เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสบตากันแล้วก็กัดฟันกล่าวว่า “เยี่ยม เยี่ยมมากจริงๆ รีบไปแจ้งนายอำเภอหูกับสวี่เซี่ยนเว่ยให้ไปกวาดล้างเงินทองสองตระกูล ขอเพียงสืบหาเงินทองก้อนนี้ออกมาได้ รองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ย่อมตายแน่ อำเภอชิงเหอยากจนขนาดนี้ พวกเขากลับอวบพีขนาดนี้ แต่ละครอบครัวมีกันแสนกว่าตำลึง หึๆ ช่างร่ำรวยเสียจริง”
ลู่เจียวไม่ได้เห็นเงินพวกนี้อยู่ในสายตา หากสามโรงผลิตดำเนินการไปตามปกติได้ ก็จะหาเงินจำนวนนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับคนยากจนแล้ว เงินแสนกว่าตำลึงก็นับว่าก้อนโตจริง และอำเภอชิงเหอเองก็ยากจนกันขนาดนี้
ดังนั้นพวกเขาจับสองขุนนางโกงกินตัวใหญ่เช่นนี้ได้ หากนายอำเภอหูรายงานราชสำนักก็นับว่าได้สร้างความชอบใหญ่แล้ว
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย
แต่กลับกล่าวเบาๆ ว่า “เรื่องนี้ต้องดำเนินการเงียบๆ ตรวจจับเงินทองก้อนนั้นก่อน แล้วค่อยไปจับกุมรองนายอำเภอหยางกับเผิงจู่ปู้ จากนั้นก็บีบให้พวกเขาบอกที่อยู่เอ้อร์เป่า”
ตอนนี้ได้แต่หาที่อยู่เอ้อร์เป่าไปตามช่องทางนี้แล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังจะให้คนไปแจ้งมือปราบจ้าว นอกประตู ลู่กุ้ยก็วิ่งเข้ามาพร้อมจดหมายฉบับหนึ่ง
“พี่เจียว พี่เขย มีเด็กข้างบ้านนำจดหมายนี้มา”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพลันแปรเปลี่ยน เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบรับจดหมายจากลู่กุ้ยมาเปิดอ่าน
ลู่เจียวเขยิบเข้ามาใกล้อ่านจดหมายในมือไปพร้อมกับเขา
ในจดหมายเขียนชัดว่า คืนนี้ยามจื่อหนึ่งเค่อ เซี่ยอวิ๋นจิ่นมาภูเขาเฮยเฟิงคนเดียว ไม่ให้คนอื่นตามมา หากคืนนี้ยามจื่อหนึ่งเค่อ เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ขึ้นเขามา ก็รอเก็บศพบุตรชายได้เลย กลับกัน หากเขามาคนเดียวก็จะปล่อยบุตรชายเขาไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอ่านจดหมายในมือพลางคิดถึงว่าสามวันนี้บุตรชายตกอยู่ในมือคนชั่ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะตกใจขนาดไหน ในใจเขาก็ทั้งรุ่มร้อนและว้าวุ่น แทบจะขึ้นเขาเฮยเฟิงไปแลกตัวกับเอ้อร์เป่าลงมาในตอนนี้เลย
เขารู้ว่าคนพวกนั้นให้เขาขึ้นเขาไปคนเดียวก็เพื่อจะได้สังหารเขา เป้าหมายพวกเขาก็คือสังหารเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็หันไปมองลู่เจียว “คืนนี้เจ้าอย่าไป รอข่าวอยู่ที่บ้าน”
รอบๆ ภูเขาเฮยเฟิงอาจมีลูกน้องพวกมันไม่น้อย เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่อยากให้ลู่เจียวตามไปเสี่ยงภัยกับเขา ดังนั้นจึงได้เอ่ยเช่นนี้
ลู่เจียวยืนยันส่ายหน้า “ไม่ได้ ข้าขึ้นเขาไปกับเจ้า พวกเขาไม่ถือสาหรอกถ้าจะมีข้าเพิ่มไปอีกคน”
คนพวกนั้นอาจจับตาลูกน้องพวกนาง เพราะก่อนหน้านี้หร่วนจู๋ลงมือสังหารทีเดียวก็จัดการไปสิบกว่าคน แต่คนพวกนั้นจะไม่จับตานาง อย่างไรนางก็เป็นแค่สตรีแรงกำลังราวกับไก่ถูกมัด
แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไม่เห็นด้วย มองลู่เจียวด้วยแววตาหนักแน่นจริงจัง “ลู่เจียว ข้าต้องคิดไปถึงผลที่เลวร้ายที่สุด หากคืนนี้ข้าประสบเหตุ เจ้ายังดูแลลูกทั้งสี่ แต่หากเจ้าเกิดเรื่องด้วย ลูกทั้งสี่จะทำอย่างไร”
ลู่เจียวได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเช่นนี้ก็ไม่อาจระงับความปวดใจเอาไว้ได้ นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยแววตาหนักแน่นกล่าวว่า “พวกเราวางแผนกันให้ดี ย่อมต้องไม่ขาดใครไปแม้แต่คนเดียวอย่างแน่นอน”
คิดถึงเรื่องที่เกิดมาในระยะนี้แต่ละเรื่อง ลู่เจียวตัดสินใจแล้วว่า คืนนี้ไม่ว่าอย่างไรเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ต้องปลอดภัย
ก่อนหน้านี้นางเคยทดลองแล้ว ขอเพียงนางคิดหาทางทำเซี่ยอวิ๋นจิ่นสลบ ก็พาเขาเข้าห้วงอากาศได้
แต่เรื่องนี้จำกัดให้แค่คนที่เกี่ยวข้องกับนางเท่านั้น อย่างเช่นเฝิงจือ แม้นางทำสลบก็ไม่อาจพาเข้าห้วงอากาศได้ แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ นางทำสลบแล้วก็พาเข้าห้วงอากาศได้อย่างสบาย
เพราะนางพาเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าห้วงอากาศ ดังนั้นลู่เจียวจึงไม่ค่อยเป็นห่วงมาก ถึงตอนนั้นเห็นท่าไม่ดี นางก็ทำเซี่ยอวิ๋นจิ่นสลบพาเข้าห้วงอากาศ คนพวกนั้นก็จับตัวพวกนางไม่ได้แล้ว
แต่ก่อนจะทำเรื่องพวกนี้ได้ก็ต้องช่วยเอ้อร์เป่าออกมาให้ได้ก่อน
ลู่เจียวมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นทันที ปลอบใจว่า “พวกเราจะไม่เป็นอะไร เราทุกคนจะไม่เป็นอะไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยืนยัน “ลู่เจียว ข้าจะจัดการทุกอย่างให้ดี เจ้าอย่าคิดแง่ร้าย ลูกๆ สามคนที่บ้านต้องการคนปลอบใจ ดังนั้นเจ้าอย่าไป เจ้าอยู่บ้านเป็นเพื่อนพวกเขา ข้าต้องช่วยเอ้อร์เป่าออกมาได้แน่ จะส่งเขากลับมาอย่างปลอดภัย”
พูดไปพูดมาก็เพราะไม่อยากให้ลู่เจียวตามเขาไปภูเขาเฮยเฟิง
ลู่เจียวหรี่ตาเล็กน้อยมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นหนักแน่น
ลู่เจียวรู้ว่าที่เขาไม่ให้นางตามไปก็เพราะปกป้องนาง
แต่หากนางไม่ไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นอาจได้รับอันตราย กลับกัน หากนางตามไป สุดท้ายอาจช่วยชีวิตเขาไว้ได้
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็ค่อยๆ รับปากว่า “ได้ ทำตามเจ้า”
นางกล่าวจบก็ยิ้มกล่าวต่อว่า “เจ้าจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย ข้ากับพวกต้าเป่าจะรอเจ้ากับเอ้อร์เป่าอยู่ที่บ้าน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าทันที ในใจรู้สึกทั้งเฝื่อนขมและหวานล้ำ เขาอยากจะถามลู่เจียวสักคำ หากเขากับเอ้อร์เป่ากลับมาอย่างปลอดภัย เจ้าจะอยู่กับพวกเราต่อ ไม่ไปไหนแล้วได้ไหม
แต่พอคิดถึงว่าอาจจะไม่ได้กลับมา สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดออกไป
“เจ้าวางใจ พวกเราจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ไม่มองลู่เจียวอีก หันไปมองหร่วนไค หร่วนจู๋ หลี่หนานเทียน โจวเส้ากงในห้อง
“ภูเขาเฮยเฟิงห่างจากที่นี่น่าจะร้อยกว่าลี้ได้…”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งพูดได้แค่ประโยคเดียวก็หน้ามืด ล้มลงไปทางด้านข้าง ในห้องพวกหร่วนไคหร่วนจู๋พากันตกใจ “คุณชาย”
ลู่เจียวรีบยื่นมือออกไปประคองเขาไว้ได้ทัน นางเงยหน้ามองไปยังทุกคนในห้อง กล่าวน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “จากนี้ให้ฟังคำสั่งข้า”
“พวกเราต้องรีบออกเดินทาง จึงจะรับรองได้ว่าในยามจื่อหนึ่งเค่อจะไปถึงภูเขาเฮยเฟิง หร่วนไคกับหร่วนจู๋รับหน้าที่บุกเข้าไปช่วยคุณชายน้อย พวกเจ้ารีบเร่งออกเดินทางไปยังภูเขาเฮยเฟิง จำไว้ว่า คิดหาทางเข้าไปทางด้านหลังเขา อย่าให้ผู้ใดพบเห็นร่องรอยพวกเจ้า รอพวกเราเจรจากับอีกฝ่าย พวกเจ้าก็จับตาดูอีกฝ่ายไว้ในทันที แน่ใจก่อนว่าอีกฝ่ายมีเอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิงอยู่ในมือหรือไม่ หากพวกเขาสองคนอยู่ในมือฝ่ายตรงข้ามก็ต้องช่วยเด็กทั้งสองออกมาอย่างไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น”
“หากไม่มี พวกเจ้าก็นิ่งไว้ พวกเราจะหาทางล่อให้อีกฝ่ายนำตัวเด็กออกมาให้พวกเจ้าได้ช่วยในทันทีที่เห็น”
ลู่เจียวกล่าวจบมองไปยังหร่วนไคกับหร่วนจู๋สองคนกล่าวว่า “นี่คือบททดสอบแรกของพวกเจ้า”
หร่วนไคกับหร่วนจู๋สองคนพยักหน้าพร้อมกันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พวกเขารู้ดีว่าวาจาลู่เจียวหมายความว่าอย่างไร หากครั้งนี้พวกเขาทำภารกิจราบรื่น วันหน้าพวกเขาก็คือคนสนิทเจ้านาย หากไม่อาจทำภารกิจบรรลุ วันหน้าพวกเขาก็จะถูกลดความสำคัญลง
หร่วนไคหร่วนจู๋พยักหน้าพร้อมกันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าน้อยรับคำสั่ง จะเร่งเดินทางไปภูเขาเฮยเฟิง”
ลู่เจียวพยักหน้า หร่วนไคกับหร่วนจู๋หันหลังจากไป
ลู่เจียวมองไปยังหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงกล่าวว่า “พวกเจ้าสองคนตามพวกเราไปภูเขาเฮยเฟิง รออยู่ที่เชิงเขาเฮยเฟิง พวกเราจะดูให้แน่ใจก่อนว่าในมือพวกเขามีเอ้อร์เป่ากับหันหนานเฟิงไหม หากมีพวกเราทั้งสองคนก็จะเข้าไปแลกตัว”
“พวกเจ้าคิดหาทางขึ้นเขาเงียบๆ อย่างไรต้องคอยประกบปกป้องพวกเราสองคนให้ทันโดยด่วนที่สุด”
หากหลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงไม่อาจคุ้มกันพวกเขาให้ปลอดภัย ลู่เจียวตัดสินใจใช้ไพ่ใบสุดท้าย ตีเซี่ยอวิ๋นจิ่นสลบแล้วพาเขาเข้าห้วงอากาศนาง
แม้ว่าทำเช่นนี้อาจทำให้นางเผยสถานะนางออกมา แต่ลู่เจียวไม่อาจสนใจอะไรมากมายอีกแล้ว