สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – บทที่ 300 แต่งงาน (1)

บทที่ 300 แต่งงาน (1)

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ไม่รู้​เรื่อง​ป้ายชื่อ​เลย​สักนิด​ ​ย่อม​ไม่รู้​ว่า​เฉิน​เปียน​ซิว​จะ​นำ​ป้ายชื่อ​นี้​ไป​ถึง​หอ​เซียน​เล่อ

นั่น​เป็น​หอนาง​โลม​อย่างแท้จริง​ ​หน่วยงาน​แห่ง​คุณธรรม​อย่าง​สำนัก​ฮั่น​หลิน​จะ​เหยียบ​เข้าไป​โดยพลการ​ไม่ได้​เด็ดขาด

ใคร​จะ​รู้​ว่า​เฉิน​เปียน​ซิว​จะ​ใจกล้า​บ้าบิ่น​เช่นนี้

ทว่า​สอง​วัน​ต่อมา​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​ไม่ได้​มาที​่​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ​และ​ไม่ได้​ส่ง​ใคร​มาลา​แทน​ด้วย

วัน​แรก​ ​ผู้คน​ก็​แค่​สงสัย​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​คิด​ไป​ใน​ทาง​ไม่ดี​ ​ต่าง​ก็​คิด​ว่าน​่า​จะ​ป่วย​ ​หรือไม่​ที่​บ้าน​ก็​เกิดเหตุ​สุดวิสัย​จึง​ไม่ได้​มาแจ้ง​กับ​สำนัก​ฮั่น​หลิน

วันที่​สอง​ยังคง​เป็น​เช่นนั้น​ ​หยาง​ซื่อ​ตู๋​คิด​ว่า​อย่างน้อย​เขา​ก็​เคย​เป็น​ลูกน้อง​สังกัด​ของ​เขา​ ​จึง​ส่ง​คน​ไป​ถามไถ่​ที่​บ้าน​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว

ครอบครัว​เฉิน​เปียน​ซิว​เป็น​ครอบครัว​บัณฑิต​ธรรมดา​ใน​เมืองหลวง​ ​มีพ​่อ​เป็น​ซิ่ว​ไฉ​ ​เปิด​สถาบัน​สอน​เด็กเล็ก​หา​เลี้ยง​ครอบครัว​ ​แม่​เป็น​บุตรสาว​ภรรยา​คน​หนึ่ง​ของ​ขุนนาง​เก่า​ ​ค่อนข้าง​มี​ฐานะ

ตระกูล​เฉิน​แม้​จะ​ไม่​ถือว่า​เป็น​ตระกูล​ร่ำรวย​สูงศักดิ์​ ​แต่​ก็​มีเรือน​ให้​อาศัย​ ​มี​คนรับใช้​ให้​ไหว้วาน

สิ่ง​ที่​คาดไม่ถึง​คือ​ ​คนใน​ตระกูล​เฉิน​ก็​กำลังจะ​ออก​บ้าน​ไป​ตามหา​เฉิน​เปียน​ซิว​ที่​สำนัก​ฮั่น​หลิน​เช่นกัน

พวกเขา​นึก​ว่า​เฉิน​เปียน​ซิว​อยู่เวร​ที่​สำนัก​ฮั่น​หลิน

เรื่อง​เช่นนี้​ใช่​ว่า​ไม่เคย​เกิดขึ้น​ ​ช่วง​ที่​สำนัก​ฮั่น​หลิน​งาน​ยุ่ง​เป็น​ที่สุด​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​เคย​ไม่​กลับบ้าน​ติดต่อกัน​สาม​วัน

แต่​ครั้งนี้​เห็นได้ชัด​ว่าไม่ได้​เป็น​เช่นนั้น

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​รีบ​ไป​แจ้งความ​กับ​ทางการ

ทางการ​สืบ​คดี​ได้​รวดเร็ว​ยิ่งนัก​ ​หรือ​อาจ​เป็น​เพราะ​คดี​นี้​ไม่ได้​ยาก​อะไร

พวกเขา​พบ​ศพ​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว​ใน​กอง​สิ่งของ​ที่​มุม​ตึก​หน้า​ประตู​ทางตะวันตก​ของ​หอ​เซียน​เล่อ

“​คดี​เช่นนี้​พวก​ข้า​พบเห็น​มามาก​แล้ว​…​เป็น​พวก​ที่​อยาก​แอบ​เข้าไป​ใน​หอ​เซียน​เล่อ​แต่​ถูก​หาว่า​เป็น​ขโมย​จึง​ถูก​ตี​จนตาย​อีก​คน​แล้ว​สินะ​…​”

หอ​เซียน​เล่อ​มี​กำแพง​สูง​ยิ่งนัก​ ​คนธรรมดา​ทั่วไป​ไม่​สามารถ​เข้าไป​ได้​ ​แต่​ก็​เลี่ยง​ไม่ได้​ที่จะ​มี​คน​คิด​เพ้อฝัน​ ​บังเอิญ​ว่า​หน้า​ประตู​ตะวันตก​ของ​หอ​เซียน​เล่อ​มีที​่​ทิ้ง​สิ่งของ​กอง​อยู่​ ​มี​คน​แอบ​มุด​เข้าไป​จาก​ทาง​นี้​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​สุดท้าย​ก็​อย่างที่​เห็น

องครักษ์​ของ​หอ​เซียน​เล่อ​ใช่​ว่า​จะ​ล่วงเกิน​กันได​้

ผู้ใด​ที่​แอบ​ลักลอบ​เข้ามา​ถือว่า​เป็น​โจร​ ​ตี​ให้​ตาย​เสีย​ให้​หมด​!

คน​ตระกูล​เฉิน​ไม่เชื่อ​ ​คน​ของ​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ก็​ไม่เชื่อ

แต่​เฉิน​เปียน​ซิว​ถอด​ชุด​ขุนนาง​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ออก​ ​สวมใส่​ชุด​สีน้ำเงิน​ที่​ตัด​มา​ใหม่​ ​เขา​ยัง​โกน​เครา​อีก​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​กำลังจะ​ไป​พบ​คนสำคัญ​เป็นแน่

“​ไม่แน่​ว่า​…​ไม่แน่​ว่า​พวกเขา​อาจจะ​ทำร้าย​เขา​จนตาย​แล้ว​เปลี่ยน​ชุด​ให้​เขา​ก็ได้​!​”​ ​คน​ตระกูล​เฉิน​เอ่ย

ทำร้าย​ขุนนาง​แห่ง​ราชสำนัก​กับ​ทำร้าย​ชาวบ้าน​ธรรมดา​โทษ​ไม่​เหมือนกัน

ทว่า​การคาด​เดา​เช่นนี้​ก็​ตกไป​ในไม่ช้า​ ​เนื่องจาก​ทหาร​ทางการ​หา​คนขับรถ​ม้า​ที่​เฉิน​เปียน​ซิว​เรียก​มา​วันนั้น​เจอ

คนขับรถ​ม้า​ให้​ปากคำ​ว่า​ ​ตอน​ขึ้นรถ​ม้า​ ​เฉิน​เปียน​ซิว​สวมใส่​ชุด​ขุนนาง​ของ​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ​เมื่อ​ลง​จาก​รถม้า​กลับ​เปลี่ยนเป็น​อีก​ชุด​หนึ่ง​ ​และ​ยัง​โกน​หนวดเครา​อีก

“​ข้า​ส่ง​เขา​ถึง​หอ​ชิง​เฟิง​ ​หลังจากนั้น​ ​ข้า​เห็น​เขา​เดิน​ไป​ทาง​หอ​เซียน​เล่อ​”

คราวนี้​ ​เส้นทาง​และ​จุดประสงค์​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว​ก็​แน่ชัด​แล้ว​ ​บวก​กับ​ตำแหน่ง​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว​ที่​ไม่​สามารถ​เข้า​หอ​เซียน​เล่อ​อย่างเปิดเผย​ได้​ ​เช่นนั้น​จึง​เหลือ​เพียงแค่​การ​ปีน​ข้าม​กำแพง​แล้ว

คน​ของ​หอ​เซียน​เล่อ​ไม่รู้​ว่า​เขา​เป็น​ขุนนาง​ ​เห็น​เขา​เป็น​โจร​ทั่วไป​เท่านั้น​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อม​ลงมือ​ไม่​ยั้ง

เรื่อง​แบบนี้​ ​หาก​ขึ้นศาล​ก็​ย่อม​ทำได้​ ​เพราะ​อย่างไร​เสีย​ก็​ทำร้าย​คนจน​เสียชีวิต​ ​หอ​เซียน​เล่อ​ต้อง​รับผิดชอบ​ใน​ความผิด​นี้​ ​เพียงแต่​หาก​ทำ​เช่นนี้​ ​ชื่อเสียง​ของ​เฉิน​เปียน​ซิว​ก็​จะ​ถูก​ทำลาย​จน​สิ้น

สุดท้าย​หอ​เซียน​เล่อ​ชดใช้​ด้วย​เงินทอง​เพียง​เล็กน้อย​ ​แล้ว​เรื่อง​นี้​ก็​ผ่าน​ไป

แต่​ช้าง​ตาย​ทั้งตัว​ใบบัว​ย่อม​ปิดไม่มิด​ ​เรื่อง​ที่​เฉิน​เปียน​ซิว​ไป​หอนาง​โลม​แล้ว​ถูก​ทำร้าย​จน​เสียชีวิต​ก็​ยัง​แพร่​ไป​ทั่ว​สำนัก​ฮั่น​หลิน​อยู่ดี​ ​ทุกคน​ไม่ได้​พูดคุย​กัน​อย่างเปิดเผย​ ​แต่​ก็​แอบ​ถกเถียง​กัน​อย่าง​ลับ​ๆ

“​พวก​เจ้า​ว่า​…​คนดี​มีคุณ​ธรรม​อย่าง​เฉิน​เปียน​ซิว​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​ไป​หอนาง​โลม​ได้​”

“​หรือว่า​จะ​ถูก​เซียว​ซิวจ​้​วน​ยุยง​เอา​ ​ใน​สำนัก​ฮั่น​หลิน​นอกจาก​เขา​แล้วก็​ไม่มีใคร​มีสัม​พันธ์​กับ​หญิง​นาง​โลม​แล้ว​”

“​เบา​ๆ​ ​หน่อย​ ​หาน​เสวีย​ซื่อ​ไม่​ให้​เรา​ถก​เรื่อง​นี้​กัน​!​”

“​ข้า​พูด​อะไร​ผิด​ ​ก่อนที่​เฉิน​เปียน​ซิว​จะ​หายตัว​ไป​หนึ่ง​วัน​…​ข้า​เห็น​เขา​พูดคุย​กับ​เซียว​ซิวจ​้​วน​…​ไม่รู้​ว่า​คุย​อะไร​กัน​…​ดูท่าทาง​โมโห​มาก​…​”

ขณะที่​พวกเขา​ถกเถียง​กัน​ถึง​เรื่อง​นี้​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ก็​เดิน​มาจาก​ที่​ไม่​ห่าง​ออก​ไป​นัก

พวกเขา​เงียบ​ไป​ในทันที​ ​ส่งสายตา​ให้​กัน​แล้ว​สลายตัว​ไป

แต่​ที่จริง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ได้ยิน​หมด​ทุกอย่าง​แล้ว

เขา​ไม่ได้​ยุยง​เฉิน​เปียน​ซิว​แน่นอน

แต่​เมื่อ​คน​คน​หนึ่ง​ถูก​กีดกัน​ไม่​ให้​เข้าพวก​แล้ว​ ​แม้แต่​หายใจ​ก็​ยัง​ผิด

ตั้งแต่​ตกลง​จะ​ให้​หลานสาว​แต่งงาน​กับ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​แล้ว​ ​ราช​เลขา​หยวน​ก็​ให้​คน​ไปรวบ​รวม​บทกลอน​ช่วง​หลาย​ปี​มานี​้​ของ​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​มา​ให้​หมด

เขา​ดู​อย่างละเอียด​ ​ช่าง​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​เสีย​จริง​ ​บทกลอน​บาง​บท​ที่​ท่อง​กัน​อย่าง​แพร่หลาย​จนถึง​วันนี้​เป็น​กลอน​ที่​เขา​ได้​เขียน​ขึ้น​เมื่อ​เป็นตัว​ประกัน​อยู่​ที่​แคว้น​เฉิน​ ​แม้​จะ​มีบาง​จุด​ที่​ด้อย​อยู่​บ้าง​ ​แต่​การ​ที่​ตัว​อยู่​ต่าง​แคว้น​ ​แบกรับ​ชะตากรรม​ของ​แผ่นดิน​เกิด​ ​อดทน​อดกลั้น​ต่อ​การถูก​เหยียดหยาม​ ​แล้วยัง​มี​ความ​ห้าวหาญ​ของ​คนหนุ่ม​เช่นนี้​ได้​ ​ช่าง​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​จริงๆ

ราช​เลข​หยวน​ให้​คน​นำ​บทกลอน​ไป​ให้​หลานสาว

เขา​รู้ดี​ว่า​หลานสาว​ของ​เขา​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ ​เย่อหยิ่ง​ทะนง​ตน​ ​ไม่​มอง​คนธรรมดา​ทั่วไป​ ​แต่​คน​มี​ความสามารถ​อย่าง​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น่าจะ​พอ​เข้าตา​นาง​อยู่​บ้าง

ราช​เลขา​หยวน​หารู้ไม่​ว่า​ ​แม่ชี​น้อย​เห็น​บทกลอน​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​แล้ว​ ​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ทันใด

เหตุใด​จึง​ให้​นาง​อ่าน​บทกลอน

นาง​อยาก​อ่าน​บทละคร​ต่างหาก​!

ว่าแต่​ผ่าน​ไป​นาน​มาก​แล้ว​ ​เหตุใด​ ​‘​อวิ​๋น​ถิง​จี้​’​ ​เล่ม​ที่สาม​ยัง​ไม่​ออก​อีก

ไหน​บอกว่า​ออก​เดือน​ละ​เล่ม​อย่างไรเล่า

นี่​มัน​หนึ่ง​เดือน​กับ​สาม​วัน​แล้ว​ ​เขา​หายตัว​ไป​ใน​อากาศ​แล้ว​หรือ​อย่างไร​!

ณ​ ​ตรอก​ปี้​สุ่ย​ ​จี้​จิ​่​วอา​วุ​โส​ที่​เพิ่ง​เขียน​อักษร​ตัว​สุดท้าย​เพิ่งจะ​วาง​พู่กัน​ลง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​จาม​อย่างแรง​ ​“​ฮัด​เช​้ย​!​”

เขา​เพิ่งจะ​รับ​ตำแหน่ง​ดูแลกั​๋​วจื​่อ​เจียน​ ​เงิน​ค่าตอบแทน​ไม่​สูง​นัก​ ​อีก​เหตุผล​หลัก​คือ​เงินเก็บ​ที่​เคย​มี​ก็​ถูก​หญิง​ชรา​ปล้น​ไป​เสีย​หมด​ ​เขา​ยัง​อยาก​เปลี่ยนรถ​ม้า​ใหม่​อีกด้วย​…

เพื่อ​เป็นการ​รับมือ​กับ​ค่าใช้จ่าย​ที่​เพิ่มขึ้น​ทุกวัน​ ​เขา​จึง​จำเป็นต้อง​หยิบ​อาชีพ​เก่า​มาปัด​ฝุ่น​ใหม่​ ​นั่น​ก็​คือ​การเขียน​บทละคร

เขา​ไม่ได้​เขียน​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​นามปากกา​เดิม​ก็​ถูก​ลืมเลือน​ไป​เสีย​หมด​ ​เขา​จึง​ใช้​นามปากกา​ใหม่​ ​นั่น​ก็​คือ​ ​‘​จุ้ย​เซิง​เมิ​่ง​สื่อ​’​ ​หรือ​ใช้ชีวิต​ไป​วัน​ๆ​ ​อย่าง​เพ้อฝัน​นั่นเอง

แค่​ได้ยิน​ชื่อ​ก็​รู้สึก​ได้​อารมณ์​แล้ว

บทละคร​เล่ม​แรก​ของ​เขา​เมื่อ​กลับมา​เขียน​อีกครั้ง​ ​พูดถึง​ตัวประกัน​แคว้น​ศัตรู​ผู้อ่อนแอ​ทำลาย​ระบบ​ราชสำนัก​ ​และ​ความสัมพันธ์​แบบ​ทั้ง​รัก​ทั้ง​เกลียด​กับ​องค์​หญิง​ราชวงศ์ซ​ย่า

เพื่อ​เป็นการ​หลีกเลี่ยง​ข้อ​ถกเถียง​ที่​ไม่จำเป็น​ ​เขา​ได้​เล่า​เท้าความ​ว่านี​่​เป็น​เพียง​ความฝัน​ของ​ตัวประกัน​ตั้งแต่​ต้นเรื่อง

ทว่า​แม้​เป็น​เช่นนั้น​ ​ก็​ทำให้​ผู้คน​ติดตาม​กัน​อย่าง​ล้นหลาม

สอง​เล่ม​แรก​ขายดี​อย่างยิ่ง​ ​เขา​ทำเงิน​ได้​เล็กน้อย​ ​เล่ม​ที่สาม​ตามจริง​ต้อง​ส่ง​บท​นาน​แล้ว​ ​แต่​ช่วงนี้​ในกั​๋​วจื​่อ​เจียน​มีธุระ​มากมาย​ให้​จัดการ​ ​เขา​จึง​ได้​ล่าช้า

เพื่อ​เป็นการ​ขอโทษ​ ​เขา​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​นำ​บท​ร่าง​ไป​ส่ง​ให้​ร้านหนังสือ​ด้วย​ตนเอง

วันนี้​แม่ชี​น้อย​ก็​ไป​ที่​ร้านหนังสือ​เช่นกัน​ ​นาง​ไป​เพื่อ​เร่ง​บท

จี้​จิ​่​วอา​วุ​โส​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เงี่ยหู​ฟัง

ด้านหลัง​ของ​ชั้นวางหนังสือ​ ​เด็ก​ใน​ร้านหนังสือ​กำลัง​แนะนำ​บทละคร​เรื่อง​อื่น​ให้​กับ​แม่ชี​น้อย

แม่ชี​น้อย​เปิด​ดู​อย่าง​ไม่สน​ใจ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ไม่ดี​ ​ไม่​เร้าใจ​เท่า​ของ​จุ้ย​เซิง​เมิ​่ง​สื่อ​”

จี้​จิ​่​วอา​วุ​โสนึ​กว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​พูดว่า​บทละคร​ของ​ตน​แปลกใหม่​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​เป็น​คำ​ว่า​เร้าใจ

จี้​จิ​่​วอา​วุ​โสก​ระ​แอม​เล็กน้อย

เหมือนว่า​…​จะ​เร้าใจ​จริงๆ​ ​นั่น​แล

แม่ชี​น้อย​เอ่ย​ ​“​ตอนที่​องค์​หญิง​เลิก​ลากั​บราช​บุตร​เขย​นั้น​ดีมาก​ ​องค์​หญิง​ไม่​ควรจะ​ต้อง​มาทน​ทรมาน​เช่นนี้​!​”

ที่จริง​องค์​หญิง​เป็น​เพียง​ตัวประกอบ​ที่​ไม่สำคัญ​ใน​บทละคร​เท่านั้น​ ​ไม่ได้​เขียน​เนื้อความ​รายละเอียด​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​ตอน​เลิก​กับ​ราชบุตร​เขยก​็​แค่​พูด​ผ่านๆ​ ​ไม่​กี่​ประโยค​เท่านั้น​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​จำได้​แม่นยำ​เพียงนี้

ถือเป็น​นักอ่าน​ตัวยง​คน​หนึ่ง​เลย​!

จี้​จิ​่​วอา​วุ​โสก​ระ​แอม​เบา​ๆ​ ​อด​ความสนใจ​ที่จะ​พูดคุย​กับ​อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ได้​แรงบันดาลใจ​มากกว่า​เดิม​ก็​เป็นได้​ ​“​แม่ชี​ท่าน​นี้​ชอบ​หนังสือ​เล่ม​นี้​เช่นกัน​หรือ​”

แม่ชี​น้อย​ตอบ​ ​“​ก็​ชอบ​ ​การเขียน​สำบัดสำนวน​พอใช้ได้​”

จี้​จิ​่​วอา​วุ​โส​ ​‘​ข้า​เป็น​ถึง​จี้​จิ​่ว​แห่งกั​๋​วจื​่อ​เจียน​เชียว​นะ​ ​สำบัดสำนวน​แค่​พอใช้ได้​หรือ​’

แต่​เพื่อ​เป็นการ​ลด​กำแพง​ให้​ผู้คน​เข้าถึง​ได้​ง่าย​ขึ้น​ ​เขา​ตั้งใจ​เก็บ​สำบัดสำนวน​ไว้​ ​และ​ใช้​คำภา​ษา​พูดมาก​ขึ้น​ ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​ง่าย​ต่อ​การ​ทำความเข้าใจ​ของ​ผู้อ่าน

แต่​เพื่อให้​เข้ากับ​รสนิยม​ของ​พวก​ปัญญาชน​ ​เขา​ก็ได้​สอดแทรก​บทกลอน​ที่​แต่ง​ขึ้น​เอง​เข้าไป​ไม่น้อย​ ​จุด​เหล่านี้​ ​คน​ทั่วไป​ก็​จะ​อ่าน​ข้าม​ไป​ ​ไม่​กระทบ​ต่อ​การดำเนินเรื่อง​ของ​บทละคร

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท