เขายิ้มเหมือนคนใจดีและทำตัวอ่อนโยน เขาไม่ทำในสิ่งที่อินซอบห้าม และทำในสิ่งที่อีกฝ่ายบอกให้ทำ แต่เขากลับหงุดหงิดกับการทำแบบนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่อินซอบกะพริบตาที่กลมโตพร้อมกับเงยหน้ามองเขา เขาก็จะจินตนาการว่าได้ดึงกางเกงของอีกฝ่ายลง และกระแทกเข้าไปทางด้านหลังแล้ว อีอูยอนไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาพุ่งเข้าใส่และผสมพันธุ์กับอีกฝ่ายเหมือนสุนัขติดสัดไปกี่รอบแล้วในจินตนาการ
อีอูยอนหัวเราะเสียงต่ำพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่ออกจนหมด เขาปล่อยเสื้อเชิ้ตตกลงบนพื้น กล้ามเนื้อที่ได้สัดส่วนอย่างแข็งแรงปรากฏโฉมให้เห็น ช่วงนี้เขาเอาความต้องการที่ไม่มีที่ปลดปล่อยไปทุ่มกับการออกกำลังกายทั้งหมด ถึงขนาดที่ว่ารูปร่างของเขาดีกว่าช่วงที่ผ่านมาเสียอีก
อีอูยอนก้มตัวลงไปประทับริมฝีปากลงกับแก้มของอินซอบ เขาลูบเส้นผมที่ยุ่งเหยิงนั้นและเลิกเสื้อเชิ้ตของอินซอบขึ้น ร่างกายที่นุ่มและผอมบางไม่ได้หนักขนาดนั้นแม้จะอยู่ในอาการเมา เขาสามารถถอดเสื้อตัวนอกให้อีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เสื้อผ้าหลายชิ้นถูกโยนลงไปด้านล่างเตียง อีอูยอนวางเข่าข้างหนึ่งลงกับเตียง
เขาก้มตัวและกดจูบลงบนหน้าผากที่ปรากฏขึ้นหลังจากที่เขาเสยผมของอินซอบขึ้นไป อีอูยอนเลื่อนริมฝีปากลงไปตามจมูก แก้ม และริมฝีปากของอีกฝ่ายพร้อมกับถอดกางเกงของอินซอบออก และก็เช่นเดียวกับเสื้อเชิ้ต เขาไม่ได้รู้สึกลำบากกับการถอดกางเกงเลย
อีอูยอนดูดดุนริมฝีปากล่างของอินซอบพร้อมกับนวดเฟ้นบนกางเกงชั้นในของอีกฝ่าย แม้เขาจะนวดเฟ้นอยู่ไม่กี่ครั้ง แต่อีกฝ่ายก็มีปฏิกิริยาจนกางเกงชั้นในนูนขึ้นมา
อีอูยอนขึ้นไปบนเตียง และล้วงมือเข้าไปในกางเกงชั้นในของอีกฝ่าย เขาจับแท่งเนื้อที่อ่อนนุ่มไว้ในมือข้างหนึ่ง อินซอบเป็นคนผิวดี แม้เจ้าตัวจะไม่เห็นด้วยเพราะกระบนหน้า แต่ผิวของอีกฝ่ายกลับพิเศษ ไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้น แต่ร่างกายรวมไปถึงส่วนอ่อนไหวก็เป็นแบบนั้นด้วย ผิวของอินซอบเรียบลื่นโดยไม่มีแท้กระทั่งเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา สัมผัสที่แนบไปกับมือถูกใจเขาเป็นอย่างมาก
อีอูยอนนึกถึงเรื่องที่ได้ยินในงานเลี้ยงปิดกล้องละครเมื่อไม่นานมานี้
ปาร์คแจโฮที่เดบิวต์มาสิบสามปีเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงด้วยภาพลักษณ์ของคนรักครอบครัว เขาที่เมาเหล้าอย่างหนักเริ่มพูดถึงเรื่องที่พลาดไปแต่งงานในช่วงเวลาหนึ่งโดยที่ไม่มีใครบอกให้ทำ
เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วที่พวกผู้หญิงจะเข้าหาปาร์คแจโฮที่จะได้เป็นนักแสดงดังคนถัดไป ส่วนแฟนคลับที่ติดตามเขาก็มีมากพอสมควร และก็มีแฟนคลับคนหนึ่งในนั้นที่เตะตาเขา เพราะนอกจากหน้าตาจะสวยมากแล้ว เธอยังแสดงความทุ่มเทที่จะไปปรากฏตัวในทุกๆ กองถ่ายของเขาให้เห็นด้วย
เขาไปกินเลี้ยงกับพวกแฟนคลับที่พอจะรู้จักมักคุ้นอยู่สองสามครั้ง และนั่นก็เป็นต้นเหตุของความเคราะห์ร้าย วันหนึ่งเขาไปดื่มกับแฟนคลับหน้าสวยคนนั้นตามลำพัง และวันต่อมาเขาก็ตื่นมาในสภาพที่เปลือยล่อนจ้อนในโรงแรม ข้างๆ เขาคือผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องไห้อยู่ในสภาพมีผ้าห่มบังตัวไว้ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าตัวเขาลากเธอมาที่โรงแรมนี้ และทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ เธอบอกว่าถ้าเขาไม่รับผิดชอบ เธอจะเรียกนักข่าวมาเดี๋ยวนี้ และบอกความจริงนี้ให้รู้ แถมยังพูดต่ออีกด้วยว่าพ่อแม่และพี่ชายของเธอกำลังมาที่นี่
แม้ปาร์คแจโฮจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่สุดท้ายเขาก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนประกาศแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น
‘แล้วมันจะมีบทเข้ามาหาฉันไหมล่ะ ในเมื่อเธอทำแบบนั้นตอนที่หุ้นขึ้น ถ้าตอนนั้นฉันไม่แต่งงาน ก็คงได้เล่นบทที่อีอูยอนเล่นตอนนี้ไปแล้ว’
เขารินโซจูใส่แก้วจนเต็มและดื่มเข้าไปรวดเดียวก่อนจะพูดต่อ
‘แต่เมื่อไม่นานมานี้ฉันเพิ่งได้รู้ว่าเมียทำแบบนั้น ความจริงแล้ววันนั้นไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย เธอบอกว่าเพราะเธอชอบฉันมากก็เลยทำแบบนั้น เฮอะ ถึงจะเป็นเรื่องเมื่อสิบปีก่อน แต่ฉันก็เดือดพล่านทุกทีที่นึกถึงวันนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะนะ เพราะมีลูกด้วยกันตั้งสามคนแล้วนี่’
ปาร์คแจโฮเคี้ยวปลาหมึกที่เป็นกับแกล้มก่อนจะพูดเตือนพวกรุ่นน้อง
‘รู้ไหมว่าสิ่งที่ผู้ชายต้องระวังมากที่สุดคืออะไร ปลายนิ้ว ปลายลิ้น แล้วก็ปลายจู๋ยังไงล่ะ อย่าเล่นพนัน ระวังคำพูด แล้วก็เก็บรักษาไอ้นั่นไว้ดีๆ เพราะมันโผล่ออกไปได้ทุกเมื่อ แล้วก็อย่าไปเจอและดื่มเหล้ากับพวกแฟนคลับหรืออะไรก็ตามโดยไม่จำเป็นด้วย’
อีอูยอนบีบนวดส่วนล่างของอินซอบอย่างนุ่มนวลพลางคิดว่าเขาอิจฉาผู้หญิงในเรื่องเล่านั้น
แค่ร้องไห้น้ำตาไหลไม่กี่หยดแล้วให้รับผิดชอบไปทั้งชีวิตอย่างนั้นเหรอ ถ้าเขาใช้สิ่งนั้นทำให้อินซอบรับผิดชอบเขาไปทั้งชีวิตได้ เขาก็มีความมั่นใจที่จะร้องไห้อย่างน่าสงสารและน่าเห็นใจมากกว่าใครในโลก
“อื้อ…”
อินซอบส่งเสียงครางแว่วๆ เขาไม่มีรสนิยมในการแตะต้องคนเมา แต่เขาก็ไม่ได้ใจกว้างพอที่จะปล่อยผ่านไปหลังจากได้ยินการพูดเรื่องแฟนสาว
เขาจงใจทำให้อินซอบเมา หลังจากนั้นเขาก็จะพาอีกฝ่ายกลับมาที่บ้าน และค้นทุกซอกทุกมุมว่าสิ่งที่เจ้าตัวซ่อนไว้คืออะไร ถึงเขาจะหาอะไรไม่เจอ แต่ความสงสัยที่เกิดขึ้นมาแล้วหนึ่งครั้งก็ไม่หายไปง่ายๆ
และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ
“อ้า…”
ทันทีที่เขาใช้นิ้วโป้งค่อยๆ ถูตรงส่วนปลายแท่งเนื้อของอีกฝ่าย อินซอบก็พ่นเสียงลมหายใจที่ขาดห้วงออกมา ทุกซอกทุกมุมของร่างกายที่เห่อร้อนด้วยแรงอารมณ์และฤทธิ์ของเหล้าสวยจนเขาแทบบ้า
อีอูยอนแสยะยิ้ม
ถ้าอินซอบลืมตาขึ้นมาในเช้าวันพรุ่งนี้ เขาจะทำสีหน้าเป็นทุกข์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาตั้งใจจะมาส่งและกลับไป แต่อีกฝ่ายกลับกอดเขาเอาไว้ เขาก็เลยต้องมีอะไรด้วยอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ
อินซอบที่ตื่นตกใจน่าจะทำอะไรไม่ถูก
แค่คิดเขาก็อารมณ์ดีแล้ว
ในระหว่างที่เขากำลังปลดกระดุมของกางเกงที่สวมอยู่ อินซอบก็แสดงความกระหายออกมาในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
“…น้ำ”
“คอแห้งเหรอครับ”
อินซอบพยักหน้าเบาๆ อีอูยอนถอดกางเกงและโยนออกไปอย่างไม่สนใจ เขาเดินไปที่ตู้เย็นในสภาพกางเกงชั้นในตัวเดียว ขณะที่หยิบขวดน้ำแร่ออกมาและกำลังจะปิดประตูตู้เย็น เขาก็ชะงักก่อนจะเบนสายตากลับไป เขามองกล่องกับข้าวที่วางอย่างเป็นระเบียบในตู้เย็นอย่างเหม่อลอยก่อนจะปิดประตูตู้เย็นลง
หลังจากกลับไปที่เตียงเขาก็อุ้มอินซอบให้ลุกขึ้นมานั่ง พอเขาเอาขวดน้ำแร่ไปแตะที่ปาก อินซอบก็อ้าปากออกทันที อินซอบดื่มน้ำที่ไหลออกมาทีละนิดเหมือนนก แต่หลังจากที่ดื่มจนคิดว่าพอแล้ว อีอูยอนกลับไม่ยอมเอาขวดน้ำออก ท้ายที่สุดน้ำที่ไม่สามารถกลืนลงไปได้ก็ไหลลงมาตามคางของอินซอบ แม้อินซอบจะไอโขลกๆ และลืมตาขึ้นมา แต่อีอูยอนก็ยังเอียงขวดน้ำใส่ปากของอินซอบอยู่เหมือนเดิม
“…?”
อินซอบช้อนตามองอีอูยอนด้วยสายตาแปลกใจ
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
อินซอบหันไปมองรอบๆ แทนที่จะตอบคำถามสั้นๆ นั้น
“บ้านของคุณอินซอบครับ”
อีอูยอนวางขวดน้ำแร่ลงที่ด้านล่างของเตียงพลางเอ่ย ตอนนั้นเองอินซอบถึงได้รู้ความจริงว่าตัวเองกำลังเปลือยเปล่า จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาด้วยความตกใจ อีอูยอนแย่งผ้าห่มที่อยู่ในมือของอินซอบ และโยนมันออกไปนอกเตียงอย่างหน้าตาเฉย อินซอบที่ตอบสนองได้ช้าเพราะฤทธิ์ของเหล้ามองอีอูยอนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“ผู้หญิงคนนั้นเข้าๆ ออกๆ บ้านหลังนี้เหรอครับ”
“ครับ?”
อินซอบทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจว่าอีอูยอนพูดเรื่องอะไร ตอนนั้นเองข้อมือที่เรียวเล็กก็โผล่เข้ามาในสายตาของอีอูยอน แม้จะกินอาหารที่ผู้หญิงคนอื่นทำให้ แต่ข้อมือก็ยังเหมือนจะหักอยู่เหมือนเดิม
อีอูยอนกำข้อมือของอินซอบไว้ด้วยมือข้างเดียว เขากระชากอีกฝ่ายเข้ามาก่อนจะกดจูบลงไป แม้ตาของเขาจะยิ้ม แต่พลังที่ดำมืดกลับกระเพื่อมไหวอยู่ในนั้น
“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…”
อินซอบพึมพำเหมือนพูดคนเดียวด้วยสีหน้ามึนงง
“ผมพามาส่งที่บ้าน เพราะคุณอินซอบเมาน่ะครับ”
อินซอบกล่าวขอบคุณอย่างตะกุกตะกัก
“ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมครับ”
“บอกมาเลยครับ”
อินซอบพยักหน้าอย่างตั้งใจ พอเขาคิดว่าหัวกลมๆ นั้นอาจจะส่ายอย่างตั้งใจต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นก็ได้ ความโมโหก็พุ่งขึ้นมาจนถึงลำคอ
อีอูยอนวางโทรศัพท์มือถือของอินซอบไว้ที่หัวเตียงก่อนจะกระซิบ
“ลองขอร้องให้ผมเสียบไอ้นั่นเข้าไปหน่อยได้ไหมครับ”
“…!”
อินซอบหน้าแดงขึ้นมาทันที เพราะคำขอหยาบคายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อีอูยอนยื่นมือออกมาลูบไล้ช่องทางด้านหลังของอินซอบก่อนจะร้องขอให้ทำเรื่องลามก
“ลองขอให้ผมแตกใส่รูนี้หน่อยสิครับ แล้วบอกว่าอยากใช้รูนี้กินน้ำรักของผม”
“พะ พูดอะไรน่ะครับ ทำไมจู่ๆ…”
สัญญาณเตือนอันตรายกระจายอยู่ในดวงตาของอินซอบที่ตกตะลึง
“เพราะผมอยากฟังครับ นะครับ”
อีอูยอนก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับชักจูงด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แค่เคาะนิ้วลงไปครั้งเดียว โทรศัพท์ก็จะต่อสายหายุนอารึมทันที เขาคิดที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่มีเรื่องที่จะไปเจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกเลย
ยุนอารึมเป็นคนที่มีนิสัยอบอุ่นและอ่อนโยน
เธอเป็นคนดีถึงขนาดที่ว่าแม้จะถูกชเวอินซอบที่เพิ่งจะเคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งขอความช่วยเหลือและเรียกออกไปกลางดึก เธอก็ไม่ได้แสดงออกว่าไม่อยากทำเลยสักนิด และเธอก็ยังเอาแมวที่เตร็ดเตร่อยู่ตามถนนกลับไปดูแลที่บ้านด้วยความยินดีอีกด้วย แต่ในขณะที่ทำแบบนั้น เธอก็ไม่ได้โอ้อวดเลย
ชเวอินซอบก็เหมือนกัน เขาขอโทษคนที่นินทาตัวเองโดยไม่ถามเหตุผล เขาเชื่อไดอารี่ของเพื่อนที่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องโกหก และพยายามจะช่วยแก้แค้นให้ แม้จะใช้เวลาหลายปี และหลังจากที่การแก้แค้นนั้นล้มเหลว และพบว่าตัวเองโดนหักหลัง เขาก็ยังเป็นคนที่มีจิตใจดีพอที่จะคบหาผู้ชายที่จมอยู่ในความเน่าเฟะตั้งแต่แรกเริ่มด้วยความจริงใจ
ดังนั้นอีอูยอนจึงไม่พอใจมากขึ้นไปอีก เพราะเวลาที่เขามองทั้งสองคนนั้น เขาจะรู้สึกว่าทั้งคู่ช่างเหมาะสมกันจนน่าโมโห
“ที่ผ่านมาผมทำตามที่คุณอินซอบสั่งทั้งหมดแล้วนี่ครับ คราวนี่เป็นตาของคุณอินซอบบ้างยังไงล่ะครับ ผมอยากได้ยินคำพูดลามกที่คุณอินซอบพูด”
อีอูยอนเอามือของอินซอบมาแตะที่ปากและกดจูบลงไปราวกับเป็นสุภาพบุรุษที่มีมารยาท ด้วยฤทธิ์ของเหล้าอินซอบจึงทำตัวไม่ถูก แม้จะรู้ว่าสถานการณ์นั้นแปลกขึ้นเรื่อยๆ
รอยยิ้มที่นุ่มนวลประดับอยู่ที่ริมฝีปากของอีอูยอน ถ้าจำเป็น เขาก็สามารถถ่ายเซ็กซ์วิดีโอกับอินซอบ และเปิดฉายบนจอขนาดใหญ่ตรงจัตุรัสควังฮวามุนได้
“ขอร้องนะครับ”
“ไม่ได้ครับ”
อินซอบส่ายหน้าอย่างดื้อดึง
“อะไรที่ไม่ได้ครับ แล้วทำไมถึงไม่ได้ด้วย”
อินซอบตอบคำถามของอีอูยอนว่า ‘ถ้าใครได้ยินจะทำยังไง’ พร้อมกับทำท่าจะร้องไห้ แม้จะอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถทรงตัวดีๆ ได้ด้วยฤทธิ์ของเหล้า แต่อินซอบก็เป็นกังวลถึงข่าวลือของอีอูยอน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะนี่คือความฝัน”
นี่เป็นกลโกงที่แย่มาก แม้แต่เด็กสิบขวบก็คงจะไม่หลงกล
“…ฝันเหรอครับ”
อินซอบยกขนตาที่มีน้ำตาเกาะอยู่ขึ้นมาก่อนจะถามซ้ำ
“ครับ ทำตามที่อยากทำเถอะครับ เพราะนี่คือความฝัน ต่อให้คุณอินซอบทำอะไร ก็จะไม่มีใครรู้”
อีอูยอนยั่วยุความเหลวแหลกของอินซอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ชเวอินซอบเป็นคนที่ไม่ประสาในเรื่องเพศ เป็นคนที่ไม่เคยแม้แต่จะช่วยตัวเอง แต่ทุกครั้งที่มีอะไรกัน เจ้าตัวจะรู้สึกจนเสียวซ่าน เพราะเป็นคนไวต่อความรู้สึก มีบ้างเหมือนกันที่อีกฝ่ายสลบไปจริงๆ และเสร็จทันทีที่เขาสอดใส่เข้าไป จึงไม่มีทางที่ฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายร้องขอให้ทำก่อนได้เลย
ดังนั้นบางครั้งเขาก็อยากจะทำให้อินซอบเมาไม่ได้สติ ความต้องการอันแสนโหดร้ายที่อยากจะลากอีกฝ่ายลงมาจนถึงโคลนตมที่ตัวเขาเองยืนอยู่พลุ่งพล่านขึ้นมา
อินซอบช้อนตามองอีอูยอนอยู่สักพักแล้วกัดริมฝีปากก่อนจะเปิดปากพูดออกมาอย่างยากลำบากว่า ‘ถ้าอย่างนั้น…’ อีอูยอนวางนิ้วลงบนโทรศัพท์มือถือ
“…ก็นอนค้างสิครับ”
อีอูยอนหัวเราะออกมา นี่เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายอยากพูดในสถานการณ์ที่ไม่มีใครได้ยินอย่างนั้นเหรอ
“จะยั่วผมเหรอครับ”
“เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ…”
สิ้นคำถามของอีอูยอน อินซอบก็มองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังและพึมพำเสียงเบาเหมือนเสียงลมหายใจ
“ก็คุณเหนื่อยนี่ครับ”
เหล้าที่อินซอบดื่มคือโซจูแค่ครึ่งขวดเท่านั้นเอง ไม่สิ ไม่ถึงครึ่งขวดด้วยซ้ำ เพราะปริมาณของเหล้าที่ทำหกไปเยอะกว่าเหล้าที่ดื่มเข้าไปเสียอีก แต่นั่นก็ทำให้เจ้าตัวเมาจนแทบจะไม่รู้สึกตัว และไม่สามารถทรงตัวได้อย่างเป็นปกติ
“…คุณเป็นห่วงผมเหรอครับ”
ครั้นได้ยินคำถามของอีอูยอน ความสงสัยก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของอินซอบ ดวงตาที่แดงก่ำด้วยฤทธิ์ของเหล้าจ้องมองอีอูยอนตรงๆ จากนั้นอินซอบก็ประกบริมฝีปากด้วยฝีมือที่ไม่ได้เรื่องเหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งหัดจูบครั้งแรก
“ผมเป็นห่วงคุณเสมออยู่แล้วครับ”
“…”
คิมคังอูอาจจะสื่อสารผิดเพราะเข้าใจผิดก็ได้ ไม่สิ อินซอบอาจจะเลิกคบหาดูใจกับคนอย่างเขา และตัดสินใจที่จะมีความสัมพันธ์ปกติกับคนปกติก็ได้ อีอูยอนไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร แม้กระทั่งตอนนี้ความหวาดระแวงและความเชื่อใจก็ยังปะปนกันอย่างยุ่งเหยิงในหัว