จางเหยาหรือ
อาเถียนที่ถือร่มยืนอยู่ไม่ไกลอ้าปากกว้าง นางยื่นมือปิดเสียงตะโกนด้วยความประหลาดใจเอาไว้
นางผู้ห่วงใยคุณหนูมาโดยตลอด หยุดฝีเท้านิ่ง ไม่อยากเดินขึ้นหน้าอย่างไม่มีเหตุผล ปล่อยให้คุณหนูเปียกฝนเผชิญหน้ากับคนตรงนั้น
เฉินตันจูยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ได้ยินชื่อที่ถูกคนอื่นเรียกออกมาก็อดหัวเราะไม่ได้
ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก
จางเหยาไม่รู้สึกอะไรเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง แต่เขาสนใจกับอีกประโยคหนึ่งมากกว่า ไม่ให้เงิน? เขาดึงสติกลับมา ยิ้มให้หญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
“ขอบคุณ ขอบคุณ” เขาพูดพร้อมกับกอดกะละมังไม้ให้แน่นเดินจากไป
เฉินตันจูเอื้อมมือไปจับกะละมังไม้ไว้ “ไม่ต้องขอบคุณ มากับข้า ข้าจะรักษาให้เจ้า”
จางเหยายิ้มพร้อมกอดกะละมังไม้แน่น “คุณหนูเกรงใจเกินไปแล้ว” เขาพูด แต่เดินต่อไปไม่หยุด ถึงแม้จะผอมบาง แต่ก็เป็นผู้ชาย เขาสลัดเฉินตันจูออก ก่อนจะถือกะละมังไม้วิ่งไป…
ชายผู้นี้ทั้งฉลาดทั้งเจ้าเล่ห์ เฉินตันจูกระทืบเท้า “จู๋หลิน! จับเขาเอาไว้!”
จู๋หลินไม่มีความคิดอื่น…คุณหนูตันจูตีกับเหล่าหญิงสาว หากจะตีเหล่าชายหนุ่มก็เป็นเรื่องธรรมดา
เขาเดินไปเพียงสองสามก้าวก็จับไหล่ของจางเหยาได้
จางเหยาที่ถือกะละมังไม้ร้องด้วยความตกใจ กะละมังไม้ร่วงลงกับพื้น ส่วนคนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
สตรีบนสะพานหินร้องออกมาด้วยความตกใจ “ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะตีกัน หากทำให้เสื้อผ้าข้าสกปรกต้องจ่ายเงินข้า!”
จางเหยาตะโกน “ป้า ข้าไม่มีเงิน พวกเขาทำเสื้อผ้าร่วง”
ดังนั้นเขาต้องการให้สตรีคนนั้นมารับมือกับพวกนาง จากนั้นอาศัยโอกาสหนีไปหรือ เฉินตันจูหัวเราะ
“จางเหยา” นางพูด “เจ้าอย่ากลัว ข้ามารักษาโรคให้เจ้า”
ในขณะที่นางพูด จางเหยาก็กระแอมไอขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินคำพูดของนาง เขาพลางไอพลางพูด “คุณหนู ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้ป่วย ไอเป็นความเคยชินของข้า…”
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น เฉินตันจูมองเสื้อผ้าที่เปียกบนตัวของจางเหยา ร่างกายของเขาสั่นเทาท่ามกลางหยาดฝน
“ข้าไม่สิ้นเปลืองโต้เถียงกับเจ้า” นางพูด “ข้าคือเฉินตันจู ข้ามารักษาโรคให้เจ้า เจ้าตามข้าไปก็พอ” พูดพลางโบกมือให้จู๋หลิน “พาไป”
ไม่ได้ตีคน? หากแต่พาไป? จู๋หลินมองเฉินตันจู ก่อนจะมองจางเหยา…เขาเป็นชาย
“จะรักษาโรค ไปจวนของเขาก็ได้กระมัง” เขาอดไม่ได้ที่จะพูด
จางเหยากระแอมไอพร้อมพยักหน้าให้เขา
“เขามีจวนที่ใดกัน” เฉินตันจูมองจางเหยา ก่อนจะมองสตรีที่ยืนอยู่บนสะพานหินด้วยสีหน้าระแวง ซักเสื้อผ้า ยังคงเหมือนเมื่อชาติก่อน อาศัยทำงานให้คนอื่นในการแลกกับที่พัก
เดิมทีร่างกายก็ไม่ดี ยังซักเสื้อผ้า ทำงานให้ผู้อื่น…
“พาไป พาไป” นางตะโกนอย่างขุ่นเคือง “ข้ารักษาเมื่ออยู่อารามดอกท้อเท่านั้น!”
อาเถียนวิ่งเข้ามาเร่งเร้าจู๋หลิน “คุณหนูให้พาไปก็พาไป”
เอาเถิด เขาจะทำอันใดได้ เขาเป็นแค่องครักษ์หลวงที่ทำหน้าที่เก็บค่าผ่านทางขึ้นเขา สอนสาวรับใช้ต่อสู้ เวลานี้ต้องมาจับชายหนุ่มอีก จู๋หลินแบกจางเหยาขึ้นมา ก่อนจะเดินไปยังรถม้าอย่างรวดเร็วตามเสียงตะโกนของจางเหยา
อาเถียนยิ้มให้เฉินตันจูอย่างดีใจ “คุณหนู คุณหนู คุณหนู” นางดีใจจนพูดสิ่งใดไม่ออก
เฉินตันจูยิ้มให้อาเถียนเช่นกัน จากนั้นหันหลังวิ่งไปทางรถม้าอย่างมีความสุข
จางเหยาถูกยัดเข้าไปในรถ เฉินตันจูและอาเถียนขึ้นรถตามหลัง จู๋หลินสะบัดแส้ จากไปภายใต้ความตกตะลึงและจ้องมองของผู้คนบนถนน
โชคดีที่ฝนตกคนมีไม่มาก
แต่คนที่เห็นเหตุการณ์ตรงนี้ล้วนตกใจ
“เกิดเรื่องใดขึ้น”
“ทะเลาะกันหรือ”
“ละเมิดหญิงสาวผู้นี้หรือ”
คนที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างวิจารณ์ขึ้นมา จากนั้นได้ยินเสียงสตรีคนหนึ่งตะโกน
“อ้า…เฉินตันจู!”
สตรีที่ยืนอยู่บนสะพานหินจับราวสะพานเอาไว้ ในที่สุดนางก็ได้สติกลับมาจากท่ามกลางความตกตะลึง
นางเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด อีกทั้งได้ยินหญิงสาวผู้นั้นพูดชื่อของตนเอง แต่เนื่องจากตกตะลึงเกินไปจึงไม่อาจตอบสนองได้ เมื่อคิดในเวลานี้ นางก็กระจ่างทันทีว่าเกิดเรื่องใดขึ้น…สวรรค์ เฉินตันจูแย่งชิงชายหนุ่มกลางถนน!
ผู้คนที่ได้ยินต่างมีสีหน้าตกใจ นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ชายคนหนึ่งกำลังแบกหามชายคนหนึ่ง หญิงสาวสองคนเดินตามไปอย่างมีความสุข…
ที่แท้ก็เป็นเฉินตันจู
หากเป็นเฉินตันจูก็ไม่แปลกที่จะทำอะไรเช่นนี้
พอมาคิดดูแล้ว ชายหนุ่มที่แบกไปนั้นราวกับรูปงามอยู่ไม่น้อย
สวรรค์ เฉินตันจูไม่เพียงแต่รังแกหญิงสาว แต่ยังเริ่มรังแกชายหนุ่มด้วย
หลังจากออกจากเมือง ฝนก็ตกหนักขึ้น หยาดฝนกระทบลงบนรถเสียงดัง
จางเหยาไม่ได้ถูกมัด เขาหดตัวนั่งอยู่มุมหนึ่งของรถม้า มองหญิงสาวสองคนที่ยิ้มหวานให้เขา
“คุณชาย” อาเถียนถามเสียงหวาน “ท่านดื่มชาหรือไม่”
จางเหยาส่ายหัว
“คุณชายจาง เจ้าไม่ต้องกลัว” เฉินตันจูพูด “ข้าแค่จะรักษาโรคให้เจ้า”
จางเหยาพยักหน้า
เฉินตันจูอยากหัวเราะ “ไม่กลัวจริงหรือ”
“ไม่กลัว” จางเหยาพูด “คุณหนูคือเฉินตันจูใช่หรือไม่”
เอ๊ะ เฉินตันจูขยับไปข้างหน้าอย่างตะลึง คนอื่นได้ยินเฉินตันจูล้วนหวาดกลัว แต่เขาไม่กลัว? นางจ้องมองดวงตาของจางเหยา ไม่พบมานานมากนานมากแล้ว นางคิดว่าตนเองจำลักษณะของเขาไม่ได้แล้ว ไม่คิดว่าจะจำเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นที่โรงเหล้านั้น…
ดวงตาของจางเหยาเหมือนเมื่ออดีตชาติ ทั้งสงบและสดใส
เขาไม่กลัวจริงๆ
“เหตุใด” เฉินตันจูถามด้วยรอยยิ้ม “เจ้ารู้จักข้า แต่เจ้ายังไม่กลัว?”
นางมีชื่อเสียงที่ดุร้ายเชียว
จางเหยาพยักหน้า “ข้ารู้ คุณหนูตันจูรั้งทางรักษาโรค ดังนั้นท่านทำเพื่อรักษาข้า ข้าจึงไม่กลัว”
จางเหยาก็คือจางเหยา แตกต่างจากคนอื่น เจ้าฟังดูว่าคำพูดของเขาไพเราะเพียงใด คุยกับเขาไม่เปลืองแรงแม้แต่น้อย เฉินตันจูพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว ใช่แล้ว เจ้าวางใจ ข้ารักษาอาการไอของเจ้าได้”
จางเหยาคำนับนาง “ขอบคุณคุณหนูตันจู”
เฉินตันจูมองเขา ดวงตายิ้มจนหยี “ไม่ต้องขอบคุณ ข้าจะรักษาเจ้าให้หาย จางเหยา เจ้าต้องสบายดี”
เฉินตันจูมองเขาด้วยรอยยิ้ม สาวใช้นั้นก็มองเขาด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มของทั้งสองคนเหมือนดวงอาทิตย์ที่เร่าร้อน จางเหยานั่งนิ่งไม่ขยับเหมือนภูเขา
ฝนตกหนัก แขกในโรงน้ำชาไม่ลดหากแต่มากขึ้น พวกเขาล้วนถูกฝนกีดขวางการเดินทาง รถม้าของเฉินตันจูเวลานี้จอดไว้ข้างโรงน้ำชา
“คุณหนูตันจู” หญิงชราขายชาทักทาย มองจู๋หลินที่ถือร่มเอาไว้ อาเถียนกระโดดลงจากรถ รับร่มมาพร้อมเฉินตันจู
เฉินตันจูเดินลงมา ก่อนจะยื่นมือเข้าไปภายในรถ…
ชายหนุ่มขอบคุณการพยุงของนางด้วยความเกรงใจ ก่อนจะลงจากรถด้วยตัวเอง
เอ๊ะ? ผู้ใดกัน
“มีแขกหรือ” หญิงชราขายชาถามอย่างสงสัย
เฉินตันจูยิ้ม “คนป่วย มาขอให้ข้ารักษา” พูดพลางยื่นมือจะพยุงอีกครั้ง “คุณชายจาง ทางนี้…”
จางเหยาขอบคุณ “ข้าเดินเองได้ ข้าเดินเองได้” พูดพลางกระแอมไอออกมาหลายที เขายกมือขึ้นปิดปาก เบี่ยงหลบการพยุงของเฉินตันจู ก้าวเท้าออกไปก่อน
เฉินตันจูรีบถือร่มเดินตามไป
หญิงชราขายชามองดูพวกเขาเดินขึ้นเขาไป นางกินเมล็ดสนกำหนึ่ง ก่อนจะส่ายหัว “ขอให้นางรักษาโรค? ดูเหมือนไก่ที่ถูกพังพอนคาบมาเสียมากกว่า”