สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – บทที่ 306 ปีศาจคลั่งหลานชาย (1)

บทที่ 306 ปีศาจคลั่งหลานชาย (1)

ไท่​จื่อ​ที่อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​กำลัง​เรียน​วิชา​สุดท้าย​ของ​เขา​ใน​วันนี้

อันที่จริง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​สอน​ได้ดี​มาก​ ​ความหมาย​ลึกซึ้ง​แต่​ใช้​ภาษา​ที่​เรียบง่าย​ ​อ้างอิง​ตำรา​มากมาย​หลากหลาย​ ​ไม่น่า​เบื่อ​เลย​สักนิด​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​การสอน​ของ​บัณฑิต​หาน​แล้ว​ ​นี่​สดใส​และ​เข้าใจง่าย​ยิ่งกว่า

ไม่ได้​หมายความว่า​ความรู้​ความสามารถ​ของ​บัณฑิต​หาน​สู้​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ไม่ได้​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​มี​เด็กน้อย​ตัวแสบ​อยู่​ที่​บ้าน​ ​ยาม​สอน​เสิ​รม​ให้​พวกเขา​ ​หาก​เจอ​เนื้อหา​ซับซ้อน​เพียง​นิดหน่อย​ ​เจ้า​สาม​แสบ​ก็​จะ​พากับ​เหม่อลอย

ส่วน​ไท่​จื่อ​เอง​ก็​เหม่อลอย​อยู่​บ่อย​เช่นกัน​ ​เพราะ​ยาม​เห็น​ใบหน้า​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ก็​อด​นึกถึง​เซียว​เหิง​ที่​จาก​โลก​นี้​ไป​แล้ว​ไม่ได้​

“​ไท่​จื่อ​ ​โปรด​แปล​ใจความ​ประโยค​เมื่อ​ครู่​ด้วย​”​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​เรียก​สติ​ที่​ล่องลอย​ครั้ง​ที่​สิบ​เจ็ด​ของ​ไท่​จื่อ​ขึ้น

ไท่​จื่อ​ชะงัก​ไป​ ​“หืม​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​ทวน​อีก​หน

ไท่​จื่อ​ชะงัก

เมื่อ​ครู่​เขา​ไป​คิดถึง​เซียว​เหิง​เข้า​ ​ได้​ฟัง​ที่​เขา​พูด​ที่ไหน​กัน

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ที่​ยืน​อยู่​บน​แท่น​บรรยาย​ ​วาง​หนังสือ​ลง​และ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ไท่​จื่อ​ไม่เข้าใจ​ ​เช่นนั้น​ข้า​จะ​อธิบาย​อีก​รอบ​”

ไท่​จื่อ​มึนงง​ไป​หมด​ ​ถึง​เวลา​มื้อ​กลางวัน​แล้ว​ ​แต่​เพราะ​ตัวเอง​เอาแต่ใจ​ลอย​จึง​ทำให้​เรียน​เนื้อหา​ไม่​จบ​เสียที​ ​หาก​เป็น​ขุนนาง​บุ๋น​คนอื่น​ป่านนี้​ปล่อย​ให้​เลิกเรียน​ไป​นาน​แล้ว​ ​พวกเขา​ไม่กล้า​ปล่อย​ให้​ไท่​จื่อ​หิว​หรอก

แต่​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ดัน​แข็งทื่อ​ซื่อตรง​ยิ่งนัก​ ​จะ​ต้อง​สอน​ให้​จบ​ให้​ได้

ไท่​จื่อ​จึง​ฝืนทน​ฟัง​จน​จบ

เมื่อ​ตั้งใจฟัง​อย่าง​ถี่ถ้วน​แล้วก็​ยังคง​เก็บเกี่ยว​ได้มา​ไม่น้อย​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​เขา​ก็​แปลความหมาย​ได้​อีก​รอบ​แล้ว

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ถาม​จุดสำคัญ​ที่​เรียน​ไป​ทั้งหมด​ใน​วันนี้​อีก​หน​ ​เดิมที​ไท่​จื่อ​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่ได้​ฟัง​ ​ผลสุดท้าย​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ตอบ​ได้​หมด​เลย​ ​เขา​เอง​ก็​แปลกใจ​เช่นกัน

นี่​เขา​ฟัง​เข้าใจ​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​น่ะ

วิชานี​้​เขา​เอาแต่ใจ​ลอย​ไปหา​เซียว​เหิง​ตลอด​เลย​มิใช่​รึ

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เอ่ย​อย่าง​ไม่​รีบ​ไม่​ร้อน​ ​“​วันนี้​พอ​แค่นี้​ ​ไท่​จื่อ​โปรด​จด​การบ้าน​ด้วย​”

“​มี​การบ้าน​ด้วย​รึ​”​ ​ไท่​จื่อ​ขมวดคิ้ว​มอง​เขา​ ​บังอาจ​นัก​ ​แก่กล้า​มาจาก​ไหน​กัน​ ​ก็​แค่​มาสอน​ชั่วคราว​เท่านั้น​ ​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​อาจารย์​ของ​ไท่​จื่อ​จริงๆ​ ​น่ะ​รึ

ดีร้าย​อย่างไร​ไท่​จื่อ​ก็​เป็น​โอรส​สายตรง​ของ​ฮ่องเต้​ ​เป็น​ว่าที่​กษัตริย์​ในอนาคต​ ​เขา​มี​ชาติกำเนิด​ที่​น่าภาคภูมิใจ​ ​เขา​ไม่​ชอบ​ไอ้​เป๋​ที่มา​จาก​ครอบครัว​ยากจน​อย่าง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ ​แน่นอน​ว่า​อาจจะ​เป็น​เพราะ​อารมณ์​ซับซ้อน​ใน​จิตใจ​ที่​มีต​่อ​เซียว​เหิง​ ​ทำให้​เขา​เอา​อารมณ์​บางส่วน​ที่​มีต​่อ​เซียว​เหิง​ไป​โยน​ใส่​เซียว​ลิ่ว​หลัง

เขา​เอ็นดู​เซียว​เหิ​งอย​่าง​นั้น​รึ

แน่นอน​ว่า​เอ็นดู

พี่น้อง​ใน​วัง​หลวง​มีมาก​มาย​ ​แต่ก่อน​ที่​เสี่ยว​ชี​จะ​เกิด​ ​เขา​ไม่มี​พี่น้อง​ที่แท้​จริง​เลย​สัก​คน

พวกเขา​ต่าง​อยาก​จะ​ได้​ตำแหน่ง​ของ​เขา​ ​ต่อหน้า​ประจบ​เอาใจ​เขา​ ​ลับหลัง​กลับ​อิจฉา​และ​สาปแช่ง​เขา

น้องชาย​ที่​เขา​เห็น​เป็น​น้อง​เพียง​คนเดียว​ก็​คือ​เซียว​เหิง

เซียว​เหิง​เป็น​คนที​่​เก่งกาจ​ ​ตอน​เขา​ห้า​ขวบ​กลับ​เรียนหนังสือ​ได้ดี​กว่า​เขา​แท้ๆ​ ​กาพย์กลอน​ก็​ท่อง​ได้​เก่ง​กว่า​เขา​ ​แม้แต่​รูปร่างหน้าตา​ก็​ยัง​รูปงาม​กว่า​เขา​ด้วยซ้ำ

เขา​คิด​ว่านี​่​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เขา​ ​ภายหน้า​ก็​จะ​มา​เป็น​ขุนนาง​ของ​เขา​ ​เก่งกาจ​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​เรื่อง​หนึ่ง

เขา​ไม่เคย​อิจฉา​อีก​ฝ่าย​เลย​ ​จนกระทั่ง​…​เขา​ได้​เจอ​เวิน​หลิน​หลัง

ตอนนั้น​เขา​อายุ​สิบ​สาม​ ​เวิน​หลิน​หลัง​สิบเอ็ด

เขา​ก็​แค่​เป็น​เด็กหนุ่ม​ที่​ยัง​เด็ก​อยู่​ซึ่ง​ผ่าน​โลก​มา​ไม่​มาก​คน​หนึ่ง​ ​ไม่เข้าใจ​เรื่อง​รัก​ๆ​ ​ใคร่​ๆ​ ​ระหว่าง​ชาย​หญิง​ ​แต่​ที่​น่าแปลก​คือ​เมื่อ​เจอ​เวิน​หลิน​หลัง​แวบ​แรก​เขา​ก็​รู้สึก​ว่านี​่​คือ​ไท่​จื่อ​เฟย​ที่​เขา​จะ​สู่ขอ​ในอนาคต

เสด็จ​แม่​มักจะ​เรียก​พวก​ลูกสาว​ขุนนาง​ใหญ่​เข้า​วัง​มา​เป็นเพื่อน​ ​คน​เหล่านั้น​เขา​ไม่​ชอบ​สัก​คน

หาก​จะ​ต้อง​มี​ใคร​สัก​คน​ร่วม​เดิน​ไป​บน​เส้นทาง​สู่​การ​เป็น​ฮ่องเต้​กับ​เขา​แล้ว​ละ​ก็​ ​เขา​หวัง​ว่า​คน​ๆ​ ​นั้น​จะ​เป็น​เวิน​หลิน​หลัง

“​เจ้า​ชื่อ​อะไร​รึ​”

“​ข้า​…​”

“​พี่​หลิน​หลัง​!​”

เซียว​เหิง​น้อย​วัย​แปด​ปี​วิ่ง​มาด​้ว​ยสี​หน้า​ไร้เดียงสา​ ​เอียง​ศีรษะ​น้อย​ๆ​ ​มอง​เวิน​หลิน​หลัง​แล้ว​มอง​มายัง​เขา​ ​“​พี่​ไท่​จื่อ​มา​แล้ว​รึ​ ​ข้า​จะ​แนะนำ​ให้​นะ​ ​นี่​คือ​พี่​หลิน​หลัง​ ​พี่​หลิน​หลัง​นี่​คือ​พี่​ไท่​จื่อ​”

“​ถวายบังคม​ไท่​จื่อ​!​”

นาง​รีบ​คุกเข่า​ลง​คำนับ

จากนั้น​นาง​ก็​จูงมือ​เซียว​เหิง​เดิน​จากไป​ ​เดิน​ไป​พลาง​ยัง​เช็ด​เหงื่อ​เต็ม​หน้าผาก​ให้​เซียว​เหิ​งด​้วย​ ​เขา​ได้ยิน​นาง​กระซิบ​สอน​ว่า​ ​“​อา​เหิง​ต่อไปนี้​อย่า​ไป​ปีน​ต้นไม้​อีก​นะ​ ​อันตราย​นัก​”

“​แต่​ข้า​อยาก​เด็ด​ผลไม้​มา​ให้​เจ้า​กิน​นี่​นา​ ​เจ้า​ชอบ​กิน​มิใช่​หรือ​”

“​แต่​ข้า​ชอบ​ที่​อา​เหิง​สบายดี​มากกว่า​ ​ไม่​อยาก​ให้​อา​เหิ​งบาด​เจ็บ​”

“​อ๋อ​”

พอ​เขา​กลับ​วัง​มาก​็​มาบ​อก​เสด็จ​แม่​ว่า​เขา​ชอบ​พี่​หลิน​หลัง​ของ​อา​เหิง​ ​แต่​เสด็จ​แม่​กลับ​บอก​เขา​อย่างจริงจัง​ ​“​นาง​เป็น​ว่าที่​คู่หมั้น​ของ​อา​เหิง​ ​นาง​เคย​ช่วยชีวิต​อา​เหิง​ไว้​ ​ได้​หมั้น​ได้​หมาย​กัน​ไว้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​เจ้า​เป็น​พี่​ ​จะ​แย่ง​เจ้าสาว​ของ​น้อง​ไม่ได้​”

“​ไท่​จื่อ​ ​ไท่​จื่อ​!​”

เสียง​ของ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ขัด​ความคิด​ของ​ไท่​จื่อ​ขึ้น

ไท่​จื่อ​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ผุด​ซึม​เต็ม​หน้า

เขามอง​เซียว​ลิ่ว​หลัง​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ ​น่ากลัว​เกินไป​แล้ว​ ​คน​ผู้​นี้​เหมือน​เซียว​เหิง​ยิ่งนัก

เสด็จ​พ่อ​คิด​อะไร​อยู่​กัน​นะ

ให้​เขา​มาสอน​ตน​เช่นนี้​ ​ไม่​กลัว​ว่า​ตน​จะ​ฝันร้าย​บ้าง​หรือ​ไร

ไท่​จื่อ​ตั้งสติ​ ​ก่อน​จะ​ยึดมั่น​ใน​กิริยาท่าทาง​ของ​รัชทายาท​และ​ความสุขุม​เยือกเย็น​อัน​ดีงาม​ต่อ​ ​ข่ม​ความใจร้อน​และ​ความไม่สบายใจ​เอาไว้​แล้ว​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​ปกติ​ ​“​การบ้าน​เมื่อครู่นี้​ข้า​จำ​ไม่ได้​ ​รบกวน​เซียว​ซิวจ​้​วน​บอกอี​กรอบ​ที​”

ไท่​จื่อ​อก​มาจาก​ห้อง​หนังสือ​ด้วย​เหงื่อ​ท่วม​ร่าง

พวก​ขันที​และ​นางกำนัล​ที่​ยืน​รอ​อยู่​หน้า​ประตู​รีบ​เดิน​มาหา​ ​แล้ว​ส่ง​ผ้า​กับ​พัด​ให้

โชคดี​ที่​ตอนนี้​เป็นช่วง​ฤดูร้อน​ ​เหงื่อ​ออก​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​แปลก​อะไร

มี​เพียง​ไท่​จื่อ​ที่​รู้อยู่แก่ใจ​ว่าที่​ตัวเอง​เหงื่อ​ออก​นี้​ส่วนมาก​เป็น​เหงื่อ​เย็น​ทั้งสิ้น

เซียว​ลิ่ว​หลัง​เดิน​ออกจาก​ห้อง​หนังสือ​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง

ไท่​จื่อ​กวาดตา​มอง​ไม้เท้า​ของ​เขา​แวบ​หนึ่ง

เซียว​เหิง​หลงตัวเอง​มาก​และ​ไม่สน​ใจ​สายตา​ของ​คนอื่น​ ​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ที่​ฟันหน้า​เขา​ร่วง​ไป​สอง​ซี่​ ​เขา​เอาแต่​ปิดปากเงียบ​ไม่​พูด​กับ​ใคร​ครึ่ง​ปี​เต็มๆ

เขา​ไม่มีทาง​ให้​ตัวเอง​ขา​เป๋​แบบนี้​ได้​หรอก​ ​ต่อให้​เป็น​เขา​ก็​ยอม​นั่ง​รถเข็น​ดีกว่า​มา​เดิน​กะเผลก​ๆ​ ​ใต้​แสงตะวัน​เช่นนี้

ไม่ใช่​เซียว​เหิง​หรอก

เขา​ไม่ใช่

ทาง​ด้าน​ซู​เฟย​ที่นั่ง​เกี้ยว​ออกจาก​ตำหนัก​ฉาง​ชุน

ฮ่องเต้​กำลัง​ตรวจ​ฎีกา​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​จู่ๆ​ ​ได้ยิน​เว​่​ยก​งก​งมา​รายงาน​ว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ซู​เฟย​เสด็จ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ ​“​ตอนนี้​น่ะ​รึ​”

ถึง​มื้อ​กลางวัน​พอดี

ฮ่องเต้​มอง​เซียว​ฮองเฮา​ที่​รอ​เขา​อยู่​ด้าน​ข้าง​แวบ​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​กระแอม​เอ่ย​กับ​เว​่​ยก​งกง​ ​“​ให้​ซู​เฟย​เข้ามา​”

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เว​่​ยก​งกง​สาวเท้า​ออก​ไป

เซียว​ฮองเฮา​ไม่​เอ่ย​อะไร​สัก​คำ​ ​เอาแต่​นั่ง​จิบ​ชา​บน​เก้าอี้​ตรงข้าม​เงียบๆ

ส่วน​ฉิน​ฉู่​อวี​้​กำลัง​เกลือกกลิ้ง​อยู่​บน​พื้น

เขา​กำลัง​ฝึก​วิชา​คางคก​ ​นี่​เป็น​ท่าที​่​เขา​เห็น​ใน​หนังสือ​นิทาน​ในกั​๋​วจื​่อ​เจียน​ของ​พวกเขา​ ​ว่า​กัน​ว่าวิ​ชา​พรรค์​นี้​ร้ายกาจ​มาก​ ​เรียน​สำเร็จ​แล้วก็​จะ​สามารถ​ต่อสู้​กับ​คนชั่ว​ให้​หนี​กระเจิง​ได้

เขา​กำลัง​แสดง​ฝีมือ​ของ​ตัวเอง​ให้​เสด็จ​พ่อ​ดู​อยู่​ ​และ​บอก​กับ​เสด็จ​พ่อ​ว่า​ตัวเอง​ก็​ปกป้อง​คน​ของ​เขา​ได้​เหมือนกัน

แต่​ฮ่องเต้​กลับ​ไม่ได้​คิด​ว่า​ลูกชาย​กำลัง​ฝึก​วรยุทธ์​อยู่​ ​เขา​คิด​แค่​ว่า​ลูกชาย​อ้วน​เกินไป​แล้ว​ ​ควร​ลดน้ำหนัก​แล้ว​ ​กลิ้ง​ไป​กลิ้ง​มาก​็​ถือว่า​เป็นการ​ออกกำลังกาย​ ​จึง​ไม่ได้​ว่า​อะไร​เขา

เดิมที​ซู​เฟย​คิด​ว่า​ห้อง​หนังสือ​มี​แค่​ฮ่องเต้​คนเดียว​ ​ไม่​คิด​ว่า​พอ​เข้าไป​จะ​เห็น​กัน​ครบ​ทั้ง​ครอบครัว​เลย​!​ ​“​ถวายบังคม​ฝ่า​บาท​ ​ถวายพระพร​ฮองเฮา​”​ ​ซู​เฟย​ข่ม​ความ​กระอักกระอ่วน​ใจ​เอาไว้​ ​แล้ว​คำนับ​ให้​ทั้งสอง​คน

เซียว​ฮองเฮา​แย้มยิ้ม

ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​ ​“​เสี่ยว​ชี​”

ฉิน​ฉู่​อวี​้​ที่​กลิ้ง​ไป​ได้​ครึ่งทาง​หันหน้า​มาม​อง​เสด็จ​พ่อ​ตัวเอง​แวบ​หนึ่ง​ ​“​เสด็จ​พ่อ​”​ ​ก่อน​จะ​เห็น​ซู​เฟย​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​เอ๋​ ​กู้​เหนียง​เหนียง​”

เขา​ลุกขึ้น​คำนับ​ให้​ซู​เฟ​ยอย​่าง​เกรงอกเกรงใจ​ ​“​เสี่ยว​ชีคา​รวะ​กู้​เหนียง​เหนียง​”

“​เด็กดี​”​ ​ซู​เฟย​ยิ้ม​เอ่ย

กลิ้ง​ไป​กลิ้ง​มากับ​พื้น​แบบนี้​มัน​ใช้ได้​ที่ไหน​กัน​ ​ฮองเฮา​เรียน​ธรรมเนียม​มารยาท​ไป​ไว้​ใน​ท้อง​วัว​หมด​แล้ว​หรือ​ไร​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​จะ​สั่งสอน​ลูกชาย​เช่นนี้

“​ซู​เฟ​ยมี​ธุระ​อะไร​รึ​”​ ​ฮ่องเต้​ตรัส​ถาม

ธุระ​น่ะ​มี​ ​แต่​จะ​ให้​นาง​พูด​ต่อหน้า​ฮองเฮา​กับ​องค์​ชาย​เจ็ด​ได้​อย่างไร

“​ซู​กง​กง​ ​พา​เสี่ยว​ชี​ออก​ไป​ก่อน​”​ ​เซียว​ฮองเฮา​เอ่ย

นี่​นาง​คิด​จะ​รั้ง​อยู่​ต่อ​รึ

“​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​บ่าว​ไป​เล่น​ลูกหิน​เป็นเพื่อน​ท่าน​ด้านนอก​เอง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ซู​กง​กง​ยิ้ม​บอก

ฉิน​ฉู่​อวี​้​หมู่นี้​ชอบ​เล่น​ลูกหิน​นัก​ ​จึง​ไป​กับ​ซู​กง​กง

“​พวก​เจ้า​ก็​ออก​ไป​ด้วย​”​ ​ฮ่องเต้​ไล่​พวก​นางกำนัล​ที่​พัด​วี​ให้​เขา​กับ​เซียน​ฮองเฮา​อยู่​ใน​ห้อง​ให้​ออก​ไป

“​เพ​คะ​”​ ​พวก​นางกำนัล​ทยอย​กัน​ออก​ไป

เว​่​ยก​งกง​เฝ้า​หน้า​ประตู​ไว้

“​ว่า​มาสิ​ ​เรื่อง​อะไร​รึ​”​ ​ฮ่องเต้​ถาม​กระชับ

ซู​เฟ​ยสี​หน้า​ลังเล

เซียว​ฮองเฮา​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ดูท่า​แล้ว​คง​เป็นเรื่อง​ที่​ข้า​ไม่​สะดวก​ฟัง​ด้วย​ ​เช่นนั้น​ข้า​จะ​มา​เยี่ยม​ฝ่า​บาท​วันหลัง​ก็แล้วกัน​”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท