พออาจารย์ใหญ่หลูกับเซี่ยเหนียงจื่อทั้งสองคนเข้ามาก็มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างดีใจ “เรื่องมงคลใหญ่โดยแท้ ครั้งนี้อำเภอชิงเหอเราสอบซิ่วไฉได้ถึงสิบเอ็ดคน มากที่สุดในประวัติศาสตร์การสอบซิ่วไฉ คนที่มีความดีความชอบใหญ่ที่สุดในเรื่องนี้ก็คืออวิ๋นจิ่น นักเรียนที่เจ้าชี้แนะสอบได้ซิ่วไฉถึงแปดคน”
นักเรียนที่ไม่ได้ขอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นชี้แนะพวกนั้นต่างนึกเสียใจภายหลัง ตอนนี้พากันโมโหตนเองไม่น้อยแล้ว
พออาจารย์ใหญ่หลูได้ข่าว ก็พาภรรยาตนมากล่าวขอบคุณเซี่ยอวิ๋นจิ่น อย่างไรนี่ก็เป็นการช่วยสำนักศึกษาอำเภอชิงเหอ
วันหน้าสำนักศึกษาอำเภอชิงเหอไม่ต้องกังวลเรื่องรับนักเรียนใหม่แล้ว อาจารย์ใหญ่หลูยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าวว่า “นี่เพราะพวกนักเรียนขยันกันเอง ไม่ค่อยเกี่ยวกับข้าเท่าไร”
อาจารย์ใหญ่หลูหัวเราะดัง มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างพึงพอใจกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่น เจ้าเหมาะกับเป็นอาจารย์จริงๆ น่าเสียดายเจ้าต้องไปสอบเคอจวี่ ไม่เช่นนั้นข้าอยากเชิญเจ้ามาเป็นอาจารย์สำนักศึกษาอำเภอชิงเหอ จริงๆ”
อาจารย์ใหญ่หลูกล่าวจบ เซี่ยเหนียงจื่อก็จ้องใส่เขากล่าวว่า “พูดจาเหลวไหลอะไรกัน ด้วยความสามารถอวิ๋นจิ่น ต้องสอบติดสูงกว่านี้แน่นอน วันหน้าเจ้ายังต้องประจบอวิ๋นจิ่นอีกด้วยนะ”
วาจาเซี่ยเหนียงจื่อทำเอาเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พอใจ อะไรเรียกว่าประจบ แพร่ออกไป ผู้อื่นไม่รู้ว่าจะพูดถึงเขากันอย่างไร แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาในตอนนั้น
เขาหันไปมองหันถงกล่าวว่า “เจ้าเพิ่งสอบซิ่วไฉได้ คนที่บ้านน่าจะรอฉลองกับเจ้า เจ้ารีบกลับไปเถอะ”
“ได้ งั้นข้าพาบุตรชายกลับไปด้วยเลย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพยักหน้า หันถงหันไปมองอาจารย์ใหญ่หลูกับเซี่ยเหนียงจื่อพร้อมกับเชื้อเชิญอย่างดีใจว่า “มะรืนนี้บ้านข้าจะจัดเลี้ยง ถึงตอนนั้นอาจารย์ใหญ่กับอาจารย์แม่ต้องมานะ”
อาจารย์ใหญ่หลูยิ้มกล่าวว่า “ควรจัดเลี้ยงๆ พวกเราเองก็กะว่าจะจัดเลี้ยงพรุ่งนี้ พรุ่งนี้เจ้าก็มานะ”
หันถงรีบหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว อาจารย์ใหญ่พรุ่งนี้จัดเลี้ยง มือปราบจ้าวพรุ่งนี้ก็จัดเลี้ยง งั้นอวิ๋นจิ่นจะไปบ้านไหนกัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มบางพลางกล่าวว่า “พรุ่งนี้อาจารย์ใหญ่จัดเลี้ยงหรือ งั้นพวกเราสองคนคงไม่อาจไปร่วมได้แล้ว พรุ่งนี้มือปราบจ้าวข้างบ้านก็จัดเลี้ยง พรุ่งนี้พวกเราทั้งครอบครัวจะไปกินเลี้ยงที่บ้านตระกูลจ้าว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งกล่าวจบ อาจารย์ใหญ่หลูก็มีสีหน้าบอกไม่ถูก เซี่ยเหนียงจื่อเลิกคิ้วไม่พอใจทันที จากนั้นนางก็หันไปมองลู่เจียวอย่างรวดเร็ว
“คงไม่ใช่ว่าเจียวเจียวยังโกรธอาจารย์แม่หรอกนะ”
ลู่เจียวไม่ชอบคนอย่างเซี่ยเหนียงจื่อที่สุด หญิงผู้นี้กิริยาแรงเกินไป และนิสัยลึกๆ ยังเหมือนวางตนเหนือผู้อื่นๆ ความจริงเซี่ยเหนียงจื่อเป็นแค่ภรรยาอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาอำเภอชิงเหอ แม้แต่ตำแหน่งขุนนางก็ไม่มี
ลู่เจียวไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมนางจึงวางตัวเหนือผู้อื่น อาจเพราะคนอื่นยกยอจนเคยชิน คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่กระมัง
ลู่เจียวยิ้มมองไปยังเซี่ยเหนียงจื่อกล่าวว่า “อาจารย์แม่คิดมากไปแล้ว ก่อนหน้านี้มือปราบจ้าวเพิ่งมาเชิญพวกเราให้พรุ่งนี้ไปร่วมงานเลี้ยง พวกเรารับปากเขาแล้ว ก็คงไม่อาจพูดแล้วไม่รักษาคำพูดได้”
เซี่ยเหนียงจื่อยิ้มพลางกล่าวตอบทันที “ก็แค่มือปราบเล็กๆ เท่านั้น ไม่ไปก็ไม่เห็นเป็นอะไร”
วาจาเซี่ยเหนียงจื่อทำเอาเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่พอใจ ขนาดมือปราบยังดูแคลน นับประสาอันใดกับคนบ้านนอกอย่างพวกเขา มิน่าก่อนหน้านี้เซี่ยเหนียงจื่อจึงชักสีหน้าใส่ลู่เจียว
สีหน้าอาจารย์ใหญ่หลูพลันดำทะมึน ตวาดน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน อวิ๋นจิ่นเป็นบัณฑิตมีการศึกษา จะเป็นคนพูดแล้วคืนคำได้ที่ไหนกัน”
กล่าวจบก็ถลึงตาใส่เซี่ยเหนียงจื่อ เซี่ยเหนียงจื่อขมวดคิ้วไม่พอใจทันที
อาจารย์ใหญ่หลูกลัวนางจะสร้างเรื่องขายหน้าในตระกูลเซี่ย จึงรีบอำลาเซี่ยอวิ๋นจิ่น “งั้นพวกเรากลับก่อน อวิ๋นจิ่น เจ้าบาดเจ็บยังไม่หายดี พักผ่อนดีๆ นะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า กล่าวว่า “อีกสองสามวันข้าจะไปอ่านตำราที่สำนักศึกษา”
“อืม”
อาจารย์ใหญ่หลูกล่าวจบก็ยื่นมือไปดึงมือเซี่ยเหนียงจื่อหันหลังกลับ นางชักสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่พอใจ
ในห้อง หันถงอดงึมงำเบาๆ ไม่ได้ “อาจารย์แม่ทำไมเป็นอย่างนี้นะ”
เมื่อก่อนไม่เห็นว่านางจะมีนิสัยหวังแต่ผลประโยชน์อย่างนี้ นับว่าเป็นคนรู้ธรรมเนียมมารยาทมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้หันถงกลับไป “เจ้ารีบกลับบ้านเถอะ”
หันถงรับคำเสียงหนึ่งก็ออกไปพาบุตรชายกลับตระกูลหัน
บนรถม้าตระกูลหลู เซี่ยเหนียงจื่อกับอาจารย์ใหญ่หลูทะเลาะกันรุนแรง
“ซิ่วไฉเล็กๆ ก็ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแล้ว วันหน้าหากเป็นขุนนาง ไม่ใช่ว่าจะลอยขึ้นฟ้าไปเลยหรือ”
“คนอย่างเขาไม่เหมาะจะไปสอบเคอจวี่จริงๆ ไม่มีคุณธรรม ไม่เคารพอาจารย์ หากข้าป่าวประกาศคุณธรรมของเขาเช่นนี้ออกไป ดูว่าใครจะให้เขาไปสอบเคอจวี่เป็นขุนนางกัน”
เซี่ยเหนียงจื่อพูดจาปากไม่มีหูรูด สีหน้าอาจารย์ใหญ่หลูพลันดำคล้ำ เขาถลึงตาใส่เซี่ยเหนียงจื่ออย่างโมโหจัด ตวาดดังว่า “หุบปาก เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร รู้ไหมว่าวาจาเจ้านี้หากแพร่ออกไป ส่งผลต่อชื่อเสียงอวิ๋นจิ่นขนาดไหน”
เซี่ยเหนียงจื่อไม่คิดว่าตนเองผิด “เช่นนั้นก็สมน้ำหน้า ไม่เคารพอาจารย์ สมน้ำหน้าที่จะเสื่อมเสียชื่อเสียง”
อาจารย์ใหญ่หลูมองเซี่ยเหนียงจื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ สุดท้ายกล่าวอย่างปวดใจว่า “ข้าคิดไม่ถึงว่าตอนนี้เจ้าจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ได้ เมื่อก่อนเจ้าไม่เป็นเช่นนี้”
เซี่ยเหนียงจื่อเป็นบุตรสาวซิ่วไฉ เมื่อก่อนเคยศึกษาเล่าเรียนมามีมารยาทงดงามมาก แต่ตอนนี้ถึงกับเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ไปได้ คนเขาไม่ให้เกียรตินางเล็กน้อย นางก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ นางคิดว่าตนเองเป็นใครกัน
ภรรยาอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาอำเภอชิงเหอเล็กๆ ถึงกับมองว่าตนเองสูงส่งยิ่งใหญ่
นี่น่าจะเพราะผู้อื่นยกยอนางมากเกินไป ดังนั้นนางจึงรู้สึกว่าตัวเองสูงส่ง
อาจารย์ใหญ่หลูครุ่นคิดแล้วก็มองเซี่ยเหนียงจื่อ กล่าวว่า “ดูท่าข้าคงต้องส่งเจ้ากลับบ้านเกิดเราแล้ว”
วาจานี้กล่าวออกมาทำเอาเซี่ยเหนียงจื่อตกใจ หันหน้าไปมองอาจารย์ใหญ่หลูอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพี่ ท่านถึงกับจะไล่ข้ากลับบ้านเกิด”
อาจารย์ใหญ่หลูไม่ใช่คนอำเภอชิงเหอ บ้านเดิมพวกเขาค่อนข้างห่างไกล เซี่ยเหนียงจื่อไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตนจะถูกสามีขับไล่กลับบ้านเกิด หากถูกขับไล่กลับไปจริง คงถูกคนหัวเราะเยาะตาย
“ท่านพี่ถือสิทธิ์อะไรทำกับข้าเยี่ยงนี้ ข้ามีบุตรชายสองบุตรสาวสองคนให้ท่าน พอแก่แล้ว ท่านถึงกับทำกับข้าเช่นนี้”
อาจารย์ใหญ่หลูตวาดอย่างไม่พอใจว่า “วันหน้าเจ้าพูดจาไร้สมองอีก ข้าไล่เจ้ากลับบ้านเกิดแน่ ปากไร้หูรูดอย่างเจ้าจะทำลายบุตรชายสองคนของพวกเรา”
เซี่ยเหนียงจื่อตกใจมองอาจารย์ใหญ่หลู “หมายความว่าอย่างไร”
อาจารย์ใหญ่หลูหรี่เสียงเบาลง “อวิ๋นจิ่นอาจจะเชื่อมสัมพันธ์ถึงอ๋องเยียนแล้ว หากเรื่องนี้เป็นจริง เจ้าพูดจาเหลวไหลอาจนำภัยมาสู่บุตรชายเราได้”
บุตรชายสองคนตระกูลหลูล้วนเป็นบัณฑิตระดับจวี่เหริน ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อสอบระดับจิ้นซื่อให้ได้
หากพวกเขาทำอะไรไม่ดีต่อเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปขออ๋องเยียน บุตรชายสองคนของพวกเขาคงได้โชคร้ายแน่
สีหน้าเซี่ยเหนียงจื่อพลันซีดเผือด ไม่กล้าพูดต่อสักคำ
แม้ว่านางได้รับการยกย่องในอำเภอชิงเหอ แต่ก็รู้ว่านางกับบุคคลสูงส่งเทียมฟ้าเช่นอ๋องเยียน แตกต่างกับพวกนางราวเมฆาและดินโคลน
เซี่ยเหนียงจื่องึมงำกล่าวว่า “ข้า ข้า วันหน้าไม่พูดจาเหลวไหลอีกแล้ว”
อาจารย์ใหญ่หลูเห็นเซี่ยเหนียงจื่อเช่นนี้ก็ไม่ได้คิดปลอบใจ เขาจำเป็นต้องให้ภรรยาได้รู้สึกตัวบ้าง อย่าได้ก่อเรื่องทำลายรากฐานตระกูลหลู
ณ ตระกูลเซี่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังพูดกับลู่เจียวเรื่องเซี่ยเหนียงจื่อ
“เมื่อก่อนตอนเพิ่งมาอำเภอชิงเหอ อาจารย์แม่เป็นคนดีมาก แต่หลายปีมานี้ถูกบรรดาภรรยานักเรียนยกยอมากไป ก็เลยคิดไปเองว่าตนเองยิ่งใหญ่ เจ้าอย่าได้สนใจนาง”
“อืม ข้ารู้”