ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 2 ตอนที่ 4-5

ภาค 2 เล่ม 2 ตอนที่ 4-5

ตาของอีอูยอนหรี่ลง แววตาของกรรมการผู้จัดการคิมเองก็หมองลงด้วยเช่นกัน เขารู้สึกผิดที่ดูเหมือนว่าตัวเองจะเป็นคนลากน้องภรรยาลงมาในโคลนนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าปิดปากได้ง่าย

“…คังอูเป็นคนดีนะ”

หัวหน้าทีมชามองอีอูยอนก่อนจะพึมพำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะแบบนั้นเขาถึงไม่กล้าพูดคำว่าห้ามฆ่าต่อหน้าคิมคังอู

“เมื่อกี้ผมก็เพิ่งพูดไปนี่ครับ ใครเขาว่าอะไรล่ะครับ”

“โอ๊ย ชมกันเกินไปแล้วครับ”

คิมคังอูหัวเราะพร้อมกับปิ้งเนื้อไปด้วย ทันทีที่เนื้อสุกเขาก็แบ่งเนื้อให้ทุกคนอย่างเหมาะสม

“ฮยองนิมไม่กินเหรอครับ”

คิมคังอูเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเนื้อที่กองอยู่ตรงหน้าอินซอบไม่ลดลงไปสักชิ้น

“เอ่อ คือผม…”

อินซอบพยายามนึกคำพูดที่เหมาะสมขณะที่กำตะเกียบเอาไว้

เวลาที่เขาบอกว่าไม่ชอบเนื้อ ปฏิกิริยาที่ได้กลับมามักจะเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ ‘ทำไมถึงไม่ชอบของดีๆ แบบนี้ล่ะ เป็นไปได้เหรอที่จะไม่ชอบเนื้อ ไม่ชอบเพราะไม่เคยลองกินเนื้อที่อร่อยจริงๆ หรือเปล่า’

เขาหลีกเลี่ยงอาหารมันๆ เพราะสุขภาพ แล้วรสนิยมในเรื่องอาหารของเขาก็เปลี่ยนไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว  แต่นี่เป็นเรื่องที่อินซอบไม่อยากบอก เพราะถ้าจะให้อธิบายเรื่องทั้งหมด เขาต้องเริ่มพูดตั้งแต่ปัญหาเรื่องหัวใจ

“คุณอินซอบไม่ชอบเนื้อน่ะครับ”

อีอูยอนพูดแทนอินซอบ

“ครับ? ไม่ชอบเนื้อเหรอครับ เป็นพวกมังสวิรัติหรืออะไรแบบนั้นเหรอครับ”

“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นหรอก…ก็กินได้นะ”

พอเห็นอินซอบวางเนื้อลงบนผักกาดหอมที่ซ้อนกันถึงสามชั้น อีอูยอนก็ดึงมือของอินซอบมา และเอาผักห่อเนื้อนั้นเข้าปากตัวเอง อินซอบมึนงงและนิ่งไปทันที แม้ก่อนหน้านี้จะเคยเจอประสบการณ์ที่คล้ายกันนี้มาแล้ว แต่เขากลับไม่คุ้นเสียที

“ห่อกินเองสิ จะปล่อยมือที่มีครบถ้วนเอาไว้ทำอะไรล่ะ”

ถึงจะปิดปากคิมคังอูได้ แต่กรรมการผู้จัดการก็ยังเบิกตาโพลงให้กับพฤติกรรมน่ารังเกียจของอีอูยอนที่แสดงความรักออกมาอย่างหน้าตาเฉย

“ไม่รู้เหรอครับว่าของที่คนอื่นห่อให้น่ะอร่อยที่สุด”

อีอูยอนยิ้มพร้อมกับโต้กลับ

“คราวนี้ให้ผมห่อให้ไหมครับคุณนักแสดง”

พอคิมคังอูวางเนื้อบนผักกาดหอมและเอ่ยถามโดยไม่ทันได้สังเกตสถานการณ์ รอยยิ้มของอีอูยอนก็จางลง หัวหน้าทีมชาที่อยู่ข้างๆ หน้าซีดก่อนจะอ้าปากค้างเหมือนนกนางแอ่นที่อดยาก

“ฉัน! ฉัน! ให้ฉัน!”

“ใช่! ให้ฮยอนคยูเถอะ ฮยอนคยูของเรา”

กรรมการผู้จัดการคิมยัดผักห่อเนื้อที่อยู่ในมือของคิมคังอูใส่ปากของหัวหน้าทีมชา

“ห่อให้พี่เขยอีกคนด้วยสิครับ เขาจะน้อยใจเอานะ”

“อ๋อ ได้เลยครับ”

คราวนี้คิมคังอูผักห่อเนื้อและยื่นให้กรรมการผู้จัดการคิม กรรมการผู้จัดการคิมคิดว่าวันนี้อีอูยอนดูชั่วร้ายเป็นพิเศษพลางเคี้ยวผักห่อเนื้อกร้วมๆ

“สั่งอย่างอื่นเพิ่มไหมครับ”

อีอูยอนกางเมนูและยื่นให้อินซอบ

“ไม่เป็นไรครับ”

“คุณไม่ค่อยกินอาหารเย็นเลยนะครับ แล้วช่วงนี้คุณก็ไม่กินเลยด้วย ผมควรทำยังไงดีครับ”

คิมคังอูตาเป็นประกาย เพราะเขาประทับใจจริงๆ กับน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเป็นห่วงของอีอูยอน

“พอได้เห็นคุณนักแสดงแล้ว ผมรู้สึกว่าพระเจ้าลำเอียงมากๆ เลยครับ คุณหล่อขนาดนั้นแล้ว ทำไมถึงยังนิสัยดีอีกล่ะครับ นี่มันไม่ยุติธรรมสุดๆ ไปเลยไม่ใช่เหรอครับ”

“…ยุติธรรมมากแล้วล่ะ”

หัวหน้าทีมชาเคี้ยวแตงกวาพลางพึมพำ

“ไม่นะครับ ผมรู้มาว่าดาราคนอื่นขึ้นเสียงใส่ผู้จัดการส่วนตัวด้วย ผมเจอมาหลายครั้งแล้วล่ะครับ วันนี้ก็…”

คิมคังอูเผลอพูดออกมา เขาหุบปากลงพร้อมทำสีหน้าคล้ายจะบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ อีอูยอนที่ดื่มเหล้าอยู่เบนสายตาไปทางคิมคังอู

“ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะครับ”

อินซอบลุกขึ้น ดังนั้นบทสนทนาจึงถูกตัดไป ทันทีที่อินซอบออกไป บทสนทนาก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่นอย่างเป็นธรรมชาติ

“แล้วฮียอนยังคบกับไอ้นั่นอยู่เหรอ”

“โอ๊ย พี่เขาเลิกกับพี่คนนั้นไปตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ พี่เขาคบกับคนอื่นอยู่”

“มีแฟนไม่ขาดเลยสินะ”

“น่าแปลกที่พวกผู้ชายคอยตามพี่แล้วก็ผูกติดอยู่กับเธอเหมือนเป็นคนบ้า ผมไม่เข้าใจจริงๆ เลยครับ อ๊ะ ขอโทษครับ ไม่ได้หมายถึงคุณทั้งสองคนนะ”

“เอาเถอะ ตอนนั้นพวกเราก็เป็นคนบ้าจริงๆ นี่”

“ใช่แล้ว เป็นคนบ้า”

กรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาเติมโซจูในแก้วของกันและกัน คนทั้งคู่ที่รู้ถึงความรู้สึกของคนที่มีหัวอกเดียวกันดีกว่าใครสบตากันก่อนจะดื่มจนหมดแก้ว

“คังอู นายไม่มีคนที่คบอยู่เหรอ”

“เพิ่งเลิกกันไปไม่นานนี้เองครับ ช่วยแนะนำคนดีๆ ให้ผมทีนะครับ เป็นไอดอลก็ได้ครับ”

“อย่าเดทกับดาราเลย คบกับพวกดาราน่ะไม่ดีหรอก”

หัวหน้าทีมชาทำหน้าเข้มงวดเหมือนสั่งสอนเด็ก

“คุณทำให้ดาราที่ได้ยินเสียใจนะครับ”

อีอูยอนพูดล้อเล่น

“ว่าแต่ดาราเขาคบกับดาราด้วยกันเองใช่ไหมครับ เหมือนอย่างที่คุณนักแสดงคบกับคุณแชยอนซอ พอมาคิดๆ ดูแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนผมเห็นคุณแชยอนซอเดินผ่านที่สถานีโทรทัศน์ด้วยครับ เธอสวยมากจริงๆ เลยนะครับ เหมือนเป็นเทพธิดาเลย”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

อีอูยอนตอบรับด้วยสีหน้าไม่สนใจไยดีเหมือนได้ยินเรื่องการจับคู่ของยีราฟที่อาศัยอยู่ในแอฟริกาซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของโลก

“พวกคุณทั้งคู่เหมาะสมกันจริงๆ นะครับ หนุ่มหล่อสาวสวย”

คิมคังอูยกนิ้วพลางเอ่ย

“ผมก็ต้องเหมาะกับคนรักของผมอยู่แล้วสิครับ”

สีหน้าของกรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาหม่นหมองเพราะคำพูดของอีอูยอน

“อินซอบที่น่าสงสาร”

คิมคังอูหูตั้ง เพราะคำพูดที่หัวหน้าทีมชาพูดราวกับเป็นการถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัวก่อนจะเอ่ยถาม

“ฮยองนิมทำไมนะครับ”

“อ๋อ คือ คือว่า…อินซอบเขาเหมือนจะทุกข์ใจนิดหน่อย เพราะคนที่คบอยู่น่ะ”

หัวหน้าทีมชารีบพูดต่อด้วยความรู้สึกที่ว่า ‘ไหนพวกนายลองถูกทำให้ทุกข์ใจดูบ้างสิ’

“ก็น่าจะรีบเลิกไปนะ”

“เลิกเหรอครับ ผมได้ยินว่าเขากำลังคบกันแฟนสาวอย่างจริงจังอยู่นี่ครับ”

กรรมการผู้จัดการคิมถึงกับสำลักเหล้าเพราะคำพูดของคิมคังอู และเริ่มไอโขลกๆ

“ว่าไงนะ ฟะ แฟนสาวเหรอ”

หัวหน้าทีมชาช่วยตบหลังของกรรมการผู้จัดการคิมก่อนจะถามซ้ำ คิมคังอูลังเลพร้อมกับตอบว่า ‘ครับ’ เขากลัวว่าตัวเองอาจจะพูดอะไรผิดไปขึ้นมาทันที

“เหอๆ…ใช่แล้ว ดูเหมือนจะคบกับคนรักมานานแล้วนะ”

กรรมการผู้จัดการคิมสังเกตอีอูยอนก่อนจะรีบแก้สิ่งที่คิมคังอูพูดออกมา

“คบกันมานานแล้วเหรอครับ นานแค่ไหนเหรอครับ”

“แค่ไหนน้า”

กรรมการผู้จัดการคิมไม่รู้ระยะเวลาที่แน่นอน เขาจึงพูดเสียงเบาลงก่อนจะเหลือบมองอีอูยอน

“สามปีครับ”

อีอูยอนตอบทันควัน

“งั้นก็คงจะแต่งงานกับแฟนสาวคนนั้นแหละครับ คงจะดีมากเลยที่ได้แต่งงานกับคนอย่างฮยองนิม ยิ่งรู้จักก็ยิ่งเป็นคนที่ใช้ได้เลยนะครับ เขาคงไม่ละเลยหรือทำให้ทุกข์ใจด้วยใช่ไหมครับ”

อีอูยอนพูดว่า ‘ก็ไม่รู้สิครับ’ ก่อนจะหลุบตาลง

“ก็บังเอิญทำให้ทุกข์ใจมากได้เหมือนกันนะครับ”

คำพูดที่มีความหมายลึกซึ้งของอีอูยอนทำให้กรรมการผู้จัดการคิมกับหัวหน้าทีมชามองหน้ากันอย่างทำตัวไม่ถูก

“โอ๊ย ไม่มีทางหรอกครับ ผมไม่เคยเจอคนที่มีจิตใจดีอย่างฮยองนิมมาก่อนเลย ผมว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ นะครับ”

อีอูยอนหัวเราะสั้นๆ โดยไม่ตอบอะไร ตอนนั้นเองอินซอบที่ไปห้องน้ำก็เดินเข้ามา อินซอบสังเกตเห็นบรรยากาศที่น่าอึดอัดขึ้นแปลกๆ เขากะพริบตาพลางเอ่ยถาม

“กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอครับ”

อีอูยอนเอนตัวไปด้านหลังเพื่อให้อินซอบสามารถเดินเข้าไปด้านในได้พลางเอ่ยตอบ

“นินทาคุณอินซอบอยู่ครับ”

“…ขอโทษครับ”

อินซอบยืนเหม่อก่อนจะขอโทษทันที

“ขอโทษอะไรล่ะครับ”

“ก็คุณน่าจะพูดแบบนั้นกันเพราะผมทำอะไรผิดไปไงครับ”

ทุกคนมองอินซอบที่ขอโทษคนที่ด่าตัวเองด้วยสีหน้าลุกลี้ลุกลน อีอูยอนกลั้นหัวเราะอย่างเนือยๆ

“ล้อเล่นครับ นั่งเถอะครับ”

อีอูยอนจับข้อมือของอินซอบที่ยืนในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งยืนและดึงให้นั่งลงข้างๆ ตัวเอง

“ในโลกนี้มีคนที่น่าด่าอยู่เยอะมากแท้ๆ กลับไม่ด่า แต่มาด่าคุณอินซอบ”

หัวหน้าทีมชาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะคนที่เขาอยากด่ามากที่สุดนั่งอยู่ตรงข้ามนี่เอง อีอูยอนยิ้มก่อนจะกดกริ่งที่ติดอยู่ด้านข้างของโต๊ะ

“ผมไม่หิวครับ”

อินซอบรีบส่ายหัว

“ผมไม่ได้จะสั่งกับแกล้มครับ แต่ผมจะสั่งเหล้า”

“เหล้าเหรอ ยังเหลืออยู่เลยไม่ใช่หรือไง”

กรรมการผู้จัดการคิมชี้ไปที่โซจูที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่อีอูยอนกลับไม่แม้แต่จะแกล้งทำเป็นมอง

“เรียกเหรอคะ”

พนักงานของร้านเปิดประตูก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“ขอแบบนี้สิบขวดครับ”

อีอูยอนชี้ไปที่โซจูที่วางอยู่บนโต๊ะพลางเอ่ย

“สั่งอะไรรวดเดียวขนาดนั้น มันจะไม่เย็นนะ”

“ดื่มแบบไม่เย็นก็ได้นี่ครับ”

พออีอูยอนยิ้มให้พนักงานของร้านพร้อมกับบอกว่า ‘รบกวนด้วยครับ’ พนักงานของร้านก็รีบไปเอาเหล้ามาให้ทันที ผ่านไปไม่นานพนักงานของร้านก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถาดที่มีขวดเหล้าวางอยู่

กรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชามองขวดเหล้าที่วางอย่างแน่นขนัดอยู่ข้างโต๊ะด้วยสายตาไม่สบายใจ ทันทีที่พนักงานของร้านออกไป อีอูยอนก็หยิบขวดเหล้าขึ้นมาเปิดฝา และหยิบแก้วที่วางคว่ำอยู่บนโต๊ะขึ้นมาก่อนจะเริ่มรินโซจูลงไป

“คุณคังอู”

“ครับ?”

“นี่เป็นการมาดื่มด้วยกันครั้งแรกหลังจากที่ทำงานกับพวกเราสินะครับ”

“ครับ ใช่ครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

ตาของอีอูยอนยิ้มมากเกินกว่าปกติ ใจของกรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาตกไปที่ตาตุ่ม เพราะรอยยิ้มชั่วร้ายที่ดูเหมือนจะอ่อนโยนนั้น อีอูยอนยื่นแก้วที่รินโซจูไว้จนเต็มให้คิมคังอู

“เฮ้ย ให้เหล้าเด็กมันอะไรขนาดนั้น…”

แม้หัวหน้าทีมชาจะพยายามห้าม แต่คิมคังอูกลับบอกว่าไม่เป็นไรก่อนจะรับแก้วเหล้ามาอย่างรวดเร็ว

“พี่เขยนี่นะ ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะแค่นี้ผมไม่เมาหรอก”

“ไม่ใช่อย่างนั้น…”

คราวนี้อีอูยอนยื่นแก้วให้อินซอบในระหว่างที่กรรมการผู้จัดการคิมกำลังห้ามคิมคังอู

“พอมาคิดๆ ดูแล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมได้มาดื่มเหล้าอย่างเป็นทางการกับคุณอินซอบ”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

อินซอบรับแก้วเหล้ามาอย่างสุภาพเรียบร้อย อีอูยอนเทเหล้าจนเต็ม อย่างน้อยที่สุดแก้วที่เขาให้อินซอบก็เป็นแก้วโซจู เพราะเขายังมีจิตสำนึกอยู่

“รินให้ผมด้วยสิครับ”

อีอูยอนยื่นแก้วเบียร์ให้ คิมคังอูเทโซจูจนเต็มแก้วด้วยความดีใจ

“ทำไมทุกคนถึงเป็นแบบนี้ล่ะ พรุ่งนี้มีตารางงานนะ ตั้งสติกันหน่อย”

แม้กรรมการผู้จัดการคิมจะทำหน้าเคร่งขรึม แต่อีอูยอนกลับไม่แม้แต่จะทำเป็นได้ยินด้วยซ้ำ

“แก้วแรกหมดแก้วเลยนะครับ”

อีอูยอนตะโกนด้วยน้ำเสียงที่สดใสและร่าเริงถึงขนาดที่ถ้าสปอนเซอร์มาเห็นคงจะเกาะขากางเกงและขอให้ทำสัญญาด้วยทันที แต่หัวหน้าทีมชาและกรรมการผู้จัดการคิมกลับเห็นความชั่วช้าที่ปรากฏอยู่ในตาของอีอูยอน

***

“ดื่มอีกแก้วได้ไหมครับ”

“ม่ายหวายแล้ว…”

คิมคังอูพูดพึมพำอย่างคนพูดไม่ชัดก่อนจะทิ่มหน้าผากลงกับโต๊ะดัง ปัก

“คังอู เป็นอะไรหรือเปล่า”

กรรมการผู้จัดการคิมพยุงคิมคังอูขึ้นมา แต่คิมคังอูที่เมาอย่างเต็มที่กลับไม่สามารถลืมตาขึ้นมาดีๆ ได้ และทำเสียงแจ๊บๆ เท่านั้น

“กลับไหมครับ”

อีอูยอนที่ดื่มเหล้าด้วยกัน แต่สายตาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดเอ่ยถาม

“ได้! กลับ เพี้ยนไปหมดแล้วนี่ พอใจหรือยังล่ะ”

หัวหน้าทีมชาตะโกนพลางตบแก้มของคิมคังอู อีอูยอนทำเสียง ชู่ว์ และทำเป็นสั่งให้ลดเสียง อินซอบที่ตาจะปิดตั้งแต่เมื่อกี้เอาหัวพิงไหล่ของอีอูยอนและหลับไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว

“อย่าทำให้เขาตื่นนะครับ กว่าผมจะกล่อมให้เขานอนหลับลงได้”

อีอูยอนขู่หัวหน้าทีมชาเสียงต่ำ

“กล่อมเด็กนั่นให้หลับเพื่ออะไรล่ะ”

“จะเพื่ออะไรล่ะครับ ก็ต้อง…”

อินซอบลืมตาขึ้นมาก่อนที่อีอูยอนจะทันได้เปิดเผยความในใจที่ดำมืดของตัวเอง อินซอบมองไปรอบๆ และเจอกรรมการผู้จัดการคิมกับหัวหน้าทีมชาที่นั่งอยู่ตรงข้าม จึงรีบก้มหัวให้ทันที

“ขอโทษครับ”

อินซอบขอโทษคนทั้งคู่ด้วยการออกเสียงที่ไม่ชัดเจน

“หา? พูดเรื่องอะไรน่ะ”

“คุณอินซอบ ขอโทษเรื่องอะไรน่ะ”

“คุณอุตส่าห์เชื่อใจผมที่ไม่สมบูรณ์แบบ และมอบหมายงานให้อีกครั้ง แต่ผมกลับทำงานได้ไม่ดี…”

“พูดอะไรของนายเนี่ย อินซอบนายทำงานได้ดีมากเลยนะ”

“เป็นความผิดของผมทั้งหมดเลยครับ ผมดูแลแมวก็ไม่ดี ขับรถก็ไม่เก่ง…แถมยังเป็นไอ้เด็กที่พ่อแม่ไม่สั่งสอนอีก”

พออีกฝ่ายพูดแม้กระทั่งคำด่าที่ไม่เคยได้ยินเพิ่มไปในคำพูดที่ฟังไม่รู้เรื่อง คนทั้งคู่ก็ตื่นตระหนก แล้วน้ำตาที่ดูเหมือนลูกแก้วของอินซอบก็เริ่มไหล ความตื่นตระหนกของพวกเขาจึงเพิ่มเป็นสองเท่า

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท