​นาง​เล่าเรื่อง​ราว​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​อาการ​ของ​ท่าน​แม่​แย่​ลง​ ​ต้อง​ค่อยๆ​ ​รักษา​ ​เมื่อก่อน​พี่สะใภ้​ใหญ่​เป็น​คนดู​แล​ท่าน​แม่​ ​แต่​ตอนนี้​พี่สะใภ้​สี่​และ​อี๋​เหนียง​สาม​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​ก็​มา​แล้ว​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ก็​จะ​ได้​พักผ่อน​ ​ไม่ต้อง​ลำบาก​เหมือน​เมื่อก่อน​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​สกุล​โจว​ ​“​…​ดูแล​้ว​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​เจ้าค่ะ​”​ ​พูดถึง​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​“​…​สูง​ขึ้น​มาก​ ​แต่​หน้าตา​เหมือน​พี่​หญิง​ห้า​ ​ไม่​เหมือน​ข้า​”

พึ่ง​จะ​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​ ​สวม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สีขาว​พระจันทร์​และ​กระโปรง​สีแดง​ธรรมดา​ ​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​ธรรมดา​ ​ไม่​แต่งหน้า​ ​แต่​แก้ม​กลับ​แดง​อ่อน​ๆ​ ​แสงไฟ​ตกลง​บน​ร่าง​ของ​นาง​ ​ทำให้​เห็น​รูปร่าง​ชัดเจน​ ​หน้าตา​ของ​นาง​งดงาม​กว่า​ปกติ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​มุม​ปาก​ ​“​รอ​ให้​เท้า​ของ​ข้า​ดีขึ้น​แล้ว​ ​ข้า​ค่อย​ไปหา​นายท่าน​ใหญ่​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นิ่ง​สงบ​ ​มีกลิ่น​อาย​ของ​ความสบายใจ​

แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้​ว่า​เขา​ไม่​ค่อย​สนใจ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​มองออก​ว่านาย​หญิง​ใหญ่​ไม่​ค่อย​ชอบ​เขา​ ​ตอนนี้​ก็​กำลังจะ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​…​นาง​แอบ​ถาม​ ​“​เท้า​ของ​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​หาย​ดี​ ​ทุกคน​รู้เรื่อง​นี้​เจ้าค่ะ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ท่าน​พ่อ​หรือว่า​ท่าน​แม่​ ​พวกเขา​คง​ไม่ว่า​อะไร​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​โหว​รักษาตัว​อย่างสบายใจ​เถิด​”

เท้า​ของ​เขา​เป็น​เช่นไร​ ​ไม่มีใคร​รู้ดี​ไป​กว่า​สือ​อี​เหนียง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​เขา​ถาม​อย่างกะทันหัน​ ​“​ไม่ได้​พูด​กับ​อี๋​เหนียง​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ตอนที่​ออกมา​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​พูด​กับ​ตัวเอง​ราวกับว่า​ตัวเอง​เป็น​เด็ก​ที่​ไม่เคย​เห็น​โลก​มาก​่อน​ ​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พูด​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ยัง​บอก​ให้​ข้า​รับใช้​ท่าน​แม่​ให้​ดี​ ​รับใช้​ท่าน​โหว​ให้​ดี​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​สายตา​ของ​เขา​พลัน​มืด​หม่น​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ยะเยือก​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ลุกขึ้น​ใส่​รองเท้า​ ​ตะโกนเรียก​ชุน​มั่ว​และซ​ย่า​อี​เข้ามา​รับใช้​เขา​อาบน้ำ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​“​…​ข้างนอก​หิมะ​ตก​ ​ข้า​นอน​ที่นี่​ดีกว่า​”​ ​พูด​จบ​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องน้ำ​ด้วยตัวเอง

ช่วงนี้​พวกเขา​สอง​คนรัก​ษา​ระยะห่าง​ต่อกัน​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​คุ้นเคย​กับ​การ​ที่​เขา​นอน​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​แล้ว

ได้ยิน​เขา​พูด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​เรียก​ลี่ว​์​อวิ​๋น​เข้ามา​ ​“​ไป​บอก​เฉียว​อี๋​เหนียง​ว่าวั​นนี​้​ท่าน​โหว​มีธุระ​ ​ไม่​ไป​นอน​ที่​เรือน​นาง​แล้ว​”

ลี่ว​์​อวิ​๋น​ยิ้ม​ ​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​ไป​จัด​เตียง

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ออกมา​จาก​ห้องน้ำ​แล้ว​ตรง​ไป​ที่​เตียง​ ​หยิบ​บันทึก​จั่วจ​้​วน​ออกมา​จาก​หัว​เตียง​ ​เอน​ตัว​อ่านหนังสือ​บน​โต๊ะ​ที่​มีตะ​เกียง​วาง​อยู่

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​บอก​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​ ​เช่นนั้น​เรา​สลับ​ฝั่ง​กัน​นอน​ดี​หรือไม่​เจ้าค่ะ​”

ตั้งแต่​แต่งงาน​กัน​มา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นอน​ข้างใน​มาต​ลอด​ ​นาง​นอน​ข้างนอก​ ​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​อ่านหนังสือ​ ​แสงไฟ​ก็​จะ​ส่อง​ลงมา​บน​หน้านาง​ ​นาง​ก็​ต้อง​หันหน้า​มาหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​มี​ครั้งหนึ่ง​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​ตื่นขึ้น​มาก​็​เห็น​ว่า​ตัวเอง​เอาหน้า​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ท่าทาง​คลุมเครือ​เป็นอย่างมาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มองหน้า​นาง​ ​“​ยุ่งยาก​ ​พรุ่งนี้​ค่อย​ว่า​กัน​”​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​อ่านหนังสือ

สือ​อี​เหนียง​สับสน

อยาก​จะ​ถาม​ว่า​สามีภรรยา​ระบอบ​ศักดินา​เป็น​แบบนี้​ทุกคน​หรือไม่​ ​ผู้ชาย​นอน​ข้างใน​ ​ผู้หญิง​นอน​ข้างนอก​…​แต่ว่า​นาง​ไม่มีใคร​ให้​ถาม

นาง​ยืน​อยู่​หน้า​เตียง​ครู่หนึ่ง​ ​คิด​ว่า​อากาศ​หนาว​ต้อง​รัก​ตัวเอง​ ​จึง​ถอด​เสื้อคลุม​ออก​แล้ว​ขึ้นไป​บน​เตียง

ใคร​จะ​ไปรู​้​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เปิด​ผ้าห่ม​ ​ก็​ถูก​แขน​สอง​ข้าง​ดึง​เข้าไป​กอด​ไว้​ใน​อ้อมแขน​อย่าง​แน่น​ ​นาง​ก็อบ​อุ่น​ขึ้น​มา

“​ทำไม​แค่​เข้านอน​ก็​ชักช้า​เช่นนี้​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​บ่น

นอกจาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้วยัง​จะ​มี​ใคร

ตั้งแต่​วันนั้น​ที่​พวกเขา​สอง​คน​นอน​ใต้​ผ้าห่ม​ผืน​เดียวกัน​ ​ผ้าห่ม​อีก​ผืน​หนึ่ง​ก็​ถูก​พับ​ไว้​ข้างๆ

ฤดูหนาว​แบบนี้​ ​มี​คน​ช่วย​ทำให้​ตัวเอง​อบอุ่น​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ ​นาง​หา​ตำแหน่ง​ที่​สบาย​ตัว​แล้ว​นอน​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​ห่ม​ผ้า​ให้​นาง​แล้ว​พูด​กับ​นาง​ ​“​พรุ่งนี้​เช้า​เจ้า​ไปดู​ที่​ห้องเก็บของ​ ​เหลือ​สิ่งของ​ที่​พอ​มีคุณค่า​ออกมา​สัก​สอง​สาม​ชิ้น​ ​พรุ่งนี้​ตอนบ่าย​ข้า​จะ​ไปหา​ซุ่น​อ๋อง​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

เหตุใด​จู่ๆ​ ​ก็​พูดถึง​เรื่อง​จะ​ไป​จวน​ซุ่น​อ๋อง​ตอนนี้

แล้วยัง​ไป​ตอนที่​เขา​ไม่สบาย​…​มัน​ทำให้​นาง​นึกถึง​รู​บิค​ราคา​ถูก​ชิ้น​นั้น​ขึ้น​มา​!

“​ท่าน​โหว​…​”​ ​นาง​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร

ใน​น้ำเสียง​เจือ​ความกังวล​ที่​ไม่​สามารถ​ซ่อน​เอาไว้​ได้

“​อย่า​คิดมาก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขัดจังหวะ​นาง​ ​เอียง​ตัว​ไป​เป่า​ตะเกียง​ ​“​รีบ​นอน​เถิด​!​”

จากนั้น​ก็​ยื่นมือ​มา​วาง​ไว้​ตรง​ชาย​เสื้อ​ของ​นาง​อย่างเป็นธรรม​ชาติ​…

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท