เยี่ยนอ๋องเองก็รู้ว่าคำถามนี้ทำให้ลำบากใจ ทว่าเมื่อเห็นทุกคนเงียบราวกับเป็นใบ้ก็อดไม่พอใจไม่ได้ ส่งเสียงหยัน เอ่ย “อู๋สยา เจ้าว่ามา”
สัมผัสได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ หนานกงมั่วลูบจมูกอย่างอดไม่ได้ เอ่ย “เรื่องนี้…เสด็จลุง หม่อมฉันคิดว่าไม่ต้องร้อนใจไปเพคะ”
“อย่างไรหรือ” เยี่ยนอ๋องเอ่ยถาม
หนานกงมั่วเอ่ย “ต่อให้ฝ่าบาทต้องการลดอำนาจผู้ปกครองเมือง แน่นอนว่าไม่จัดการกับผู้ปกครองเมืองทุกคนในครั้งเดียว แน่นอนว่าต้องมีลำดับก่อนหลังเพคะ”
เยี่ยนอ๋องหรี่ตา มองไปยังหนานกงมั่ว เอ่ย “เจ้าคิดว่า ตอนนี้ฮ่องเต้จะยังไม่ลงมือกับจวนเยี่ยนอ๋องอย่างนั้นหรือ”
“อย่างน้อย…ก่อนสงครามกับเป่ยหยวนจะจบลง ฝ่าบาทไม่มีทางลงมืออย่างโจ่งแจ้งกับจวนเยี่ยนอ๋องเพคะ” ส่วนเบื้องหลังจะลอบทำอันใด…ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าจะลดอำนาจผู้ปกครองเมืองก็ทำไปไม่น้อย ต่างกันอย่างไร
เยี่ยนอ๋องเคาะนิ้วลงกับที่พักแขน เนิ่นนานก่อนจะเอ่ย “หากเจ้าคาดเดาผิดเล่า”
หนานกงมั่วยิ้มบาง “ต่อให้หม่อมฉันคาดเดาผิด คิดว่าเสด็จลุงก็คงมีวิธีรับมืออยู่แล้วเพคะ ไยอู๋สยาจะต้องกังวล”
ได้ยินเช่นนั้น เยี่ยนอ๋องก็ชะงักโดยไม่รู้ตัว “เจ้าช่างปัดเก่งเหลือเกิน”
หนานกงมั่วกะพริบตาปริบๆ ยิ้มทว่าไม่ได้เอ่ยวาจา หากไม่มีแผนการรับมือ มีหรือเยี่ยนอ๋องจะกล้ายั่วยุเซียวเชียนเยี่ยครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เพียงเซียวเชียนเยี่ยที่หยั่งเชิงเหล่าเสด็จลุงของเขาทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ผู้ปกครองเมืองเหล่านี้ก็ไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจต่อเซียวเชียนเยี่ยมากเท่าใดนัก เซียวเชียนเยี่ยผู้เป็นหลานคิดจะควบคุมพวกเขา อย่างน้อยก็ต้องทำให้พวกเขาเห็นถึงความสามารถที่ทำให้ทุกคนต้องยอมรับมิใช่หรือ มิเช่นนั้น ไยบรรดาเสด็จลุงผู้เย่อหยิ่งเหล่านี้จะต้องเชิดชูหลานผู้ไม่มีความสามารถเทียบเท่าตนไว้เหนือหัวด้วยเล่า
เยี่ยนอ๋องส่งเสียงหยัน ทว่ากลับไม่ได้ถามหนานกงมั่วต่อ มองไปยังทุกคนพร้อมเอ่ยเสียงเรียบออกมา “ออกไปเถิด ควรทำอันใดคิดว่าทุกท่านคงรู้อยู่แก่ใจ ข้าคงไม่ต้องเอ่ยอันใดมากใช่หรือไม่”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมทูลลา” ทุกคนพ่นลมหายใจ รีบลุกขึ้น
รอจนกระทั่งในห้องหนังสือเหลือกันเพียงสามคน จึงมีหนึ่งคนเดินออกมาจากด้านหลัง ชุดสีขาวดุจหิมะ ท่าทางใจดีมีเมตตา หล่อเหลาสง่างาม ไม่ใช่เนี่ยนหย่วนแล้วจะเป็นผู้ใดได้เล่า หนานกงมั่วเดินเข้ามาได้ไม่นานก็รู้แล้วว่าห้องด้านในนั้นมีคนอยู่ จึงไม่ตกใจ มีเพียงเซียวเชียนชื่อที่ตื่นตะลึงเมื่อเห็นเนี่ยนหย่วน
“จวิ้นจู่ ซื่อจื่อ”
เนี่ยนหย่วนพนมมือขึ้น หันไปแสดงความเคารพทั้งสอง
ทั้งสองรีบแสดงความเคารพคืน เยี่ยนอ๋องโบกมือ เอ่ย “ไต้ซือเนี่ยนหย่วนไม่ต้องมากพิธี นั่งลงคุยกันเถิด เมื่อครู่นี้ ไต้ซือได้ยินหมดแล้วหรือไม่”
เนี่ยนหย่วนพยักหน้า หันไปหาเยี่ยนอ๋อง เอ่ย “ท่านอ๋อง อาตมาก็เห็นด้วยกับความเห็นของจวิ้นจู่ ฮ่องเต้นั้นมินิสัยหวาดระแวง เมื่อเจอปัญหาจึงไม่เด็ดขาดรักเสียดายแม้แต่ขนตัวเอง ไม่มีทางมาหาเรื่องท่านอ๋องก่อนใครแน่”
เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้ว เอ่ยถาม “ไต้ซือคิดว่า ฮ่องเต้จะลงมือกับผู้ใดเป็นคนแรก”
เนี่ยนหย่วนก้มหน้า ไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ เอ่ย “ฉีอ๋อง”
เยี่ยนอ๋องสีหน้าทะมึน ฟังเนี่ยนหย่วนเอ่ยต่อ “เขตปกครองของฉีอ๋องนับว่าอยู่ไม่ไกลจากเยี่ยนอ๋องนัก อีกทั้งยังเป็นพี่น้องแท้ๆ ของเยี่ยนอ๋อง จัดการกับฉีอ๋อง หนึ่งได้เตือนท่านอ๋องด้วยว่าอย่าทำอันใดบุ่มบ่าม สองอาศัยจังหวะนี้ดูท่าทีของท่านอ๋อง จะรุกจะถอย หากท่านอ๋องทำอันใดบุ่มบ่ามเพราะเรื่องนี้ ก็สามารถโยนข้อหากบฏมาให้ท่านอ๋องได้ อีกทั้งหากท่านอ๋องงอมืองอเท้า…แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”
ฟังเนี่ยนหย่วนวิเคราะห์จบ เยี่ยนอ๋องพลันแสยะยิ้มเย็น “เจ้าเซียวเชียนเยี่ย ช่างเป็นหวงซุนที่ดีที่เสด็จพ่อเลือกไว้เหลือเกิน”
เนี่ยนหย่วนย่นคิ้ว เอ่ยเสียงเข้ม “ท่านอ๋อง ฝั่งฉีอ๋องนั้นเกรงว่าจะ…” เขตปกครองของฉีอ๋องอยู่ใกล้กับจินหลิงมากกว่าจวนเยี่ยนอ๋อง ต่อให้สายลับที่แฝงตัวอยู่ในจินหลิงของเยี่ยนอ๋องจะรู้ข่าวแล้วส่งข่าวมายังจวนเยี่ยนอ๋อง ยามนี้คิดหาวิธีช่วยฉีอ๋องเกรงว่าจะไม่ทันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คือไม่มีทางช่วยได้เลยด้วยซ้ำ เซียวเชียนเยี่ยไม่ได้ต้องการสังหารฉีอ๋อง ต่อให้พวกเขาได้รับข่าวเร็ว ส่งคนไปก่อนก็เป็นการเคลื่อนทัพโดยไม่มีข้ออ้าง
วาจาของเนี่ยนหย่วนยังไม่ทันจบ ด้านนอกพลันมีเสียงเท้าวิ่งเข้ามา “รายงานท่านอ๋อง มีเรื่องด่วนจากชิงโจวพ่ะย่ะค่ะ”
“เข้ามา” มือของเยี่ยนอ๋องที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่นขึ้นมา ระหว่างคิ้วเผยไอสังหารออกมา
องครักษ์พาคนผู้หนึ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่นเข้ามา หนานกงมั่วมองคนมาใหม่พลันชะงัก “พี่ใหญ่หรือ”
ผู้มาใหม่นั้นมิใช่ใครอื่น ทว่าเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหนานกง หนานกงชวี่ผู้ถูกเนรเทศ หนานกงชวี่มองเห็นน้องสาวก็ตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะว่าจะเจอน้องสาวของตนอยู่สถานที่อย่างในห้องหนังสือของเยี่ยนอ๋องได้
เยี่ยนอ๋องเอ่ยเสียงเข้ม “เจ้าเป็นบุตรคนโตของหนานกงไหว หนานกงชวี่อย่างนั้นหรือ”
หนานกงชวี่ได้สติกลับมา ไม่มีเวลาสนใจหนานกงมั่วรีบหยิบป้ายคำสั่งแผ่นหนึ่งออกมา เอ่ย “ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมก็คือหนานกงชวี่พ่ะย่ะค่ะ” เยี่ยนอ๋องหรี่ตาลง บอกใบ้เซียวเชียนชื่อรับป้ายคำสั่งจากมือหนานกงชวี่มา เซียวเชียนชื่อก้าวเข้าไปรับ ส่งไปยังมือของเยี่ยนอ๋อง เยี่ยนอ๋องสัมผัสป้ายคำสั่งนิ่ง ก่อนจะเอ่ย “นี่เป็นป้ายติดตัวของน้องหก ว่ามาเถิด เจ้ามาที่นี่ทำไม”
หนานกงชวี่ตั้งสติ เอ่ยเสียงเข้ม “รายงานท่านอ๋อง สามวันก่อนจินหลิงส่งคนนำราชโองการลับเข้ามายังชิงโจว นำตัวฉีอ๋อง พระชายา ซื่อจื่อและคนอื่นๆ กลับจินหลิงทั้งหมด นี่เป็นจดหมายของฉีอ๋องที่เขียนมาให้เยี่ยนอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงชวี่หยิบจดหมายปิดผนึกขี้ผึ้งออกมาจากชุดตัวใน เยี่ยนอ๋องมองเครื่องหมายบนจดหมายที่คุ้นเคยพลันรู้ด้วยตนเอง เชื่อไปกว่าแปดส่วนแล้ว
“น้องหกไยจึงได้มอบจดหมายให้กับเจ้า”
หนานกงชวี่เอ่ย “กระหม่อมถูกเนรเทศไปยังชิงโจว ได้ฉีอ๋องคอยดูแล ถูกเรียกตัวเข้าไปสอนหนังสือในจวนอ๋อง ก่อนหน้านั้นฉีอ๋องได้รับข่าวรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ปกติ จึงได้นำป้ายและจดหมายมอบให้กระหม่อม กระหม่อมออกมาจากจวนอ๋องไม่นาน ก็เห็นคนของราชสำนักนำราชโองการลับพร้อมกับกองกำลังจากวังหลวงบุกเข้าไปในจวนฉีอ๋อง ไม่นาน…คนในจวนฉีอ๋องก็ถูกส่งกลับเมืองหลวง เพราะข่าวยังไม่ถูกแพร่งพรายออกไป อีกทั้งกระหม่อมมีฉีอ๋องเปิดทางให้ จึงเดินทางมาถึงโยวโจวได้โดยราบรื่นพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนอ๋องหลับตาลงไม่เอ่ยวาจา เห็นชัดว่ากำลังสยบความโกรธอยู่ในใจ เนิ่นนานจึงเอ่ย “ลำบากเจ้าแล้ว ออกไปพักก่อนเถิด”
หนานกงชวี่พ่นลมหายวจออกมา ยกมือประสานให้เยี่ยนอ๋อง มองไปยังหนานกงมั่ว หนานกงมั่วยิ้มบาง พยักหน้าให้เขาเบาๆ
รอจนหนานกงชวี่ออกไปแล้ว เยี่ยนอ๋องพลันลุกขึ้น กวาดทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะลงพื้น “เซียว เชียน เยี่ย”
“ท่านอ๋องอย่าทรงโกรธ” เนี่ยนหย่วนเอ่ยอย่างสงบ
เยี่ยนอ๋องสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ย “ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต่างไปจากการคาดเดาของท่านนัก เพียงแต่…เรื่องของน้องหกท่านไต้ซือมีวิธีการอย่างไร”
เนี่ยนหย่วนส่ายศีรษะ เอ่ย “ยามนี้ท่านอ๋องคิดจะช่วยคงไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าจวนเยี่ยนอ๋องไร้ความสามารถ แต่เพราะทำไม่ได้”
“อย่างไรหรือ”
เนี่ยนหย่วนถอนหายใจ “ฝ่าบาทเชิญคนจวนฉีอ๋องกลับจินหลิงทั้งหมด แต่ไม่มีทางลงมือสังหารเขา ตามที่อาตมาคาดเดา สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือให้เขตปกครองใหม่แก่ฉีอ๋อง ยึดกำลังทหาร จำกัดขอบเขตของชินอ๋อง เพียงแต่ เขตปกครองเกรงว่าคงไม่ใช่พื้นที่ที่ดีนัก ฉีอ๋อง…เกรงว่าจะลำบากแล้ว”
“ไม่มีอันตรายถึงชีวิตหรือ” เยี่ยนอ๋องเอ่ยถาม
เนี่ยนหย่วนส่ายศีรษะ “ขอเพียงไม่มีปลาติดแห ฮ่องเต้ไม่มีทางแตะต้องฉีอ๋องอย่างแน่นอน อย่างไรเสีย หากผู้ปกครองเมืองอื่นๆ เกิดความรู้สึกโศกเศร้าไปด้วย ต่อไปแผนการของฮ่องเต้เกรงว่าอาจสำเร็จไปกว่าครึ่ง”