รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 184 ด้วยภาพวาดทิวทัศน์หิมะ พวกเขาไม่กลัวสิ่งใดเลย!

บทที่ 184 ด้วยภาพวาดทิวทัศน์หิมะ พวกเขาไม่กลัวสิ่งใดเลย!

บทที่ 184 ด้วยภาพวาดทิวทัศน์หิมะ พวกเขาไม่กลัวสิ่งใดเลย!

วูบ!

ประกายแสงที่เจิดจ้าพุ่งออกมาจากตัวตนของบรรพชนพรรคจื่อเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ขอบเขตของบรรพชนพรรคจื่อเสียนั้นทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจริง ๆ เร็วมากจนไม่น่าเชื่อ!

หลังจากนั้นไม่นาน แสงที่ลุกโชนก็หายไปจากร่างของบรรพชนในที่สุด และเขาก็ค่อย ๆ สงบลง

ยามนี้ บรรพชนพรรคจื่อเสียได้มาถึงขอบเขตเอกาแล้ว!

ขอบเขตเอกา… ขอบเขตที่เป็นรองเพียงประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ บรรพชนของพรรคจื่อเสียทะลวงเจ็ดขอบเขตใหญ่ หกสิบสามขั้นย่อย!

เดิมที ขอบเขตของเขาอยู่เพียงขอบเขตนิพพานเท่านั้น…

“สมุนไพรในร่างกายของข้าคือสิ่งใดกัน!?”

บรรพชนพรรคจื่อเสียตกตะลึงอย่างอธิบายไม่ได้ สมุนไพรใบหนึ่งลอยอยู่ในตันเถียนของเขา มันมีพลังที่น่าประหลาดใจและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก!

ก่อนหน้านี้เขาได้ดูดซับพลังแห่งการหลอมรวม และทุกอย่างก็ไหลออกมาจากสมุนไพรนี้!!

การทะลวงเจ็ดขอบเขตใหญ่เช่นนี้ ทำให้เขาเหลือเชื่อราวกับฝันไป

“อาจารย์ปู่ ท่านไม่เป็นไรก็ดีแล้ว!”

อันหลานเสวี่ยพูดกับบรรพชนพรรคจื่อเสีย “ศิษย์ได้พบกับท่านเซียนท่านหนึ่งในเมืองชิงซาน อ้ายฉานและเด็กคนอื่นที่เป็นอัจฉริยะสะท้านฟ้า… เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านเซียน พวกเขาทั้งหมดถึงได้รับความสามารถสะท้านฟ้าปานนี้!”

นางเล่าทุกสิ่งอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบังอันใดไว้แม้แต่น้อย

“อะไรนะ! มีท่านเซียนอยู่บนโลกนี้ด้วย! อยู่กระทั่งใน… แดนบูรพาทิศของเรา!”

ดวงตาของบรรพชนพรรคจื่อเสียเบิกกว้าง เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

มันยากสำหรับเขาที่จะเชื่อในสิ่งที่อันหลานเสวี่ยพูด!

“ใช่แล้ว ท่านเซียนท่านนั้นช่างเหนือจินตนาการจริง ๆ สมุนไพรในตัวอาจารย์ปู่คือสมุนไพรจักรพรรดิบนดอกไม้ที่ท่านเซียนมอบให้ข้า นอกจากนี้ ดูสิ อาจารย์ปู่ มันคือสิ่งที่แก้ไขวิกฤตครั้งนี้ สิ่งนี้ก็ได้รับมาจากท่านเซียนเช่นกัน ภาพวาดนั่น…!”

อันหลานเสวี่ยชี้ไปที่ภาพวาดทิวทัศน์หิมะกลางอากาศ

บรรพชนพรรคจื่อเสียเงยหน้าขึ้นและตกใจทันที

ภาพวาดทิวทัศน์หิมะมีสัมผัสแห่งเต๋าสูงสุดไหลเวียนอยู่ด้วย มันดูราวกับเขาได้เข้าไปอยู่ ณ ที่แห่งนั้น อยู่บนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในแดนสวรรค์!

เกล็ดหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับสายใยแห่งเสน่ห์ของท่านเซียน ราวกับก้อนผลึกจากสวรรค์ ทุกอย่างช่างน่าอัศจรรย์ใจและสุดยอดจนมิอาจหาคำพรรณา!

“ท่านเซียนก็คือท่านเซียน!”

เขาไม่มีความสงสัยแม้แต่น้อยอีกต่อไป หากไม่ใช่ท่านเซียน ก็ไม่มีผู้ใดสามารถวาดผลงานชิ้นเอกเช่นนี้ได้เลย!

มิแปลกใจเลยที่บรรพชนของสำนักไท่หัว และบรรพชนของสำนักเมฆาลับฟ้า จู่ ๆ ก็ขอบเขตสูงขึ้นพรวดพราดปานนั้น…

อีกทั้งยังมิแปลกใจว่า เหตุใดประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจึงสุภาพกับผู้อาวุสำนักโสไท่หัวและสำนักเมฆาลับฟ้าด้วย…

มิหนำซ้ำ ยังมิแปลกใจด้วยที่อัจฉริยะสะท้านฟ้าทั้งแปดล้วนมาจากเมืองชิงซาน…

สุดท้ายก็มิแปลกใจอีกนั้นแล ที่มีเสียงเล่าลือกันว่าลูกรักสวรรค์จากภาคกลางซึ่งร่วงหล่นลงมาจากแท่น จะกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์ดังเดิมในแดนบูรพาทิศ…

“ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว!”

บรรพชนพรรคจื่อเสียกล่าวพร้อมคิดทุกอย่างด้วยความถี่ถ้วน

ท่านเซียนอาศัยอยู่ในเมืองชิงซาน

สำนักไท่หัวอยู่ใกล้กับเมืองชิงซาน…

การที่ขอบเขตของบรรพชนสำนักไท่หัวจะพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้เกี่ยวกับท่านเซียนอย่างมิต้องสงสัย

มิฉะนั้น การที่บรรพชนสำนักไท่หัวคิดจะทะลวงขอบเขตโดยเร็วในฉับพลัน ย่อมเป็นไปไม่ได้!

บรรพชนของสำนักเมฆาลับฟ้าและบรรพชนสำนักไท่หัวเป็นมิตรสหายกัน เขาคิดว่าบรรพชนของสำนักเมฆาลับฟ้าได้พบกับท่านเซียน จึงได้รับผลประโยชน์อย่างมากจากท่านเซียน!

“อย่างนี้นี่เอง!” บรรพชนพรรคจื่อเสียหัวเราะ

เดิมที สิ่งเหล่านี้เป็นปริศนาที่ยังไม่ได้แก้ไขในใจของเขา เช่นเดียวกับเป็นปริศนาที่ยังแก้ไขไม่ได้ในใจของสิ่งมีชีวิตมากมายในแดนบูรพาทิศ มาตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว

“คิดอย่างรอบคอบแล้ว เหตุใดท่านเซียนถึงยืนยันที่จะให้สมุนไพรจักรพรรดิและภาพวาดแก่ข้า? ท่านเซียนคงคาดไว้แล้วว่าข้าจะพบกับหายนะครั้งนี้!”

อันหลานเสวี่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

เมื่อบรรพชนพรรคจื่อเสียดูดซับและหลอมรวมพลังในตัวของเขา นางก็คิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับวิถีทางที่จะอยู่ร่วมกับท่านเซียน

ในเวลานั้น ท่านเซียนเสนอมอบสมุนไพรจักรพรรดิและภาพวาดแก่นาง เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึกขอบคุณ

ตอนนั้นนางไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่เพียงว่าท่านเซียนมอบสมุนไพรจักรพรรดิและภาพวาดให้นาง เพื่อให้นางดูแลอ้ายฉานกับเด็กคนอื่นอย่างใส่ใจมากขึ้น

แต่…จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?

หากแค่นั้น ท่านเซียนไม่จำเป็นต้องส่งสมุนไพรจักรพรรดิและภาพวาดให้นางเลย

แท้จริงแล้ว ท่านเซียนเพียงพูดสักคำ นางก็ไม่กล้าฝ่าฝืน ย่อมดูแลอ้ายฉานและเด็กคนอื่นเป็นอย่างดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเซียนให้ชาเย็นนางดื่ม!

มาคิดตอนนี้ นางไร้เดียงสาเกินไปและคิดน้อยเกินไปในตอนนั้น!

นางจะจัดการกับศัตรูเหล่านี้อย่างไร หากไม่มีภาพวาดทิวทัศน์หิมะที่ท่านเซียนมอบให้นาง

ถ้าไม่มีสมุนไพรจักรพรรดิที่ท่านเซียนมอบให้นาง อาจารย์ปู่จะฟื้นได้อย่างไร?

ทุกอย่างพิสูจน์ว่าท่านเซียนเพียงแค่คิด ก็ล่วงรู้อดีตและปัจจุบัน กระทั่งรู้ว่านางจะต้องพบกับความหายนะครั้งนี้!

“ตอนนั้นข้าบอกว่าไม่ต้องการ ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไร…”

ใบหน้าของอันหลานเสวี่ยเปลี่ยนเป็นขึ้นสี จำได้ว่าตอนนั้นนางกลัวที่จะรับสมุนไพรจักรพรรดิและภาพวาด

นางเกือบทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้ว!

“การได้พบเจอท่านเซียน นับเป็นความโชคดีของเจ้าและพรรคจื่อเสียของเราด้วย!”

บรรพชนพรรคจื่อเสียรู้สึกปลงอนิจจังอย่างที่สุด

มาถึงตอนนี้เขารู้สึกหมดห่วงอย่างที่สุด

ท่านเซียนรักอ้ายฉานและเด็กคนอื่น ๆ มาก อนาคตของอ้ายฉานและเด็ก ๆ คนอื่นจะต้องเป็นคนที่ไม่อาจจินตนาการได้ และพวกเขาพรรคจื่อเสียก็จะอาศัยบารมีตามไปด้วย!

“น่าเสียดายที่ตัวตนของคนเหล่านี้ยังไม่ได้รับการปฏิบัติการอย่างชัดเจน!”

อันหลานเสวี่ยถอนหายใจ

คนเหล่านี้มีความเด็ดขาดมาก เลือกที่จะทำลายตัวเองและไม่ให้โอกาสนาง

“ไม่เห็นเป็นไร”

บรรพชนเราะและพูดว่า “ด้วยภาพวาดทิวทัศน์หิมะของท่านเซียน พวกเราก็ไม่ต้องกลัวสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่แล้ว!”

“ตกลง”

อันหลานเสวี่ยพยักหน้าที่อาจารย์ปู่พูดก็ถูก

ด้วยภาพวาดทิวทัศน์หิมะของท่านเซียน นางก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวศัตรูอีกต่อไป

“อาจารย์ปู่ พวกเรากลับกันเถิด” อันหลานเสวี่ยกล่าว

ต่อจากนั้น ด้วยความคิดของนาง พลังของน้ำแข็งและหิมะก็แผ่ออกมาทำลายแดนพิเศษนี้ในฉับพลัน

ภาคกลาง

“เกิดอะไรขึ้น!”

“เรื่องเกิดเป็นอย่างไร?”

เสียงร้องอย่างโกรธเกรี้ยวและเสียงงุนงงดังขึ้นจากกลุ่มกองกำลังลับชั้นสูงทั้งแปด

ผู้แข็งแกร่งที่พวกเขาส่งออกไป ตะเกียงแห่งชีวิตที่สว่างไสวตลอดเวลาดับลง นั่นหมายความว่าผู้ที่แข็งแกร่งเหล่านั้นตายตกไปแล้ว!

“ฝีมือผู้ใด!?”

“มักมีพวกน่ารังเกียจอยู่เสมอ!”

ภายนอกเสียงของพวกเขานั้นเย็นเยียบ ทว่าภายในใจกลับเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟลุกไหม้

สิ่งมีชีวิตภายนอกจะคุกคามผู้แข็งแกร่งที่พวกเขาส่งออกไปได้อย่างไร?

พวกเขานึกถึงกองกำลังลับอื่นทันที

กองกำลังลับเหล่านี้พ่ายแพ้แล้ว ไม่มีคุณสมบัติที่จะรับอัจฉริยะสะท้านฟ้าทั้งแปด และกองกำลังลับเหล่านี้ไม่ต้องการเห็นพวกเขาสำเร็จในการสรรหาอัจฉริยะสะท้านฟ้าทั้งแปด ดังนั้นจึงลอบฆ่าผู้แข็งแกร่งของพวกเขาที่ส่งไปอย่างลับ ๆ!

“พวกเราจะต้องได้อัจฉริยะสะท้านฟ้า!”

“นำอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มา!”

พวกเขายิ้มเยาะหยัน ส่งผู้แข็งแกร่งออกไปอีกครั้ง และให้ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้นำอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย

แม้ว่าพวกเขาจะเดาว่าถูกกระทำโดยกองกำลังลับอื่น ๆ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร

เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะซักถามทีละข้อ

แม้จะซักถามทีละข้อก็อาจไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

อัจฉริยะสะท้านฟ้านั้นน่าอัศจรรย์เกินไป พวกเขาไม่อาจล้มเลิกความคิดได้

ผู้แข็งแกร่งที่พวกเขาส่งออกไปในครั้งนี้คือพลังต่อสู้ระดับแนวหน้าในการรบ ซ้ำยังถืออาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไปอีกด้วย

ครั้งนี้พวกเขาต้องสามารถนำอัจฉริยะสะท้านฟ้ากลับมาได้สำเร็จอย่างแน่นอน!

“ข้าจะไปคิดบัญชีกับพวกมันเมื่อกลับมา!”

“เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้!”

ผู้นำของกองกำลังลับเย้ยหยัน ภายในใจรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก

ชัดเจนว่ามีการกำหนดกฎเกณฑ์ไว้แล้ว แต่กองกำลังลับอื่นไม่ปฏิบัติตาม มันจึงทำให้พวกเขาทั้งหมดโกรธและเดือดดาลมาก!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท