ตอนที่ 138 เพียงหนึ่งกระบี่ เทพสวรรค์ก็พ่ายแพ้!
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานหันกลับมาท้าทายเจ้าสำนักจวินเทียน และคำรามใส่กู่จวินเทียนเช่นนี้ ผู้คนถึงกับตื่นตระหนก
“สวรรค์! รองเจ้าสำนักทั้งสองอยู่ในระดับครึ่งก้าวเทพสวรรค์ แม้กระทั่งปรมาจารย์ทั้งเก้าที่อยู่ในระดับเทพปฐพีขั้นสูงสุดก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”
“บ้าจริง! บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนผู้นี้กล้าหาญนัก! เขาคงจะเป็นบุตรแห่งทวยเทพเป็นแน่!”
“ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะตัดศีรษะของเจ้าสำนักแท้จริง!”
“จุ๊ ๆ! เขายังภาคภูมิใจไม่พอหรืออย่างไร!”
“…”
ผู้พิทักษ์ขาวดำในฝูงชนยังอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหนิงฝานจะสามารถกวาดล้างสำนักจวินเทียนได้หมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่รองเจ้าสำนักทั้งสอง!
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ไม่ล้มเหลว พวกเขาทั้งสองยิ่งไม่มีความสุข
ความสิ้นหวังถาโถมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเรื่องราวดำเนินมาไกลเกินจะถอยกลับ เวลานี้กู่จวินเทียนจึงต้องเคลื่อนไหว
แล้วผู้ใดจะสามารถต่อสู้กับเทพสวรรค์ได้!
คนผู้นั้นมีอยู่จริงหรือ
กู่จวินเทียนที่ยืนอยู่ขอบลานประลองเผยแววตาเย้ยหยันเย็นชา
“หึ ๆ!”
“เด็กน้อย! ในสี่แคว้นรอบนอกนี้ เจ้าคือคนแรกที่กล้ากล่าวร้องขอศีรษะของข้า!”
กู่จวินเทียนเย้ยหยันก่อนจะปลดปล่อยลำแสงลุกโชติช่วงออกจากดวงตาทั้งสอง มันราวกับแสงจากตะเกียงสีทองอันสว่างไสว
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าหนู ข้าจะให้เจ้ายืม! หากเจ้ามีความสามารถ… ก็เข้ามา!”
ตู้ม!
ทันทีที่กล่าวจบ พลังอันน่าสะพรึงแห่งเทพสวรรค์ปะทุออกจากร่างกายของเขา ทันใดนั้น ท้องฟ้าและโลกทั้งใบกลายเป็นสีขาวโพลน ดวงอาทิตย์และดวงจันทราคล้ายอับแสง บรรยากาศทั้งหมดสั่นสะท้านอย่างน่าสะพรึงกลัว
และผู้คนนับไม่ถ้วนภายในที่นั่งรับชมหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
ร่างกายของพวกเขาล้วนสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม
เพียงแค่การปลดปล่อยรัศมีของเทพสวรรค์ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ใต้ขอบเขตเทพยุทธ์สิ้นหวัง!
อย่างไรก็ตาม หนิงฝานยังคงสงบนิ่งและไม่สนใจพลังอันรุนแรงระดับเทพสวรรค์ตรงหน้าแม้แต่น้อย
หลังจากนั้น เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่า ๆ! ยอดเยี่ยม! ในเมื่อเอ่ยปากแล้ว ข้าก็จะขอรับศีรษะนั้นไว้เอง!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียงหัวเราะ หนิงฝานฟาดฟันกระบี่ออกไปทันที ปราณกระบี่เปรียบได้กับสายรุ้งที่พาดผ่านท้องนภา มันพุ่งตรงเข้าหาลำคอของกู่จวินเทียนทันที
“โอ้! เขากล้าดีอย่างไรจึงกวัดแกว่งกระบี่ไปมาต่อหน้าระดับเทพสวรรค์!”
เมื่อเห็นฉากตรงหน้าแล้ว ผู้คนต่างเสียสติทันที นี่มันเกินไปแล้ว!
“หึ!”
“โอหังเกินไปแล้ว!”
เมื่อเผชิญหน้ากับปราณกระบี่นี้แล้ว กู่จวินเทียนยกยิ้มเย็นชา ในแววตาเผยความเหยียดหยามอย่างชัดเจน
เขาคือเจ้าเหนือหัวแห่งขอบเขตเทพยุทธ์
ผู้ยิ่งใหญ่ปกครองสี่แคว้นรอบนอกมายาวนานนับแปดพันปี!
เมื่อหนิงฝานหยุดยืนต่อหน้าเขา
แม้อีกฝ่ายจะสามารถเอาชนะรองเจ้าสำนักและปรมาจารย์จากโถงคุมกฎทั้งหมดได้…
หากแต่ในสายตาของเขา ชายตรงหน้าไม่ต่างอะไรไปจากพวกมดปลวก
ไม่ว่าอย่างไร… ภายใต้อำนาจระดับเทพสวรรค์ ทุกคนเป็นเพียงฝุ่นผงเท่านั้น!
เวลานี้ ด้วยแววตาที่เย่อหยิ่งและเหยียดหยาม เขายื่นมือหนาออกไปคว้าปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามา
ตู้ม!
เมื่อฝ่ามือสัมผัสกับปราณกระบี่ มือหนาของกู่เทียนจวินควบแน่นพลังระดับเทพสวรรค์ในทันที เขาต้องการทำลายพลังงานตรงหน้านี้ให้สิ้นเสีย
“หืม?!”
ทว่าเวลาต่อมา ใบหน้าของกู่เทียนจวินกลับแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน
ในเวลานี้ เขาสัมผัสได้ว่าปราณกระบี่ตรงหน้านี้ไม่ได้อ่อนกำลังหรือรุนแรงไปกว่า… พลังระดับเทพสวรรค์!
ตู้ม!
ขณะที่เขากำลังใช้ความคิด และต้องการถ่วงเวลา ทว่าปราณกระบี่กลับไม่รีรอ มันระเบิดออกกระแทกฝ่ามือหนาที่ยื่นออกมาอย่างรุนแรง
ในขณะที่โลหิตหลั่งริน ร่างกายของกู่จวินเทียนกระเด็นถอยไปไกล!
“เจ้าอยู่ในระดับเทพสวรรค์!!!”
กู่จวินเทียนตะโกนด้วยความตื่นตระหนก โลหิตสีแดงฉานเปรอะเปื้อนฝ่ามือจนชุ่ม
“อันใดกัน?!”
“ระดับเทพสวรรค์! บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนแท้จริงแล้วอยู่ในระดับเทพสวรรค์!”
“บัดซบ! เป็นไปได้อย่างไร!”
ทุกคนที่นั่งอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ถึงกับตกตะลึง พวกเขาเผยสีหน้าหวาดกลัวอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง
เพียงชั่วลมหายใจนี้ ผู้พิทักษ์ขาวดำแทบจะกัดลิ้นให้ตายตกไปเสีย
ทั้งสองทราบดีว่าก่อนจะมาที่สำนักจวินเทียนแห่งนี้ หนิงฝานอยู่ในระดับเทพปฐพีเท่านั้น!
และเวลานี้ หนิงฝานเปิดเผยพลังระดับเทพสวรรค์ออกมา… น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!
“เจ้าคงจะไม่ใช่บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยน ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าสู่ขอบเขตเทพยุทธ์ระดับเทพสวรรค์ได้เพียงอายุสามร้อยปี เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก? เจ้าเป็นผู้ใดกัน? และเหตุใดจึงต้องแสร้งปลอมตัวเป็นบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนเพื่อลอบเข้าสู่สำนักจวินเทียนของข้า!”
เวลานี้กู่จวินเทียนคำรามลั่น ใบหน้าของเขามืดมนและเคร่งเครียด
ทุกสายตาต่างมองไปยังหนิงฝาน
ใช่แล้ว!
บุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนอายุเพียงสามร้อยปี เขาจะเข้าสู่ระดับเทพสวรรค์ได้อย่างไร
ความจริงจึงเหลือเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือบุตรสวรรค์เจี้ยนเหยี่ยนตรงหน้านี้คือตัวปลอม!
เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของกู่จวินเทียน หนิงฝานยักไหล่พร้อมกล่าวต่อ “ไม่สำคัญว่าข้าคือใคร สิ่งที่สำคัญในวันนี้คือข้าจะตัดศีรษะของเจ้า!”
ตู้ม!
ทันทีที่หนิงฝานกล่าวจบ เขาไม่คิดซ่อนเร้นขอบเขตวิทยายุทธ์ของตนอีกต่อไป จากนั้นปราณกระบี่อันน่าสะพรึงและไร้เทียมทานปรากฏขึ้นอีกครั้ง ปราณกระบี่พุ่งทะยานราวกับเทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์จุติลงมา และต่อให้มีสิบเจ้าสำนักจวินเทียนก็ไม่อาจหยุดยั้งปราณกระบี่นี้ได้!
เขาคิดสังหารกู่จวินเทียนด้วยปราณกระบี่หนนี้!
“บัดซบ!”
“แม้เจ้าจะอยู่ในขอบเขตเทพยุทธ์ระดับเทพสวรรค์แล้วมันอย่างไร? ข้าเข้าสู่ระดับเทพสวรรค์มานานกว่าแปดพันปีแล้ว ข้าเดินบนเส้นทางนี้มาอย่างยาวนาน อย่างไรเสีย เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”
ตู้ม!
เวลานี้กู่จวินเทียนคำรามเสียงเย็นชา พลังระดับเทพสวรรค์ในร่างกายของเขาพลุ่งพล่านและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับมังกรพิโรธ
ในพริบตา ไม่เพียงแต่รัศมีของเขาจะเข้าสู่จุดสูงสุด แม้แต่ฝ่ามือหนาก่อนหน้าก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมา!
สำหรับระดับเทพสวรรค์ ตราบใดที่วิญญาณยังไม่ถูกทำลาย ร่างกายจะสามารถฟื้นฟูตนเองกลับมาได้ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสเพียงใด!
“กระจกสวรรค์บรรพกาล!”
หลังจากนั้น เขาเซ่นสังเวยให้กับอาวุธทวยเทพ!
มันคือกระจกโบราณที่มีสองด้าน ด้านหน้าสามารถใช้โจมตีได้ และด้านหลังสามารถใช้ป้องกันได้!
“โจมตี!”
เวลานี้กู่จวินเทียนถือกระจกสวรรค์บรรพกาลเอาไว้ พลังไร้สิ้นสุดแห่งเทพสวรรค์หลั่งไหล ลำแสงศักดิ์สิทธิ์มากมายถาโถมออกมาจากกระจกในทันที
ลำแสงแต่ละเส้นปั่นป่วนและควบแน่นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง มันสามารถกำจัดผู้ฝึกยุทธ์ภายใต้ขอบเขตเทพยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย!
ลำแสงกว่าหนึ่งหมื่นแปดพันพุ่งทะยานออกกระจัดกระจายไปทั่วทิศทาง พื้นที่แห่งนี้บังเกิดโกลาหลในทันที
พรึ่บ!
เวลานี้หนิงฝานไม่คิดเผยเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ เขาเพียงฟาดฟันกระบี่ออกไป
ด้วยพละกำลังคราวนี้ มันคือทั้งหมดที่เขามี!
ฮ่า!
ปราณกระบี่เผยพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าอัศจรรย์ มันพังทลายความว่างเปล่าในทันที ไม่ว่ามันจะพุ่งผ่านไปที่ใด ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ออกจากกระจกก็จะทำให้ที่นั่นสูญสลาย
เปรียบหิ่งห้อยกับจันทราสุกสกาว พวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกันและกัน!
พรึ่บ!
หลังจากจัดการลำแสงทั้งหนึ่งหมื่นแปดพันแล้ว ปราณกระบี่ยังคงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงไว้ พร้อมพุ่งทะยานเข้าหากู่จวินเทียนในทันที
“หืม?!”
“เป็นไปได้อย่างไร?”
เมื่อเห็นว่าการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของตนถูกหยุดยั้งโดยหนิงฝาน รูม่านตาของกู่จวินเทียนหดตัวลงด้วยความตื่นตระหนก
“อ๊าก!”
ปราณกระบี่กำลังพุ่งทะยานเข้ามา กู่จวินเทียนรีบหมุนกระจกสวรรค์บรรพกาลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปล่งลำแสงศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสเพื่อใช้ป้องกัน
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปราณกระบี่รุนแรง ค่ายกลขนาดใหญ่ที่ใช้ป้องกันขุมพลังระดับเทพสวรรค์พังทลายลงในพริบตา พร้อมด้วยเสียงระเบิดต่อเนื่องราวกับดอกไม้ไฟ
ตู้ม!
ในท้ายที่สุด เมื่อปราณกระบี่ปะทะกับกระจกสวรรค์บรรพกาลแห่งทวยเทพ หลังจากเกิดการระเบิดของลำแสงศักดิ์สิทธิ์ แรงสั่นสะเทือนทำให้กระจกสวรรค์บรรพกาลแตกสลายออกเป็นเศษเล็กเศษน้อยทันที
เพล้ง!
กระจกที่แตกร้าวไม่อาจทนแรงโจมตีได้ ปราณกระบี่ทะลวงผ่านพ้นเข้ามาแทงทะลุร่างกู่จวินเทียนในทันที เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังขึ้น ร่างกายใหญ่กำยำของเขาลอยออกไปพร้อมโลหิตที่หลั่งริน
เพียงหนึ่งกระบี่ เทพสวรรค์ก็พ่ายแพ้!