หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 758 เมื่อโอกาสมาถึง จงโจมตี!

บทที่ 758 เมื่อโอกาสมาถึง จงโจมตี!

บทที่ 758 เมื่อโอกาสมาถึง จงโจมตี!
ความคิดนั้นไม่ได้ส่งตรงไปหาคนๆ เดียว แต่เป็นการประกาศให้ทุกคนในที่แห่งนั้นทราบโดยทั่วกัน!

สีหน้าของหวังเป่าเล่อมืดมน ชายหนุ่มหรี่ตาลง หากเป็นคนอื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขาคงกระสับกระส่ายด้วยความประหม่าแน่นอน แต่ไม่ใช่หวังเป่าเล่อ ดวงตาของเขากวาดผ่านผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึก รู้ได้ในทันทีว่านางกำลังพยายามทำสิ่งใด

นางจิ้งจอกกำลังวางแผนบางสิ่งแน่ นางอาจสนใจต้องการแลกเปลี่ยนจริงๆ แต่เป็นไปได้มากกว่าที่ความต้องการที่แท้จริงของนาง คือการทำให้ตนเองไม่ขายหน้าไปมากกว่านี้ ซึ่งเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ว่าเหตุใดนางจึงประกาศให้ทุกคนได้ยิน…ทั้งที่ความจริงแล้วจะส่งข้อความไปหาเป็นการส่วนตัวก็ได้! หวังเป่าเล่อวิเคราะห์สถานการณ์ แต่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของเขาเท่านั้น ผู้ที่ก้าวขึ้นมามีอำนาจเป็นถึงผู้บัญชาการกองทหารที่มีปราณขั้นจิตวิญญาณอมตะย่อมไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญาแน่นอน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรือในสถานะใด บทเรียนจากอัตชีวประวัติเจ้าพนักงานระดับสูงก็ยังใช้ได้เสมอสำหรับเขา

อย่าเดิมพันชีวิตของตนเองเพราะเห็นว่าคนอื่นไม่เคยทำผิดพลาด

ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายวาบ สัญชาตญาณของเขาบอกว่านี่คือโอกาสงามในการเชื่อมสัมพันธ์กับหนึ่งในกองทหารที่ทรงพลังที่สุดในสำนักมหาทัณฑ์สวรรค์แห่งอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์

วันนี้ข้าสูญเสียมามากแล้ว ไม่มีทางให้ข้าระบายอารมณ์เลย ถ้าเช่นนั้น…มาลองดูกันดีกว่าว่าข้าจะสามารถทำให้คนสำคัญของสำนักประทับใจได้หรือไม่! จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดมากมาย

ก่อนที่ผู้บัญชาการกองทหารเกราะดำจะทันได้ตอบ หวังเป่าเล่อก็หยิบแผ่นหยกของตนเองออกมา ประทับสัมผัสสวรรค์ของตนเองลงไป จากนั้นก็ยกมันชูขึ้นฟ้าพร้อมตะโกนก้อง “ศิษย์พี่สวีเฟยจื่อ ศิษย์น้องหลงหนานจื่อของท่านคนนี้รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้ช่วยชีวิตของข้าไว้ เพื่อแสดงความขอบคุณ ข้าขอบริจาคปลามังกรหยดหมึกหนึ่งร้อยตัวให้กองทหารเกราะดำ ข้าสาบานว่าจะทำคำสัญญานี้ให้ลุล่วงภายในสามปี!”

ชายหนุ่มให้คำมั่นเหมาะกับทั้งกองทัพแทนที่จะเป็นกับคนคนเดียว และประกาศอย่างชัดเจนว่าเป็นการบริจาค ซึ่งทำให้การแลกเปลี่ยนนี้ดูมีไมตรีจิตขึ้นมาและช่วยลดความห้วนห้าวลงได้มาก เมื่อเทียบกับข้อเสนอของกองทหารมังกรหยดหมึกแล้ว ข้อเสนอของหวังเป่าเล่อเหนือชั้นกว่าเห็นๆ

เรื่องนี้ทำให้ผู้ฝึกตนจากกองทหารเกราะดำหันมาพิจารณาหวังเป่าเล่ออย่างถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น แม้แต่ชายชราที่เอนกายอยู่บนด้วงเกราะดำภายในฟองสบู่สีรุ้งยังปรายตามองเขา ใบหน้าคล้ายจะมีรอยยิ้มบาง เขาหันไปมองผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกด้วยแววตาของผู้ที่เหนือกว่าโดยไม่พยายามเก็บซ่อนแม้แต่น้อย ยกนิ้วก้อยขึ้นแคะหู ก่อนพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา

“การที่ผู้ฝึกตนที่มีปราณขั้นแสร้งอมตะที่เป็นถึงผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกพลาดท่าให้ผู้ฝึกตนไม่มีหัวนอนปลายเท้าซึ่งเป็นเพียงผู้สวามิภักดิ์ของสำนักเราทั้งด้านมารยาทและไหวพริบเช่นนี้ หากเจ้าต้องการชีวิตของเด็กนี่มากนัก เหตุใดจึงไม่มอบปลามังกรหยดหมึกหนึ่งร้อยตัวเช่นเดียวกับเขาเลยเล่า”

สีหน้าของผู้ฝึกตนหญิงขุ่นมัวในทันที นางจ้องหวังเป่าเล่อเขม็ง ปลามังกรหยดหมึกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยากหาสิ่งใดเหมือน เมื่อเลี้ยงให้เติบใหญ่เต็มวัยจะสามารถเปลี่ยนให้เป็นเรือบินรบชีวภาพได้ ในช่วงวัยแรกรุ่น ปลามังกรหยดหมึกสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสร้างเรือบินรบชีวภาพรูปแบบอื่นได้ ถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นอย่างมากในการเพิ่มศักยภาพให้เรือบินรบ มีเพียงสำนักเต๋าใหม่ครามทองคำเท่านั้นที่ล่าปลามังกรหยดหมึกได้ จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นศิษย์สำนักนี้ที่จะได้มันมาไว้ในครอบครอง ด้วยเหตุนี้ปลามังกรหยดหมึกจึงเป็นของล้ำค่าหาที่เปรียบมิได้

ปลาชนิดนี้เป็นทรัพยากรที่ต้องใช้อย่างแยบคาย สำนักอาจไม่สนใจมากนักหากปลามังกรหยดหมึกตัวหรือสองตัวถูกมอบให้ผู้อื่น แต่ไม่ใช่กับร้อยตัวแน่ อย่างแรกคือนางไม่มีทางหาปลามังกรหยดหมึกมาได้มากขนาดนั้น และต่อให้ไปหยิบยืมเงินทองคนอื่นมาเพื่อซื้อ ของกำนัลเช่นนี้ก็ถือเป็นการทำผิดกฎของสำนัก

หวังเป่าเล่อคิดถูก นางอาจต้องการเอาชีวิตของเขา แต่เมื่อเขาเข้ามาเหยียบสำนักมหาทัณฑ์สวรรค์ได้แล้ว นางก็พร้อมจะปล่อยเรื่องนี้ไป การบุกเข้าอาณาเขตของคู่อริไม่ใช่เรื่องที่ควรค่านำมาเสี่ยง นางจะไม่ยอมแหกกฎที่ทราบกันทั่วอาณาจักรเพียงเพื่อความสะใจชั่วคราวแน่

แต่การปล่อยให้หลงหนานจื่อได้หายใจต่อไปก็ทำให้นางรู้สึกเสียศักดิ์ศรี หลังจากเหตุการณ์นี้คนอื่นๆ อาจไม่ยอมเชื่อฟังนางเหมือนเคยอีก ด้วยเหตุนี้นางจึงเปิดปากขอเจรจากับผู้ฝึกตนเฒ่าก่อน นางคิดไว้อย่างรอบคอบแล้ว หากกองทหารเกราะดำตกลงรับข้อเสนอก็จะเป็นการดีที่สุด แต่หากไม่ยอมรับ นางก็มีทางถอยห่างจากเรื่องนี้เช่นกัน การที่นางฆ่าหลงหนานจื่อไม่ได้นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่คือการที่กองทหารเกราะดำปกป้องเขาต่างหาก นอกจากนี้หลงหนานจื่อคงไม่มีวันอยู่ในสำนักมหาทัณฑ์สวรรค์ไปได้ตลอดชีวิต ถึงอย่างไรเขาก็ต้องออกมายังโลกภายนอกในวันหนึ่งอยู่ดี

แต่แผนการที่คิดมาอย่างดีของนางกลับต้องพังทลายลงเมื่อหวังเป่าเล่อประกาศว่าจะบริจาคปลามังกรหยดหมึกหนึ่งร้อยตัวให้สำนักมหาทัณฑ์สวรรค์ภายในสามปี คำมั่นสัญญาของชายหนุ่มทำให้ค่าตัวเขาสูงขึ้น ซึ่งแปลว่านางจะต้องหาทางสังหารเขาอย่างลับๆ มิเช่นนั้นความตายของเขาจะทำให้กองทหารเกราะดำมาทวงค่าชดเชยจากกองทหารของนางได้!

ไอ้สารเลวนี่! นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้บัญชาการหญิงรับรู้ได้ถึงผลของคำพูด และอำนาจของมันในการสลับเปลี่ยนขั้วสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ ใบหน้าของนางขุ่นมัว แต่ก็ทำได้เพียงกัดฟันกรอดและหันหลังจากไปเท่านั้น นางจะหาทางแก้แค้นทีหลัง

ศิษย์รักของนางผู้ที่เกือบตายด้วยน้ำมือหวังเป่าเล่อยืนอยู่เคียงข้าง เขาไม่ทันตระหนักว่าอาจารย์ของตนเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ใด เพราะไม่ได้มีปัญญาที่หลักแหลมเท่าหวังเป่าเล่อ ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงอ่านไม่ออกว่าอาจารย์ของตนกำลังตกที่นั่งลำบาก แต่เขารู้ดีว่าโอกาสที่ตนเองจะได้แก้แค้นในวันนี้นั้นเหลือน้อยนัก ขณะที่กำลังเตรียมตัวจากไปนั้น ดวงตาของเขาก็วาวโรจน์ด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาจ้องหวังเป่าเล่อที่ยืนอยู่ที่เส้นชายแดนเขม็ง คำพูดชั่วร้ายไหลออกจากริมฝีปาก

“ไอ้สารเลวไม่มีหัวนอนปลายตีน เจ้าไม่มีวันหดหัวอยู่ในสำนักมหาทัณฑ์สวรรค์ได้ตลอดไปหรอก วันนึงข้าจะจับเจ้าให้ได้ จะถลกหนังเจ้าทั้งเป็น ลอกกระดูกเจ้า เอาไขมันเจ้ามาทำไขให้ตะเกียงข้าเสีย หลังจากนั้นข้าจะลากวิญญาณเจ้าออกมา เอาไปขังไว้ในร่างทาสสตรีแล้วก็ปู้ยี่ปู้ยำ ให้เจ้ารู้สึกว่าตายไปในวันนี้ยังดีเสียกว่า!” เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็พ่นลมเยาะทิ้งท้าย ก่อนหันหลังกลับเพื่อเตรียมตัวจากไปพร้อมอาจารย์ตน

คำพูดของเขาโชกด้วยความมุ่งร้าย ผู้ฝึกตนจากกองทหารเกราะดำหลายคนหันมามองหวังเป่าเล่อหลังจากได้ยินคำพูดนั้น หลายคนเริ่มจินตนาการรายละเอียดของสิ่งที่ผู้ฝึกตนหนุ่มหมายมั่นปั้นมือว่าจะกระทำกับอีกฝ่ายเป็นฉากๆ…

หวังเป่าเล่อชะงักค้าง เขาเคยถูกด่าทอค่อนแคะมามากมายตั้งแต่เริ่มเดินบนเส้นทางการฝึกตน หลายคนเคยอาฆาตว่าจะถลกหนังเขา ลอกกระดูก และด่าเขาว่าชั่วร้ายไม่มียางอาย จนตัวเขาเองเริ่มชินชากับคำพูดเช่นนี้แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้ยินว่าตนเองจะถูกกระชากวิญญาณออกเพื่อเอาไปใส่ในร่างสตรี คำพูดนั้นทำให้หวังเป่าเล่อตัวสั่นเทิ้มด้วยความรังเกียจและโทสะรุนแรง!

ไอ้ระยำบัดซบ! สมองมันต้องโสมมขนาดไหนถึงคิดอะไรชั่วช้าเกินบรรยายเช่นนี้ได้ มันอยากข่มขืนข้ารึ จะปล่อยให้มันหายใจต่อไปไม่ได้เด็ดขาด! ความต้องการฆ่าพัดทวีขึ้นในใจหวังเป่าเล่อ เขาเป็นเหยื่อของเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ไอ้พวกนี้ต้องการปล้นเขา ยึดเรือเขา จนเขาต้องเปิดฉากโจมตีเพื่อป้องกันตนเอง ในตอนที่กำลังจะจัดการไอ้ตัวลูกนั้น ตัวแม่ก็ดันโผล่มาช่วยเสียก่อน แถมตอนนี้ไอ้ตัวลูกยังมาประกาศคำพูดหยาบช้าต่อหน้าเขาอีก!

มันจะมากเกินไปแล้ว! ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็ยิ่งบันดาลโทสะมากขึ้นเท่านั้น เลือดในกายของเขาเดือดพล่านด้วยความโกรธที่หาที่ระบายไม่ได้ เขาไม่มีทางยอมปล่อยวางเรื่องนี้อย่างแน่นอน ความโกรธสีแดงชาดกรรโชกเข้าบดบังสติของเขาเสียหมดสิ้น เมื่อถูกกระตุ้นเช่นนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป ในตอนที่ผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกพร้อมด้วยศิษย์ของนางกำลังจะจากไป และเป็นตอนที่กองทหารเกราะดำรวมถึงผู้เฒ่าในฟองสบู่สีรุ้งคิดว่าเรื่องจบแล้ว หวังเป่าเล่อก็เปิดฉากโจมตี!

ความโกรธพวยพุ่งออกจากร่างเขาในบัดดล ร่างโปร่งกระโจนออกจากเส้นเขตแดน ระเบิดความเร็วในแบบที่เขาไม่เคยทำได้มาก่อน ทุกคนจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ไม่มีใครคาดคิดว่าชายหนุ่มจะเลือกโจมตีในตอนนี้ หวังเป่าเล่อพุ่งตัวไปข้างหน้า พุ่งเข้าหาศิษย์แห่งกองทหารมังกรหยดหมึกในทันที!

เขาเปรียบเสมือนสายฟ้าอันตรายที่พร้อมฟาดฟัน คนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบโต้ไม่ใช่ชายหนุ่มแต่เป็นอาจารย์ของเขา นางหมุนตัวหันหลังกลับ สีหน้าตื่นตกใจขณะยกมือขวาขึ้นโบกเรียกผนึกยักษ์ให้พุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อ หมายจะไล่เขาให้กระเด็นออกไป

ดวงตาของหวังเป่าเล่อสว่างวาบขณะมองผนึกยักษ์ที่กำลังพุ่งเข้าหาตน เขายกมือขวาขึ้นปล่อยพลังเต็มพิกัดออกมาโจมตีผนึกยักษ์ การปะทะทำให้ร่างของชายหนุ่มสั่นอย่างรุนแรง เลือดสดๆ กระจายออกจากปาก มือขวาแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ ก่อนระเบิดออกมาขณะที่เจ้าของแขนกระโจนหลบไปข้างหลังเพื่อหนีแรงปะทะจากผนึก

แต่ยังไม่จบแค่นั้น นิ้วหนึ่งจากมือที่แตกสลายระเบิดกลายเป็นเปลวไฟสีดำในบัดดล นิ้วอาบด้วยเปลวไฟมรณะพุ่งผ่านผนึกด้วยความเร็วแสงตรงเข้าหาผู้เป็นศิษย์ สีหน้าของชายหนุ่มคู่อริทั้งตกใจทั้งโล่งใจเพราะคิดว่าตนเองรอดตาย แต่นิ้วที่กำลังเผาไหม้กลับปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาในพริบตา เจาะทะลุผ่านศีรษะของเขาไปอย่างคมกริบ

ชายหนุ่มตัวสั่นสะท้าน ระหว่างคิ้วมีรูกลวงโบ๋ แรงระเบิดพัดเขาให้ปลิวไปด้านหลัง ดวงตาดูจับต้นชนปลายไม่ถูก เขาอยากหันหน้ากลับไปหาอาจารย์ แต่ก่อนที่จะได้ทำเช่นนั้น ศีรษะก็พลันระเบิดออกดังโพละ ทั้งเลือดเนื้อและวิญญาณดับสลายกลายเป็นเศษธุลี!

ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วมาก คนธรรมดาคงมองว่าการกระทำของหวังเป่าเล่อเป็นความบ้าดีเดือดขาดสติ ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขากระทำการสำเร็จ!

“คุนเอ๋อร์!” ผู้ฝึกตนหญิงผู้นำกองทหารมังกรหยดหมึกมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง นางกรีดร้องด้วยความโกรธ หันไปมองหวังเป่าเล่อด้วยสายตาที่ต้องการกินเลือดกินเนื้อ ชายหนุ่มพยายามใช้พลังงานของกระแสปราณจากแรงระเบิดในการส่งตนเองให้กลับไปอีกฟากของเขตแดน!

หน้าอกเขายุบลง มือขวาขาดด้วน ใบหน้าซีดเผือด ลมหายใจไม่เป็นจังหวะ แต่ในดวงตากลับมีความพอใจแกมสะใจล้ำลึกที่ทำให้ทุกคนซึ่งได้เห็นจำไม่รู้ลืม ทุกคนอุทานด้วยความตกใจ

“ไอ้หมอนี่มันคนจริง!”

“ไอ้หลงหนานจื่อนี่ไม่ธรรมดา!”

“แค่มันกล้าโจมตีในสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่น่าเชื่อแล้ว ว่าแต่ไอ้ปลามังกรหยดหมึกร้อยตัวที่มันประกาศว่าจะบริจาคให้ก่อนหน้านี้ อย่าบอกนะว่ามันคิดหาทางหนีทีไล่นี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าหนุ่มนี่…ช่างฉลาดหลักแหลมเสียจริง!”

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท