ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 189 ประกายไฟ(ปลาย)

ตอนที่ 189 ประกายไฟ(ปลาย)

ทางเลือก​ที่​ดีกว่า​?

ตง​ชิง​ส่ายหน้า​เล็กน้อย​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​งุนงง​ ​“​ตอนแรก​ข้า​คิด​แค่​ว่า​จะ​ไม่ยอม​แต่ง​กับ​หลานชาย​ของ​ป้า​เหยา​เท่านั้น​…​แต่​ไม่ได้​คิด​ทางเลือก​อื่น​เผื่อ​ไว้​เลย​”

“​เช่นนั้น​ก็​เชื่อฟังฮู​หยิน​เถิด​!​”​ ​จู๋​เซียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​โน้มน้าว​และ​ปลอบใจ​ ​“​อย่างไร​เสียฮู​หยิน​ก็​คงจะ​ไม่​ทำร้าย​ท่าน​หรอก​กระมัง​!​”

ตง​ชิง​จึง​นึกถึง​ตอนแรก​ที่​สือ​อี​เหนียง​ไปมาหาสู่​กับ​ป้า​เหยา​เพื่อ​ตน

“​อืม​”​ ​นาง​พยักหน้า​ ​“ฮู​หยิน​ดี​กับ​ข้า​เป็นอย่างมาก​”

จู๋​เซียง​นึกถึง​ตอนที่​ผู้คน​รอบข้าง​มากมาย​ที่​คอย​มานิน​ทา​ข่าวลือ​พวก​นั้น​ข้าง​หู​นาง​ ​นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ตัดสินใจ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อีก​อย่าง​พี่​หญิง​ก็​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ​ถึง​เวลา​แทนที่จะ​ถูกจับ​แต่งงาน​กับ​บ่าว​รับใช้​คนใด​ก็​ไม่รู้​ ​สู้​แต่ง​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ยังดี​เสีย​กว่า​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​เรา​ก็​ยัง​รู้​รากเหง้า​ของ​เขา​”

ตง​ชิง​ไม่ได้​นึกถึง​เรื่อง​นี้​เลย

นาง​นั่ง​เหม่อลอย​อยู่​ตรงนั้น​พักใหญ่​ ​แล้วจึง​ค่อย​กลับ​เข้า​ห้อง​ของ​นาง

วัน​ถัดมา​นาง​ก็ได้​บอก​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ล้วน​ฟังฮู​หยิน​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​ฉงนใจ​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​เปลี่ยนใจ​ขึ้น​มา​เล่า​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ของ​ชีวิต​ทั้ง​ชีวิต​ ​หากว่า​นาง​ไม่​ยินยอม​ ​ข้า​ไปหา​คนที​่​นาง​พอใจ​จาก​ข้างนอก​มา​ให้​นาง​ก็​ยัง​ได้​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ฝืนใจ​ตัวเอง​”

หู่​พั่ว​ยิ้ม​พร้อม​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ไม่​ยินยอม​ที่ไหน​กัน​เจ้า​คะ​ ​นาง​ก็​เพียงแค่​ไม่​อยาก​จากฮู​หยิน​ไป​ก็​เท่านั้น​ ​ข้างนอก​จะ​ดีสู​้​ใน​จวน​ได้​อย่างไร​กัน​ ​ไหน​จะ​ต้อง​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​เป็น​สะใภ้​ของ​คนอื่น​ ​นอกจาก​จะ​ต้อง​ดู​สีหน้า​ของ​พ่อแม่​สามี​แล้ว​ ​ยัง​ต้อง​มาดู​สีหน้า​ของ​พี่น้อง​ของ​สามี​อีก​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ให้​นาง​ตาม​ว่าน​อี้​จง​ไป​ทำนา​ด้วย​หรือ​อย่างไร​กัน​ ​ตอนนี้​อย่า​ว่าแต่​ติดตาม​ข้า​อยู่​ใน​จวน​เลย​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ตอนที่​อยู่​จวน​สกุล​หลัว​ ​ข้า​ก็​ไม่เคย​จะ​ให้​นาง​ไป​ทำไร่ทำนา​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​”​ ​จากนั้น​ก็​ให้​หู่​พั่ว​ไป​ตาม​ตง​ชิง​ ​“​วันข้างหน้า​จะ​ต้อง​ให้​นาง​เป็น​คน​ทำ​ธุระ​ของ​จวน​อยู่​แล้ว​”

ตง​ชิง​เขินอาย​จน​ใบหน้า​แดงก่ำ​ไป​หมด​ ​นาง​ยืน​บิด​ไป​บิด​มา​ไม่​หยุด

สือ​อี​เหนียง​ดู​สีหน้าท่าทาง​ของ​นาง​แล้วก็​ไม่​เหมือนกับ​ฝืนใจ​ ​จึง​ค่อย​รู้สึก​โล่งใจ​ขึ้น​มา

“​ถึงแม้ว่า​เจ้า​จะ​เป็น​คน​ของ​จวน​พวกเรา​ ​แต่​บิดา​มารดา​ของ​เจ้า​ก็​เป็น​ผู้ให้กำเนิด​เจ้า​ ​เจ้า​จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​แล้ว​ ​ก็​ควรจะ​เขียนจดหมาย​บอกกล่าว​ทาง​นั้น​ด้วย​ ​ฤกษ์งาม​ยาม​ดี​ของ​ปีนี​้​ไม่มี​แล้ว​ ​คงจะ​ต้อง​รอ​หลัง​เดือน​สอง​ของ​ปีหน้า​ ​เมื่อฮู​หยิน​ห้า​คลอด​บุตร​เสร็จ​เรียบร้อย​ ​ก็​ค่อย​หาวัน​ที่​เป็น​สิริมงคล​มา​จัดงาน​แต่ง​ของ​เจ้า​ก็แล้วกัน​!​”

ตง​ชิง​ใบหน้า​แดงก่ำ​กว่า​เดิม​ ​ขานรับ​เสียง​แผ่วเบา​ ​“​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณหนู​ใหญ่​มา​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ตง​ชิง​เขินอาย​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​สาวใช้​น้อย​เชิญ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา

ทั้งสอง​สวนทาง​กัน​พอดี​ ​ตง​ชิง​รีบ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ถอย​ออก​ไป​ทันที

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​เพราะ​ปกติ​แล้ว​มัก​เห็น​ตง​ชิง​นั้น​ทำการ​ละเอียด​รอบคอบ​และ​ระมัดระวัง​ ​เวลา​เจอ​ตน​ก็​จะ​เคารพ​และ​นอบน้อม​เสมอ

“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ​“​เจ้า​เก็บ​ข้าวของ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​หรือ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดิน​เข้าไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เสร็จ​เรียบร้อย​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ตั้งใจ​มาลา​ท่าน​แม่​โดยเฉพาะ​”

เมื่อ​เห็น​ใน​เรือน​มีสื​ออี​เหนียง​อยู่​คนเดียว​ ​จึง​อยาก​ที่จะ​ถาม​ว่า​ ​‘​ท่าน​พ่อ​เล่า​’​ ​แต่​พอ​มานึก​ๆ​ ​ดูแล​้ว​ ​ใน​บ้าน​ยัง​มี​อี๋​เหนียง​อีก​ตั้ง​หลาย​คน​ ​จึง​ได้​กลืน​คำพูด​ลงคอ​ไป​ ​ไม่​ถามถึง​เรื่อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อีก

สือ​อี​เหนียง​นึกไม่ถึง​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​มาหา​เช้า​ขนาด​นี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่ทัน​มาหา​นาง​ด้วยซ้ำ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​นึกถึง​เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ ​จึง​ถาม​นาง​ไป​ว่า​ ​“​ให้​คน​ไป​บอก​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​หรือยัง​”

ทุกคน​เป็นเพื่อน​บ้าน​ที่อยู่​ร่วมกัน​ ​เมื่อถึง​ปีใหม่​ก็​จะ​มารวม​ตัว​พบปะ​สังสรรค์​ ​ในเมื่อ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สนิทสนม​กับ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เดินทาง​ไป​ไหน​มา​ไหน​ก็​ควรจะ​บอกกล่าว​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​สัก​คำ​ ​เป็นการ​เคารพ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​เป็น​ยัง​วิถี​แห่ง​มิตรภาพ​อีกด้วย

เรื่อง​นี้​ตกลง​ค่อนข้าง​เร่งด่วน​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่มี​โอกาส​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่มี​อำนาจ​ที่จะ​สั่ง​ให้​ใคร​ไป​ยัง​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​ตื่น​มาหา​สือ​อี​เหนียง​แต่เช้า

“​กำลังจะ​มา​ขอให้​ท่าน​แม่​ช่วย​ส่ง​คน​ไป​บอกกล่าว​กับ​ทางโน้น​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ให้​หู่​พั่ว​นำ​ป้าย​คู่​มา​ ​จากนั้น​ก็​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋น​ไป​เรียก​ป้า​เถา​ ​“​…​ให้​นาง​ไป​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​รบกวน​ป้า​เถา​ช่วย​ถาม​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​สักหน่อย​ว่านาง​ชอบกลิ​่น​ดอกมะลิ​หรือว่า​กลิ่น​ดอก​ซ่อนกลิ่น​ ​ตอน​กลับมา​ข้า​จะ​นำ​น้ำหอม​มา​ให้​นาง​ด้วย​”

ฮู​หยิน​สอง​มี​ความถนัด​ใน​ด้าน​นี้​โดยเฉพาะ​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​แล้วก็​คงจะ​ขอ​โน่น​ขอนี​่​เป็นธรรมดา

ฝาก​คำพูด​กัน​เป็น​ทอด​ๆ​ ​ข้อความ​อาจจะ​เปลี่ยนแปลง​ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​พูด​ไป​ว่า​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​สู้​เขียนจดหมาย​แล้ว​ฝาก​ป้า​เถา​ไป​ให้​นาง​ไม่ดี​กว่า​หรือ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​เห็นด้วย​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​จึง​ให้​หง​ซิ่ว​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​เขียนจดหมาย​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​หู่​พั่ว​ไป​ตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​…​ไป​บอกว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มาที​่​นี่​แล้ว​ ​หลัง​เทศกาล​โคมไฟ​ถึง​ค่อย​กลับ​จวน​ ​อีก​ประเดี๋ยว​พวกเรา​จะ​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​”​ ​ความหมาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​คือ​ให้​เขา​รีบ​มา​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ได้​ลา​เขา​อย่างเป็นทางการ

หู่​พั่ว​ขานรับ​แล้วจึง​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​หู่​พั่ว​ก็​กลับมา​เรียน​ว่า​ ​“​เฉียว​อี๋​เหนียง​บอกว่า​ท่าน​โหว​ไม่ได้​อยู่​ที่นั่น​ ​บ่าว​ก็​เลย​ไป​ถาม​กับ​คนที​่​เข้าเวร​ดึก​ ​จึง​ได้ยิน​มา​ว่า​ท่าน​โหว​ออก​ไป​ตั้งแต่​ฟ้า​ยัง​ไม่​สว่าง​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​หรือ​อยู่​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​งงงวย​ ​“​ลอง​ไป​ตามหา​ดู​ ​จะ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ทั้ง​อย่างนี้​ไม่ได้​”

หู่​พั่ว​พยักหน้า​รับรู้​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ตามหา​สวี​ลิ่ง​อี๋

ส่วน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เมื่อ​เขียนจดหมาย​เสร็จ​แล้ว​ ​ส่วน​ที่จะ​ต้อง​กำชับ​ป้า​เถา​ก็ได้​กำชับ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​คุย​เรื่อยเปื่อย​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต่อ​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เวลา​ก็​ไม่​เช้า​แล้ว​ ​จึง​ต้อง​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​และ​ป้า​ตู้​กำลัง​ตรวจ​นับ​ห่อ​ผ้า​เล็ก​ใหญ่​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​เมื่อ​เห็น​พวก​นาง​เข้ามา​ ​ก็ได้​ชี้​ไป​ยัง​ห่อ​ผ้า​เหล่านั้น​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​…​นี่​เป็น​ลูกกวาด​ ​นี่​เป็นผล​ไม้​เชื่อม​ ​นี่​เป็น​ข้าวของเครื่องใช้​อื่นๆ​ ​…​”​ ​ล้วน​เป็น​ของกิน​ทั้งสิ้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​หากว่า​เจ้า​อยาก​ทาน​สิ่งใด​เพิ่ม​ ​ก็​ส่ง​คน​กลับมา​บอก​สัก​คำ​ ​ข้า​จะ​รีบ​ให้​คน​จัดเตรียม​แล้ว​ส่ง​ไป​ให้​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดวงตา​แดงก่ำ​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​ย่า​…​”

ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​ไม่ได้​อยู่​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​จวน​…

หลังจากที่​ไท่ฮู​หยิน​พูด​จบ​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​และ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​พวกเขา​พากั​นมา​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​แม่นม​ของ​จุน​เกอ​ที่​กำลัง​จูงมือ​จุน​เกอ​เข้ามา​ ฮู​หยิน​สาม​และฮู​หยิน​ห้า​ที่​เจอกัน​ระหว่างทาง​ก็ได้​เข้ามา​พร้อมกัน​ ​ทุกคน​ต่าง​พูดคุย​พลาง​หัวเราะ​ ​บรรยากาศ​จึง​ดู​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก​ ​พลอย​ทำให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ลืม​ความเศร้า​ที่​เพิ่งจะ​เกิดขึ้น​เมื่อครู่นี้​ไป​โดยปริยาย

จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“​เตรียม​รถม้า​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ออก​ไป​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วาด​้วย​ตัวเอง​ ​ทุกคน​จึง​ไม่กล้า​เฉยเมย​ ​พากัน​เดินตาม​ไท่ฮู​หยิน​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​ช่วย​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ยัง​ประตู​ฉุยฮ​วา

ก็​เจอ​เข้ากับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา​พอดี

ทุกคน​ต่าง​ตกใจ​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

สือ​อี​เหนียง​นั้น​รู้สึก​แปลกใจ​กว่า​มาก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​อยู่​ใน​เรือน​?

ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​ออก​ไป​ทำ​อะไร​ที่​นอก​เรือน

แต่​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​ขนาด​นี้​ ​ไม่​ค่อย​สะดวก​ซักถาม​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​ ​พวกเรา​กำลัง​มาส​่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เดินทาง​ไป​เขา​ซี​ซาน​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​แล้วจึง​เข้าไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ด้วย​สีหน้า​ที่​เรียบ​เฉย​เพียง​ไม่​กี่​ประโยค​ ​“​ไป​ถึงที่​โน่น​จะ​ต้อง​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​ป้า​สะใภ้​สอง​”

แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ดู​ตื้นตัน​เป็นอย่างมาก​ ​ขอบตา​ของ​นาง​มีน​้ำ​ตา​คลอ​เบ้า

นาง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​พร้อมกับ​มอบ​ของขวัญ​สิริมงคล​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ลูก​น้อม​รับคำ​สอนสั่ง​ตักเตือน​ของ​ท่าน​พ่อ​!​ ​ขอ​ท่าน​พ่อ​ดูแลรักษา​สุขภาพ​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​รับรู้​อย่าง​ไม่​ค่อย​ใส่ใจ​เท่าไร​นัก​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็ได้​เข้าไป​คารวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ม้า​ใหญ่​สีแดง​พุทรา​ที่​ถูก​บ่าว​รับใช้​จูง​อยู่​เริ่ม​หงุดหงิด​จึง​เอาแต่​ยก​เท้าหน้า

ไท่ฮู​หยิน​จึง​กำชับ​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​ไป​เถิด​ ​เช้า​ของ​วันที่​สิบ​แปด​เดือนอ้าย​ ​ข้า​จะ​ส่ง​คน​ไปรับ​เจ้า​กลับมา​”

แม่เฒ่า​ผู้ติดตาม​ก็​รีบ​ไป​นำ​เก้าอี้​พัก​เท้า​มา​วาง​ข้าง​รถม้า​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มอง​แล้วก็​น้ำตา​คลอ​จน​เปื้อน​ขน​ตา​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกจาก​แขน​เสื้อ​มาซั​บน​้ำ​ตาของ​ตัวเอง

ฮู​หยิน​สาม​จึง​เดิน​เข้าไป​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เวลา​ไม่​เช้า​แล้ว​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ขึ้นรถ​ม้า​จะ​ดีกว่า​ ​พี่สะใภ้​สอง​ทาง​นั้น​มี​คน​ไป​แจ้ง​ข่าว​แต่เช้า​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​กำลัง​นั่ง​นับ​เวลา​รอคุณ​หนู​ใหญ่​อยู่​ ​หากว่า​ไป​สาย​ ​ทาง​นั้น​จะ​เป็นห่วง​เอา​ได้​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พยักหน้า​ ​แล้ว​รีบ​หันไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ซื่อ​เจิน​ไม่ได้​อยู่​ปรนนิบัติ​ท่าน​ ​ท่าน​จะ​ต้อง​ดูแลรักษา​สุขภาพ​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ยัง​มีท​่าน​แม่​ของ​เจ้า​ ​ยัง​มี​ป้า​สะใภ้​สาม​และ​อาสะใภ้​ห้า​คอย​ปรนนิบัติ​ดูแล​ ​เจ้า​วางใจ​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ป้า​สะใภ้​สอง​ที่​เขา​ซี​ซาน​เถิด​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หันไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ทุกๆ​ ​คน​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​งั้น​ข้า​ไป​ก่อน​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​เสี่ยว​หลี​จึง​รีบ​เข้าไป​ประคอง​นาง​ขึ้นรถ​ม้า

แม่เฒ่า​ที่​ติดตาม​ก็​รีบ​เก็บ​เก้าอี้​พัก​เท้า​ ​จากนั้น​ก็​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​รีบ​ปีน​ขึ้นรถ​มา​ไป​ ​พลาง​หันไป​สั่ง​กับ​บ่าว​รับใช้​ว่า​ ​“​ไป​ได้​!​”

บ่าว​รับใช้​พยักหน้า​รับรู้​ ​จากนั้น​ก็​จูง​ม้า​ออก​ไป​ยัง​ด้านนอก

ม่าน​หน้าต่าง​ชั้นนอก​ของ​รถม้า​ถูก​เปิด​ออก​ ​มองผ่าน​ม่าน​โปร่งบาง​ชั้นใน​ของ​รถม้า​ ​สามารถ​มองเห็น​สีหน้า​ที่​อาลัยอาวรณ์​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

หลังจากที่​ทุกคน​ได้​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จากไป​แล้ว​ ​ก็ได้​นั่ง​รถลาก​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​โน้มน้าว​และ​ปลอบโยน​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​อารมณ์​จิตใจ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​เช้าตรู่​เช่นนี้​ ​เจ้า​ไป​ทำ​อะไร​มา​หรือ​”

“​อ๋อ​!​”​ ​เขา​ตอบกลับ​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ ​“​ฟั่น​เหวย​กัง​ให้​คน​ส่งจดหมาย​มา​ ​ถาม​ว่า​ขา​ของ​ข้า​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่ยอม​ไป​นอน​พัก​อยู่​บน​เตียง​ ​แต่กลับ​ออก​ไป​ส่งจดหมาย​ถึง​นอก​เรือน​ด้วยตัวเอง​…

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​สงสัย​เป็นอย่างมาก

ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็​แสดง​สีหน้า​ไม่เข้าใจ​ออกมา

แต่​ทั้งสอง​ก็​ไม่ได้​ถาม​ออกมา​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​เปลี่ยน​เรื่อง​ไป​คุย​อย่าง​อื่น​แทน​ ​นาง​หันไป​ถามฮู​หยิน​สาม​ว่า​ ​“​เรื่อง​ทำความสะอาด​ใน​เรือน​เตรียมการ​เสร็จ​แล้ว​หรือไม่​ ​ป้าย​ผ้า​กลอน​คู่​สิริมงคล​และ​แผ่น​กระดาน​ยันต์​ไม้​ท้อ​ที่​ใช้​ติด​หน้า​ประตู​ ​ล้วน​จัดเตรียม​เสร็จ​เรียบร้อย​หมด​แล้ว​หรือ​”

ฮู​หยิน​สาม​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ท่าน​วางใจ​เถิด​ ​เตรียม​เสร็จ​หมด​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ท่าน​เพียงแค่​เตรียม​เงิน​ที่จะ​ให้​ใน​วัน​ตรุษจีน​ก็​พอ​เจ้าค่ะ​!​”

เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​ถูก​หยอกล้อ​ ​ก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความชอบ​ใจ

จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สาม​ ​ทาง​เฟิง​ไถ​ส่งดอก​ไม้​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ปีนี​้​อากาศ​ค่อนข้าง​หนาว​เป็นพิเศษ​ ​ดอกไม้​ที่​เรือน​ก็​เลย​ไม่พอ​ ​จึง​ไป​สั่ง​ดอกไม้​ที่​เฟิง​ไถมา​เพิ่ม

ฮู​หยิน​สาม​จึง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ข้า​จะ​ไปดู​เสียหน่อย​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​หันกลับ​มา​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​ ​เจ้า​เอง​ก็ตาม​มาดู​ด้วย​สิ​!​ ​ตรงไหน​ควร​ประดับ​ดอกไม้​อะไร​ ​จะ​ได้​รู้​และ​เข้าใจ​”

สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ไป​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมฮู​หยิน​สาม​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​หลัง​กัน​ไป

ใน​เรือน​จึง​เหลือ​เพียง​สวี​ลิ่ง​อี๋​และฮู​หยิน​ห้า​ที่​เป็น​น้อง​สะใภ้​ ฮู​หยิน​ห้า​ไม่ได้​อยู่​ต่อ​ ​นาง​เท้าสะเอว​แล้ว​ค่อยๆ​ ​ลุกขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลากับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​…​อยาก​จะ​กลับ​ไป​นอน​เอนหลัง​สักหน่อย​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​จึง​ไม่ได้​ขอให้​นาง​อยู่​ต่อ​ ​หันไป​สั่ง​ป้า​ตู้​ให้​ช่วย​ประคอง​นาง​ไป​ส่ง​ที่​หน้า​ประตู​ ​จากนั้น​ก็​ให้​เว​่ย​จื่อ​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ยัง​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​ส่วน​ตน​นั้น​ก็​อยู่​คุย​เรื่องส่วนตัว​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต่อ

เมื่อฮู​หยิน​ห้า​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​ก็ได้​พูดคุย​เรื่องส่วนตัว​กับ​ป้า​สือ

“​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ได้ข่าว​อะไร​จาก​ทาง​อี้​อี๋​เหนียง​ของ​เรือน​คุณชาย​สาม​หรือไม่​”

ป้า​สือ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ทุ้ม​ต่ำ​ว่า​ ​“​รายละเอียด​ของ​ทาง​ฝั่ง​อี้​อี๋​เหนียง​เป็น​อย่างไร​นั้น​บ่าว​เอง​ก็​ไม่ชัด​เจน​ ​แต่​หลาย​วัน​มานี​้​ทางฮู​หยิน​สาม​เอาแต่​เก็บ​ข้าว​เก็บของ​ ​ราวกับว่า​จะ​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​เลย​เจ้าค่ะ​”

“​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​?​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ ​เผย​ให้​เห็น​ถึง​แววตา​ฉงนใจ​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ยังอยู่​ ​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​แยก​จวน​นี่​?​”

“​ฉะนั้น​บ่าว​จึง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​มี​ลับลมคมใน​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​สือ​เอง​ก็​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ได้​ ​“​ท่าน​ดู​จาก​ที่ฮู​หยิน​สาม​ปฏิบัติ​ต่อฮู​หยิน​สี่​…​เหมือน​กำลัง​บอก​สอน​เกี่ยวกับ​การ​ดูแล​จวน​ด้วย​ความจริงใจ​อย่างไร​อย่างนั้น​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​สีหน้า​ค่อนข้าง​เคร่งขรึม​ ​“​ใน​ใจ​ของ​ข้า​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สงบ​เท่าไร​นัก​ ​เหมือน​จะ​มี​อะไร​เกิดขึ้น​อยู่​ตลอดเวลา​อย่างไร​อย่างนั้น​”

ป้า​สือ​ได้ยิน​แล้วก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​พูด​เช่นนี้​ ​มีเรื่อง​อีก​เรื่อง​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​ชะงัก​ไป​ทันที​ ​“​เรื่อง​อะไร​”

“​บ่าว​ได้ยิน​อี้​อี๋​เหนียง​บอกว่า​เมื่อวาน​นี้ฮู​หยิน​สาม​ได้​พูดถึง​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​เซ่นไหว้​พระ​แม่​ฝีดาษ​ ​ตั้งใจ​พา​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ไป​เยี่ยมเยียน​โดยเฉพาะ​ ​แต่​ถูก​สาวใช้​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ขวาง​ไว้​ที่​นอก​ประตู​ ​บอกว่า​คุณนาย​ใหญ่​ต้อง​อยู่​ดูแล​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ไม่​สะดวก​รับแขก​ ​แต่กลับ​ให้​คนที​่​เดินตาม​หลัง​มาติด​ๆ​ ​เช่น​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ของ​เจิ​้น​หนาน​โหว​สกุล​หวัง​ที่มา​เยี่ยมไข้​เข้า​เรือน​ไป​…ฮู​หยิน​สาม​อับอาย​จน​ทน​อยู่​ต่อ​ไม่ไหว​ ​จึง​ได้​รีบ​กลับมา​ทันที​เจ้าค่ะ​”

บ้าน​คุณชาย​สาม​มักจะ​ชอบ​วางมาด​ใหญ่​เพื่อ​ตบตา​ผู้อื่น​เสมอ​ ฮู​หยิน​ห้า​ไม่ได้​ใส่ใจ​อะไร​มาก​นัก​ ​แต่กลับ​ไป​ให้ความสนใจ​กับ​อีก​เรื่อง​ ​“​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ของ​เจิ​้น​หนาน​โหว​สกุล​หวัง​?​ ​หลานชาย​ของ​พี่​หญิง​โจว​?​”

ป้า​สือ​พยักหน้า​พร้อมกับ​ยิ้ม​ขึ้น​พลาง​ตอบ​ไป​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​จึง​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​มาบัง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท