ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 183 งบปลายปี(ปลาย)

ตอนที่ 183 งบปลายปี(ปลาย)

คำพูด​หวาน​ๆ​ ​ที่​ออกมา​จาก​ปากของ​สือ​อี​เหนียง​ ​มัน​ช่าง​มีเหตุผล​และ​หนักแน่น​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้ว​รู้สึก​เยือกเย็น

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​

รูปร่าง​ที่​ผอม​เพรียว​ ​ผม​ดำ​ที่​ปลิว​ไสว​ ​ใบหน้า​ที่​ขาว​ราวกับ​หิมะ​ ​ดวงตา​ที่​เปล่งประกาย​ราวกับ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า​ ​มัน​ช่าง​ลึกลับ​คาดเดา​ยาก​ ​มี​ความ​ซับซ้อน​ที่​อธิบาย​ไม่ได้​ ​เขา​ตกใจ​อยู่​ตรงนั้น​

นี่​คือ​สตรีที​่​อ่อนโยน​ราวกับ​สายน้ำ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​เมื่อคืน​…?

เขา​รู้สึก​ไม่​มั่นใจ

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เขามอ​งมา​ที่​ตัวเอง​แต่กลับ​ไม่​ตอบคำถาม​ของ​นาง​ ​นาง​คิด​ว่า​เขา​ไม่​อยาก​ตอบ​ ​นาง​ก็​ไม่​อยาก​บังคับ​เขา​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​รับ​ชามา​จาก​สาวใช้​ ​“​ท่าน​โหวดื​่ม​ชาร้อน​สัก​ถ้วย​สิ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​ ​“​อืม​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​ ​รับ​ชามา​จิบ

สาวใช้​จัด​โต๊ะ​ที่อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​มีท​่าน​ป้าย​กอา​หาร​เช้า​เข้ามา​

ทุกอย่าง​ทำตาม​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชอบ​ทาน

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ขยับ​ซุป​เปรี้ยว​เผ็ด​ใน​ถ้วย​กระเบื้อง​สีขาว​ไป​ที่​มือ​ข้าง​ขวา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้าค่ะ​”​

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​และ​สุภาพ​ของ​นาง​ ​เขา​พลัน​นึกถึง​เสียงหัวเราะ​ที่​ราวกับ​เสียง​ระฆัง​เมื่อคืนนี้

เขา​ก้มหน้า​ทาน​ซุป​เปรี้ยว​เผ็ด​ ​สือ​อี​เหนียง​คีบ​ซาลาเปา​ใส​้​เห็ด​ใส่​ชาม​ดินเผา​สีทอง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​เปลี่ยน​ผ้าม่าน​ผืน​นั้น​เถิด​!​”​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​บอก​นาง​ ​“​เดิมที​ก็​เผา​สมุนไพร​อยู่​แล้ว​ ​แล้วยัง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ไม้​เซียง​หนาน​ ​ข้างนอก​ก็​แขวน​ผ้าม่าน​ ​มัน​อึดอัด​เกินไป​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ตาม​สายตา​ของ​เขา​ ​เห็น​ม่าน​สีแดง​ผืน​ใหญ่​แขวน​อยู่​บน​เตียง

ข้าวของเครื่องใช้​ใน​เรือน​ล้วนแต่​มี​กำหนด​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​นายท่า​นข​อง​จวน​หลัง​นี้​ ​เขา​สามารถ​ตัดสินใจ​ได้​ ​ถึงแม้​จะ​มี​คน​คิด​ว่า​ไม่เหมาะสม​ ​แต่​เขา​ก็​สามารถ​ตอบกลับ​ไป​ได้​อย่าง​มีเหตุผล​

สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ปรึกษา​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​แขวน​ผ้าม่าน​แบบ​ไหน​ดีเจ​้า​คะ​”

ตอนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยัง​ไม่มีความคิด​ที่​ดี​ ​เขา​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แขวน​ม่าน​มุ้ง​ก็ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่ว่า​อะไร​ ​นาง​รับใช้​เขา​ทานอาหาร​เช้า​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​ม่าน​จิ​่น​ซาสี​ขาว​พระจันทร์​ ​ม่าน​เจียว​ปู้​สีแดง​และ​ม่าน​เถียว​ซาสี​เงิน​ใน​ห้องเก็บของ​

“​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​ผืน​ไหน​ดีเจ​้า​คะ​”

ดูเหมือนว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​ชอบ​สัก​แบบ

อี๋​เหนียง​สาม​คน​มาคา​รวะ​พอดี​ ​พวก​นาง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​อธิบาย​ ​“​ท่าน​โหว​บอกว่า​ใน​ห้อง​ร้อน​เกินไป​ ​ให้​ข้า​เปลี่ยน​ผ้าม่าน​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​ท่าน​โหว​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​ร้อน​อยู่​แล้ว​”​

แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับ​พูดว่า​ ​“​ให้​ห้อง​เย็บปักถักร้อย​ทำ​ม่าน​เก๋​อปู​้​ชั้นดี​มา​ให้​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​มัน​สวยงาม​กว่า​ม่าน​จิ​่น​ซา​ ​ม่าน​เจียว​ปู้​และ​ม่าน​เถียว​ซาสี​เงิน​อีก​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​แต่ง​เข้ามา​เมื่อ​เดือน​เก้า​ ​สินเดิม​มี​แค่​ม่าน​จิ​่น​ซาที​่​เอาไว้​ใช้​ตอน​ฤดูใบไม้ร่วง​และ​ม่าน​เจียว​ซา​ ​ส่วน​ผ้า​เก๋อ​ซา​และ​ผ้า​เซียว​ซาที​่​มักจะ​เอา​มาทำ​ผ้าม่าน​ใน​ฤดูร้อน​ ​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ปีหน้า​สกุล​หลัว​ถึง​จะ​ส่ง​มา​ให้​ ​ใน​ห้องเก็บของ​ของ​นาง​ก็​ไม่มี​ผ้า​เก๋อ​ซา​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้ดี​อยู่​แล้ว​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พอดี​เรือน​ข้า​ยัง​มี​ผ้า​เก๋อ​ซา​ชั้นดี​อยู่​ ​หาก​พี่​หญิง​คิด​ว่า​ดี​ ​ข้า​ก็​จะ​บอก​ชิว​หง​นำมา​ให้ท่าน​ดู​”

เตียง​ของ​ตัวเอง​แขวน​ม่าน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​…​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​จะ​ปฏิเสธ​ ​แต่​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​อะไร​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ที่​เอาแต่​เงียบ​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พูด​ออกมา​ว่า​ ​“​ผ้า​เก๋อ​ซา​ข้างนอก​ทั้ง​หนัก​ทั้ง​ไม่​ระบายอากาศ​ ​จะ​เทียบ​กับ​ของ​กรมพระราชวัง​ได้​อย่างไร​เจ้า​คะ​ ​ในเมื่อ​ท่าน​โหว​รู้สึก​ว่า​มัน​อึดอัด​ ​ไม่​สู้​ไป​เอา​ผ้า​เก๋อ​ซา​ของ​กรมพระราชวัง​มาทำ​ม่าน​ดีกว่า​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หยุด​พูด​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ผ้า​เก๋อ​ซา​มีสี​เหลือง​ ​เหมาะกับ​โต๊ะ​เก้าอี้​สีดำ​ใน​เรือน​ของ​ท่าน​มาก​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ใช้​ม่าน​เก๋อ​ซาดี​กว่า​เจ้าค่ะ​”

บอก​ให้​ตัวเอง​ไป​ขอ​ผ้าม่าน​จาก​กรมพระราชวัง​ ​คงมี​แค่นาง​ที่​คิดได้​ ​คิด​ว่านาง​เป็น​เด็กน้อย​เช่นนี้​หรือ​ ​แต่​นาง​ไม่ได้​จะ​โต้ตอบ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​เพราะ​สถานะ​ของ​พวก​นาง​สอง​คน​ไม่​เหมือนกัน​ ​นาง​ชนะ​อยู่​แล้ว​!

สือ​อี​เหนียง​นิ่งเงียบ​ ​นาง​แค่​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ให้​เฉียว​เหลียน​ฝัง​

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่​ถูก​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ขัดจังหวะ​ก็​ยืน​ยิ้มอยู่​ตรงนั้น​ ​ต่อมา​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​พูด​อะไร​ ​นาง​จึง​รีบ​เดิน​เข้ามา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เฉียว​อี๋​เหนียง​ช่าง​มีความรู้​ ​คนบ้าน​ๆ​ ​อย่าง​ข้า​ ​รู้​แค่​ว่า​ผ้า​เก๋อ​ซา​แพง​กว่า​ทอง​เสียอีก​ ​คิด​ว่า​มัน​เหมาะสม​กับฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​”

“​สิ่งของ​จะ​ดี​หรือไม่​ดี​ ​ไม่ได้​อยู่​ที่​แพง​หรือว่า​ถูก​”​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ยิ้ม​ ​“​แค่​ใช้​ให้​มัน​เหมาะสม​ก็​พอ​”

สือ​อี​เหนียง​แอบ​อมยิ้ม

คนที​่​บอกว่า​ใน​ห้อง​อึดอัด​คือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​คนที​่​จะ​เปลี่ยน​ม่าน​ก็​คือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จะ​ใช้​ผ้าม่าน​แบบ​ใด​ก็​ต้อง​ให้​เขา​เห็นด้วย

นาง​โน้มตัว​แล้ว​พึมพำ​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​คิด​ว่า​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

“​เช่นนั้น​ก็​ทำ​ม่าน​เก๋อ​ซา​ชั้นดี​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เห็น​สายตา​ที่​ดีอกดีใจ​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​“​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​บอก​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​เป็น​คน​จัดการ​”

เขา​พูด​เช่นนี้​ ​ใคร​จะ​กล้า​คัดค้าน

สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​มาคา​รวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​พึ่ง​คารวะ​เสร็จ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​จุน​เกอ​ก็​มา​พอดี​ ​หลังจากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​จะ​พา​ภรรยา​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ที่​เรือน​ ​สือ​อี​เหนียง​เชิญ​อี๋​เหนียง​ทั้ง​สาม​คน​มา​พูดคุย​กันตอน​ยาม​เซิน​เป็นครั้งแรก​ ​“​…​วันนี้​เป็น​วัน​ตรุษจีน​เล็ก​ ​ทุกคน​มา​อยู่​ด้วยกัน​เถิด​”

อี๋​เหนียง​ทั้ง​สาม​คน​ย่อเข่า​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​เด็ก​ๆ​ ​ทั้ง​สาม​คน​ออก​ไป

ระหว่างทาง​ ​สือ​อี​เหนียง​อธิบาย​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​เงินเดือน​ของ​เรือน​เรา​ ​จ่าย​เงิน​ของ​ปีใหม่​ไป​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​เสื้อผ้า​ปีใหม่​ของ​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ก็​ทำ​เสร็จ​แล้ว​ ​อีก​สอง​วัน​ก็​คงจะ​ยุ่ง​ ​ข้า​อยาก​จะ​ถือโอกาส​จัดการ​เรื่อง​พวก​นี้​ให้​เรียบร้อย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เฉยเมย​ ​“​เจ้า​ตัดสินใจ​เอง​เถิด​”

พวกเขา​ไป​ถึง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​ ​คุณชาย​ห้า​ ฮู​หยิน​ห้า​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​อยู่​ที่นั่น​ ​ทุกคน​กำลัง​คุย​เรื่อง​ขึ้นปีใหม่

ทุกคน​คำนับ​กัน​ ​คุณชาย​ห้า​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พาส​วีลิ​่​งอี​๋​ไป​นั่ง​ข้างๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​พี่​สี่​ ​ปีนี​้​ท่าน​อยู่​ขึ้นปีใหม่​ที่​จวน​ ​เรา​ซื้อ​ประทัด​มา​เยอะ​หน่อย​ดี​หรือไม่​”​

“​พูดว่า​ข้า​อยู่​ขึ้นปีใหม่​ที่​จวน​เช่นนี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ที่​อ่อนโยน​ ​“​หรือว่า​ปี​ที่ผ่านมา​ข้า​ไม่ได้​อยู่​ที่​จวน​เช่นนั้น​หรือ​”

คุณชาย​ห้า​เห็น​ว่า​พี่ชาย​ตัวเอง​ดู​อ่อนโยน​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ปี​ที่ผ่านมา​ท่าน​ก็​อยู่​ที่​จวน​ ​แต่ว่า​ต้อง​ไปรา​ชสำ​นัก​ ​ไป​สังสรรค์​ ​ไม่​เหมือน​ปีนี​้​ ​ท่าน​จะ​ได้​อยู่​กับ​พวกเรา​มากขึ้น​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ประทับใจ​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​พูด

ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​พี่​สาม​ก็​ต้อง​ออก​ไปรับ​ตำแหน่ง​แล้ว​ ​ต่อไป​เขา​คงจะ​ไม่ได้​ขึ้นปีใหม่​ที่​จวน​ ​วันที่​จะ​ได้​อยู่​พร้อมหน้าพร้อมตา​กัน​เหมือน​ปีนี​้​ ​ต่อไป​คงจะ​มี​ไม่บ่อย​แล้ว

“​ได้​สิ​!​”​ ​เขา​ยิ้ม​ ​“​เช่นนั้น​เรื่อง​นี้​ก็​ให้​เจ้า​เป็น​คน​จัดการ​”

คุณชาย​ห้าม​อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​รับปาก​อย่างง่ายดาย​เช่นนี้​ ​พลัน​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​พูดว่า​ ​“​แต่ว่า​ ​ในเมื่อ​เจ้า​เป็น​คนพูด​เรื่อง​นี้​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​ต้อง​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​เรื่อง​ประทัด​”

“​ได้​เลย​!​”​ ​คุณชาย​ห้า​ยิ้ม​ ​“​ข้า​ถนัด​เรื่อง​นี้​ที่สุด​”

“​ไม่เพียงแต่​ต้อง​รับผิดชอบ​เรื่อง​ประทัด​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดเส​ริม​ ​“​แล้วยัง​ต้อง​รับผิดชอบ​ความปลอดภัย​ของ​คนใน​จวน​ ​ประการ​แรก​ ​อย่า​จุด​ประทัด​แล้ว​เกิด​ไฟไหม้​ ​ประการ​สอง​ ​อย่า​จุด​ประทัด​แล้ว​ทำให้​คนอื่น​ได้รับบาดเจ็บ​ ​เจ้า​ทำได้​หรือไม่​”

“​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​”​ ​คุณชาย​ห้า​ตบหน้า​อก​ตัวเอง​ ​“​เรื่อง​นี้​ข้า​จัดการ​เอง​!​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​ดัง​กว่า​ปกติ

แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ไม่​ค่อย​โล่งใจ​ ​นาง​รีบ​กำชับ​ให้​เขา​ระวัง​ ​แล้วยัง​บอก​ให้​ดู​ว่า​ถังน้ำ​ของ​แต่ละ​เรือน​เติม​น้ำไว​้​แล้ว​หรือยัง​ ​ที่ใด​ที่เกิด​อุบัติเหตุ​ง่าย​ก็​ให้​คน​ไป​เฝ้า​อย่างระมัดระวัง​…

“​ท่าน​แม่​ ​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ขอรับ​ ​ข้า​ไม่ใช่​เด็ก​แล้ว​ ​ข้า​รู้​ว่า​ต้อง​ทำ​เช่นไร​”​ ​คุณชาย​ห้า​เห็น​ว่า​ท่าน​แม่​มีท​่า​ที​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ท้อแท้​ใจ

ไท่ฮู​หยิน​ได้สติ​กลับมา​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​แก่​แล้ว​ ​ชอบ​จู้จี้จุกจิก​”

คุณชาย​ห้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​กลับมา​ร่าเริง​อีกครั้ง​ ​ชี้​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​พวก​เจ้า​จะ​ไป​กับ​ข้า​หรือไม่​”​

ถึงแม้ว่า​พวกเขา​สอง​คน​ท่าทาง​จะ​ดู​สงบ​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ยัง​เป็น​เพียง​เด็ก​ ​จึง​พยักหน้า​ด้วย​ความสนใจ

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เห็น​เช่นนี้​ก็​อยาก​ไป​ด้วย​ ​จุน​เกอ​เห็น​ว่า​เขา​จะ​ไป​ด้วย​ก็​อยาก​ไป​ด้วย​ ​ทันใดนั้น​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​เต็มไปด้วย​เสียงหัวเราะ​ ​คึกคัก​เป็นอย่างมาก

สวี​ซื่อ​ฉิน​หัวเราะเยาะ​น้องชาย​ ​“​เรื่อง​ของ​ผู้ใหญ่​ ​เด็ก​ๆ​ ​อย่า​ไป​ยุ่ง​ ​เจ้า​อยู่​เล่น​เป็นเพื่อน​จุน​เกอ​ที่​เรือน​ก็​พอ​”

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ไม่พอใจ​ ​เขา​ตะโกน​เสียงดัง​ ​“​ปีใหม่​ปีนี​้​เจ้า​ต้อง​ไป​เยี่ยม​สกุล​พ่อตา​แม่ยาย​ ​เจ้า​จะ​เอา​เวลา​ที่ไหน​ไป​จัดการ​เรื่อง​ประทัด​กับ​ท่าน​ลุง​ห้า​”

ประโยค​เดียว​ทำเอา​คน​ทั้ง​ห้อง​ตกใจ​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​เขินอาย​จน​หน้าแดง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ทำ​หน้า​เหมือน​จะ​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่​ยิ้ม​ ​กะพริบตา​ให้​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก้มหน้าก้มตา​ ​ทำท่า​ที​ราวกับ​กว่า​ไม่ได้​ยิน​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​และ​จุน​เกอ​รู้สึก​ว่า​บรรยากาศ​เปลี่ยนไป​ ​คน​หนึ่ง​กำลัง​สับสน​ ​อีก​คน​กำลัง​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ด้วย​ความอยากรู้​อยาก​เห็น​ ​ดู​ซื่อบื้อ​ราวกับ​ห่าน​ที่​กำลัง​เหม่อลอย​ ​ช่าง​น่ารักน่าเอ็นดู​

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​“​พวก​เจ้า​ไป​เล่น​เถิด​ ​ประเดี๋ยว​พวก​ข้า​พูดคุย​กัน​ ​พวก​เจ้า​จะ​ได้​ไม่รู้​สึก​อึดอัด​ราวกับ​นั่ง​บน​เข็ม​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่านา​งอยาก​จะ​ไล่​เด็ก​ๆ​ ​ออก​ไป

พวก​เด็ก​ๆ​ ​พากัน​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

ไท่ฮู​หยิน​ก็​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​สาม​ ​“​นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​”

ฮู​หยิน​สาม​หน้าซีด​ ​ทันใดนั้น​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​แล้ว​รีบ​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ก็​แค่​พูด​กัน​ไว้​เจ้าค่ะ​ ​ยัง​ไม่แน่​นอน​ ​จึง​ไม่ได้​บอก​ท่าน​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พวก​เจ้า​เป็น​บิดา​มารดา​ ​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​สนิท​กับ​เขา​มาก​แค่ไหน​แต่​ข้า​ก็​เป็น​แค่​ท่าน​ย่า​ ​เดิมที​ก็​ต้อง​ให้​พวก​เจ้า​ตัดสินใจ​อยู่​แล้ว​ ​ข้า​แค่​พึ่ง​เคย​ได้ยิน​ ​จึง​ถาม​พวก​เจ้า​ ​ข้า​จะ​ได้​เตรียม​ของขวัญ​ให้​หลาน​สะใภ้​”

ประโยค​นี้​ฟัง​ดูแล​้ว​ไม่มี​อะไร​ ​แต่​คิดดู​แล้ว​เหมือน​มี​อะไร

ฮู​หยิน​สาม​มอง​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จาก​คุณชาย​สาม​

“​ท่าน​แม่​ ​อย่า​ไป​ฟัง​เด็ก​ๆ​ ​พูดจา​เหลวไหล​ขอรับ​”​ ​คุณชาย​สาม​เห็น​เช่นนี้​ก็​รีบ​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​เรา​เห็น​ว่า​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​ท่าน​ลุง​อายุ​เท่ากับ​ฉิน​เกอ​ ​หน้าตา​ก็ดี​ ​นิสัย​ก็​อ่อนโยน​ ​จึง​คิด​ว่า​ ​หาก​ฉิน​เกอ​ของ​เรา​ได้​แต่ง​กับ​ภรรยา​เช่นนี้​คงจะ​ดี​ ​ท่าน​ก็​รู้​ว่า​ ​ท่าน​ลุง​เป็น​ทายาท​ ​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​เป็น​บุตรสาว​คนโต​…​เรา​จึง​แค่​คิด​ไว้​เช่นนี้​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​สาม​อยาก​ให้​สวี​ซื่อ​ฉิน​แต่งงาน​กับ​หลานสาว​ของ​ตัวเอง​?

นี่​มัน​คือ​การ​แต่งงาน​ระหว่าง​ครอบครัว​ ​วิทยาศาสตร์​สมัยใหม่​ห้าม​เอาไว้​อย่างชัดเจน​!

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​ความกังวล

แต่​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หน้าตา​ดีจริง​ๆ​ ​ข้า​ก็​เห็น​ว่านาง​เป็น​เด็ก​ที่​ดี​”​ ฮู​หยิน​สาม​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็ดี​ใจ​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​เปลี่ยน​คำพูด​อย่างรวดเร็ว​ ​“​แต่ว่า​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ ​เป็นเรื่อง​ที่​ต้อง​ยินยอม​ทั้งสองฝ่าย​ ​พวก​เจ้า​ก็​ต้อง​ฟัง​ท่าน​ลุง​ของ​พวก​เจ้า​ด้วย​ ​พูด​ไป​ทั่ว​เช่นนี้​ ​คนอื่น​จะ​คิด​ว่า​พวก​เจ้า​ตกลง​กัน​แล้ว​ ​หาก​คน​สกุล​กาน​มา​ได้ยิน​เช้า​ ​พวกเขา​จะ​คิด​เช่นไร​!​”

“​เรา​ไม่ได้​พูด​ไป​ทั่ว​เจ้าค่ะ​…​”​ ฮู​หยิน​สาม​กำลังจะ​แก้ตัว​ ​แต่​คุณชาย​สาม​ก็​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​นาง​แล้ว​คุกเข่า​ลง​ ​“​ท่าน​แม่​พูด​ถูก​ขอรับ​ ​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​เรา​ ​ต่อไป​เรา​จะ​ระมัดระวัง​ให้​มากขึ้น​ขอรับ​”​ ฮู​หยิน​สาม​เห็น​ว่า​สามี​คุกเข่า​ลง​แล้ว​ ​นาง​จึง​ต้อง​คุกเข่า​ตาม

“​ลุกขึ้น​เถิด​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​แค่​เตือน​พวก​เจ้า​เอาไว้​ ​ต่อไป​พวก​เจ้า​ต้อง​ยืน​ด้วย​ลำแข้ง​ตัวเอง​ ​หาก​ยัง​ไม่​ระวัง​เช่นนี้​ ​ข้า​จะ​วางใจ​ได้​เช่นไร​!​”

คุณชาย​สาม​ได้ยิน​ไท่ฮู​หยิน​พูดเป็นนัย​ ​เขา​ก็ได้​สติ​ขึ้น​มา​ ​แต่ฮู​หยิน​สาม​กลับดี​ใจ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​รู้อยู่แก่ใจ​ ​พวกเขา​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​อย่าง​เงียบๆ​ ​คุณชาย​ห้า​ไม่สน​ใจ​อะไร​อยู่​แล้ว​ ​เขา​นั่ง​ฟัง​อย่าง​เงียบๆ​ ​มี​แค่ฮู​หยิน​ห้า​ตาน​หยาง​ที่​เลิก​คิ้ว​อย่าง​ครุ่นคิด

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท