แม่งเอ๊ย ตอนนี้จะอะไรก็ช่าง เขาแค่อยากจะมีอะไรกับชเวอินซอบจนกว่าจะตายกันไปข้าง
อีอูยอนทำให้ปากของอินซอบอ้าออกก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปจนลึก เขาเกี่ยวกระหวัดลิ้นที่พยายามจะถอยหนีและดูดดุนมันขึ้นมา ลิ้นของคนทั้งคู่พลิกไปพลิกมาและพันกันอย่างยุ่งเหยิงอยู่ในปากเล็กๆ นั่น อินซอบหายใจอย่างสุขสม ท่อนล่างของเขาตื่นตัวจนแทบจะระเบิด เพราะอาการกระตุกเล็กๆ นั่น
อีอูยอนสอดแขนเข้าไปตรงรักแร้ของอินซอบก่อนจะดึงอีกฝ่ายขึ้นมากอด
“เพราะคุณ”
อีอูยอนกดจูบไปตามแก้ม หน้าผาก และสันจมูกของอินซอบก่อนจะกระซิบด้วยเสียงที่โมโห ผมอดทนก็เพราะคุณ แต่แม่งเอ๊ย จะให้ผมทำได้ยังไงวะ ในเมื่อคุณสวยขนาดนี้
“…!”
อีอูยอนใช้มือข้างหนึ่งดึงกางเกงชั้นในของอินซอบลง เขาทำท่าเหมือนจะนอนคว่ำบนตัวของอีกฝ่าย และรูดรั้งแท่งเนื้อของตัวเองอย่างรีบเร่งเหมือนเด็กหนุ่มที่เรียนรู้การช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก เขาเอาแท่งเนื้อที่แข็งขืนและบวมเป่งกดแนบไปกับส่วนอ่อนไหวของอินซอบ ผิวหนังชั้นนอกของชิ้นเนื้อที่อ่อนนุ่มถูกดันลงไปอย่างแผ่วเบาพร้อมกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
อีอูยอนกัดแก้มของอินซอบเข้าไปเต็มแรงเหมือนกัดไอศกรีมก่อนจะขยับลิ้นไปมา ผิวหนังของอีกฝ่ายที่ไม่ได้ลิ้มรสมานานหวานมากจนเขาตั้งสติไว้ไม่ได้ อีอูยอนกัดฟัน แค่คิดเขาก็ไม่มีสติอยู่กับตัวแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมีอารมณ์ได้ถึงขนาดนี้ในขณะที่ถูไถแก่นกายของตัวเองกับซอกขาของชายหนุ่ม
“คุณอินซอบ…คุณอินซอบ…”
อีอูยอนโลมเลียริมฝีปากที่มีกลิ่นเหล้าพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่ออินซอบอยู่สองสามครั้ง และทุกครั้งที่อินซอบขยับปากเพื่อที่จะตอบ อีอูยอนก็เกร็งเอวและทำให้ส่วนอ่อนไหวถูไถกัน
“อ๊ะ อื้อ…ฮึก”
เสียงครวญครางหลุดออกมาจากริมฝีปากที่เผยอออกเล็กน้อยอย่างยากลำบาก อีอูยอนรู้สึกเสียดาย และดูดดุนริมฝีปากของอินซอบเหมือนจะกลืนกินเข้าไปอย่างรีบร้อน อินซอบที่หายใจหอบในครั้งแรกอ้าปากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และขยับลิ้นให้เข้ากับจังหวะของอีอูยอน
อีอูยอนจับก้นของอินซอบ เขาทำให้อีกฝ่ายอ้าขาออกและถูไถหว่างขาของฝ่ายนั้น จากนั้นก็แตะแก่นกายที่บวมเป่งและแข็งขืนที่ช่องทางที่กำลังขมิบ
พวกเขาสบตากัน อินซอบพยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่อีอูยอนจะทันได้ถาม ช่วงนี้แค่เขาแตะโดนปลายนิ้ว อินซอบก็ขีดเส้นเหมือนเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ของบ้านอื่น แต่นี่เจ้าตัวกลับแสดงของความต้องการของตัวเองออกมา เพราะคิดว่าเป็นความฝัน
และสิ่งนั้นก็ทำให้อีอูยอนเป็นบ้า
ส่วนปลายของส่วนอ่อนไหวที่ชุ่มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นถูกปิดเอาไว้
อีอูยอนปรือตาและเชิดคาง แม้จะสอดใส่เข้าไปแค่ส่วนปลาย แต่เขากลับรู้สึกปวดหนึบไปจนถึงปลายเท้า เขาเกร็งหน้าแข้งและดันเอวไปด้านหน้า แล้วแก่นกายของเขาก็แทรกเข้าไปในช่องทางที่เปิดอ้าอย่างคับแน่นในรวดเดียว
“อ๊า!”
ตัวของอินซอบเอนไปด้านหลัง อีอูยอนรั้งแผ่นหลังของอีกฝ่ายเข้ามากอด จากนั้นก็พ่นลมหายใจยาวๆ ออกมาในขณะที่ช่วงล่างยังเชื่อมติดกัน เขาได้ยินเสียงหัวใจของอินซอบที่เต้นตึกตักเหมือนนกกระพือปีก ในระหว่างที่เขาไม่มีสติ อินซอบก็ยิ้มจางๆ ให้ราวกับจะบอกว่าไม่ต้องกังวล
“…!”
เขาชอบมาก เขาชอบปฏิกิริยาที่ไม่ได้สำคัญอะไรนั้นมากจนน่ากลัว
เขาต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถรั้งอินซอบให้อยู่ข้างๆ เขาไปเรื่อยๆ ได้ เขาต้องทำอย่างไรถึงจะดี
เขารู้สึกเหมือนโดนบีบคอ เพราะความกังวลใจและความหลงใหล อีอูยอนขบกัดเส้นผมของอินซอบก่อนจะกดจูบลงบนติ่งหู และกระซิบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ผมชอบคุณครับ คุณรู้หรือเปล่า”
เขารู้สึกว่าอินซอบพยักหน้า แต่จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น อีอูยอนกัดริมฝีปากล่างไว้ ส่วนนั้นของเขาเหมือนจะระเบิด เพราะภาพของอินซอบที่ร้องไห้และหายใจหอบอยู่ใต้ร่างของตน
“ผมจะทำตามที่คุณอินซอบต้องการทุกอย่างเลยครับ”
เขาอยากจะทำทุกอย่างให้ อีอูยอนเลียคางของอินซอบเหมือนสุนัขที่ต้องการความรักจากเจ้าของก่อนจะพูดต่อ
“อยากให้ผมทำยังไงเหรอครับ”
ประโยคซ้ำซากและดูเหมือนคนโง่อย่าง ถ้าคุณต้องการ ต่อจะให้เป็นดาวบนฟ้า ผมก็จะไปเก็บมาให้ ติดอยู่ที่ปากของเขา
อินซอบร้องไห้โฮ อีอูยอนรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เขารู้สึกคันยุบยิบที่ใจ เพราะความสงสาร แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกมีอารมณ์เพราะการร้องไห้ของอินซอบด้วย
“อย่าร้องไห้สิครับคุณอินซอบ ร้องไห้ทำไมครับ หืม?”
“…ผมกลัว…”
อินซอบสะอึกตัวสั่น
อีอูยอนรีบกอดอินซอบเอาไว้ก่อนจะปลอบอีกฝ่าย
อินซอบเป็นคนที่ไม่มีความโลภ ไม่สิ อีกฝ่ายมีนิสัยที่พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการแสดงความโลภของตัวเองออกมา
“งั้นก็ลองบอกมาสิครับ ผมจะทำให้ทุกอย่างเลย”
เขาอยากให้อินซอบต้องการอะไรก็ได้อย่างละโมบโลภมากสักครั้ง แค่ครั้งเดียวก็ยังดี เขาอยากจะใช้ความโลภนั้นรั้งอินซอบเอาไว้
อินซอบสะอึกสะอื้นพลางอ้าปากพูดว่า ‘ผม’ อย่างยากลำบาก
“อยาก…ให้…”
อินซอบยื่นมือทั้งสองข้างออกมากอดคอของอีอูยอนไว้ก่อนจะพูด
“…คุณทำตัวธรรมดาเหมือนคนปกติทั่วไป…ครับ”
น้ำตาไหลลงมาจากหางตาของอินซอบ
“…”
อีอูยอนที่เสือกตัวเข้าไปเหมือนสัตว์ที่ติดสัดหยุดขยับตัว อินซอบทำตาโตก่อนจะช้อนตามองอีอูยอนอย่างเหม่อลอย
“แม่งเอ๊ย”
อีอูยอนถอนแก่นกายออกหลังจากที่พ่นคำด่า จากนั้นเขาก็รวบส่วนนั้นของตัวเองเข้ากับของของอินซอบและเริ่มสาว
“อ๊ะ ดะ เดี๋ยว…อึ่ก”
เส้นเลือดตรงมือที่กำส่วนนั้นเอาไว้ปูดโปน เสียงลมหายใจที่เหมือนสัตว์หลุดออกมาจากปากของอีอูยอน
ผ่านไปได้ไม่นานร่างของอินซอบก็สั่นระริก น้ำรักของเขาเปรอะเปื้อนมือของอีอูยอน อีอูยอนใช้มือสาวแก่นกายของตัวเองที่โดนน้ำรักของอินซอบสาดใส่พร้อมกัดฟันเบาๆ
“เชี่ย”
น้ำเชื้อร้อนๆ กระจายลงบนหน้าท้องของอินซอบพร้อมกับคำด่า อีอูยอนเกร็งมืออีกสองสามครั้ง และสะบัดเอาน้ำเชื้อออกมาเหมือนพยายามจะรีดน้ำเชื้อที่เหลืออยู่ในร่างกายออกมาให้หมด
“แฮ่ก…”
เขาหอบหายใจก่อนจะก้มลงมองอินซอบ อินซอบกะพริบตาอย่างเชื่องช้าอยู่ครั้งสองครั้ง และหลับไปเหมือนหมดสติ
อย่าว่าแต่โล่งเลย แม้จะปลดปล่อยไปแล้ว แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีจนไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ อีอูยอนหยิบเสื้อเชิ้ตที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาเช็ดมืออย่างลวกๆ และเอนตัวนอนข้างๆ อินซอบ
วินาทีที่ได้ยินคำตอบของอินซอบ เขาก็รู้สึกเหมือนโดนค้อนทุบหัวอย่างแรง
“ขอให้เก็บดาวมาให้ซะยังจะดีกว่า”
ทำตัวธรรมดาเหมือนคนปกติ
แม้เขาจะอยากทำให้ทุกอย่าง แต่นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้
***
เด็กหนุ่มนั่งหมิ่นเหม่อยู่ตรงหน้าต่างและกำลังอ่านหนังสือ เส้นผมของเจ้าตัวสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย เพียงแค่แอบมอง หัวใจของเขาก็รู้สึกร้อนรุ่มแล้ว
เด็กหนุ่มปิดหนังสือที่อ่านอยู่ลงก่อนจะลุกขึ้น และหันมามองทางด้านนี้ ทันทีที่สบตากัน หัวใจของเขาก็เต้นเหมือนจะเป็นบ้า หัวใจของเขาเต้นแรงจนน่ากลัวว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้จะเกิดเรื่องใหญ่เพราะหัวใจพังจนใช้การไม่ได้หรือเปล่า
เขาก้มหัวก่อนจะหลับตาลง ทันทีที่เขาค่อยๆ ผ่อนล หายใจ หัวใจของเขาก็กลับมาเต้นในจังหวะเดิม
‘ผมชอบคุณนะครับ คุณรู้หรือเปล่า’
เสียงที่นุ่มนวลเข้ามาใกล้พร้อมกับริมฝีปากที่กดจูบลงมา ทันทีที่เขาสะดุ้งและลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ผู้ชายคนนั้นก็กำลังก้มลงมองเขาอยู่
‘ผมจะทำให้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ’
ชายคนนั้นกระซิบพลางอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
อินซอบกะพริบตา ลำคอของเขาตีบตัน เพราะความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เสียงของเขากลับไม่ออกมาราวกับปากถูกยึดติดกันไว้
‘ไม่เป็นไรหรอก เพราะนี่คือความฝัน’
เขาเผลอเห็นด้วยอย่างไม่รู้ตัวกับคำว่าความฝัน ความละอายไหลมากองรวมกันพร้อมกับการยินยอม
‘ผมจะทำให้ทุกอย่าง’
ผู้ชายคนนั้นกระซิบเหมือนอยู่ในฝัน เสียงนั้นอ่อนโยนมากๆ ถึงขนาดที่เขารู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะมันอ่อนโยนเกินไป
เขาเคยเรียนรู้ผ่านนิทานที่อ่านอยู่บ่อยๆ ว่าต้องเจอกับผลลัพธ์แบบไหนถ้าอยากได้ในสิ่งที่ไม่สามารถครอบครองได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากได้อยู่ดี เอาเอื้อมมือทั้งสองข้างออกไปและกอดชายคนนั้นไว้
เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่อยากจะคบกันเหมือนคู่รักธรรมดาอย่างที่คนปกติเขาทำกันเท่านั้น…
ปี๊บๆๆๆๆ
เสียงปลุกแหลมบาดหูจนต้องลืมตาขึ้น เขาคลำโต๊ะหัวเตียงด้วยความเคยชิน แต่มือกลับไม่โดนโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ปรือตาขึ้นเพื่อจะหาต่อ ความคิดที่ผ่านเข้ามาในหัวก็ทำให้อินซอบดีดตัวลุกขึ้นมา
“…!”
อินซอบร้องอือก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ความปวดที่เหมือนมีใครกระโดดอยู่บนหัวของเขาพุ่งขึ้นมา เขากุมหน้าผากที่รู้สึกปวดตุบๆ อยู่พักหนึ่งก่อนจะกลั้นหายใจดังเฮือก ความทรงจำของเมื่อวานผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
‘นานๆ ทีได้ดื่มเหล้าอย่างนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะครับ’
อีอูยอนยิ้มก่อนจะยื่นเหล้าให้ น้ำเสียงที่ใช้พูดอ่อนโยนและอ่อนหวานมากเป็นพิเศษ อินซอบจึงรีบรับสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นให้มาดื่มทันที พอเริ่มมึนเขาก็บอกไปว่าจะไม่ดื่มแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นอีอูยอนกลับฉีกยิ้มหวานกว่าปกติหลายเท่าและเติมเหล้าให้เขาไม่หยุด และความทรงจำหลังจากนั้นก็สลายหายไป
“เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย”
แม้จะพยายามคิดอย่างไร แต่มันก็เลือนรางราวกับหมอก
“อ๊ะ นาฬิกาปลุก”
อินซอบเจอโทรศัพท์ที่ยังคงส่งเสียงปี๊บๆ อยู่ในหมอนจึงปิดนาฬิกาปลุก จากนั้นเขาก็เห็นว่ามีข้อความจากกรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาส่งมาหลายข้อความ
กรรมการผู้จัดการคิม : [ปลอดภัยดีหรือเปล่า]
กรรมการผู้จัดการคิม : [อินซอบ ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรใช่ไหม เกิดเรื่องใหญ่อะไรหรือเปล่า]
หัวหน้าทีมชา : [คุณอินซอบ ตื่นแล้วช่วยโทรศัพท์มาหาหน่อยนะ ตอนไหนก็ได้]
หัวหน้าทีมชา : [คุณอินซอบ…]
อินซอบส่งข้อความไปบอกกรรมการผู้จัดการคิมว่าเขาถึงบ้านอย่างปลอดภัย และขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง จากนั้นเขาก็ต่อสายหาหัวหน้าทีมชา หลังจากที่เสียงสัญญาณดังอยู่สองสามครั้ง เขาก็ได้ยินเสียงที่ร้อนรนของปลายสาย
[ฮัลโหล?]
“หัวหน้าทีม ขอโทษที่โทรมาแต่เช้านะครับ”
[ไม่เลย โทรมาก็ดีแล้วล่ะ …ไม่เป็นอะไรใช่ไหม]
“ครับ ผมสบายดีครับ”
อินซอบตอบก่อนจะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“เมื่อวานผมดื่มเข้าไปเยอะมากจนจำอะไรไม่ได้เลยครับ ผมได้ทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ”
ถ้าดูจากการที่กรรมการผู้จัดการคิมและหัวหน้าทีมชาสลับกันส่งข้อความมาแล้ว ตัวเขาต้องไปก่อเรื่องอะไรเพราะเมาเหล้าอย่างแน่นอน
[คุณอินซอบจะทำอะไรผิดเหรอ]
หัวหน้าทีมชาถามกลับด้วยน้ำเสียงมึนงง
“เมื่อคืนไม่ได้เกิดเรื่องอะไรเป็นพิเศษใช่ไหมครับ”
[เรื่องใหญ่อะไรกันล่ะ นายหลับไปเลยต่างหาก เออ จริงด้วย นายร้องห่มร้องไห้บอกว่าขอโทษที่ตัวเองทำงานได้ไม่ดีน่ะ]
“ขอโทษด้วยนะครับที่แสดงสภาพที่ไม่น่าดูให้เห็น”
อินซอบหน้าแดงขึ้นมาทันที ผู้ชายที่โตเป็นผู้ใหญ่ดื่มเหล้าแล้วร้องไห้อย่างนั้นเหรอ แบบนั้นมันน่าเกลียดจนแทบจะเรียกได้ว่ามลพิษทางสายตาชัดๆ
[ไม่ต้องกังวลไปหรอก …ยังไงก็มองเห็นไม่ชัดอยู่แล้ว ว่าแต่…]
หัวหน้าทีมชาพูดต่อ
[อีอูยอนกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ]
“เขานอนหลับอยู่ที่บ้านไม่ใช่เหรอครับ”
[หา? เขากลับบ้านเหรอ?]
ความมึนงงเจืออยู่ในน้ำเสียงของหัวหน้าทีมชา
อินซอบลองมองไปรอบๆ เขาไม่เห็นของของอีอูยอนเลยแม้แต่อย่างเดียว ถ้าเมื่อวานอีอูยอนมาที่นี่ ตอนนี้เขาน่าต้องนอนอยู่บนเตียงด้วยร่างกายที่ไม่มีอะไรปกปิดไว้อย่างแน่นอน
[นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย เขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะทำแบบนั้นเลยนะ]
ในระหว่างที่หัวหน้าทีมชาพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ โทรศัพท์อีกสายก็โทรเข้ามา พอเขามองหน้าจอก็พบว่าเป็นกรรมการผู้จัดการคิม
“กรรมการผู้จัดการโทรมาน่ะครับ เอาไว้ผมโทรกลับไปใหม่ได้ไหมครับ”
[ไม่ต้องหรอก ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไรนี่ ไม่ต้องโทรกลับมาอีกรอบก็ได้ ไว้เจอกันนะ]
แล้วหัวหน้าทีมชาก็วางสายไปอย่างมีความสุข