ลู่เจียวพยักหน้า ตอนนี้นางไม่ได้สนใจภรรยาอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาอำเภอชิงเหอเลยแม้แต่น้อย อย่างไรนางก็ช่วยอ๋องเยียน ช่วยขุนพลหวังไว้ หากมีคนมาหาเรื่องนางจริง นางไปขอให้พวกเขาช่วยก็น่าจะได้กระมัง
วันนี้บ้านตระกูลเซี่ยมีแต่คนมา นักเรียนที่ก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้คำชี้แนะทบทวนตำราก็พากันมาขอบคุณที่ตระกูลเซี่ย พร้อมกับนำเงินห้าสิบตำลึงที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้มาด้วย
ลู่เจียวไม่ค่อยชอบผู้คนวุ่นวาย สุดท้ายโยนเรื่องพวกนี้ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตนเองพาเฝิงจือกับ หร่วนจู๋ไปหอยาเป่าเหอ
ในหอยาเป่าเหอ สวี่เซี่ยนเว่ยกำลังพักรักษาตัวอยู่ หลายวันก่อนลู่เจียวหาเวลาว่างร่วมมือกับฉีเหล่ยผ่าตัดให้เขาแล้ว
หลังผ่าตัด สวี่เซี่ยนเว่ยไม่กล้ากลับไปพักตระกูลสวี่ เพราะกลัวว่าตนเองจะเกิดอาการไม่ดี เอาแต่ดึงดันจะพักรักษาตัวอยู่ที่หอยาเป่าเหอ วันนี้ลู่เจียวมาก็พอดีได้ตรวจดูอาการให้เขา แน่นอนว่าไม่ได้ตรวจบาดแผล แต่ตรวจสภาพร่างกายว่าฟื้นคืนแล้วหรือยัง
สภาพร่างกายสวี่เซี่ยนเว่ยฟื้นตัวได้ไม่เลว ลู่เจียวกำชับเขาว่า “อย่าเห็นว่าท่านอ้วนท้วนดี สุขภาพท่านอ่อนแอมาก ดังนั้นท่านต้องลดน้ำหนักและออกกำลังกาย ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ อย่าได้ถึงตอนนั้นลูกยังไม่ทันคลอด ตนเองก็ไม่ไหวไปก่อนแล้ว”
สวี่เซี่ยนเว่ยได้ฟังก็พยักหน้าหงึกๆ เขายังไม่ทันได้มีบุตรชายเป็นทายาทสืบตระกูลสวี่เลย จะตายได้อย่างไร
“รอให้ข้าหายดี ข้าต้องออกกำลังกายแน่”
ลู่เจียวกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจนักว่า “ตอนนี้ท่านก็ออกกำลังกายลดน้ำหนักได้แล้ว บาดแผลประสานกันดีแล้วก็ลงพื้นมาเดินออกกำลังได้ อย่าได้เอาแต่นอนบนเตียง ท่านไม่ได้ผ่าตัดใหญ่อะไร ในทางกลับกัน การลงจากเตียงมาออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูสมรรถนะการสืบสกุลของท่าน”
พอกล่าวถึงตรงนี้ สวี่เซี่ยนเว่ยก็ไม่กล้าค้านอีก รีบพลิกตัวจะลงจากเตียง
จางเหนียงจื่อข้างเตียงรีบเข้าไปประคองเขาลงจากเตียงมาเดินไปมาในห้อง
ลู่เจียวหันหลังออกไป จ้าวหลิงเฟิงกับฉีเหล่ยก็เดินตามนางไปด้วย
จ้าวหลิงเฟิงกล่าวอย่างดีใจว่า “โรงหีบน้ำมันเริ่มผลิตน้ำมันอย่างเป็นทางการแล้ว ข้าติดต่อบรรดาพ่อค้าไว้สองสามคน น้ำมันที่พวกเราผลิตออกมาเริ่มขายไปทั่วแคว้นต้าโจวแล้ว”
พูดถึงเรื่องนี้ จ้าวหลิงเฟิงก็ถามอย่างห่วงใยว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าจะเปิดร้านค้าสองร้านไม่ใช่หรือ ซื้อหาร้านค้าไว้แล้วหรือยัง”
ลู่เจียวส่ายหน้า “สองสามวันนี้มีแต่เรื่อง ยังไม่ทันได้ไปหาดูเลย”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ถามจ้าวหลิงเฟิงถึงสภาพการณ์ร้านค้าในอำเภอชิงเหอ “ร้านค้าในอำเภอชิงเหอตั้งราคาปกติเท่าไร”
จ้าวหลิงเฟิงถามลู่เจียวว่าต้องการซื้อร้านค้าแบบไหน
“ทำเลดี ราคาก็สูงหน่อย ทำเลไม่ดี ก็ถูกมาก ต้องดูว่าเจ้าจะซื้อที่ไหน”
พอจ้าวหลิงเฟิงพูด ลู่เจียวก็ขมวดคิ้วคิดครู่หนึ่ง นางว่า “ซื้อร้านชาวบ้านธรรมดาแล้วกัน แม้ว่าข้าเปิดร้านเพื่อหาเงิน แต่ก็คิดให้ชาวบ้านทั่วไปได้กินน้ำมันและซื้อยาได้”
พอลู่เจียวกล่าวจบ จ้าวหลิงเฟิงก็ยิ้มกล่าวว่า “ละแวกถนนเหอผิงกับถนนจิ่นหลีล้วนเป็นชาวบ้านธรรมดาพักอาศัยกัน เจ้าไปหาซื้อร้านค้าบนถนนสองเส้นนี้ได้ แถมร้านค้าบนถนนสองเส้นนี้ยังถูกมากด้วย”
ลู่เจียวรีบกล่าวว่า “งั้นก็ไปหาซื้อบนถนนสองเส้นนี้แล้วกัน ไว้ข้าจะให้หลี่หนานเทียนไปดูหน่อย ว่าจะซื้อได้ไหม”
จ้าวหลิงเฟิงถามต่อ “เจ้าจะซื้อใหญ่เท่าไร ข้าช่วยเจ้าดูๆ ได้ หากมีจะช่วยเจ้าดูไว้”
ลู่เจียวเห็นเขายอมช่วยก็รีบกล่าวว่า “ไม่เอาใหญ่มาก ร้านค้าปกติก็พอ ข้าไม่อยากทำตัวสะดุดตามากเกินไป”
จ้าวหลิงเฟิงเข้าใจ พยักหน้ากล่าวว่า “ได้ ข้าจะช่วยเจ้าหาดู”
ลู่เจียวพยักหน้า หากเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้รับปากให้โอกาสเซี่ยอวิ๋นจิ่น ไม่แน่ลู่เจียวอาจซื้อสองร้านที่ใหญ่หน่อย แต่นางรับปากให้โอกาสเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปแล้วก็ควรเตรียมการเรื่องอื่นไว้ด้วย
เช่นว่า หากสุดท้ายนางและเขาสองคนเหมาะสมกัน ตัดสินใจจะอยู่ด้วยกัน ย่อมต้องย้ายไปอยู่เมืองหลวง เช่นนั้นนางก็ต้องไปเปิดกิจการที่เมืองหลวง ดังนั้นร้านค้าทางอำเภอชิงเหอก็ไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก
นางต้องสะสมเงินทองไปซื้อร้านค้าในเมืองหลวง ร้านค้าในเมืองหลวงนั้นแพงมาก
ลู่เจียวคิดไปก็กล่าวกับจ้าวหลิงเฟิงไปว่า “แม้ว่าเปิดร้าน แต่ข้าไม่คิดเปิดใหญ่ เพราะหากไม่เหนือความคาดหมาย สินค้าที่โรงหีบน้ำมันกับโรงผลิตยาผลิตออกมาคงไม่พอแบ่งขาย ข้าหาส่วนหนึ่งมาวางขายได้ก็ไม่เลวแล้ว”
สินค้าสามโรงผลิตน่าจะขายดี แต่ยุคสมัยนี้สินค้าล้วนผลิตด้วยแรงงานคน ดังนั้นอัตราการผลิตต่ำ สินค้าสามอย่างเป็นสินค้าขายดี ถึงตอนนั้นคนอยากได้สินค้ามากมาย ร้านที่นางเปิดได้สินค้าส่วนหนึ่งมาขายได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว
จ้าวหลิงเฟิงได้ฟังคำพูดลู่เจียว แววตาก็ส่องประกาย “สองสามวันนี้ เจ้าหาเวลาเขียนวิธีทำสบู่หอมออกมาหน่อย โรงเวชสำอางเสร็จแล้ว จะได้ผลิตได้เลย”
ตอนนี้ที่จ้าวหลิงเฟิงกระตือรือร้นที่สุดก็คือการหาเงิน เขาต้องช่วยอ๋องเยียนหาเงินให้มากๆ ช่วยอ๋องเยียนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ส่วนเขาก็จะได้ความดีความชอบที่ได้ช่วยมังกรขึ้นบังลังก์ วันหน้าเขาก็ไม่ต้องทนกับบรรดาบุตรชายบุตรสาวสายภรรยาเอกตระกูลจ้าวและภรรยาเอกของบิดาเขาแล้ว
“ได้”
ทั้งสองคนกล่าวจบ ลู่เจียวก็พาคนออกไป ฉีเหล่ยตามนางออกไป ลู่เจียวได้โอกาสคุยเรื่องวิชาการแพทย์กับเขาเล็กน้อย ฉีเหล่ยฟังแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ ลู่เจียวเห็นว่าสายแล้วจึงพาเฝิงจือกับหร่วนจู๋กลับบ้าน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กำลังชะเง้อคอรอนางกลับมากินอาหารเย็นอยู่
พอลู่เจียวกลับมา เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็วิ่งไปดึงนางมานั่งที่โต๊ะ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยกห่อเงินก้อนห่อใหญ่ส่งไปตรงหน้าลู่เจียว “เจียวเจียว แม้ว่าข้าหาได้ไม่มาก แต่วันหน้าข้าจะพยายามหาเงิน”
วันนี้นักเรียนที่สอบซิ่วไฉได้ทุกคนนำเงินมามอบให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นคนละห้าสิบตำลึง นอกจากหันถงและจ้าวหง นักเรียนที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นสอนสอบได้ซิ่วไฉไปหกคน ดังนั้นตอนบ่ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงได้มาสามร้อยตำลึง
เขารู้ว่าสามร้อยตำลึงตรงหน้าลู่เจียวไม่นับว่าเป็นเงินก้อนโต แต่นี่คือเงินที่เขาเพียรหามา ดังนั้นเขาจึงคิดจะมอบให้นางในทันที
ลู่เจียวไม่ได้เกรงใจกับเขา ตอนนี้นางรับปากให้โอกาสเขาแล้ว ดังนั้นรับเงินเขาก็ไม่เป็นไร
หากนางและพวกเขาสุดท้ายไม่อาจอยู่ร่วมกัน นางก็จะคืนเงินก้อนนี้ให้เขา
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็ยิ้มมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “อืม เอาเงินมามอบให้ภรรยาดูแลด้วยตนเองเป็นสามีที่ดี ให้ปลาหนึ่งชิ้นเป็นรางวัล”
ลู่เจียวคีบปลาชิ้นหนึ่งให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยตนเอง ยังเอ่ยชมเขาอีกด้วย
ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันพองฟูขึ้นมา แม้ว่าเขาหาเงินได้ไม่มาก แต่เขากำลังพยายามหาเงินอยู่ จึงดีใจมากจริงๆ ที่ได้รับคำชมจากลู่เจียว
ลู่เจียวทำเช่นนี้ นอกจากทำให้ผู้ชายมีความมั่นใจแล้ว ยังทำให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดู ให้พวกเขารู้ว่าวันหน้าหาเงินมาให้ภรรยาดูแลเป็นสิ่งที่ควรกระทำ
บิดามารดาเป็นต้นแบบที่สำคัญที่สุด
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยิ้มตาหยีมองทุกอย่างอย่างพออกพอใจมาก ต้าเป่ายังชมเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยตนเอง
“ท่านพ่อทำได้ดีมาก วันหน้าต้องทำเช่นนี้ต่อไปนะ”
เอ้อร์เป่าพยักหน้าเต็มแรงกล่าวว่า “เช่นนี้ ไม่แน่น้องสาวอาจจะคลอดออกมาในเร็ววันนี้แล้ว”
พอเขากล่าวขึ้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหน้าไปมองไปยังลู่เจียวด้วยแววตาวับวาว หากมีบุตรสาวได้น่ารักสักคนเหมือนลู่เจียว ก็น่าจะไม่เลวเหมือนกัน
ซานเป่า ซื่อเป่านั่งส่งยิ้มเซ่อซ่า ทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข
หลังอาหาร ทุกคนก็เริ่มได้คืบเอาศอก
“เจียวเจียว บาดแผลข้าเหมือนจะปวดอยู่นะ คืนนี้เจ้ามานอนเป็นเพื่อนข้าได้ไหม”