ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 199 ข่าวลือ (ต้น)

ตอนที่ 199 ข่าวลือ (ต้น)

ที่แท้​แล้วก็​เป็นเรื่อง​นี้​นี่เอง

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

เห็นได้ชัด​ว่า​เฟิ​่ง​ชิง​ขาด​ความรู้สึก​ปลอดภัย​ ​หาก​มี​คนที​่​คุ้นเคย​ร่วม​เดินทาง​ไป​ที่​ซี​ซาน​ด้วย​ ​บางที​อาจจะ​ปรับตัว​ได้​ง่าย​ขึ้น​ ​แต่ทว่า​ ​เมื่อ​นึกถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่สุด​ท้าย​แล้วก็​ยัง​จะ​ต้อง​ส่ง​เด็ก​กลับ​ไป​ยัง​บ้านเกิด​ ​ท้ายที่สุด​เด็ก​ก็​ยังคง​ต้อง​ผิดหวัง​อยู่ดี​…​แววตา​ของ​นาง​ก็​หม่นหมอง​ไป​ในทันที

“​ท่าน​โหว​เกรงใจ​ไป​แล้ว​ ​อย่างไร​เสีย​ตง​ชิง​ก็​ว่างงาน​ไม่มี​สิ่งใด​ทำ​ ​ได้​เดินทาง​ไป​ซี​ซาน​เป็นเพื่อน​เฟิ​่ง​ชิง​ ​ก็​ยัง​ถือว่า​ได้​ออก​ไป​เปิดหูเปิดตา​ ​คงจะ​ดีใจ​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​มี​อะไร​ให้​ลำบากใจ​กัน​เจ้า​คะ​”

“​ถึงอย่างไร​ก็​เป็นสาว​ใช้​คนสนิท​ของ​เจ้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​อีก​อย่าง​นี่​ก็​ปีใหม่​แล้ว​ ​เป็นช่วง​ที่​ยุ่ง​วุ่นวาย​ที่สุด​”​ ​พูด​จบ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​พลัน​เปลี่ยนไป​ ​“​รอน​้​อง​สะใภ้​ห้า​คลอด​บุตร​แล้ว​ ​ทุกอย่าง​ก็​จะ​ดีขึ้น​”

คงจะ​หมายถึง​ปีนั​กษัตร​ที่​ต้อง​หลีกเลี่ยง​กระมัง​!

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่าที่​ผ่าน​มา​เขา​เอง​ไม่เห็นด้วย​กับ​เรื่อง​นี้​เลย​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่เห็นด้วย​กับ​เรื่อง​นี้​เช่นกัน​ ​เพียงแต่ว่า​เรื่อง​นี้​มี​ความเกี่ยวเนื่อง​ไป​ถึง​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า​ ​ตน​ควร​ออก​ความคิดเห็น​ให้​น้อยที่สุด​จะ​ดีกว่า

นาง​พูด​ปลอบใจ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​คลายกังวล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​หลิน​ปัว​ก็​มาถึง​พอดี​ ​“​ท่าน​โหว​ ​กุนซือ​คนสนิท​ของ​ใต้เท้า​หวัง​หวัง​ลี่​พา​คนแปลกหน้า​มา​ขอรับ​ ​บอกว่า​มีเรื่อง​สำคัญ​จะ​คุย​กับ​ท่าน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ว่า​ถึงแม้​คน​เหล่านั้น​จะ​ไม่​คุ้นหน้า​ ​แต่​ดู​จาก​ลักษณะ​วาจา​และ​การ​แต่งตัว​แล้ว​ ​คง​ไม่ธรรมดา​อย่างแน่นอน​ ​จึง​ให้​บ่าว​มาถา​มท​่า​นข​อรับ​”

ใบหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แสดงให้เห็น​ถึง​ความประหลาดใจ​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ครุ่นคิด​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​คน​ของ​ท่าน​โหว​…​ก็​เชิญ​เขา​ไป​ที่​โถง​บุปผา​ก็แล้วกัน​”

หลิน​ปัว​ขานรับ​แล้ว​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​เขา​จะ​ต้อง​ไปรับ​แขก​ ​จึง​รีบ​ลุกขึ้น​เพื่อ​ไป​ส่ง​เขา​ที่​ประตู

เมื่อ​เดิน​ไป​ถึง​ประตู​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ ​หันไป​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​นี่​ก็​ไม่​เช้า​แล้ว​ ​ช่องทาง​แคบ​เล็ก​นั่น​เดิน​ไม่​ค่อย​สะดวก​เท่าไร​นัก​ ​เจ้า​เอง​ก็​กลับ​ไป​เช้า​หน่อย​ก็แล้วกัน​!​”

เป็นห่วง​งั้น​หรือ​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ​ ​นาง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​พร้อมกับ​ขานรับ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​โหว​เอง​ก็​ระวังตัว​ด้วย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​หลิน​ปัว​ก็​นำหน้า​พา​เขา​ไป​ยัง​โถง​บุปผา​ที่​เรือน​นอก

ทุกคน​จึง​ได้​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

ปินจ​วี​๋​พูดจา​ฉะฉาน​เช่นเคย​ ​“​ยังดี​ที่​ท่าน​โหว​ไม่​สืบสาวราวเรื่อง​”

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เอาแต่​ครุ่นคิด​เรื่อง​ของ​เฟิ​่ง​ชิง

ในเมื่อ​จะ​ต้อง​ส่ง​เฟิ​่ง​ชิง​ไป​ที่​ซี​ซาน​ ​ก็​ควรจะ​บอกกล่าว​เขา​ล่วงหน้า​สักหน่อย​ ​มิเช่นนั้น​เด็ก​ก็​จะ​สับสน​มึนงง​ ​รู้สึก​ว่า​พวก​ผู้ใหญ่​เอาแต่​โยน​เขา​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ทำให้​เขา​รู้สึก​ไม่มี​ความปลอดภัย​ไป​กัน​ใหญ่

สือ​อี​เหนียง​จึง​บอก​เรื่อง​การตัดสินใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​กับ​ตง​ชิง​ ​“​…​อีก​สอง​สาม​วัน​จะ​ส่ง​เด็ก​ไป​ที่​ซี​ซาน​ ​เจ้า​ตาม​ไปดู​แล​เขา​สัก​ช่วง​หนึ่ง​”

ตง​ชิง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​แต่​เมื่อ​คิดดู​ดี​ๆ​ ​ก็​เข้าใจ​ขึ้น​มา​ ​ตน​ต้อง​หลีกเลี่ยงฮู​หยิน​ห้า​จึง​ต้อง​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไป​ที่​ซี​ซาน​ ​ก็​คงจะ​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ ​ไม่​เหมือนกับ​สาวใช้​คนอื่นๆ​ ​กำลังจะ​ปีใหม่​แล้ว​ ​หาก​จู่ๆ​ ​ขาดหาย​ไป​สัก​คน​ ​ก็​จะ​มี​คน​ถาม​ขึ้น​มา​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​ ​พลอย​จะ​ทำให้​เรื่อง​นี้​ยุ่งยาก​และ​บานปลาย​ไป​กัน​ใหญ่​ ​นาง​จึง​รีบ​ย่อ​ตัว​พลาง​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ ​บ่าว​จะ​ดูแล​คุณชาย​น้อย​เฟิ​่ง​ชิง​อย่างดี​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูดคุย​กับ​เฟิ​่ง​ชิง​ ​“​เฟิ​่ง​ชิง​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​พี่​ตง​ชิงดี​ๆ​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ยัง​ตง​ชิง​ ​“​อีก​สอง​สาม​วัน​ ​ตง​ชิง​จะ​ไป​ที่​ซี​ซาน​เป็นเพื่อน​เจ้า​ ​ที่นั่น​ยัง​มีพี​่​หญิง​และ​ป้า​สะใภ้​คนสวย​อยู่​ด้วย​”

เฟิ​่ง​ชิง​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​นัยน์ตา​ที่​ดำขลับ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​จู่ๆ​ ​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​เชื่อฟัง​”

น้ำเสียง​ราวกับ​เสียง​แรก​ขัน​ของ​นก​ขมิ้น​ ​ไพเราะ​ละมุน​น่าฟัง

ทุกคน​ต่าง​ก็​พากั​นอึ​้ง​ไป​หมด

ต่าง​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​จู่ๆ​ ​เขา​จะ​เอ่ยปาก​พูด​ ​และ​นึกไม่ถึง​ว่าน​้ำ​เสียง​ของ​เขา​จะ​ไพเราะ​น่าฟัง​ขนาด​นี้

สือ​อี​เหนียง​ทั้ง​รู้สึก​ทุกข์ระทม​และ​ขม​ฝาด​ขึ้น​มา​ใน​ใจ

น้ำเสียง​ที่​ไพเราะ​นี้​ ​คงจะ​ได้มา​จาก​มารดา​ของ​เขา​กระมัง​!

หากว่า​เป็น​บุตร​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ตน​ก็​ยัง​พอ​จะ​สามารถ​ทำการ​ตัดสินใจ​ได้​ ​แต่กลับ​เป็น​บุตร​ของ​คุณชาย​ห้า​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​แม่​ใหญ่​เป็น​องค์​หญิง​ตาน​หยาง​เช่นนี้​…

ความสงสาร​เกิดขึ้น​ภายในใจ​ของ​นาง​ ​สือ​อี​เหนียง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา​ด้วย​ความ​เอ็นดู​และ​ทะนุถนอม

“​เฟิ​่ง​ชิง​ ​ใกล้​จะ​ปีใหม่​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​โน้มตัว​ลงมา​ถาม​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ปีใหม่​คือ​อะไร​”

เขา​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ปีใหม่​ต้อง​จุด​ประทัด​”​ ​น้ำเสียง​ไพเราะ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เขา​รู้เรื่อง​กว่า​เด็ก​รุ่นราวคราวเดียวกัน​มาก​ ​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​กว่า​เดิม​ว่า​ ​“​ใน​เรือน​มีเรื่อง​ที่​ต้อง​ทำ​ค่อนข้าง​เยอะ​ ​พวกเรา​ต่าง​ก็​ไม่มีเวลา​ดูแล​เจ้า​ ​ดังนั้น​พี่​ตง​ชิง​จะ​ไป​ที่​ซี​ซาน​เป็นเพื่อน​เจ้า​และ​ดูแล​เจ้า​ ​เช่นนี้​ ​พวก​ข้า​จึง​จะ​สามารถ​ไป​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​โดยที่​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ใจ​!​”

“​ข้า​จะ​เชื่อฟัง​”​ ​เขา​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ตา​ปริบๆ​ ​“​ข้า​จะ​ไม่​วิ่งเล่น​ไป​ทั่ว​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ขึ้น​มาทัน​ที

“​ในเมื่อ​เจ้า​เชื่อฟัง​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ต้อง​ฟัง​คำพูด​ของ​ข้า​ ​อีก​สอง​สาม​วัน​จะ​ต้อง​เดินทาง​ไป​ที่​ซี​ซาน​นะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ทำได้​เพียง​เลือก​ที่จะ​เพิกเฉย​ต่อ​คำพูด​ประโยค​หลัง​ของ​เขา​ ​“​ที่​ซี​ซาน​มีพี​่​หญิง​ด้วย​”

“​ข้า​ไม่เอา​พี่​หญิง​”​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​กระโดด​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​ไม่​ไป​ที่​ซี​ซาน​”​ ​พูด​จบ​ก็​วิ่ง​ออก​ไป​ทาง​นอก​ห้อง​ทันที

สือ​อี​เหนียง​รวบตัว​เขา​ขึ้น​มาก​อด​ไว้​ ​“​เฟิ​่ง​ชิง​ ​เจ้า​รับปาก​ข้า​ไป​แล้ว​ ​ว่า​เจ้า​จะ​เชื่อฟัง​ข้า​”

เขา​เม้มปาก​แน่น​ ​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ไม่ยอม​พูด​อะไร​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​แอบ​ถอนหายใจ​ ​แต่กลับ​ไม่กล้า​ที่​หลบเลี่ยง​ ​และ​ได้​สบตา​เขา​ตอบ

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เฟิ​่ง​ชิง​ก็​คลาย​ปาก​ ​แววตา​ค่อยๆ​ ​อ่อน​ลง

“​เฟิ​่ง​ชิง​ ​เป็น​เด็กดี​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ยอม​ถอย​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​ให้รางวัล​โดย​การลูบ​หลัง​เขา​เบา​ๆ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​จะ​ให้​พี่​ตง​ชิง​เอา​ของกิน​อร่อย​ๆ​ ​ไป​ที่​ซี​ซาน​เยอะ​ๆ​ ​ให้​พี่​หญิง​ที่อยู่​ที่โน่น​วิ่งเล่น​ใน​ลาน​สวน​เป็นเพื่อน​เจ้า​ ​ซี​ซาน​กว้าง​กว่า​ที่นี่​มาก​ ​มีที​่​เล่น​สนุก​ๆ​ ​มากมาย​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ปลอบประโลม​เฟิ​่ง​ชิง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​อารมณ์​จิตใจ​ของ​เฟิ​่ง​ชิง​จึง​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง

สือ​อี​เหนียง​ป้อน​เขา​ทาน​ขนม​และ​ป้อน​ชา​ให้​เขา​ดื่ม​ ​จากนั้น​ก็ได้​กำชับ​ตง​ชิง​อย่างละเอียด​อีก​รอบ​ ​แล้วจึง​ค่อย​กลับ​เรือน​ของ​ตน​พร้อม​หู่​พั่ว​และ​จู๋​เซียง

เมื่อถึง​ประตู​ทางเข้า​ ​ก็​เจอ​เข้ากับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พอดี

สีหน้า​ของ​เขา​เยือกเย็น​ประดุจ​เกล็ด​น้ำแข็ง​ ​เมื่อ​เจอ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​พยักหน้า​ ​เล็กน้อย​ ​“​เพิ่งจะ​กลับมา​เอา​ป่านนี้​ ​ทำไม​ ​เด็ก​คน​นั้น​สร้างเรื่อง​อีกแล้ว​หรือ​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดูเหมือน​อารมณ์​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​เขา​นั้น​ไป​เจอ​กับ​ใคร​มา​ ​และ​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​บ้าง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​อารมณ์ไม่ดี​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เด็ก​เชื่อฟัง​ดี​ ​ไม่ได้​สร้าง​ปัญหา​อะไร​เจ้าค่ะ​ ​เป็น​ข้า​เอง​ที่​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​จะ​ส่ง​เขา​ไป​ที่​ซี​ซาน​ ​ก็​เลย​คิด​ว่า​ควรจะ​บอก​เด็ก​สัก​คำ​ ​ถึง​เวลา​เด็ก​จะ​ได้​ไม่ต้อง​มานั​่​งง​งงวย​ไม่เข้าใจ​ ​เกิด​หวาดกลัว​และ​กังวลใจ​ขึ้น​มา​”

“​เด็ก​อายุ​แค่​สาม​ขวบ​ ​จะ​ไปรู​้​เรื่อง​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ไม่ได้​คิด​เช่นนั้น​ ​จึง​เดิน​เข้า​เรือน​ไป

สือ​อี​เหนียง​รีบ​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​หู่​พั่ว​และ​จู๋​เซียง​ ​ให้​พวก​นาง​ระมัดระวัง​ใน​การกระทำ​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้า​เรือน​ไป

เมื่อ​เชิญ​เขา​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ใน​ห้อง​ชั้นใน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​นั่งลง​ตรงข้าม​เขา​ ​หู่​พั่ว​และ​จู๋​เซียง​แบ่ง​กัน​ยก​ชามา​ให้​คนละ​หนึ่ง​ถ้วย​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​ออก​ไป​ด้วย​ความสงบ​เสงี่ยม

อารมณ์​ฉุน​ฉียว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ปะทุ​ขึ้น​มาทัน​ที

เขา​ดีด​ตัว​ลุกขึ้น​ทันควัน​ ​“​เรื่อง​งามหน้า​ที่​น้อง​ห้า​ทำ​ไว้​…​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความโมโห​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​คนที​่​มาซื​้อ​เด็ก​คือ​ใคร​ ​เป็น​คน​ของ​จวน​สกุล​โอว​!​”​ ​เขา​เอา​มือ​ไขว้หลัง​พลาง​เดิน​วน​ไป​วน​มาด​้วย​ความร้อน​รุ่ม​กลุ้มใจ

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ตกใจ

นาง​คิด​ว่า​เป็น​คน​ของ​จวน​สกุล​หยาง​!

เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​แล้วแต่​กลับ​ไม่ได้​รู้สึก​กลัว​ ​คนที​่​มี​ความกล้า​เช่นนี้​ทั้งเมือง​ต้า​โจว​มี​เพียง​ไม่​กี่​ตระกูล​ ​แต่​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​เป็น​จวน​สกุล​โอว​!

“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ลด​โทสะ​ลง​ก่อน​”​ ​เวลานี้​สือ​อี​เหนียง​ทำได้​เพียงแค่​เกลี้ยกล่อม​โน้มน้าว​เขา​ให้​ใจเย็น​ลง​เท่านั้น​ ​“​ยังดี​ที่​หา​เด็ก​เจอ​แล้ว​ ​ไม่ได้​เป็นเรื่องเป็นราว​ใหญ่โต​”

“​อะไร​ที่ว่า​ไม่เป็นเรื่อง​ไม่​เป็น​ราว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​คนที​่​มาแจ้ง​ข่าว​กับ​ข้า​นั้น​คือ​ใคร​ ​เป็น​คน​ของ​จวน​สกุล​หวัง​ ​คน​ของ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

เมื่อ​ลอง​พิจารณา​ดูดี​ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ค่อนข้าง​มีเหตุผล

คนที​่​เข้าใจ​เรา​ที่สุด​มักจะ​ไม่ใช่​มิตร​ของ​เรา​ ​แต่กลับ​เป็น​ศัตรู​แทน

การเคลื่อนไหว​ของ​จวน​สกุล​โอว​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​คงจะ​รู้ดี​กว่า​คนอื่น

ตอนนี้​หวัง​จิ​่ว​เป่า​มีเรื่อง​ร้องขอ​ต่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หาก​สามารถ​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​จัดการ​เรื่อง​ยาก​นี้​ได้​ ​หนึ่ง​คือ​สามารถ​แสดง​ศักยภาพ​และ​ความสามารถ​ของ​พวกเขา​ได้​ ​และ​สอง​สามารถ​ที่จะ​กระชับ​ช่องว่าง​ระหว่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​โกรธ​เป็นฟืนเป็นไฟ​กำลัง​เคาะ​นิ้ว​ลง​บน​โต๊ะ​ราวกับ​รัว​กลอง

“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​จวน​สกุล​โอว​นั้น​คิด​จะ​ทำ​สิ่งใด​ ​เขา​ต้องการ​จะ​ซื้อ​ตัว​เด็ก​กลับ​ไป​ให้​ผู้อาวุโส​ของ​ชาย​ที่รัก​เพศ​เดียวกัน​ช่วย​เลี้ยงดู​ ​และ​เมื่อ​โต​ขึ้น​อายุ​ราว​สิบ​สามสิบ​สี่​ปี​ ​ค่อย​พาก​ลับ​มาที​่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​…​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อาจจะ​ปกปิด​สีหน้า​ที่​ตกใจ​ของ​ตน​ได้​ ​“​ทำ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​!​”

นาง​คิด​ว่า​เมื่อ​สูญเสีย​การคุ​้ม​ครอง​ดูแล​ของ​ตระกูล​ไป​ ​จะ​มี​เพียง​เด็กหญิง​เท่านั้น​ที่จะ​ถูก​รังแก​เหยียดหยาม​ให้​ร่วงหล่น​ราวกับ​ดอกไม้​เสียอีก​…

แต่​เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​จวน​สกุล​หวัง​และ​จวน​สกุล​โอว​เป็น​ปรปักษ์​ต่อกัน​ ​จึง​ได้​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ใคร​เป็น​คนพูด​เจ้า​คะ​”

นาง​กลัว​ว่า​จวน​สกุล​หวัง​จะ​ฉวยโอกาส​นี้​ไป​ใส่ร้าย​ป้ายสี​ ​ยัดเยียด​ความผิด​ให้​กับ​ผู้อื่น​!

“​จวน​สกุล​หวัง​ได้​นำ​หลักฐาน​ส่ง​มา​ให้​ข้า​เรียบร้อย​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สีหน้า​มืดมน​ ​“​และ​คน​ของ​เจ้าหน้าที่​ก็ได้​ทำการ​ตรวจสอบ​ชัดเจน​แล้ว​”

ใน​ใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แน่น​จน​กระวนกระวายใจ​ไป​หมด

การเมือง​ใน​ราชสำนัก​เป็น​สิ่ง​ที่​สกปรก​โสโครก​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​นี้

ดวงตา​ชั้นเดียว​คู่​นั้น​ไม่เพียงแต่​จะ​เหมือน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่มี​ผิด

หาก​ตอนนั้น​คุณชาย​ห้า​ไม่ได้​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หากว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เพิกเฉย​ไม่สน​ใจ​หรือ​ไป​ช้า​เพียง​สัก​ก้าว​ ​หาก​ตอนนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ตัดสินใจ​พาตัว​เด็ก​กลับมา​ที่​จวน​ด้วย​ความโมโห​…​หากว่า​ขั้นตอน​ใด​ขั้นตอน​หนึ่ง​ไม่ได้​ต่อเนื่อง​กัน​ ​เช่นนั้น​ ​ชะตา​ของ​เด็ก​ที่​ชื่อ​เฟิ​่ง​ชิง​คงจะ​เปลี่ยน​จาก​หน้า​มือ​เป็น​หลัง​มือ​ทันที

จู่ๆ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ดวงตา​แสบ​ร้อน​ขึ้น​มา

เฟิ​่ง​ชิง​ ​เด็ก​ที่​ไม่เคย​ได้รับ​สิทธิ์​อำนาจ​ใดๆ​ ​จาก​จวน​สกุล​สวี​ ​แต่กลับ​ต้อง​มารับ​ผิด​ชอบ​หนี้สิน​ของ​จวน​สกุล​สวี​แทน

“​ท่าน​โหว​ ​หาก​ส่งตัว​เฟิ​่ง​ชิง​ไป​ไว้​ที่​ซี​ซาน​ ​จะ​ปลอดภัย​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​นึกถึง​จวน​สกุล​โอว​ที่​กล้า​ลงมือ​ได้​แม้กระทั่ง​องค์​ชาย​ห้า​ ​และ​นึก​ไป​ถึงว่า​จวน​สกุล​โอว​นั้น​เป็น​ตระกูล​ขุนพล​นักรบ​…

สีหน้า​แววตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เย็นยะเยือก​ ​“​เรือน​ที่​ซี​ซาน​ได้​จัดวาง​ทหาร​ที่​ปลด​ประจำการ​จำนวน​หนึ่ง​เฝ้าดูแล​อยู่​ ​จวน​สกุล​หวังมี​สาย​ที่​คอย​สอดส่อง​เป็นหูเป็นตา​เฝ้าดู​คน​จวน​สกุล​โอว​ ​หากว่า​พวกเขา​กล้า​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไป​แล้ว​จะ​ไม่มีทาง​หวนคืน​!​”

ไป​แล้ว​ไม่มีทาง​หวนคืน​จะ​มีประโยชน์​อัน​ใด

ที่นั่น​ยัง​มีฮู​หยิน​สอง​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​เฟิ​่ง​ชิง​ ​ล้วนแต่​เป็น​สตรี​และ​เด็ก​ทั้งสิ้น​…

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ไม่​กลัว​หรือว่า​ถ้า​เกิด​ ​เพียงแค่​ว่า​ถ้า​เกิด​!​ ​อย่างไร​เสีย​จวน​สกุล​หวัง​ก็​ไม่ได้​สนิท​กับ​ตระกูล​ของ​เรา​…​”

“​เจ้า​รู้จัก​ใบรับรอง​สมาชิก​หรือไม่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สีหน้า​ที่​ขาวซีด​ของ​ภรรยา​ ​จึง​รู้​ว่านาง​เกิด​กลัว​ขึ้น​มา​ ​เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตบหลัง​มือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่จับ​แขน​เสื้อ​เขา​ไว้​เบา​ๆ​ ​“​พวกเขา​อยาก​ให้​ข้า​ช่วย​ออกหน้า​เกลี้ยกล่อม​โน้มน้าว​ราชนิกุล​ของ​เชื้อพระวงศ์​ให้​ช่วย​สนับสนุน​ยกเลิก​การ​ปิด​การคมนาคม​ทาง​ท้องทะเล​ ​ดังนั้น​จึง​จำเป็นต้อง​ทำให้​ข้า​เชื่อ​และ​ศรัทธา​ใน​ศักยภาพ​ความสามารถ​ของ​พวกเขา​ ​หากว่า​มี​กลอุบาย​ตุกติก​ไม่ชอบมาพากล​ ​เรื่อง​การ​ยกเลิก​การคมนาคม​ทาง​ท้องทะเล​ ​ก็​จะ​เป็น​โมฆะ​ทันที​”

ทั้งสอง​คิด​ไป​ใน​ทิศทาง​เดียวกัน​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยัง​ไม่​อาจจะ​คลาย​ความกังวลใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้

เพราะ​แผนการ​ของ​จวน​สกุล​โอว​นั้น​มี​เจตนา​ที่จะ​ฆ่า​คน​ของ​จวน​สกุล​สวี​…​นาง​กลัว​ว่า​จวน​สกุล​โอว​จะ​ไม่ยอม​รามือ​อย่างง่ายดาย​ขนาด​นั้น

แต่​ในเมื่อ​พูด​ขนาด​นี้​ไป​แล้ว​ ​นาง​จึง​ไม่​สะดวก​ที่จะ​พูด​อะไร​มาก​ไป​กว่านี​้​ ​ทำได้​เพียงแค่​ฝืนยิ้ม​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เท่านั้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่าการ​ปลอบใจ​ของ​เขา​ไม่ได้​ทำให้​ภรรยา​สบายใจ​ขึ้น​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่านาง​นั้น​ฉลาด​หัวไว​ไม่​เหมือนกับ​สตรีทั​่ว​ไป​ ​ก็​เลย​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เรือน​ที่​ซี​ซาน​มี​อุโมงค์​และ​ห้องใต้ดิน​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​ส่ง​องครักษ์​วัง​หลวง​ไป​โจมตี​ ​มิเช่นนั้น​ ​ก็​ถือได้ว่า​เป็น​โครงสร้าง​ที่​แข็งแกร่ง​ไม่มีใคร​สามารถ​ทำลาย​ได้​ ​พี่สะใภ้​รอง​รู้เรื่อง​นี้​ดี​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ใจ​ไป​”

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ปรากฏ​ความประหลาดใจ​ขึ้น​มา

นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​เรือน​ที่​ซี​ซาน​จะ​มีส​ถาน​ที่ลับ​อีกที​่

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​ว่า​ตน​นั้น​เดา​ใจ​ของ​นาง​ถูก​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​ลูบ​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​ทีนี้​วางใจ​ได้​แล้ว​หรือยัง​”

ตัวเอง​ควร​เรียนรู้​ที่จะ​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​จะ​ถูก

สือ​อี​เหนียง​กล่าว​ขอโทษ​เขา​อย่างเปิดเผย​ ​“​เป็น​ข้า​เอง​ที่​คิด​ฟุ้งซ่าน​จน​เกินไป​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​อารมณ์ดี​ขึ้น​มา​ฉับพลัน​ ​เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​จับมือ​ของ​นาง​ไว้​ ​“​ไป​เถิด​ ​เรา​ไป​ทานข้าว​กับ​ไท่ฮู​หยิน​กัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​จะ​ทำให้​เขา​เสียน้ำใจ​ ​จึง​ปล่อย​ให้​เขา​จูงมือ​ของ​ตน​ไป​ถึง​ประตู​ห้องโถง​แล้ว​ค่อย​สะบัด​แขน​ออก​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​ไม่ได้​ถือโทษ​โกรธ​อะไร​ ​เขา​เพียงแค่​ยิ้ม​พร้อมกับ​กะพริบตา​ให้​นาง​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เก็บ​สีหน้า​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

นึกถึง​เหตุการณ์​ครั้งนั้น​ที่​เขา​นั้น​กำลัง​พูดคุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่​ด้านหลัง​ของ​เขา​กลับ​กำลัง​แอบ​เล่น​มือ​ของ​ตน​ไป​ด้วย​…​ยัง​มี​อีกครั้ง​ตอนกลางวัน​แสกๆ​ ​ยัง​กลัว​ว่า​เขา​จะ​รู้สึก​สนุก​ที่จับ​มือ​ของ​นาง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​เกรง​ว่า​พรุ่งนี้​คน​ทั้ง​จวน​คงจะ​รู้เรื่อง​กัน​ทั่วหน้า​ ​แล้ว​หมวก​ที่​ขึ้นชื่อว่า​ ​‘​มารยา​’​ ​ก็​จะ​หล่น​จาก​ฟากฟ้า​ลงมา​บน​หัว​ของ​ตน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท