ตอนที่ 153 การคัดเลือกศิษย์ของเซียนกระบี่ ข้าขอลองหน่อย!
สำนักเซียนกระบี่!
ในฐานะกองกำลังชั้นนำแห่งแคว้นเซียนซึ่งปกครองแผ่นดินที่แสนกว้างใหญ่ ครอบคลุมแนวภูเขาแห่งจิตวิญญาณกว่าสามพันลูก และถือครองแม่น้ำแห่งจิตวิญญาณกว่าแสนสาย!
งานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ของปรมาจารย์เซียนกระบี่จัดขึ้นที่หน้าประตูสำนักเซียนกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้คนได้เป็นล้านคน!
ในเวลานี้ งานประชุมปรมาจารย์เซียนกระบี่ที่จัดขึ้นในรอบพันปีกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ทั่วทั้งพื้นที่หนาแน่นไปด้วยผู้คน เป็นที่ที่ผู้คนนับแสนมารวมตัวกัน และผู้คนก็ยังคงทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ!
“โอ้! งานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ครั้งนี้ผู้คนช่างหนาแน่นเสียจริง!”
ยามนี้ หนิงฝานก็ตามกลุ่มผู้คนมาจนถึงลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยผู้คน ที่พูดคุยและส่งเสียงกดังไปทั่ว!
ในที่สุด เมื่อทั่วทั้งลานประชุมมีผู้มาจนเต็มครบล้านคนแล้ว!
เคร้ง!
หลังสิ้นสุดเสียงสั่นสะเทือนของโลหะ งานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็เริ่มต้นขึ้น!
ฟิ้ว!
ในเวลานี้เอง ปรากฏเหล่ายอดฝีมือเหาะเหินออกมาจากสำนักเซียนกระบี่ ในกลุ่มคนพวกนั้นมีทั้งคนวัยกลางคน คนชรา ผู้หญิงที่สง่างามและอื่น ๆ แม้ว่าคนเหล่านี้จะดูแตกต่างกัน แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันก็คือทุก ๆ คนต่างสะพายกระบี่เอาไว้ด้านหลัง!
สำนักเซียนกระบี่ ก่อตั้งขึ้นด้วยคมกระบี่ ภายในประตูของสำนักไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสหรือศิษย์ล้วนฝึกฝนวิถีกระบี่!
อีกทั้งการฝึกฝนของผู้คนเหล่านี้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นระดับเทพปฐพี พวกเขาล้วนเป็นผู้อาวุโสและศิษย์ของสำนักเซียนกระบี่ และมาที่นี่ก็เพื่อมาดูแลรวมถึงควบคุมงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ในครั้งนี้!
ขวับ!
และแล้วก็มีชายชราผมขาวปรากฏตัวขึ้น หน้าตาแม้จะดูแก่ชรา แต่แววตาเป็นประกายราวแสงจากกระบี่ ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น และเมื่อเซียนกระบี่มาเยือน พลังแห่งกระบี่ปกคลุมไปทั่วลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์นี้!
“ปรมาจารย์เซียนกระบี่มาแล้ว!”
หลังจากที่ชายชราผู้นั้นพูดจบ ผู้คนในลานประชุมต่างโห่ร้องกึกก้องไปทั่ว และทำท่าเคารพต่อเขา!
หนิงฝานเป็นผู้เดียวที่ไม่ได้หมอบลงไป เขามองดูชายชราผมขาวจากทางด้านหลังและขมวดคิ้วแน่น!
พลังปราณของปรมาจารย์เซียนกระบี่นั่นแข็งแกร่งมาก แต่ว่าทั่วทั้งร่างกายกลับอบอวนไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ราวกับว่าเวลาสุดท้ายของชีวิตของเขากำลังมาถึงแล้ว!
“เกรงใจกันเกินไปแล้ว!”
ปรมาจารย์เซียนกระบี่พูดออกมาเบา ๆ
จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ “ทุกท่าน พวกท่านคงจะทราบกันดีไม่มากก็น้อย งานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการรับสมัครศิษย์เพิ่มแล้ว ข้ายังต้องการค้นหาผู้สืบทอดด้วย! ”
“และผู้ที่ต้องการสืบทอดต่อจากข้านั้น มีเงื่อนไขที่ง่ายยิ่ง!”
ขณะปรมาจารย์เซียนกระบี่พูด ภายในมือก็ยกกล่องกระบี่ขึ้นมา กล่องกระบี่นั้นยาวถึงแปดสิบเชียะ และทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยแสงแห่งเซียน!
“นี่คือกระบี่สมบัติของสำนักเซียนกระบี่ กล่องปรมาจารย์เซียนกระบี่! ภายในกล่องมีกระบี่ของสำนักเซียนกระบี่กว่าหนึ่งแสนแปดพันเล่มบรรจุไว้ ภายในของกระบี่เหล่านั้นต่างก็มีจิตวิญญาณอยู่ ไม่ว่าพวกเจ้าจะใช้วิธีการใด ขอเพียงแค่สามารถหยิบกระบี่ขึ้นมาได้เพียงหนึ่งเล่ม ก็จะสามารถเป็นศิษย์ระดับต้นของสำนักเซียนกระบี่ได้ และหากหยิบออกมาได้สิบเล่มก็จะได้กลายเป็นศิษย์สายนอก หากหยิบออกมาได้ร้อยเล่มก็จะได้เป็นศิษย์สายใน หากหยิบได้พันเล่มก็จะได้เป็นศิษย์สายตรง และหากหยิบได้หมื่นเล่มหรือมากกว่า ก็จะได้เป็นผู้สืบทอดต่อจากข้า!”
“กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ข้าได้อธิบายไปหมดแล้ว ต่อจากนี้ก็เริ่มการประเมินได้!”
พรึ่บ!
หลังจากปรมาจารย์เซียนกระบี่พูดจบ ทั้งลานงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ก็เริ่มปะทุขึ้น!
“หา!”
“ไม่คิดว่างานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ในครั้งนี้ จะใช้วิธีการหยิบกระบี่มาเป็นกฎเกณฑ์!”
“หึ ๆ! ขอเพียงแค่สามารถหยิบกระบี่ขึ้นมาได้ ก็สามารถเข้าร่วมเป็นศิษย์สำนักเซียนกระบี่ได้!”
“ฟังดูง่ายเสียจริง!”
“หึ ๆ ข้าทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว!”
“…”
หลังจากที่ผู้คนต่างส่งเสียงพูดคุยกัน ก็มีคนเริ่มต้นการประเมิน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากฎเกณฑ์จะฟังดูง่ายดาย แต่หลังจากที่เหล่าผู้คนได้ลองลงมือทำก็พบว่ามันช่างแสนยากเย็น!
กระบี่ที่อยู่ภายในกล่อง ล้วนก็มีจิตวิญญาณ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถหยิบกระบี่ขึ้นมาได้!
ผู้คนต่างทยอยเข้าไปหยิบกระบี่!
ผู้คนขึ้นไปหยิบกระบี่ทีละคนทีละคน ก่อนที่พวกเขาจะกลับมาทีละคนทีละคนด้วยใบหน้าที่สิ้นหวัง!
หลังจากผ่านไปหมื่นคน
พลันเกิดเสียงดังขึ้น!
ครั้งนี้มีชายหนุ่มที่สามารถหยิบกระบี่แห่งวิญญาณขึ้นมาได้!
“กระบี่หนึ่งเล่ม ได้เป็นศิษย์ฝึกหัด!”
ตามที่ได้พูดเอาไว้ คนผู้นั้นก็รู้สึกดีใจมากที่สามารถเข้าร่วมสำนักเซียนกระบี่ได้สำเร็จ และผู้คนต่างก็รู้สึกอิจฉาเขาตาร้อน!
หลังจากนั้น
ผ่านไปอีกหมื่นคน ก็มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์เพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถหยิบกระบี่ขึ้นมาได้!
คนหนึ่งหยิบได้หนึ่งเล่ม!
คนหนึ่งหยิบได้สิบเล่ม!
จนการประเมินในครั้งนี้ผ่านไปถึงล้านคน อย่างมากที่สุดก็มีหนึ่งคนที่สามารถหยิบกระบี่ออกมาได้ถึงหนึ่งร้อยเล่ม และได้กลายเป็นศิษย์สายในของสำนัก!
หลังจากเห็นเช่นนั้น ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น!
“เฮ้อ! หรือว่าก่อนที่ข้าจะตายจากไป คงจะตามหาผู้ที่สามารถหยิบกระบี่ถึงหมื่นเล่มไม่ได้?
วันของเขาใกล้มาถึงแล้ว อีกทั้งร่ายกายก็ค่อย ๆ อ่อนแอลง …สำนักเซียนกระบี่คงจะอ่อนแอลงมากทีเดียวหลังจากนี้!
ดังนั้นเขาจึงรีบเร่งที่จะหาผู้ฝึกกระบี่ และใช้มรดกกับพลังของตัวเองเพื่อฝึกฝน ปรมาจารย์เซียนองค์ใหม่!
“ข้าขอลองหน่อย!”
ทันใดนั้น เสียงสูงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เห็นกลุ่มชายหญิงกัาวออกมาข้างหน้า ผู้ชายดูสง่างาม ผู้หญิงดูกล้าหาญและแข็งแกร่ง!
โดยเฉพาะคนวัยกลางคนที่ใส่เสื้อคลุมสีม่วง มีรอยเต๋าอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของเขา ใบหน้าเคร่งขรึม ท่าทีดูมั่นใจ ทั่วร่างกายแผ่กลิ่นอายแห่งเทพสวรรค์ออกมา!
“หืม? รอยระหว่างคิ้วนั่น! หรือว่าเจ้าคนจะจากจากหนึ่งในแปดหมู่ตึก หมู่ตึกชั้นฟ้า…. เยี่ยอู๋เต้า?”
“อืม! ใช่แล้ว! คือเขานั่นเอง!”
“เหล่าคนที่อยู่ข้างหลังของเขา ก็คือศิษย์จากหมู่ตึกเต๋านภา หมู่ตึกปีศาจโบราณ หมู่ตึกเทียนสิง หมู่ตึกต้วนสุ่ย และหมู่ตึกสะพานสวรรค์!
“ฮะ! พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา ๆ จะมาร่วมงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่ในครั้งนี้เพื่ออะไรกัน?”
“น่าจะเป็นเพราะต้องการได้รับตำแหน่งสืบทอดต่อจากปรมาจารย์เซียนกระบี่ เพราะการได้เป็นถึงผู้สืบทอดตำแหน่งแห่งเซียนกระบี่ ใครบ้างเล่าที่จะไม่สนใจ!”
“…”
ผู้คนต่างเริ่มพูดคุยกัน
เหล่าศิษย์ของสำนักเซียนกระบี่ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น!
และในเวลานี้ก็มีคนตะโกนออกมา “เยี่ยอู๋เต้า ท่านเป็นถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งหมู่ตึกชั้นฟ้า เหตุใดถึงไม่อยู่ในสำนักของท่านเอง แต่กลับมาร่วมงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่เพื่อการใดกัน หรือท่านเองก็อยากเข้าร่วมเป็นศิษย์ของสำนักเซียนกระบี่!”
“ฮ่า ๆ สำนักเซียนกระบี่ ดูเหมือนว่าสำนักของพวกท่านก็มิได้มีกฏเกณฑ์ว่าผู้ที่เข้าร่วมงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์แห่งกระบี่จะห้ามไม่ให้ผู้ฝึกยุทธ์เข้าร่วม อีกทั้งหากข้าสามารถเป็นผู้สืบทอดแห่งปรมาจารย์เซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งได้ แล้วจะมีปัญหาอันใดหากข้าจะเข้าร่วมสำนักเซียนกระบี่ด้วย!”
เยี่ยอู๋เต้ายิ้มขึ้น และมองไปที่ปรมาจารย์เซียนกระบี่
ผู้คนต่างเงียบ!
ตามที่เยี่ยอู๋เต้าพูด พวกเขาเองก็ไม่สามารถขัดขวางอะไรได้!
แต่ผู้คนต่างก็เข้าใจกันดี เยี่ยอู๋เต้าเป็นถึงบุตรชายแห่งสำนักเทพแห่งสวรรค์ ไม่สามารถเข้าร่วมสำนักเซียนกระบี่ได้!
ดังนั้นในเวลานี้ สำนักเซียนกระบี่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
ท้ายที่สุด ปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็พูดขึ้น!
“ที่เจ้าพูดก็ไม่ผิด!”
“งานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ปรมาจารย์เซียนกระบี่จัดขึ้นเพื่อทุกคน ขอเพียงแค่พวกเจ้าสามารถหยิบกระบี่ขึ้นมาได้ตามจำนวนที่กำหนด ข้าก็จะยกตำแหน่งผู้สืบทอดให้เจ้า!”
หลังจากคำพูดของปรมาจารย์เซียนกระบี่ เยี่ยอู๋เต้าก็ยิ้มขึ้น!
ปัง!
ทันใดนั้น เขาก็หยิบฝักเปล่า ๆ ของกระบี่ออกมาจากที่เก็บ!
“หืม? ฝักกระบี่คลุมฟ้า” เห็นเช่นนั้นปรมาจารย์เซียนกระบี่ก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน!
“ใช่แล้วนี่คือฝักกระบี่คลุมฟ้า!”
เยี่ยอู๋เต้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและยิ้มออกมา จากนั้นก็ชี้ฝักกระบี่ไปที่กล่องกระบี่ของปรมาจารย์เซียนกระบี่ “กระบี่จงมา!”
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ในเวลานี้เอง พลันบังเกิดเสียงดังที่น่าตกใจขึ้น กระบี่หนึ่งเล่มพุ่งออกมาจากกล่องกระบี่ของปรมาจารย์เซียนกระบี่ด้วยความเร็วสูง!
สิบเล่ม!
ร้อยเล่ม!
พันเล่ม!
หมื่นเล่ม!
เพียงพริบตาเดียว กระบี่นับหมื่นเล่มก็ลอยอยู่รอบ ๆ ฝักกระบี่จนครอบคลุมไปทั้งท้องฟ้า!
พลันปราณกระบี่ที่ดุร้าย ผ่าแยกท้องนภาออกจากกัน ทำให้ผู้คนต่างตื่นตกใจยิ่ง!
“นี่มัน…”
เห็นเช่นนั้นแล้ว ปรมาจารย์เซียนกระบี่พลันขมวดคิ้วแน่น!
เหล่าศิษย์สำนักเซียนกระบี่ต่างก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก!
“ฮ่า ๆ!”
“วันนี้ข้าสามารถนำกระบี่หมื่นเล่มออกมาจากกล่องได้ ในงานชุมนุมคัดเลือกศิษย์ของปรมาจารย์เซียนกระบี่นี้ยังจะมีผู้ใดสู้ข้า เยี่ยอู๋เต้าผู้นี้ได้อีก?”
ยามนี้ เยี่ยอู๋เต้ายิ้มออกมาและมองไปรอบ ๆ ด้วยความภาคภูมิใจ
ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่มีผู้ใดกล้าตอบกลับ!
“หากไม่มีผู้ใดแล้ว เช่นนั้นปรมาจารย์เซียนกระบี่ ตำแหน่งผู้สือทอดย่อมต้องตกเป็นของข้า!” เยี่ยอู๋เต้าหันมองไปที่ปรมาจารย์เซียนกระบี่!
ปรมาจารย์เซียนกระบี่มีสีหน้าที่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และพูดออกมาว่า “ดี ตามกฎแล้ว ผู้สืบทอดของข้าในครั้งนี้จะตกเป็นของ…”
ในตอนนั้น พลันมีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาในระหว่างที่ปรมาจารย์เซียนกระบี่กำลังพูด!
“ช้าก่อน!”
“ให้ข้าได้ลองหน่อย!”
สิ้นเสียงนั้น ร่างหนึ่งในชุดคลุมก็ก้าวออกมา!