ตอนที่ 159 สำนักเซียนยุทธ์ เมืองเซียนโบราณ!
ณ สำนักเซียนวิถีสวรรค์
หลังจากที่เยี่ยอู๋เต้านำศพเจ้าสำนักและยอดฝีมือแห่งสำนักเซียนวิถีสวรรค์กว่าแสนคนกลับมา คนทั้งสำนักเซียนวิถีสวรรค์ก็ตกตะลึงทันที!
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสนและความไม่เชื่อ!
เจ้าสำนักเซียนวิถีสวรรค์ตายแล้ว!
ยอดฝีมือนับแสนคนถูกสังหารสิ้น!
มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
ร่างศพที่เปื้อนเลือดอยู่ตรงหน้า ทำให้เหล่าผู้คนในสำนักเซียนวิถีสวรรค์ไม่เชื่อเรื่องนี้ก็คงมิได้!
“แย่แล้ว!”
“สำนักเซียนวิถีสวรรค์ของข้าแย่แล้ว!”
“ยามนี้ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในสำนักเซียนวิถีสวรรค์คือระดับเทพสวรรค์ ความแข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังขั้นหนึ่ง แม้แต่กองกำลังชั้นสองก็ยังด้อยกว่ามาก!”
“…”
ผู้คนทั่วทั้งสำนักเซียนวิถีสวรรค์ราวกับกำลังไว้ทุกข์ ล้วนเต็มไปด้วยความมืดมนยิ่ง!
“ฮือ! สามี! ท่านตายเช่นนี้ได้อย่างไร!!”
ตอนนี้เอง น้ำเสียงที่โศกเศร้าดังขึ้น หญิงงามวัยกลางคนทิ้งตัวลงข้าง ๆ ร่างศพของเจ้าสำนักเซียนวิถีสวรรค์ ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา!
คนผู้นี้คือภรรยาของเจ้าสำนักเซียนวิถีสวรรค์มีนามว่า อู๋ซื่อ!
อู๋ซื่อร้องไห้อยู่สักพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็เงยหน้ามองไปยังเยี่ยอู๋เต้าและถามขึ้น “ผู้ใดทำ นี่เป็นผู้ใดที่ทำ!”
“นายหญิง ข้าขอแสดงความเสียใจด้วย! เป็นเจ้าสำนักเซียนกระบี่ขอรับ เจ้าสำนักคนใหม่ซึ่งมีนามว่าหนิงฝาน!” เยี่ยอู๋เต้าพูดและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอีกครั้ง!
“สำนักเซียนกระบี่! หนิงฝาน!”
“กล้าฆ่าสามีของข้า ข้าต้องการให้มันตาย! ข้าต้องการทำลายสำนักเซียนกระบี่!”
ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาคู่สวยของอู๋ซื่อพลันเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความดุร้าย!
“นายหญิง ได้โปรดใจเย็นลงก่อนเถิด!”
“แม้แต่ท่านเจ้าสำนักก็ต้องตายตกเพราะสำนักเซียนกระบี่ ด้วยพลังของสำนักเซียนวิถีสวรรค์ในยามนี้ ส่งผู้คนไปมากแค่ไหนก็คงต้องตายโดยเปล่าประโยชน์!”
เห็นเช่นนั้นแล้ว เหล่าผู้คนของสำนักเซียนวิถีสวรรค์ก็พากันคุกเข่าลงในทันที เพราะเกรงว่าอู๋ซื่อจะสั่งให้พวกเขาไปโจมตีสำนักเซียนกระบี่!
“เจ้าพวกไร้ประโยชน์!”
อู๋ซื่อตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แต่นางเองก็ไม่ได้คาดหวังให้สำนักเซียนวิถีสวรรค์ไปแก้แค้นเช่นกัน!
แล้วนางก็พูดออกมาต่อ “กล้าฆ่าสามีของอู๋ซื่อ มันคงไม่รู้ว่าข้าอู๋ซื่อผู้นี้มาจากที่แห่งหนใด!”
ได้ยินเช่นนั้น เหล่าผู้คนในสำนักเซียนวิถีสวรรค์พลันตกใจในทันที!
พวกเขาต่างนึกขึ้นมาได้!
ที่มาของนายหญิงอู๋ซื่อไม่ธรรมดา เพราะนางเป็นถึงพี่สาวของเจ้าสำนักเซียนยุทธ์!
และสำนักเซียนยุทธ์เองก็เป็นผู้นำของแปดสำนัก พลังนับว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าสำนักเซียนกระบี่และสำนักเซียนวิถีสวรรค์ไปอีก!
หากว่าสำนักเซียนยุทธ์ลงมือ ก็ย่อมสามารถทำลายหนิงฝานและสำนักเซียนกระบี่ได้โดยง่าย!
พลันอู๋ซื่อสั่งการออกมา “ใครก็ได้ ไปจัดการให้เรียบร้อย ข้าจะไปสำนักเซียนยุทธ์!”
…
โดยไม่รอช้า อู๋ซื่อเดินทางจากสำนักเซียนวิถีสวรรค์มาถึงสำนักเซียนยุทธ์ทันที!
สำนักเซียนยุทธ์เป็นผู้นำของแปดสำนัก อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งนั้นก็ยิ่งใหญ่กว่าสำนักเซียนกระบี่ และสำนักเซียนวิถีสวรรค์ รวมถึงกองกำลังอื่นด้วย!
หลังจากแจ้งชื่อไปแล้ว อู๋ซื่อก็มายังมหาวิหารบ่มเพาะของสำนักเซียนยุทธ์!
“พี่สาว เหตุใดท่านถึงมาที่นี่ได้?”
ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนในชุดคลุมก็ก้าวเข้ามาในมหาวิหารจากด้านนอก ใบหน้านั้นดูครั่นคร้ามยิ่งและดวงตาก็ดูโดดเด่นแฝงความดุร้ายไว้เป็นพิเศษ
ทุกอิริยาบถ ล้วนแผ่กำจายออกด้วยปราณอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้!
อู๋เซียนเหริน เจ้าสำนักเซียนยุทธ์ กึ่งเซียนก้าวที่ห้า!
“น้องชาย เจ้าจะต้องแก้แค้นให้พี่ สามีของพี่เจ้าถูกฆ่าตายแล้ว!” เมื่อเห็นอู๋เซียนเหรินที่มาถึง อู๋ซื่อก็ร้องไห้ออกมาในทันที…
“อันใดนะ! เจ้าสำนักคนใหม่แห่งสำนักเซียนกระบี่นามว่าหนิงฝาน ระดับเทพสูงสุดฆ่าพี่เขยข้า!”
หลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว ภายในใจของอู๋เซียนเหรินก็รู้สึกตกใจยิ่ง
เรื่องราวที่ว่าเทพสูงสุดฆ่ากึ่งเซียนจนตายตกนี้… นับเป็นครั้งแรกในแคว้นเซียน!
อู๋ซื่อร้องไห้และพูดขึ้นว่า “น้องชาย พี่เขยของเจ้าต้องตายอย่างน่าเวทนา เจ้าจะต้องช่วยพี่ฆ่าเจ้าหนิงฝานผู้นั้น และทำลายสำนักเซียนกระบี่เสีย!”
ผู้ใดจะล้วงรู้ อู๋เซียนเหรินมิได้ตอบตกลงในทันที แต่กลับพูดขึ้นว่า “พี่สาว หากเป็นในอดีตข้าจะต้องช่วยท่านแก้แค้นอย่างแน่นอน แต่ยามนี้ เรื่องเช่นนี้ข้าเกรงว่าจะต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป!”
“เพราะเหตุใด!?” อู๋ซื่อขมวดคิ้ว!
อู๋เซียนเหรินอธิบายในทันที “เรื่องนี้ยาวนัก ไม่แน่ใจว่าท่านพี่เคยได้ยินมาก่อนหรือไม่ เรื่องของเมืองเซียนโบราณน่ะ?”
“เมืองเซียนโบราณ! ข้าเคยได้ยินพี่เขยของเจ้าพูดขึ้นมาอยู่ครั้งหนึ่ง!” อู๋ซื่อคิดออกและพยักหน้าให้คำตอบ
อู๋เซียนเหรินจึงกล่าวอธิบายว่า “เมืองเซียนโบราณ เป็นแดนลับที่กองกำลังทั้งแปดค้นพบร่วมกันเมื่อหลายปีก่อน ว่ากันว่าภายในนั้นมีสมบัติเซียนมากมาย ล้วนแล้วแต่มีของดีที่เหมาะสำหรับกึ่งเซียน และเมืองเซียนโบราณนี้จะปรากฏขึ้นในทุก ๆ หมื่นปี และระยะเวลาที่จะปรากฏตัวอีกครั้งก็ห่างจากวันนี้เพียงห้าปีเท่านั้น!”
“เมืองเซียนโบราณนี้กับการทำลายสำนักเซียนกระบี่เกี่ยวข้องกันอย่างไร ทำลายพวกมัน กองกำลังอีกเจ็ดแห่งก็จะได้แบ่งสมบัติแห่งเซียนเพิ่มขึ้น!” อู๋ซื่อกล่าวอย่างงุนงง
อู๋เซียนเหรินยิ้มและพูดขึ้น “ท่านไม่เข้าใจ หลังจากที่เมืองเซียนโบราณปรากฏตัวขึ้น ก็ต้องใช้กุญแจเซียนโบราณเปิดจึงจะสามารถเปิดได้ แต่ในตอนต้น ทั้งแปดกองกำลังได้นำเอากุญแจเซียนโบราณแบ่งออกเป็นแปดส่วน เก็บรักษาเอาไว้โดยแปดสำนัก มีเพียงแค่การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของกุญแจแห่งเซียนเท่านั้น ถึงจะสามารถเปิดเมืองเซียนโบราณได้!”
“หากโจมตีสำนักเซียนกระบี่ตอนนี้ เจ้าหนิงฝานแห่งสำนักเซียนกระบี่ย่อมทำลายกุญแจนั้นทิ้งได้ และโอกาสในเมืองเซียนโบราณก็คงจะไม่มีอีกแล้ว!”
“ดังนั้นรอจนเมืองเซียนโบราณถูกเปิดออก พี่สาวจะไปแก้แค้นก็ยังไม่นับว่าสายเกินไป!”
แล้วอู๋เซียนเหรินก็มองไปที่อู๋ซื่ออย่างรอคอยคำตอบ
แม้ว่าอู๋ซื่อจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่สุดท้ายก็ยอมเห็นด้วย
เห็นเช่นนั้นแล้ว อู๋เซียนเหรินก็พยักหน้า ก่อนที่สีหน้าหยิ่งผยองจะฉายชัดขึ้นบนใบหน้ายามนี้
“พี่สาววางใจได้!”
“ยามใดที่เมืองเซียนโบราณเปิดออก ยามนั้นจะเป็นตอนที่สำนักเซียนกระบี่และหนิงฝานถูกทำลาย!”
…
กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปห้าปีแล้ว!
ครืน!
ห้าปีมานี้ อาศัยการลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่องจนได้รับสมบัติล้ำค่ามา พลังฝึกฝนของหนิงฝานก็เลื่อนขั้นไปเป็นขอบเขตกึ่งเซียนแล้ว!
“หึ! นี่หรือขอบเขตกึ่งเซียน นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากระดับเทพสูงสุด!”
หนิงฝานสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกึ่งเซียนที่พุ่งพล่านอยู่ในตัว จนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา!
นอกจากพลังที่เพิ่มมากขึ้นแล้วนั้น ขอบเขตกึ่งเซียนยังช่วยให้เข้าใจในขอบเขตเซียนธุลีสีชาดด้วย!
แน่นอนว่าหากสามารถเข้าใจได้สำเร็จ ก็จะสามารถกลายเป็นเซียนธุลีสีชาดได้!
อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาเพิ่งจะก้าวสู่ขอบเขตกึ่งเซียน หากจะพูดถึงเรื่องของการเป็นเซียนแท้จริง หนิงฝานก็มิได้รีบร้อนอันใด อันที่จริงคือเขาไม่สามารถรีบร้อนได้ด้วย!
“ท่านเจ้าสำนัก!”
ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ เหล่าผู้อาวุโสก็เข้ามาและคารวะหนิงฝานด้วยความเคารพ!
หนิงฝานพยักหน้า “มีอันใด?”
“ท่านเจ้าสำนัก สำนักเซียนยุทธ์ส่งสารมา!” เหล่าผู้อาวุโสพยักหน้า ก่อนจะนำจดหมายฉบับหนึ่งออกมา!
“ผู้นำแปดสำนัก สำนักเซียนยุทธ์?”
หนิงฟ่านรู้สึกประหลาดใจ!
อยู่ในสำนักเซียนกระบี่มาตั้งนาน เขาเองก็รู้ถึงโครงสร้างอำนาจในแคว้นเซียนมานานแล้ว!
ทั่วทั้งแคว้นเซียน กองกำลังชั้นที่สามมีจำนวนนับไม่ถ้วน กองกำลังชั้นที่สองก็มีมากมาย!
แต่กองกำลังชั้นที่หนึ่งมีเพียงหนึ่งตำหนัก สามขุนเขา ห้าพรรค แปดสำนักเท่านั้น!
ในแปดสำนักนั้นมีสำนักเซียนยุทธ์ สำนักเซียนวิถีสวรรค์ สำนักเซียนกระบี่ สำนักปีศาจโบราณ สำนักโลกใต้พิภพ สำนักญาณเซียน สำนักปีศาจเมฆา สำนักเทพตะวัน!
และสำนักเซียนยุทธ์เองก็เป็นผู้นำของทั้งแปดสำนัก ว่ากันว่าเจ้าสำนักเซียนยุทธ์ซึ่งมีนามว่า อู๋เซียนเหริน นั้นอยู่ขอบเขตกึ่งเซียนก้าวที่ห้า!
“หืม? เมืองเซียนโบราณ! แปดชิ้นส่วนกุญแจแห่งเซียน!”
เมื่ออ่านจดหมายจบ หนิงฝานก็เลิกคิ้ว!
ภายในของมรดกสืบทอดกึ่งเซียนของปรมาจารย์เซียนกระบี่ จะต้องมีชิ้นส่วนกุญแจนั้นอยู่แน่ ๆ แต่เขาไม่เคยสนใจมันมาก่อนเลย!
ที่แท้ก็คือชิ้นส่วนกุญแจเพื่อเปิดเมืองเซียนโบราณ!
“ท่านเจ้าสำนัก ได้ยินมาว่าอู๋เซียนเหริน ผู้เป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักเซียนยุทธ์และภรรยาของเจ้าสำนักเซียนวิถีสวรรค์มีความสัมพันธ์… เป็นพี่น้องกัน!”
“หากสำนักเซียนกระบี่ของพวกเราไป เกรงว่าจะตกเป็นเป้าหมายของสำนักเซียนยุทธ์และสำนักเซียนวิถีสวรรค์ได้!”
“สำนักเซียนกระบี่ของพวกเราต้องไปเปิดเมืองเซียนโบราณด้วยหรือ?”
เหล่าผู้อาวุโสตอบกลับด้วยเสียงที่ต่ำลง สีหน้าดูหนักอึ้ง!
“หึ ๆ ในเมื่อเมืองเซียนโบราณก็เป็นโอกาสหนึ่งของสำนักเซียนกระบี่ เหตุใดจักต้องมิไปด้วย!”
หนิงฝานยิ้มขึ้น!
แม้ว่าอู๋เซียนเหรินจะเป็นกึ่งเซียนก้าวที่ห้า แต่ด้วยพลังของเขาในยามนี้แล้ว ย่อมเพียงพอที่จะต่อกรด้วยไหว!
อีกทั้งการเผชิญหน้ากับกองกำลังชั้นหนึ่งอื่น ๆ ในแคว้นเซียน ก็อยู่ในแผนการของเขาอยู่แล้ว
“ตอบกลับจดหมายว่า เมืองเซียนโบราณปรากฏขึ้นวันใด สำนักเซียนกระบี่ของข้าจะไปที่นั่นในวันนั้น!”
ด้วยคำสั่งของหนิงฝาน เหล่าผู้อาวุโสก็ตอบจดหมายกลับไปในทันที!
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก วันที่ต้องเปิดเมืองเซียนโบราณก็มาถึง!
หนิงฝานพาเหล่าผู้อาวุโสทั้งสิบคนรวมถึงยอดฝีมือแห่งสำนักจำนวนหนึ่งไปยังดินแดนที่เมืองเซียนโบราณจะปรากฏขึ้น!
…
[แจ้งนักอ่าน]
ทางทีมงานขออนุญาตทำการเปลี่ยนชื่อ “หมู่ตึกเซียนวิถีสวรรค์” เป็น “สำนักเซียนวิถีสวรรค์” เนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดเล็กน้อย ทางทีมงานต้องขออภัยนักอ่านทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง ขอบพระคุณค่ะ