ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 205 ตกแต่ง(ต้น)

ตอนที่ 205 ตกแต่ง(ต้น)

​ใช่​ ​หาก​พูด​ออก​ไป​ก็​อาจจะ​ทำให้เกิด​ปัญหา​อย่าง​อื่น​ ​แต่​หาก​ไม่​พูด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ต้อง​เป็น​แพะรับบาป​!

​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ทำให้​ฮองเฮา​ทรง​คิดหนัก

​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​เช่นไร​ ​เพียง​ตรัส​ถาม​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ทำ​อย่างไร​ต่อไป

หาก​ฮ่องเต้​ทรง​มี​ความคิด​อื่น​จะ​ทำ​เช่นไร​?

จะ​ทรง​ชี้แนะ​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​?

ฮ่องเต้​กำลัง​ฟัง​อยู่​หลัง​ม่าน​ ​ตอนนี้​ข่าวลือ​เรื่อง​ที่​พา​หญิง​ของ​หัวหน้า​ค่าย​ของ​แคว้น​เหมียว​เจียง​มา​ ​แพร่สะพัด​มาถึง​พระราช​สำนัก​แล้ว​ ​มัน​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​สตรี​ใน​พระราชวัง​จะเข้า​ไป​แทรกแซง​ได้​…

คิดไปคิดมา​ ​ก็​ต้องโทษ​คนที​่​เป็น​คน​ก่อเรื่อง​คน​นั้น

​“​ล้วนแต่​เป็นความ​ผิด​ของ​คุณชาย​ห้า​ ​ทำให้​พวก​เจ้า​ต้อง​ลำบาก​!​”

ถึงแม้ว่า​คุณชาย​ห้า​จะ​ไม่ดี​แค่ไหน​ ​แต่​เขา​ก็​เป็น​น้องชาย​ของ​ฮองเฮา​ ​นาง​สามารถ​ตำหนิ​เขา​ได้​ ​แต่​ตัวเอง​จะ​ทำท่า​ที​ไม่พอใจ​ไม่ได้

​“​ฮองเฮา​ตรัส​เกินไป​แล้ว​เพ​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​คุณชาย​ห้า​ยัง​เด็ก​ ​คบ​คนพาล​ ​พาล​พา​ไปหา​ผิด​ ​คบ​บัณฑิต​ ​บัณฑิต​พา​ไปหา​ผล​ ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​ต่อไป​เขา​ทำ​สิ่งใด​ก็​คงจะ​ระมัดระวัง​ตัว​มากขึ้น​ ​แต่ว่า​เรื่อง​นี้​แพร่​ออก​ไป​เช่นนี้​…​แล้ว​ท่าน​โหวก​็​ยัง​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​พูด​ ​หม่อมฉัน​หวาดกลัว​อย่างยิ่ง​เพ​คะ​”

​ฮองเฮา​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​มากเกินไป​”​ ​นาง​เหลือบมอง​ไป​ที่​ผ้าม่าน​อีกครั้ง​แล้ว​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​เหม่อลอย​ ​“​ท่าน​โหว​เป็น​คน​เช่นไร​ ​ทุกคน​ล้วน​รู้ดี​”

​สือ​อี​เหนียง​ทำ​สีหน้า​โศกเศร้า

​เมื่อ​ฮองเฮา​เห็น​ว่า​พูด​เรื่อง​นี้​ชัดเจน​แล้ว​ ​กลัว​ว่า​หาก​พูด​ต่อไป​มัน​คง​ไม่ดี​ ​นาง​จึง​ถามไถ่​ถึงสุข​ภาพ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​พอ​รู้​ว่า​ท่าน​แม่​สบายดี​ ​ก็​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​แล้ว​ขอตัว​ลา

​ฮ่องเต้​ก็​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ข้างใน

​“​ฮ่องเต้​ ​จะ​ทำ​เช่นไร​ดี​เพ​คะ​”​ ​ฮองเฮา​จ้องมอง​ไป​ที่​ฮ่องเต้​อย่าง​กังวลใจ​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่าน​้​อง​ห้า​จะ​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​!​”

​ฮ่องเต้​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่จะ​ตรัส​ว่า​ ​“​หาก​เป็น​เหมือน​ที่ฮู​หยิน​หย่ง​ผิง​โหว​พูด​ ​เรา​ว่า​ปล่อย​ให้​หย่ง​ผิง​โหว​จัดการ​เอง​ดีกว่า​ ​เพราะ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ของ​สกุล​สวี​ ​ข้า​กับ​เจ้า​ไม่​ควร​เข้าไป​ยุ่ง​”

​ฮองเฮา​ไม่ได้​ตรัส​สิ่งใด

สมเหตุสมผล

เรื่อง​ของ​ครอบครัว​ ​คนนอก​ไม่​ควร​เข้าไป​แทรกแซง

​นาง​ถอนหายใจ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​นี้​กว้างใหญ่​เกินไป​ ​พลัน​รู้สึก​หนาวเย็น

​*****

​ฮ่องเต้​ที่​ทรง​แอบ​อยู่​ห้อง​ข้างใน​แต่กลับ​ได้ยิน​พวก​นาง​พูดคุย​กัน​อย่างชัดเจน​ ​และ​ฮองเฮา​ที่​ทำท่า​ที​ระมัดระวัง​และ​เอือมระอา​ ​ยัง​มี​ข่าวลือ​เรื่อง​นั้น​เรื่อง​นี้​ ​ทั้งหมด​นี้​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เป็นอย่างมาก

​นาง​กลับมา​ที่​เหอฮ​วาห​ลี่​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รอนา​งอยู​่​ที่นั่น

​เมื่อ​สาวใช้​ยก​ชา​เข้ามา​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ไล่​พวก​นาง​ออก​ไป​แล้ว​รีบ​พูดว่า​ ​“​เรียก​เจ้า​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ทำไม​กัน​ ​พูดคุย​อะไร​บ้าง​”

​“​พูดคุย​เรื่อง​เด็ก​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ทัน​ได้​ดื่ม​ชา​ ​นาง​เล่า​เหตุการณ์​ใน​ตอนนั้น​ให้​ไท่ฮู​หยิน​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

​พวกเขา​สอง​คน​ยิ่ง​ฟัง​ก็​ยิ่ง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​ถึง​ตอน​สุดท้าย​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​มีสี​หน้าซีด​เซียว

​“​เจ้า​สี่​ ​เรื่อง​นี้​เจ้า​ต้อง​ไป​พูด​กับ​ฮองเฮา​ด้วยตัวเอง​ ​เมื่อ​รู้​ว่า​ฮ่องเต้​ทรง​คิด​เช่นไร​ ​เรา​ถึง​จะ​จัดการ​ได้​!​”

​“​ไม่จำเป็น​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​เย็นชา​ ​“​ความหมาย​ของ​ฮ่องเต้​นั้น​ชัดเจน​อยู่​แล้ว​”

​“​แต่​…​”

​“​ท่าน​แม่​!​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เหนื่อยล้า​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ใน​ใจ​ของ​ท่าน​ยัง​นึกถึง​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​ผู้​ที่​เสด็จ​มาถึง​ก็​เอ่ยปาก​ขอทาน​เอ็น​เนื้อ​ตุ๋น​ผู้​นั้น​…​แต่​นั่น​มัน​เป็นเรื่อง​อดีต​ไป​แล้ว​”

​ไท่ฮู​หยิน​หันหน้า​หนี​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร

​มีสาว​ใช้​เปิดม่าน​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​ทั้ง​สาม​คน​ตกใจ

​ไท่ฮู​หยิน​รีบ​พูด​ ​“​รีบ​เชิญ​นาง​เข้ามา​เร็ว​เข้า​”

​สตรีที​่​สวม​ชุด​สีขาว​พระจันทร์​ก็​เดิน​เข้ามา

​“​พี่สะใภ้​สอง​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ทักทาย​นาง

​“​น้อง​สะใภ้​สี่​”​ ฮู​หยิน​สอง​พยักหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​“​อี๋​เจิน​ ​เจ้า​กลับมา​แล้ว​หรือ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ข้างหลัง​นาง​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เล่า​ ​ไม่ได้​กลับมา​กับ​เจ้า​ด้วย​หรือ​”

​“​ข้า​ได้ยิน​ข่าวลือ​จึง​รีบ​กลับมา​เจ้าค่ะ​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ ​“​กลัว​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ตกใจ​จึง​ให้​นาง​อยู่​ที่​เขา​ซี​ซาน​”

​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​มานั​่​งบน​เตียง​เตา​เร็ว​ ​อากาศ​หนาว​ ​ระวัง​จะ​เป็นหวัด​เอา​ได้​”

ฮู​หยิน​สอง​เดิน​เข้าไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา

​สือ​อี​เหนียง​ไป​ชงชา​เข้ามา

ฮู​หยิน​สอง​ก็​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​…​ข้า​คิด​อยู่​ทั้งคืน​ ​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​สกุล​โอว​อย่างแน่นอน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยก​ชา​ให้​นาง​ ​นาง​เอ่ย​ขอบคุณ​แล้ว​พูด​ต่อ​ ​“​หาก​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​สกุล​เรา​ ​พวกเขา​คือ​คนที​่​จะ​ได้รับ​ผลประโยชน์​มาก​ที่สุด​”

​“​เหมือน​ที่​พี่สะใภ้​สอง​พูด​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เล่าเรื่อง​ราว​ให้ฮู​หยิน​สอง​ฟัง​ ​“​มี​ข่าวลือ​มากมาย​ ​ตอนนี้​แม้แต่​ใน​พระราชวัง​ก็​ล่วงรู้​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พึ่ง​จะ​กลับมา​จาก​พระราชวัง​”​ ​จากนั้น​ก็​เล่า​เหตุการณ์​ที่​สือ​อี​เหนียง​เจอ​ใน​พระราชวัง​ให้ฮู​หยิน​สอง​ฟัง​

​“​มือ​เท้า​ของ​สกุล​โอว​ช่าง​เร็ว​เสีย​จริง​”​ ฮู​หยิน​สอง​พึมพำ​ ​“​ซื้อ​เด็ก​กลับ​ไป​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​รอ​ให้​เขา​โต​แล้ว​ค่อย​พาก​ลับ​มา​…​ถึง​ตอนนั้น​ ​องค์​ชาย​สอง​สาม​พระองค์​ก็​โต​เป็นผู้ใหญ่​แล้ว​…​การกระทำ​ของ​สกุล​โอว​ไม่เพียงแต่​เลวร้าย​ ​แล้วยัง​ไม่ใช่​แค่​ระยะสั้น​ ​กลัว​ว่า​พวกเขา​จะ​มีแผน​อื่นๆ​ ​ที่​เรา​ไม่รู้​ ​ท่าน​โหวต​้​อง​ระวังตัว​นะ​เจ้า​คะ​!​”

​หมายความว่า​สกุล​โอว​ต้องการ​จะ​แย่งตำแหน่ง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เย็นชา​ ​“​ข้า​ประมาท​เอง​!​ ​ครั้งนี้​หาก​ไม่ใช่​เพราะว่า​คน​ของ​สกุล​หวัง​จับตามอง​คน​ของ​สกุล​โอว​อยู่​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ​เกรง​ว่า​เรา​คงจะ​ยัง​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​”

​“​นี่​คือ​วาสนา​ของ​ท่าน​โหว​ ​ทำให้​แผนการ​อัน​ชั่วร้าย​ของ​สกุล​โอว​ไม่สำเร็จ​ลุล่วง​”​ ฮู​หยิน​สอง​กล่าว​ต่อ​ ​“​เดิมที​เรา​นั้น​อยู่​ใน​ที่​สว่าง​ ​สกุล​โอว​อยู่​ใน​ที่​มืด​อยู่​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​เรา​ต้อง​เสียเปรียบ​พวกเขา​ ​แต่​ตอนนี้​รู้​เจตนา​ของ​สกุล​โอว​แล้ว​ ​ท่าน​โหว​วางใจ​ได้​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​“​พี่สะใภ้​สอง​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​เรื่อง​นี้​ข้า​จะ​พิจารณา​อย่าง​รอบคอบ​อีกครั้ง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​สายตา​ที่​แน่วแน่​ ​“​ทุกคน​ไม่ได้​สู้​กัน​แค่​ระยะสั้น​ๆ​ ​ยัง​มี​เวลา​อีก​มากมาย​”

​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้ามี​แผน​ ​ท่าน​โหว​ลอง​ฟัง​ดูก่อน​เถิด​”​ ​นาง​พูด​พลาง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​รอ​ให้​เขา​ตอบกลับ​

​“​พี่สะใภ้​สอง​มีแผน​อะไร​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอียงหู​ออก​ไป​ ​ทำท่า​ที​ตั้งใจฟังฮู​หยิน​สอง​อย่างจริงจัง

ฮู​หยิน​สอง​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูด​อย่างจริงจัง​ ​“​ไม่​สู้​ท่าน​โหว​ยอมรับ​เลี้ยงเด็ก​คน​นี้​!​”

ฮู​หยิน​สอง​เหลือบมอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​หยุด​พูด

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พูดไม่จา​ ​เขา​ทำ​สีหน้า​ครุ่นคิด

​สือ​อี​เหนียง​หันหน้า​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ทำท่า​ที​คล้อยตาม​เขา​

​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ใน​ห้อง​ก็​เงียบสงัด

​“​ในเมื่อ​ทุกคน​ไม่ได้​สู้​กัน​ใน​แค่​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​เรา​ไม่​ควร​ขยาย​สถานการณ์​ให้​กว้าง​เกินไป​”​ ฮู​หยิน​สอง​ทำ​สีหน้า​แน่วแน่​ ​ทำให้​นาง​ดู​มั่นใจ​และ​ใจเย็น​ ​นาง​พูด​ช้าๆ​ ​“​หาก​เรา​อธิบาย​ ​คนอื่น​อาจจะ​สงสัย​ว่า​เรา​แก้ตัว​ ​หาก​เรา​แก้ตัว​ ​มัน​ก็​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​โหว​ ​จากนั้น​ก็​เกี่ยวข้อง​กับ​คุณชาย​ห้า​ ​แล้วยัง​มีเรื่อง​ของ​หลิ่ว​ฮุ่ย​ฟัง​ ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ ​ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ที่​ทำให้​ผู้คน​วิพากษ์วิจารณ์​ ​เกรง​ว่า​มัน​จะ​ทำให้​ตุลาการ​แพร่ข่าว​ลือ​ออกมา​มากกว่า​เรื่อง​ที่​ท่าน​โหว​มีบุ​ตร​นอกสมรส​เสียอีก​ ​หาก​เรา​ทำให้​ข่าวลือ​สงบ​ลง​ได้​ ​ก็​เกรง​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​คิด​ว่า​สกุล​สวี​มีอำนาจ​มากเกินไป​ ​แต่​หาก​เรา​ทำให้​ข่าวลือ​สงบ​ลง​ไม่ได้​ ​ก็​เกรง​ว่า​สกุล​โอว​จะ​มีท​่า​ที่​เย่อหยิ่ง​กว่า​เดิม​ ​หาเรื่อง​ทำร้าย​สกุล​สวี​ของ​เรา​มากขึ้น​กว่า​เดิม​”

​“​หาก​เรา​ยอมรับ​เด็ก​คน​นี้​ ​หนึ่ง​คือ​เรา​สามารถ​ปิดปาก​ของ​ราษฎร​ได้​ ​สอง​คือ​เรา​สามารถ​เดา​ใจ​ของ​ฮ่องเต้​ ​หาก​ฮ่องเต้​อยู่​ข้าง​เรา​ ​ไม่ว่า​ตุลาการ​จะ​ใส​้​ร้าย​เรา​แค่ไหน​ก็​ทำ​อะไร​เรา​ไม่ได้​ ​แต่​หาก​ฮ่องเต้​ไม่อยู่​ข้าง​เรา​ ​เขา​ถือโอกาส​นี้​ทำให้​เรา​ลำบากใจ​…​”​ ​นาง​หยุด​พูด​แล้ว​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​เรา​จะ​ได้​เตรียมตัว​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​…​เพราะว่า​สกุล​โอว​อยู่ฝู​เจี​้​ยน​ ​แล้วยัง​มีสกุล​หวัง​…​เรา​จะ​นั่ง​รอค​วาม​ตาย​ไม่ได้​ ​ทำให้​ตัวเอง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่นนั้น​ไม่ได้​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ใจเต้น​ ​นาง​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​

​แต่กลับ​เห็น​เขา​ก้มหน้า​อย่างไร​้​ซึ่ง​อารมณ์​ใดๆ​ ​มอง​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่​ออก

​นาง​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​อีกครั้ง

​ไท่ฮู​หยิน​เม้ม​ริมฝีปาก​แน่น​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ซีดเซียว​ยิ่งกว่า​เดิม​

​ใน​ห้อง​บรรยากาศ​ตึงเครียด

​“​พี่สะใภ้​สอง​พูด​ถูก​ขอรับ​”​ ​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เงยหน้า​ขึ้น​มองฮู​หยิน​สอง​ ​“​รอ​ให้​ข้า​คิด​ไตร่ตรอง​ดูก่อน​”​ ​เขา​ยิ้ม​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​พึ่ง​กลับมา​จาก​ซีชาน​ ​คง​ยัง​ไม่ได้​ทานข้าว​เที่ยง​ใช่​หรือไม่​ ​พวกเรา​เอง​ก็​รอสื​ออี​เหนียง​กลับมา​จาก​พระราชวัง​ ​ยัง​ไม่ได้​ทาน​เหมือนกัน​ ​ทุกคน​คงจะ​หิว​กัน​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​เจ้า​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​อาหาร​เข้ามา​เถิด​”​ ​เขา​ทำท่า​ที​เหมือน​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​นี้​อีก

​เสียง​ที่​อ่อนโยน​ของ​เขา​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ผ่อนคลาย​ลง

​สือ​อี​เหนียง​ย่อเข่า​คำนับ​ ​เรียก​สาวใช้​ยก​อาหาร​เข้ามา​ ​นาง​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ของฮู​หยิน​สอง​ดัง​มาจาก​ข้างหลัง​ ​“​ท่าน​โหว​รอบคอบ​มาก​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​หิว​แล้ว​จริงๆ​”

​*****

​กลับมา​ที่​เรือน​ ​สือ​อี​เหนียง​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เงียบๆ

​“​เป็น​อะไร​ ​ไม่พูดไม่จา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลูบ​หัว​นาง

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​สับสน​อยู่​ ​จึง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ดี

​“​กลัว​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่นา​งด​้ว​ยสาย​ตา​ที่​ลึกซึ้ง

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ไม่ได้​กลัว​ ​แต่​กังวล​มากกว่า​…​สักพัก​นาง​ก็​ส่ายหน้า​ ​จะ​บอกว่า​ไม่​กลัว​ก็​ไม่ใช่​ ​เพราะ​เมื่อ​ครู่​ตอน​ทานข้าว​ ​ตน​มือ​สั่น​อยู่​ตลอด​…​จึง​พยักหน้า​อีกครั้ง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ

​ดึง​นาง​เข้ามา​กอด​ไว้​ใน​อ้อมแขน

​“​ไม่ต้อง​กลัว​ ​ข้า​รู้ดี​”​ ​เขา​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ปลอบใจ​นาง​แปลก​ๆ​ ​จึง​พูด​อีกว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​พูด​ถูก​ ​แต่​ไม่ได้​ถูก​ทั้งหมด​ ​หาก​ฮ่องเต้​ไม่อยู่​ข้าง​เรา​ ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ก็​จะ​ยุ่งยาก​ ​แต่​หาก​ทำ​เหมือน​ที่​พี่สะใภ้​สอง​บอก​ ​มัน​ก็​เสี่ยง​เกินไป​ ​วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​ก็​คือ​หาทาง​ให้​ฮ่องเต้​ทรงอยู่​ข้าง​เรา​…​”

​สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความตกใจ

​เรื่อง​นี้​พูด​ง่าย​ ​แต่​มัน​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​จะ​มีคำ​พูด​ที่ว่า​ ​‘​เสร็จ​นา​ฆ่า​โค​ถึก​ ​เสร็จ​ศึก​ฆ่า​ขุนพล[1]’​ ​ได้​เช่นไร​!

​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ไม่​อยาก​ให้​สกุล​สวี​มีอำนาจ​มากเกินไป​”​ ​เขา​พูด​เบา​ลง​ ​“​หาก​เรา​สามารถ​ทำให้​ฮ่องเต้​เลิก​หวาดกลัว​เรื่อง​นี้​ไป​ได้​ ​เรา​ก็​จะ​เอาชนะ​การ​โจมตี​ของ​สกุล​โอว​ได้​”​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เคร่งขรึม​ ​“​คำพูด​ของ​พี่สะใภ้​สอง​เตือน​ข้า​ ​ฮ่องเต้​กลัว​ขุนนาง​ที่​มี​ความสามารถ​ ​ไม่ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ย่อม​ได้เปรียบ​เป็น​ที่สุด​ ​และ​วางใจ​ขุนนาง​บริสุทธิ์​ที่​ทำตาม​กฎเกณฑ์​เป็น​ที่สุด​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​สกุล​โอว​จะ​ทำให้​เรา​สะดุด​ล้ม​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ให้โอกาส​เรา​ได้​แสดงความสามารถ​”

​“​ท่าน​โหว​หมายความว่า​…​”​ ​แค่​ช่วง​เช้า​ ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ตั้ง​มากมาย​ ​สือ​อี​เหนียง​กังวล​ ​นาง​ยังคง​ตกใจ​อยู่​กับ​คำพูด​ของฮู​หยิน​สอง​ ​สมอง​ของ​นาง​หยุดชะงัก​ชั่วคราว

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เหมือนกับ​ที่​พี่สะใภ้​สอง​พูด​ ​หาก​เรา​แก้ตัว​เรื่อง​เด็ก​ต่อหน้า​ทุกคน​ ​หรือว่า​ใช้​ความสัมพันธ์​ที่​เรา​มีมา​หลาย​ปี​ใน​การ​หยุด​ข่าวลือ​ ​มัน​จะ​ทำให้​ฮ่องเต้​ไม่​วาง​พระทัย​ ​ในทางกลับกัน​ ​หาก​เรา​ไม่​ทำ​อะไร​ ​สกุล​โอว​อาจจะ​คิด​ว่า​เรา​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ ​แล้ว​ทำการ​เคลื่อนไหว​ครั้ง​ใหญ่​ขึ้น​อีก​ ​ฮ่องเต้​ทรง​กลัว​ว่า​สกุล​สวี​จะ​ยิ่งใหญ่​ ​เขา​จะ​ปล่อย​ให้​สกุล​โอว​ทำสำเร็จ​ได้​เช่นไร​ ​เพื่อ​รักษา​ความสัมพันธ์​ที่​สมดุล​นี้​เอาไว้​ ​เขา​จะ​ต้อง​อยู่​ข้าง​เรา​แน่นอน​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​หรี่​ตาลง​แล้ว​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​“​หาก​เรา​จัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​อย่างเรียบร้อย​ ​บางที​เรา​อาจจะ​ไม่ต้อง​ลำบาก​อีกต่อไป​…​”

——————–

[1]เสร็จ​นา​ฆ่า​โค​ถึก​ ​เสร็จ​ศึก​ฆ่า​ขุนพล ​สำนวน​หมายถึง​ ​สิ่ง​ที่​ทำประโยชน์​ให้​กับ​ตัว​มา​เก่า​ก่อน​ ​พอ​หมด​ประโยชน์​ไม่จำเป็น​ต้อง​ใช้​ก็​ไม่​ดูแล​ซ้ำ​ผลักไส​ ​สิ่ง​ที่​เคย​ทำ​มาก​็​หมด​ความหมาย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท