ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 187 ประกายไฟ(ต้น)

ตอนที่ 187 ประกายไฟ(ต้น)

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​ได้ยิน​ว่า​มารดา​ของ​ตน​พา​พี่ใหญ่​กลับบ้าน​สกุล​เดิม​ ​ก็​อึ้ง​จน​ตาค้าง​ ​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่พอใจ​ว่า​ ​“​ทำไม​ถึง​ไม่​รอ​ข้า​กลับ​ไป​ด้วย​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​นี่​ได้​คืบ​จะ​เอา​ศอก​เสีย​จริง​”

ทุกคน​ก็​พากัน​หัวเราะ​เสียงดัง​พร้อมกัน

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​แอบ​ถอนใจ​ด้วย​ความกังวล

ดูแล​้ว​ ฮู​หยิน​สาม​คงจะ​ยัง​ไม่​วางใจ

ระหว่าง​บุตร​เอก​และ​บุตร​อนุ​ของ​ตระกูล​ไม่ได้​รับ​แค่​ผลกระทบ​จาก​แค่​ชาติกำเนิด​ที่​แตกต่าง​กัน​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​การศึกษา​อีกด้วย

บุตรชาย​อนุ​ยังดี​กว่า​หน่อย​ ​พอ​จะ​ได้​มีโอกาส​รับ​การศึกษา​เฉกเช่น​เดียวกัน​กับ​บุตร​ของ​ภรรยา​เอก​ ​เข้า​นอก​ออก​ประตู​จวน​ ​คบค้าสมาคม​กับ​ผอง​เพื่อน​ ​เพียงแค่​เปลี่ยนความคิด​ ​ก็​อาจจะ​พลิก​ชะตา​ชีวิต​ได้​ ​แตกต่าง​กับ​บุตรสาว​อนุ​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​พวก​นาง​ไม่เคย​ออก​นอก​ประตู​ใหญ่​ ​ไม่​ล่วง​ข้าม​ประตู​สอง​ ​อ่าน​ตำรา​เขียนหนังสือ​กับ​มารดา​ ​อา​หญิง​หรือ​อาสะใภ้​ของ​ตน​ ​ล้วน​อายุ​กว่า​หกสิบ​ปี​ขึ้นไป​ทั้งนั้น​ ​อ่าน​แต่​ ​‘​ตำนาน​ปีศาจ​สาว​’​ ​เรียน​อักษร​เพียงแค่​ไม่​กี่​ตัว​เท่านั้น​ ​ไม่ได้​สอน​ถึง​หลัก​ทำนองคลองธรรม​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​นี่​ยัง​เป็น​ทาง​ตอน​ใต้​ที่​อารยธรรม​แพร่หลาย​กว้างขวาง​และ​ค่อนข้าง​เปิดกว้าง​ ​หาก​เป็น​ตอนเหนือ​ ​สตรี​จำนวนมาก​ไม่​สามารถ​เรียนรู้​หนังสือ​ได้เสีย​ด้วยซ้ำ​ ​ล้วนแล้วแต่​ต้อง​พึ่ง​มารดา​อบรม​สอนสั่ง​และ​ถ่ายทอด​ให้​บุตรสาว​ด้วยตัวเอง​เท่านั้น​ ​แม่​ใหญ่​มักจะ​คอย​ดูถูก​เหยียบ​หยาม​และ​ข่มเหง​บุตรี​ของ​อนุ​เสมอ​ ​ไม่​ปล่อย​ให้​บุตรี​ของ​อนุ​เหล่านี้​มีโอกาส​ได้รับ​การศึกษา​เลย​แม้แต่น้อย​ ​และ​ถึงแม้ว่า​จะ​มี​การอนุญาต​ให้​ได้รับ​การศึกษา​อย่าง​เท่าเทียมกัน​ ​แต่​คน​รอบข้าง​ค่อนข้าง​เยอะ​ ​ทุกอย่าง​จึง​ค่อนข้าง​ล่าช้า​อย่าง​ไม่​อาจ​หลีกเลี่ยง​ได้​ ​เวลา​นาน​เข้า​ ​ความตั้งใจ​และ​ความกล้า​ของ​เหล่า​บรรดา​บุตรี​อนุ​ก็​จะ​ถดถอย​น้อยลง​ ​กิริยาท่าทาง​ก็​จะ​ดู​ขลาดกลัว​ไร้​ซึ่ง​ความมั่นใจ​ ​ยาก​ที่จะ​มีแวว​ตา​ฉลาด​ปราดเปรียว​ ​ส่วน​ผู้​เป็นมา​รดา​ที่​เป็น​อนุภรรยา​ส่วนใหญ่​มักจะ​มี​ภูมิหลัง​ที่​ต้อยต่ำ​ ​ประสบการณ์​น้อย​ ​สิ่ง​ที่​เคย​พบเห็น​นั้น​ค่อนข้าง​แคบ​ ​จึง​ไม่​สามารถ​ช่วย​อะไร​ใน​ด้าน​นี้​ได้​เลย​ ​ทำให้​บุตรี​อนุ​ส่วนใหญ่​มีคุณ​สมบัติ​กลางๆ​ ​สตรี​เช่นนี้​ ​ถึงแม้ว่า​ตระกูล​จะ​มีสมบัติ​ ​แต่​ก็​ไม่มีใคร​ยินดี​จะ​สู่ขอ​มา​เป็น​สะใภ้​ ​เหตุผล​ก็​เพราะ​จะ​ไม่​เป็นผลดี​ต่อ​รุ่น​ลูก​รุ่น​หลาน​ ​เป็นการ​ยาก​ที่จะ​อบรม​บ่ม​สอน​รุ่นหลัง​ให้​ดีเด่น​ได้​ ​โดยเฉพาะ​ด้าน​การศึกษา​ของ​บุตรี​ ​เหตุผล​อีก​ข้อ​ก็​คือ​ความสามารถ​นั้น​มี​ขีดจำกัด​ ​ยาก​ที่จะ​สามารถ​รับมือ​กับ​การ​ดูแล​และ​จัดการ​ธุระ​ทุกอย่าง​ภายใน​ครอบครัว​ในอนาคต​ได้

เหตุผล​เดียวกัน​ ​นี่​ก็​เป็น​อีก​หนึ่ง​สาเหตุ​ที่​ภรรยา​เอก​มักจะ​ริษยา​อนุภรรยา​ที่​มี​ภูมิหลัง​ดี​ ​พวก​นาง​ไม่​เหมือนกับ​เหล่า​บรรดา​อนุภรรยา​ที่​มี​ภูมิหลัง​ต้อยต่ำ​ ​ที่​สูญเสีย​ความมั่นใจ​ไป​ก่อน​แล้ว​ ฮู​หยิน​เอก​ว่ากล่าว​เพียง​ไม่​กี่​คำ​ ​พวก​นาง​ก็​จะ​เชื่อฟัง​อย่างว่า​นอน​สอนง่าย​ ​พวก​นาง​มักจะ​อาศัย​บุตรชาย​หรือ​พยายาม​ให้​ตน​นั้น​เป็น​ที่​โปรดปราน​ ​เพื่อที่จะ​เปลี่ยนแปลง​สถานการณ์​ความลำบาก​ใน​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่เคย​เลย​ที่จะ​สั่นคลอน​รากฐาน​ของ​ตระกูล​ ​ล่วงเกิน​หรือ​คุกคาม​ผลประโยชน์​ของ​บุตรชาย​และ​บุตรสาว​ของ​ภรรยา​เอก

ขณะที่​กำลัง​ให้ความสนใจ​กับ​ฐานะ​วงศ์ตระกูล​ที่​เท่าเทียมกัน​ของ​สมัยโบราณ​ ​นี่​ก็​เป็น​อีก​หนึ่ง​สาเหตุ​ที่​บุตรี​ของ​ภรรยา​เอก​ไม่​ยินยอม​ที่จะ​แต่งงาน​กับ​บุตรชาย​ของ​อนุภรรยา​ ​ฐานะ​วงศ์ตระกูล​เท่าเทียมกัน​ไม่เพียงแต่​หมายความว่า​แค่​ร่ำรวย​เท่านั้น​ ​ยัง​รวมไปถึง​ขนบธรรมเนียม​ของ​วงศ์ตระกูล​ ​ระดับการศึกษา​และ​ความรู้​ที่​สืบทอด​กัน​มา

จวน​หยง​ผิง​โหว​จะ​มีชื่อเสียง​แค่ไหน​ ​แต่​คุณชาย​สาม​สวี​ลิ่ง​หนิง​ก็​เป็น​เพียง​บุตรชาย​ของ​อนุภรรยา

อย่า​ว่าแต่​บิดา​มารดา​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​จะ​ฐานะ​ไม่ดี​เลย​ ​แม้ว่า​จะ​เปลี่ยนไป​เป็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​ตระกูล​จง​ฉินปั​๋​วก​็​ไม่ยอม​ยก​บุตรี​คนโต​ของ​พวกเขา​ให้​มา​แต่งงาน​ด้วย​อยู่ดี

ขณะที่​บรรยากาศ​กำลัง​ครึกครื้น​อยู่​นั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​เปิดม่าน​แล้ว​เดิน​ออกมา​ ​“​เข้ามา​เถิด​!​”

สีหน้าท่าทาง​ของ​เขา​ดู​นิ่ง​สงบ​ ​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ ​คุณชาย​ห้า​จึง​ค่อย​โล่งใจ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​คารวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​กล่าว​ทักทาย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สนิทสนม​ ​“​พี่​สี่​ ​ประทัด​ซื้อ​กลับมา​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ข้า​สั่ง​ให้​บ่าว​รับใช้​สอง​คน​เฝ้า​อยู่​ด้วย​ ​ตอน​วัน​ส่งท้าย​ปี​เก่า​ ​วัน​ขึ้น​หนึ่ง​ค่ำ​เดือนอ้าย​ ​วัน​ขึ้น​สอง​ค่ำ​เดือนอ้าย​แล้วก็​คืน​ของ​วัน​ขึ้น​สาม​ค่ำ​เดือนอ้าย​ ​มีบ​่าว​เจ็ด​คน​อยู่​เฝ้า​ประทัด​โดยเฉพาะ​ ​รับรอง​ว่า​ไม่​เกิดเรื่อง​ขึ้น​อย่างแน่นอน​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​“​ไม่เลว​!​”

คุณชาย​ห้า​ได้ยิน​แล้วก็​แสดง​สีหน้า​ดีใจ​ออกมา​ ​ราวกับ​เด็กน้อย​ที่​ได้รับ​คำชื่น​ชม​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เม้มปาก​ยิ้ม

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ถือโอกาส​นี้​เดิน​เข้าไป​คารวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ทุกคน​ก็​พากัน​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ ​เมื่อ​คุณชาย​ห้า​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​แยกย้าย​ไป​นั่ง​ตามลำดับ

คุณชาย​ห้า​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​ประทัด​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​อีก​รอบ​ ​ท้าย​ประโยค​ยัง​เสริม​ไป​ว่า​ ​“​…​พี่​สี่​เอง​ก็​เห็นดี​ด้วย​ขอรับ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ดี​แล้ว​ ​เช่นนั้น​ก็ดี​แล้ว​”

จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สาม​และ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

“​กลับมา​เร็ว​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​รีบ​เข้ามา​เร็ว​เข้า​!​”

ฮู​หยิน​สาม​และ​สวี​ซื่อ​ฉิน​เปิดม่าน​เข้ามา​ด้านใน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ทุกคน​อยู่​กัน​พร้อมหน้าพร้อมตา​ ​จึง​รู้สึก​ค่อนข้าง​แปลกใจ

เมื่อ​ทำความเคารพ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ถามไถ่​ด้วย​ความห่วงใย​ว่า​ ​“​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สกุล​กาน​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

ฮู​หยิน​สาม​ตอบกลับ​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​รู้​แล้ว​ ​จะ​ไม่​ไปดู​เสียหน่อย​ก็​ไม่ดี​ ​ทำได้​แค่​พยายาม​ให้​ดีที​่​สุด​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”​ ฮู​หยิน​สาม​ไม่ได้​ตอบคำถาม​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ตรงๆ

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​แล้วก็​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​ ​หันไป​กำชับ​กับ​คุณชาย​ห้าว​่า​ ​“​พรุ่งนี้​พ่อบ้าน​จะ​ไป​ส่งมอบ​ของขวัญ​อวยพร​วัน​ปีใหม่​ที่​ตรอก​หง​เติ​งบ​้า​นพ​่อ​ตา​เจ้า​ ​เจ้า​เอง​ก็ตาม​ไป​ด้วย​ ​ไป​คารวะ​ทักทาย​พ่อตา​เจ้า​เสียหน่อย​ ​พ่อตา​ของ​เจ้า​ไม่ได้​เจอ​ตาน​หยาง​มา​พักใหญ่​แล้ว​”

ของขวัญ​อวยพร​วัน​ปีใหม่​ของ​บ้าน​สกุล​หลัว​และ​บ้าน​สกุล​กาน​ถูก​ส่ง​ไป​ตั้งแต่​เมื่อวาน​นี้​แล้ว

คุณชาย​ห้า​ขานรับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​“​ขอรับ​”

คุณชาย​สาม​มาถึง​พอดี​ ​เขา​มา​เชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​คุณชาย​ห้า​ไป​เซ่นไหว้​เทพเจ้า​แห่ง​เตาไฟ

คุณชาย​ห้า​จึง​ได้​เรียก​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​“​ไป​…​เรา​ไป​กิน​ลูกกวาด​กัน​!​”

เด็ก​ๆ​ ​จึง​พากัน​หัวเราะ​ชอบใจ​แล้ว​เดินตาม​เขา​ไป

ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​ให้ฮู​หยิน​สาม​ถอย​ออก​ไป​ ​“​…​ไป​เปลี่ยน​ชุด​แล้ว​มาทา​นข​้า​วกัน​เถิด​”

ฮู​หยิน​สามขา​นรับ​แล้วจึง​ได้​ถอย​ออก​ไป​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​พลาง​ชี้​ไป​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​อี๋​เจิน​อาศัย​อยู่​ที่​เขา​ซี​ซาน​คนเดียว​ ​ทั้ง​โดดเดี่ยว​และ​เดียวดาย​ ​ก็​เลย​ว่า​จะ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​นาง​ ​เจ้า​มี​ความคิดเห็น​อย่างไรบ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​หัวใจ​สั่น​ไหว

ทั้งๆ​ ​ที่​ตน​เป็น​คนพูด​เรื่อง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยาก​ไป​อยู่​เป็นเพื่อนฮู​หยิน​สอง​ที่​เขา​ซี​ซาน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​เป็นความ​คิด​ของ​เขา​เอง​ ​และ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็นความ​คิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ก็​กลัว​ว่า​ตน​จะ​ไม่สบายใจ​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ได้​นำ​เรื่อง​นี้​มา​เป็น​เจตนา​ของ​นาง​เอง

“​ท่าน​แม่​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ดีเจ​้า​ค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​ ​“​ข้า​จะ​ไป​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดี๋ยวนี้​เลย​ ​ท่าน​ว่า​ควรจะ​เดินทาง​เมื่อไร​ดีเจ​้า​คะ​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​“​พรุ่งนี้​จะ​ส่งมอบ​ของ​ปีใหม่​ให้​อี๋​เจิน​…​เป็น​พรุ่งนี้​ก็แล้วกัน​!​ ​พรุ่งนี้​ยาม​ซื่อ​ ​เริ่ม​ออกเดินทาง​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ตาม​เจตนา​ของ​ท่าน​แม่เจ้า​ค่ะ​”

*****

ในขณะที่​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​นั้น​ ​หู่​พั่ว​และ​ตง​ชิง​เอง​ก็​กำลัง​คุย​กัน​อยู่​เช่นกัน

“​สรุป​แล้ว​พี่​หญิง​ตัดสินใจ​ว่า​อย่างไร​ ​ท่าน​ไม่ยอม​บอก​ข้า​ ​แล้ว​ข้า​จะ​ช่วย​ท่าน​ได้​อย่างไรเล่า​”

ตง​ชิง​ก้มหน้าก้มตา​ปัก​ผ้า​ต่อ​ ​ไม่ยอม​พูด​อะไร​ออกมา​ทั้งนั้น

หู่​พั่ว​เห็นท่า​ที​ของ​นาง​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​สนิท​กับ​ท่าน​ไม่​เท่า​ปินจ​วี​๋​หรือ​อย่างไร​กัน​”

เมื่อ​พูด​จนถึง​ตรงนี้​ ​ตง​ชิง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มาด​้วย​ความจน​ใจ​ ​ฝืนยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​หมายความว่า​อย่างนั้น​”​ ​แต่กลับ​ไม่ยอม​อธิบาย​อะไร​ต่อ

หู่​พั่ว​นวด​มือ​ของ​ตง​ชิง​เบา​ๆ​ ​“​พี่​หญิง​คนดี​ ​ท่าน​อย่า​ถือโทษ​โกรธ​น้อง​ที่​พูดจา​ไม่น่าฟัง​ ​ท่าน​ลอง​นึกดู​ ​มีฮู​หยิน​คน​ไหน​เป็น​ดังเช่นฮู​หยิน​ของ​เรา​บ้าง​ ​อีกทั้ง​ยัง​มาป​รึก​ษา​กับ​ท่าน​ถึง​ห้อง​ด้วยตัวเอง​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​นี่​ก็​ถือเป็น​วาสนา​ของ​ท่าน​กับฮู​หยิน​ ​บางครั้ง​ ​พี่​หญิง​เอง​ก็​ควร​ไตร่ตรอง​พิจารณา​ว่า​เหมาะ​ควร​หรือไม่​ถึง​จะ​ถูก​”

คำพูด​นี้​ค่อนข้าง​หนักหน่วง​ไป​หน่อย

ตง​ชิง​รีบ​พูด​ขึ้น​ทันที​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​รู้​ ​แต่​เวลา​อยู่​ต่อหน้าฮู​หยิน​ ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อย่างไร​ดี​!​”

หู่​พั่ว​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​พี่​หญิง​แค่​พูด​ความในใจ​กับฮู​หยิน​ก็​พอ​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ให้​ไม่​สะดวก​พูด​กัน​เชียว​”​ ​หู่​พั่ว​หยอกล้อ​อีกครั้ง​ว่า​ ​“​นอก​เสีย​จาก​พี่​หญิง​จะ​ไป​ถูกใจ​คุณชาย​เรือน​ไหน​เข้า​ ​กลัว​ว่า​ตอนฮู​หยิน​ถาม​ขึ้น​มา​แล้ว​จะ​ตอบ​ไม่​ถูก​ ​ก็​เลย​ไม่กล้า​พูด​กระมัง​”

“​ไปให้พ้น​เลย​”​ ​ตง​ชิง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ผลัก​หู่​พั่ว​เบา​ๆ

หู่​พั่ว​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​มาบัง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา

บรรยากาศ​ที่​อึดอัด​ใน​ห้อง​ก็​เปลี่ยนไป​เป็น​โล่ง​สบาย​ขึ้น​มา

ตง​ชิง​เอง​ก็​ค่อยๆ​ ​ผ่อนคลาย​ลง

“​ข้า​ไม่​ค่อย​ชอบ​คน​เช่นว่าน​ต้า​เสี่ยน​”

หู่​พั่ว​ได้ยิน​แล้วก็​ชะงัก​ไป​ ​“​แต่​ข้า​เห็น​ว่า​เขา​ดูดี​ใช้ได้​เลย​”

ตง​ชิง​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​ผู้ชาย​ดูดี​จะ​ไป​มีประโยชน์​อะไร​ ​สิ่ง​ที่​พึงมี​และ​พึง​เป็น​ก็​คือ​จะ​ต้อง​มีปัญญา​เลี้ยงดู​ครอบครัว​”​ ​พูด​จบ​ ​แววตา​ของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​เศร้าสลด​ ​“​หาก​เจอ​คนที​่​เหมือนเช่น​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ทั้ง​สวย​และ​เพียบพร้อม​ด้วย​ศีลธรรม​อัน​ดีงาม​แค่ไหน​ ​สุดท้าย​ก็​ตกอับ​จนถึง​ขั้น​ต้อง​ขาย​บุตรชาย​บุตรสาว​”

หู่​พั่ว​เอง​ก็​เคย​ได้ยิน​มา​ ​ว่า​ตง​ชิง​มีพี​่​ชาย​คน​หนึ่ง​ ​อายุ​เพียงแค่​ห้า​ขวบ​ก็​ถูก​ส่ง​ไป​เป็น​บุตร​เขย​บ้าน​คนอื่น​แล้ว

เมื่อ​ได้ยิน​แล้ว​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​หาย​ไป

“ฮู​หยิน​ถูกใจ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ฮู​หยิน​ก็​ต้อง​ชอบ​เขา​อยู่​แล้ว​ ​ข้า​เอง​ไม่รู้​ว่า​ตอน​อยู่​ต่อหน้าฮู​หยิน​เขา​เป็น​คน​อย่างไร​”​ ​ตง​ชิง​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​อีกครั้ง​ ​“​คราวก่อน​ข้า​ไป​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ ​เขา​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​เหมือนกับ​ว่า​ลังเล​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​ต่อ​ดี​หรือไม่​ ​จึง​ได้​ชะงัก​ไป

หู่​พั่ว​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ใจเต้น​ขึ้น​มา​ ​“​หรือว่า​เขา​…​พูดจา​ไม่ดี​กับ​ท่าน​”

“​ไม่ใช่​ ​ไม่ใช่​”​ ​ตง​ชิง​รีบ​ปฏิเสธ​ทันควัน​ ​“​เขา​เป็น​คน​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ ​อีกทั้ง​ยัง​รู้จัก​สังเกต​สีหน้า​ของ​ผู้อื่น​ด้วย​ ​หาก​ข้า​เพียงแค่​เผย​ให้​เห็น​ว่า​ข้า​ชอบ​อะไร​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เขา​ก็​จะ​รีบ​ไป​ทำให้​ทันที​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​ค่อยๆ​ ​ก้มหน้า​ลง​ ​“​ไม่​หลงเหลือ​ความ​เป็น​บุรุษ​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​”​ ​หู่​พั่ว​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​“​นั่น​เป็น​เพราะ​เขา​เห็น​พี่​หญิง​ที่​ราวกับ​เทพธิดา​ก็​ไม่​ปาน​มายื​นอยู​่​ตรงหน้า​ ​มือ​ไม้​เลย​พัน​กัน​ ​ทำเป็น​แค่​ตั้งหน้าตั้งตา​เอาอกเอาใจ​เท่านั้น​…​”

ได้ยิน​น้ำเสียง​ที่​หยอกล้อ​ของ​หู่​พั่ว​ ​ใบหน้า​ของ​ตง​ชิง​ก็​แดงก่ำ​ขึ้น​มา​ ​ตง​ชิง​เอื้อมมือ​ตี​หู่​พั่ว​ไป​ที​หนึ่ง​ ​“​พูด​ซี้ซั้ว​อะไร​ของ​เจ้า​!​”

หู่​พั่ว​หัวเราะ​หนัก​กว่า​เก่า

สีหน้า​ของ​ตง​ชิง​เต็มไปด้วย​ความขมขื่น​ ​“​ข้า​กับ​เจ้า​ไม่​เหมือนกัน​ ​เจ้า​เป็น​บุตรสาว​ของ​บ่าว​รับใช้​ ​กลับ​จวน​ก็​ไป​เป็นสาว​ใช้​ที่​เรือน​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​แต่​ข้า​ไม่​เหมือนกัน​ ​ข้า​ถูกขาย​เข้ามา​ ​ไร้ญาติขาดมิตร​ไม่มี​ที่พึ่ง​พิง​ ​แม้แต่​คน​คุย​ด้วย​ก็​ไม่มี​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​ตอนนั้น​ก็​เป็น​เพราะ​ไม่มีใคร​อยาก​ไปดู​แลฮู​หยิน​ที่​ป่วย​อยู่​ ​ธุระ​ก็​เลย​มาต​กล​งบน​หัว​ข้า​”​ ​พูด​จบ​ก็​ยก​เรื่อง​ป้า​เหยา​ที่จะ​จับ​ตน​ไป​แต่งงาน​กับ​หลานชาย​ของ​นาง​มา​พูด​ต่อ​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เหลียน​เฉียว​ที่​เรือน​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ก็​ถือว่า​หายาก​ยิ่ง​ ลั​่ว​เชี่ยว​เอง​ก็​ไม่เลว​เลย​ ​กลับ​เอาแต่​มาถาม​ข้า​อยู่​คนเดียว​”

หู่​พั่ว​ค่อยๆ​ ​หุบ​ยิ้ม​ลง

ตง​ชิง​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​ที่​ตน​ต้อนรับ​แขก​ที่มา​เยือน​แทน​หู่​พั่ว​ขึ้น​มา​ ​“​…​ทั้งๆ​ ​ที่​สิบ​ตำลึง​เท่ากัน​ ​แต่​ทำไม​คุณหนู​ห้า​สามารถ​ทำอาหาร​ได้​ทั้ง​โต๊ะ​ ​ส่วน​พวกเรา​กลับ​ทำไม​่​ได้​!​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความผิดหวัง​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ไม่แน่​บางที​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ตอนนั้นฮู​หยิน​ยัง​ไม่มี​คน​ให้​พึ่งพิง​อาศัย​ ​แม้แต่​พวก​หัวหน้า​ป้า​รับใช้​ก็​ไม่กล้า​จะ​ให้​เรา​อยู่​ใน​สายตา​ ​แล้ว​เจ้า​ดู​อย่าง​ตอนนี้​สิ​…​”​ ​นาง​พูด​พลาง​แสดง​สีหน้า​ลังเล​ออกมา

หรือว่า​มีเรื่อง​อะไร​ที่​ตน​ไม่รู้​เกิดขึ้น​กัน​แน่

แววตา​ของ​หู่​พั่ว​หมอง​หม่น​ลง​ไป​ทันควัน​ ​นาง​รีบ​หันกลับ​มา​พร้อมกับ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ก็ได้​พี่​หญิง​ ​เรา​มาคุย​เรื่องส่วนตัว​กัน​ ​ท่าน​มีเรื่อง​อะไร​ให้​เป็นกังวล​ใจ​หรือ​”

ตง​ชิง​ลังเล​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​สุดท้าย​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​ทุ้ม​ต่ำ​ว่า​ ​“​กลับ​จน​สกุล​หลัว​ครั้ง​ที่แล้ว​ ​ข้า​ได้ยินลั​่ว​เชี่ยว​เล่า​ว่า​หลังจากที่​นายท่าน​ใหญ่​กลับมา​แล้ว​ ​ก็​เอาแต่​ค้าง​ที่​เรือน​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​พอนาย​หญิง​ใหญ่​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​ ​ก็​ส่ง​อี๋​เหนียง​หก​ไป​ปรนนิบัติ​โดยเฉพาะ​ ​แต่​แล้ว​นายท่าน​ใหญ่​…​นาย​หญิง​ใหญ่​โมโห​จน​คว่ำ​ถ้วย​ยาที​่​ป้า​สวี​่​ยก​ไป​ให้​หก​จน​หมด​!​”

หู่​พั่ว​งุนงง​เป็นอย่างมาก

ตอน​นาง​กลับ​ไป​ที่​จวน​สกุล​หลัว​ก็​ไม่เห็น​ซาน​หู​ว่า​อะไร​ ​เพียงแต่​บอก​นาง​ว่า​คุณนาย​สี่​ที่​เพิ่ง​เข้ามา​ใหม่​นั้น​เก่งกาจ​มาก​ ​พูดจา​เป็นต่อย​หอย​ ​มี​หลัก​คุณธรรม​ ​อีกทั้ง​ยอม​เสียเปรียบ​ ​ไม่เพียงแต่​ปรนนิบัติ​ดูแล​จน​คุณชาย​สี่​เป็นผู้เป็นคน​และ​เชื่อฟัง​ขึ้น​มา​ ​แม้แต่​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ทั้งหลาย​ก็​ไม่มีใคร​กล้ามา​วางก้าม​ทำตัว​ใหญ่โต​กับ​นาง​เลย​ ​สยบ​ได้​แม้กระทั่ง​คุณนาย​ใหญ่​ที่อยู่​ต้นลม​เสมอมา​…

“​หาก​มา​ลอง​คิดดี​ๆ​ ​นั่น​ก็​เป็น​เพราะ​ตอนนั้น​คุณหนู​สิบเอ็ด​ต้อง​เข้ามา​เป็นฮู​หยิน​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​เช่น​วันนี้​!​”​ ​สีหน้า​ของ​ตง​ชิง​เต็มไปด้วย​ความกังวลใจ​ ​“​กว่า​จะ​หลุดพ้น​จาก​ทะเล​ทุกข์​นั่น​ได้​ ​ข้า​ไม่​อยาก​กลับ​ไป​ติด​ราก​แหนั​้​นอีก​แล้ว​!​”

“​เช่นนั้น​พี่​หญิง​หมายความว่า​อย่างไร​”​ ​หู่​พั่ว​เหมือน​จับต้นชนปลาย​ไม่​ค่อย​ถูก

ตง​ชิง​รู้ดี​ว่า​หู่​พั่ว​นั้น​มา​เพื่อ​ไถ่ถาม​แทนฮู​หยิน​ ​หลังจากที่​ได้​พิจารณา​ไตร่ตรอง​แล้ว​ ​นาง​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​บุรุษ​ใหญ่​ชายชาตรี​ ​จะ​ลุก​นั่ง​ต้อง​กระฉับกระเฉง​ว่องไว​ ​เฉียบขาด​และ​เด็ดเดี่ยว​ ​คน​เช่นว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​ข้าม​อง​ไม่​เข้าตา​จริงๆ​ ​ไม่​อยาก​จะ​ไป​สนิทสนม​คบค้า​กับ​คน​เช่นนั้น​!​”

หู่​พั่ว​แสดง​สีหน้า​ท่าที​ที่​ค่อนข้าง​ลำบากใจ

จะ​ให้​ตน​กลับ​ไป​เรียนฮู​หยิน​ว่า​อย่างไร​ดี​เล่า

ฮู​หยิน​ถูกใจ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​ให้​ตง​ชิง​ต้อง​ฝืน​มอง​เขา​ด้วย​ความจำ​ใจ​ ​จึง​ไม่ได้​ให้​งานแต่ง​นี้​เกิดขึ้น​ ​แต่​ใต้​หล้า​นี้​จะ​มี​งานแต่ง​สัก​กี่​คู่​ที่สามา​รถ​สม​ดังใจ​ปรารถนา​ได้​ ​แม้แต่​ตัวฮู​หยิน​เอง​ก็​ยัง​ต้อง​ฝืนใจ​แต่งงาน​ ​ใช้ชีวิต​กับ​ท่าน​โหวด​้วย​ความระมัดระวัง​เช่นนี้​มิใช่​หรือ

ตง​ชิง​ดู​สีหน้า​ท่าที​ของ​หู่​พั่ว​ออก​ ​สาเหตุ​ที่นาง​ไม่ได้​บอก​สือ​อี​เหนียง​ก็​เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​ส่งผล​ไม่ดี​เหมือนกัน

“​หาก​ข้า​ไป​บอกว่า​เพราะ​ไม่​ถูกชะตา​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ก็​เลย​ไม่​อยาก​แต่ง​ ​เกรง​ว่าฮู​หยิน​คงจะ​รู้สึก​ว่า​ข้า​บ้า​ไป​แล้ว​ ​แต่​หาก​ให้​ข้า​ไป​โกหก​สร้างเรื่อง​ว่าว​่าน​ต้า​เสี่ยน​เป็น​คน​ไม่ดี​ ​แล้วฮู​หยิน​มี​ปม​ใน​ใจ​ขึ้น​มา​ล่ะ​ ​ไม่​เท่ากับ​เป็นการ​ทำร้าย​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​หรอก​หรือ​ ​ถึงแม้ว่า​ข้า​ไม่​ค่อย​ได้​เจอ​คน​ผู้​นี้​มาก​นัก​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​ไป​กล่าวหา​ให้ร้าย​เพียง​เพราะ​ความเห็นแก่ตัว​ของ​ตัว​ข้า​เอง​ ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​บอก​เรื่อง​นี้​กับฮู​หยิน​อย่างไร​ดี​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท