ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-1

ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-1

“เฮ้อ”

อินซอบถอนหายใจทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง

คงไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหม ก็อีกฝ่ายไม่ได้ทำตัวเย็นชา หลีกเลี่ยงการแตะเนื้อต้องตัว หรือบอกเลิก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทำตัวอ่อนโยนมาก

“ไม่เป็นไร จะต้องไม่เป็นไร”

อินซอบพึมพำเบาๆ

แม้เขาจะอดทนอย่างสุดความสามารถ แต่เขากลับรู้สึกไม่ดีอยู่ตลอดเวลา การคบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ต้องใช้ความกล้ามากกว่าที่คิด

ในตอนที่เขาตัดสินใจตามอีอูยอนมาที่เกาหลี เขาไม่เพียงแต่รู้สึกดีใจเท่านั้น แต่ยังรู้สึกกลัวมากด้วย เขากลัวมากกว่าตอนที่ตัดสินใจว่าจะแก้แค้นจนเอาตัวไปนั่งบนเครื่องบินเสียอีก เพราะตอนนั้นเขาเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างจบลง เขาจะไม่เป็นไร ทว่าการมาเกาหลีครั้งนี้ต่างออกไป เมื่อทุกอย่างจบลง เขาจะรับสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นได้หรือไม่

“…ไม่เป็นไร”

อินซอบกำเสื้อคลุมตัวนอกของอีอูยอนด้วยมือที่สั่นเทา และนึกถึงช่วงเวลาที่ได้เจอกับอีอูยอนครั้งแรกหลังจากกลับมาที่เกาหลีอีกครั้ง

อีกฝ่ายจับข้อมือของอินซอบลากไปโดยไม่มีแม้แต่คำพูดที่ว่า ‘ขอบคุณที่กลับมา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ’ ด้วยซ้ำ แม้จะถามอีกฝ่ายว่าจะไปที่ไหน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา อีอูยอนพรมจูบเขาทันทีที่ขึ้นมาบนรถที่จอดอยู่ในลานจอดรถ พวกเขาจูบกันอย่างเร่าร้อน รีบเร่ง และลึกซึ้งโดยไม่คิดด้วยซ้ำว่าอาจจะมีใครเห็น

ตอนที่ได้สติ เวลาก็ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว พอพวกเขาหยุดจูบและสบตากัน อีอูยอนก็หัวเราะ ความกลัวที่ลืมเลือนไปถาโถมเข้ามาอีกครั้งในตอนที่ได้เห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายนั้นเอง

ถ้าความรักครั้งนี้จบลง เราจะเป็นยังไง…

แม้อาจจะฟังดูน่าหัวเราะเยาะว่าโง่เง่า แต่อินซอบก็อ่านหนังสือทฤษฎีเกี่ยวกับความรักมานับสิบเล่มก่อนที่จะมาเกาหลี เช่น ‘วิธีรักษาความสัมพันธ์ให้ยาวนาน’ ‘ทฤษฎีการคบกันอย่างมีความสุข’ ‘การคบที่ไม่มีวันเลิก’ ‘แค่อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักได้’

เขาเรียบเรียงส่วนที่ขีดเส้นใต้ไว้เพื่อท่องจำโดยเฉพาะและศึกษาเกี่ยวกับมัน

สถิติบอกว่ายิ่งเป็นคนที่พึ่งตัวเองได้ และเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันมากเท่าไร ระยะเวลาที่คบกันก็จะยาวนานขึ้นเท่านั้น พอเห็นดังนั้นอินซอบก็ตัดสินใจที่จะไม่อยู่ด้วยกัน และออกมาอยู่ด้วยตัวเอง เขาอยากเลี่ยงตัวเลือกที่ทำให้เกิดผลลบในการคบกันโดยไม่มีเงื่อนไข ถึงอีอูยอนจะชวนให้อยู่ด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ส่ายหัวอย่างดื้อรั้นด้วยกลัวว่าจะเลื่อนตอนจบที่ไม่ดีให้เกิดเร็วขึ้น

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยทะเลาะกันหลังจากที่มาที่เกาหลี บางครั้งอีอูยอนก็โมโหด้วยเหตุผลที่เขาไม่เข้าใจ แต่เขากลับไม่เคยสงสัยในความรักของอีกฝ่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเชื่ออย่างนั้น และคิดว่าต่อให้ไม่เข้าใจหรือรู้สึกเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีการโกหกที่จะทำให้เสียใจแน่นอน

“ถ้าพยายาม ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”

อินซอบพูดปลอบใจตัวเองซ้ำๆ

ปัญหาก็คือเขาจับจุดไม่ถูกเลยว่าจะต้องพยายามแบบไหน

ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขาจะตั้งใจเรียน

อินซอบเงยหน้ามองจอแสดงหมายเลขชั้นของลิฟต์ด้วยสีหน้าเซื่องซึมและหมุนตัวไป เขาคิดว่าจะเดินขึ้นไปพลางออกกำลังกายไปด้วย ขณะที่เปิดประตูฉุกเฉิน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น วินาทีที่เห็นชื่อบนหน้าจอ อินซอบก็ทำตาลุกวาว ยุนอารึม เธอแทบจะไม่โทรศัพท์หาเขาก่อนเลยด้วยซ้ำ

“ฮัลโหล ชเวอินซอบครับ”

เขารีบโทรศัพท์ ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้นตึกตักด้วยกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกแมว

[รีบรับทันทีเลยนะคะ ตอนนี้สะดวกคุยหรือเปล่าคะ]

“ครับ ได้ครับ มีอะไรเหรอครับ”

อินซอบเอ่ยตอบขณะที่จงใจเดินขึ้นบันไดช้าๆ

[พวกเด็กๆ ได้คนรับเลี้ยงแล้วค่ะ อาเธอร์กับไอแซก ทั้งสองตัวเลยค่ะ]

“จริงเหรอครับ ได้ยังไงครับ”

[ดูเหมือนว่าพ่อจะไม่ยอมยกเด็กๆ ให้ใครเลยค่ะ ขนาดตอนเลือกคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยยังไม่ยุ่งยากขนาดนี้เลยนะคะ…]

เขาเอ่ยถามอย่างตกใจ เพราะจำข้อความที่ยุนอารึมส่งมาเมื่อไม่นานมานี้ได้อย่างแม่นยำ

[ดูเหมือนไม่ว่ายังไงท่านก็ไม่ยอมยกให้คนที่ไม่รู้จักเด็ดขาด ก็เลยเลือกคนที่รู้จักและติดต่อส่งโปรไฟล์ของเด็กๆ ไปให้ดูด้วยตัวเองถึงตัดสินใจได้ค่ะ ได้ยินว่าท่านถึงขนาดไปเยี่ยมครอบครัวนั้นคนเดียวเลยนะคะ อ้อ อาเธอร์กับไอแซกจะไปบ้านเดียวกันค่ะ]

“ดีครับ ดีจริงๆ”

[ในเมื่อคุณพ่อเลือกเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไรนะคะ ส่วนจอห์นกับโลอิสจะอยู่ต่ออีกสักพักแล้วค่อยยกให้คนอื่นค่ะ]

“ขอบคุณครับ ขอบคุณคุณพ่อด้วยนะครับ”

อินซอบก้มหัวขอบคุณอากาศว่างๆ

[…แต่มีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ]

ยุนอารึมพูดต่อหลังจากถอนหายใจไปเฮือกหนึ่ง

[เพราะคุณพ่อไม่อยากปล่อยเด็กๆ ไปถึงได้เอาแต่ปฏิเสธความจริงอยู่เรื่อย แล้วก็เพิ่งมาบอกวันนี้เองค่ะว่าจะพาเด็กๆ ไปพรุ่งนี้แล้ว]

“ครับ? พรุ่งนี้เหรอครับ”

[จะทำยังไงกับคุณพ่อดีคะ วันนี้ท่านเอาแต่กอดพวกเด็กๆ ไว้ และไม่ยอมออกจากห้องทั้งวันเลย เอาเป็นว่าวันนี้คุณพอจะมีเวลาว่างไหมคะ]

“วันนี้เหรอครับ”

[ค่ะ คิดว่าคุณควรจะมาเจอพวกเด็กๆ นะคะ พวกคนที่รับเลี้ยงเขากลับไปอยู่บ้านนอกน่ะค่ะ ก็เลยขึ้นมารับจากต่างจังหวัด]

นั่นหมายความว่าถ้าไม่ใช่วันนี้ เขาก็จะเจออาเธอร์กับไอแซกอีกครั้งได้ยากแล้ว แม้ยุนอารึมจะเป็นคนช่วยเหลือแมวและรับเลี้ยงเอง แต่อินซอบกลับรู้สึกว่านี่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองทั้งหมด

“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปวันนี้ครับ”

[ห้ามซื้อของขวัญมาเด็ดขาดเลยนะคะ พ่อบอกว่าถ้าซื้ออะไรมาอีกจะไม่ให้ข้าวแล้ว]

ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมแมว อินซอบมักจะซื้อของขวัญไปด้วยจนเต็มไม้เต็มมือทุกครั้ง เขาอยากจะตอบแทนอะไรสักอย่าง เพราะได้รับกับข้าวมาจากแม่ของยุนอารึม

“แต่…”

[เดี๋ยวเจอกันนะคะ ฉันจะไปจัดการของที่จะต้องส่งไปวันพรุ่งนี้นิดหน่อย]

อินซอบวางสายเมื่อกล่าวขอบคุณจบ และมองหน้าต่างตรงบันไดที่เชื่อมไปยังทางเดิน อากาศดีเหมาะสำหรับการเดทจริงๆ

“…คงต้องเก็บไว้คราวหน้าซะแล้ว”

เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า และกลืนความเสียดายลงไป โชคดีที่เขาไม่ได้คุยเรื่องไปกินข้าวกับอีอูยอน เพราะเขาไม่สามารถเลื่อนนัดได้อีกแล้ว หลังจากที่เลื่อนไปคราวก่อน

อินซอบตั้งใจว่าจะแวะไปยืมหนังสือเกี่ยวกับความรักที่ห้องสมุดในระหว่างทางกลับบ้านก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป พอเข้ามาในออฟฟิศ ผู้ช่วยโจก็ทักทายอินซอบ

“คุณอินซอบมาด้วยเหรอคะ”

“สวัสดีครับ คุณผู้ช่วย”

“ถึงฉันจะดีใจที่ได้เห็นหน้าคุณอินซอบก็เถอะนะ แต่จะมาให้ยุ่งยากทำไมทุกครั้งล่ะคะ”

ผู้ช่วยโจยิ้มอย่างอบอุ่นพร้อมกับยื่นตารางงานของอีอูยอนให้

ตารางงานเกือบทั้งหมดของนักแสดงระดับอีอูยอนจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าหนึ่งเดือน แม้จะสามารถแทรกการสัมภาษณ์ หรืองานเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปได้ แต่งานที่สำคัญๆ ส่วนใหญ่จะถูกนัดหมายไว้ก่อนหน้าแล้ว

“นอกจากงานในช่วงเช้าวันพฤหัสหน้าที่ถูกเลื่อนออกไปก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”

“วันพฤหัสเหรอครับ”

อินซอบหยิบสมุดโน้ตออกมาดู เพราะคิดว่าตัวเองจำผิด ตารางงานของวันพฤหัสที่แล้วก็โดนเลื่อนออกไปเหมือนกัน

“ค่ะ คุณอีอูยอนขอร้องไม่ให้ลงตารางงานในช่วงเช้าวันพฤหัสไปสักพักน่ะค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ผมจะลองเช็กดูแล้วจะมาบอกนะครับ เรื่องนี้ผมก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเหมือนกัน”

เขาย้ายเวลาออกกำลังกายเหรอ

อินซอบเอียงคอพลางเก็บสมุดโน้ตใส่กระเป๋า

“ดูเหมือนตารางงานวันนี้จะเสร็จเร็ว ไม่ไปที่ดีๆ เหรอคะ”

“วันนี้…”

เสียงที่ได้ยินตรงทางเข้าเรียกให้อินซอบที่กำลังจะตอบหันหน้าไปมอง

“จะมาทำแบบนี้ที่นี่ไม่ได้นะครับ”

พนักงานรักษาความปลอดภัยทำหน้าไม่พอใจ และขวางผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้

“ทำไมจะไม่ได้ มีอะไรที่ไม่ได้เหรอ ฉันมาหาคนที่ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นเลยเหรอ แค่ขอให้เรียกอีอูยอนให้หน่อยเท่านั้นเอง มีอะไรไม่ได้กันล่ะ!”

สีหน้าของอินซอบซีดเผือด

“คังยองโมไม่ใช่เหรอ เขามาหาคุณอีอูยอนทำไม”

ผู้ช่วยโจทำหน้ารังเกียจพลางกระซิบกระซาบกับอินซอบ ส่วนอินซอบกลับตัวแข็งเป็นน้ำแข็งจนไม่สามารถตอบอะไรได้

ทำยังไงดี ทำไมคนคนนั้นถึงมาที่นี่ล่ะ ก่อนอื่นต้องบอกอีอูยอนไม่ให้มาที่ออฟฟิศ ไม่สิ ถ้าติดต่อไป เขาน่าจะมาทันทีแน่…

ระหว่างที่กำลังทำอะไรไม่ถูก อินซอบก็สบตากับคังยองโม

“เฮ้ย! นาย!”

คังยองโมจำอินซอบได้จึงเดินเข้ามาหาด้วยแววตาน่าหวาดหวั่น อินซอบชะงักและพยายามจะถอยหนี แต่นั่นก็เป็นหลังจากที่คังยองโมเข้ามาใกล้แล้ว

“อีอูยอนอยู่ไหน พาเขามาเดี๋ยวนี้”

“ตะ ตอนนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ครับ”

อินซอบตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเทา การมองเห็นของเขาสว่างวาบ คังยองโมตบหัวของอินซอบอย่างแรง บรรดาคนที่มองอยู่กลั้นหายใจดังเฮือก

“ไม่อยู่ที่นี่อะไรล่ะ ฉันเห็นว่ารถจอดอยู่หรอกถึงได้ขึ้นมา”

“เขากลับบ้านไปก่อนแล้วครับ”

อินซอบตอบอย่างใจเย็นและสุขุมที่สุดเท่าที่จะทำได้ คังยองโมแย่งเสื้อคลุมตัวนอกที่อินซอบถืออยู่ในมือมากางออก

“นี่เสื้อนายเหรอ ไซซ์มันใหญ่เกินกว่าที่นายจะใส่ไปไหนมาไหนหรือเปล่า”

“…”

“ฉันยังพูดดีๆ อยู่นะ นี่นายเมินฉันเหรอ”

คังยองโมตะโกนเสียงดัง และโยนเสื้อคลุมตัวนอกใส่หน้าอินซอบ

“ถ้าทำแบบนี้ ฉันจะเรียกตำรวจนะคะ”

แม้ผู้ช่วยโจจะลุกขึ้นมาพยายามห้ามคังยองโมไว้ แต่ก็เปล่าประโยชน์

“ตำรวจเหรอ เรียกเลย ถ้าเรียกตำรวจมาใครจะดูแย่กว่ากันล่ะ”

อินซอบส่ายหน้าให้ผู้ช่วยโจ ถ้าตำรวจเข้ามาเอี่ยวก็มีแต่จะทำให้เรื่องราวใหญ่โตมากขึ้นเท่านั้น

“ผมจะพาไปที่ห้องประชุมด้านในก่อนนะครับ”

ก่อนอื่นเขาจะต้องพยายามทำให้คังยองโมไม่เจออีอูยอน อินซอบซ่อนมือที่สั่นระริกไว้ข้างหลัง และพูดอย่างใจเย็นที่สุด คังยองโมแสยะยิ้ม

“ฉันสั่งให้เรียกอีอูยอนมา อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำๆ นะ”

“เมื่อคุณเข้าไปรอด้านในแล้ว ผมจะติดต่อกรรมการผู้จัดการ…”

คังยองโมเงื้อมือขึ้นก่อนที่อินซอบจะพูดจบ เมื่อเห็นอินซอบตกใจห่อไหล่ คังยองโมก็หัวเราะคิกคักพร้อมกับแตะแก้มเขาเบาๆ คล้ายจะดันออก

“กลัวเหรอ ทำไมนายถึงยุ่งไม่เข้าเรื่องอย่างนี้ล่ะ กรรมการผู้จัดการคิมไม่ได้สั่งสอนพวกผู้จัดการส่วนตัวเหรอ”

เนื่องจากทุกคนต่างรู้ถึงชื่อเสียงแย่ๆ ของคังยองโมดี คนที่อยู่ในออฟฟิศจึงไม่สามารถออกตัวสุ่มสี่สุ่มห้าได้

“ฉันจะไม่พูดเยิ่นเย้อแล้ว ไปพาอีอูยอนมา”

มือที่ตบเบาๆ ในตอนแรกค่อยๆ แรงขึ้นทีละนิด แปะ แปะ เสียงฟาดที่ชวนให้อารมณ์ไม่ดีดังขึ้นในออฟฟิศ อินซอบกัดริมฝีปากแน่น แม้เขาจะไม่เจ็บเท่ากับที่โดนต่อยก่อนหน้านี้ แต่ความรู้สึกว่าโดนดูถูกก็ตีตื้นขึ้นมา

“ต้องบอกผมก่อนครับว่ามีธุระอะไร”

อินซอบกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดความสามารถ เขาไม่สามารถร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องปกปิดเรื่องนี้ไว้ทุกวิถีทางในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของอีอูยอน

“คนดูอยู่เยอะนะครับ ถ้าทำแบบนี้ที่นี่ มันจะไม่ดีกับตัวคุณคังยองโมเอง รบกวนด้วยครับ”

เมื่อเห็นอินซอบไม่สะทกสะท้าน รูปปากของคังยองโมก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ จากนั้นกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างก็โผล่เข้ามาในครรลองสายตา คังยองโมผลักอินซอบออกไปก่อนจะหยิบกาแฟขึ้นมา อินซอบหลับตาแน่นด้วยความตกใจและหันหน้าไปด้านข้าง แต่สถานการณ์ที่เขาคาดการณ์ไว้กลับไม่เกิดขึ้น แม้จะผ่านไปสักพักแล้วก็ตาม

รอบข้างเงียบจนเกินไป ความเงียบราวกับจะทำให้หายใจไม่ออกทำให้อินซอบค่อยๆ หันหน้ากลับมา

“…”

กาแฟส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว อีอูยอนซึ่งโดนกาแฟสาดใส่ยืนอยู่ตรงนั้น แม้จะโดนสาดกาแฟใส่ แต่เขาก็ไม่นิ่วหน้า หรือโกรธเลยสักนิด นี่เป็นภาพที่เงียบสงบจนถ้าใครตะโกนขึ้นมาว่า ‘คัท’ ก็คงจะเชื่อว่านี่เป็นแค่ฉากหนึ่งของภาพยนตร์ หรือโฆษณาไปแล้ว

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท