ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-11

ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-11

มันเป็นจูบที่ดื้อดึง ลิ้นที่บุกรุกผ่านริมฝีปากที่เปิดออกเกี่ยวกระหวัดลิ้นของอินซอบขึ้น และไม่ให้แม้แต่เวลาที่จะหายใจ ทุกครั้งที่อินซอบอ้าปากเพื่อรับสูดลมหายใจที่ไม่พอเข้าไป อีอูยอนก็จะเปลี่ยนมุมและบดขยี้ริมฝีปากใหม่ อินซอบรู้สึกเวียนหัว เขากะพริบตาและมองอีอูยอน วินาทีที่สบตากัน ขนของเขาก็ลุกซู่ มันเป็นแววตาที่เขาเคยเห็นตอนนั้น แววตาเย็นชาราวกับจะสำรวจอีกฝ่าย

“…!”

อินซอบเผลอผลักอีอูยอนอย่างไม่รู้ตัว จูบที่พัดเข้ามาเหมือนหิมะที่ตกหนักหยุดลงอย่างง่ายดายจนรู้สึกว่างเปล่า อีอูยอนก้มมองอินซอบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เอ่อ ขอโทษครับ ผมตกใจก็เลย…”

อินซอบเช็ดริมฝีปากที่เปียกน้ำลาย และพึมพำข้อแก้ตัว แต่อีอูยอนจะต้องสังเกตได้ถึงความที่จริงว่าตนหวาดกลัวอย่างแน่นอน

“ขอโทษครับ ผมควรจะได้รับอนุญาตก่อนแท้ๆ”

แม้จะพูดแบบนั้น แต่เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าอีอูยอนไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย

“ผมจะมีเซ็กซ์กับคุณตั้งแต่ตอนนี้ คุณโอเคไหมครับ”

อีอูยอนแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดพลางเอ่ยถาม อินซอบส่ายหน้า

“ที่นี่ไม่มีนักข่าว แล้วก็ไม่ใช่ข้างนอกด้วย มีอะไรอีกนะครับ เงื่อนไขที่คุณอินซอบขอน่ะ”

อีอูยอนแกะกระดุมข้อมือของเสื้อเชิ้ตและพึมพำด้วยแววตาที่จมอยู่ในความคิด

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คือว่า…”

ส่วนที่โดนคังยองโมต่อยยังคงเจ็บแปลบ และยังเหลือรอยช้ำอยู่ ถ้าเป็นที่อื่น เขาจะสามารถบอกว่าเป็นเพราะล้มได้ แต่มันเกินไปมากสำหรับตรงใต้ลิ้นปี่

“วันนี้ผมเหนื่อยนิดหน่อยนะครับ”

อีอูยอนร้องหืม และเอียงคอราวกับไม่พอใจ

“เหนื่อยเรื่องอะไรเหรอครับ”

อินซอบออกจากโรงพยาบาลทันทีหลังจากที่ได้ฟังผลตรวจ เขากลับบ้านมาเจอคลิปเมื่อวานที่ถูกถ่ายไว้ด้วยกล้องหน้ารถ ก่อนจะติดต่อหาคังยองโมให้มาเจอกันและข่มขู่คนเป็นครั้งแรกในชีวิต

“…ตอนเช้าผมไปโรงพยาบาลก็เลยเหนื่อยนิดหน่อยครับ”

ตารางงานที่สามารถเปิดเผยให้อีอูยอนรู้ได้จากเรื่องทั้งหมดคือเรื่องโรงพยาบาล

“เหนื่อยเพราะเรื่องนั้นเหรอครับ”

น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนตำหนิทำเอาอินซอบเผลอกลั้นหายใจ และนึกถึงความฝันที่ฝันเมื่อวาน

“…มะ ไม่ได้เหนื่อยมากหรอกครับ”

“แล้วเหนื่อยแค่ไหนเหรอ”

อีอูยอนเท้ามือกับโซฟาเอนตัวมาหา เขามองเห็นกล้ามเนื้อแน่นๆ ผ่านสาบเสื้อ ไหล่กว้างๆ นั่นทำให้เขารู้สึกว่าชายหนุ่มดูคุกคามขึ้นหลายเท่า

“นิดหน่อย…”

“ถึงขนาดที่มีเซ็กซ์ไม่ได้เลย?”

‘แต่มันทำให้ผมรำคาญนิดหน่อยครับ เพราะคุณเจ็บป่วยอยู่เรื่อย ผมก็เลยต้องคอยเป็นห่วงอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นคือผมหงุดหงิดที่ไม่สามารถมีอะไรกับคุณได้ตามอำเภอใจด้วย’

น้ำเสียงของอีอูยอนที่ได้ยินในฝันซ้อนทับกับความเป็นจริง เหมือนเขาจะหงุดหงิดและผุดลุกจากที่ในไม่ช้า

“ตะ แต่ทำเรื่องอื่นได้ครับ”

“เรื่องอื่น?”

อีอูยอนแสยะยิ้ม นี่ไม่ใช่น้ำเสียงที่แหย่เล่นเหมือนปกติ ส่วนแววตาก็เย็นชาและสะท้อนให้เห็นถึงความดุร้าย

“ใช้ปาก…”

อินซอบหน้าแดงไปจนถึงหู นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกว่าจะทำให้ก่อนอย่างกระตือรือร้นแบบนี้

“…”

อีอูยอนไม่ตอบอะไร ยิ่งความเงียบยาวนานเท่าไร หน้าก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ อินซอบกำชายเสื้อ และหวังให้อีกฝ่ายพูดอะไรสักอย่าง

“รู้ไหมครับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่คุณอินซอบขออมของผมก่อน”

“…ขอโทษนะครับ ถ้าผมทำให้อารมณ์เสีย”

แม้เขาจะไม่คิดว่าจะทำให้อารมณ์ของอีอูยอนดีขึ้นจนเป็นปกติได้ แต่อินซอบก็ค่อยๆ หมดกำลังใจลง เพราะไม่คิดว่าการมาที่นี่จะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียขนาดนี้

การที่เราโทรศัพท์ไปหากลางดึกเมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า

“งั้นก็เอาสิครับ”

อีอูยอนเอาขาที่พาดอยู่บนโซฟาลงและลุกขึ้น จากนั้นก็พยักพเยิดหน้าให้อินซอบ

“ลองอมสิครับ”

ท่าทีที่ไม่ได้เย็นชา แต่ดูข่มกันทำให้ปลายนิ้วของอินซอบเย็นเฉียบ แม้การมีเซ็กซ์กับอีอูยอนจะมีส่วนที่ติดขัดอยู่เล็กน้อย แต่ความรู้สึกได้รับความรักก็ทำให้เขารู้สึกดีอยู่เสมอ …แม้จะมีตอนที่กลัวอยู่บ้าง เพราะรู้สึกดีมากเกินไปก็ตาม

แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกถึงความรู้สึกพวกนั้นเลย และรู้สึกได้ทันทีถึงความแตกต่างกันอย่างมากกับการกระทำที่ทำในที่จอดรถ

“ไม่อยากทำเหรอครับ”

อีอูยอนเอ่ยถาม อินซอบรีบส่ายหน้า และยื่นมือออกมารูดซิปของอีอูยอนลง แท่งเนื้อที่ตื่นตัวขึ้นมาแล้วอวดรูปร่างของตัวเองผ่านกางเกงชั้นใน

อินซอบอ้าปากและอมแท่งเนื้อนั้นเข้าไป แค่เอาใส่ปากท่อนลำนั้นก็กระตุกและหนักมากขึ้น แม้จะเคยใช้ปากมาแล้วหลายครั้ง แต่อินซอบก็ยังไม่เข้าใจวิธีการที่ถูกต้องอยู่ดี

ต้องทำยังไงถึงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีล่ะ

อินซอบค่อยๆ ใช้ลิ้นโอบรัดส่วนปลายตามที่อีอูยอนมักจะสั่งในเวลาปกติ และห่อริมฝีปากเข้ามา มือของอีอูยอนขยุ้มผมของอินซอบเบาๆ

อินซอบรวบรวมความกล้าในการขยับปากทีละนิดพร้อมกับดูดดุนแก่นกายของชายหนุ่ม เขารู้สึกแท่งเนื้อนั้นค่อยๆ แข็งขืนขึ้น

รู้สึกดีเหรอ

อินซอบค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอีอูยอน วินาทีที่สบตากัน อีอูยอนก็เกร็งมือที่จับอินซอบไว้

“…!”

อีกฝ่ายตาลอย อีอูยอนจับศีรษะของอินซอบไว้และกระแทกเอวเข้ามาอย่างแรง แก่นกายที่แข็งเหมือนหินทิ่มเข้ามาในลำคอ อินซอบน้ำตาคลอ

“อื้อ อื้อ!”

อีอูยอนขยับพร้อมกับกัดฟัน อีกฝ่ายไม่ได้พ่นลมหายใจที่ติดขัดหรือเอ่ยเรียกชื่อของอินซอบเหมือนปกติ เขาแค่ขยับเพื่อที่จะปลดปล่อยความต้องการเท่านั้น อินซอบมึนงง เขารู้สึกเหมือนอีอูยอนเป็นคนอื่น

แก่นกายที่ตั้งตรงกระทำชำเราลิ้นและภายในช่องปากของเขา อินซอบจับขาของอีอูยอนไว้ และรองรับตัวตนของอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก การใช้กำลังของอีกฝ่ายดำเนินต่อไปอยู่อีกพักหนึ่ง

“…!”

อีอูยอนจับด้านหลังศีรษะของอินซอบไว้และกระแทกเอวเข้ามาอย่างแรง น้ำเชื้ออุ่นร้อนไหลเข้ามาในลำคอ เขาขยับเอวต่ออีกสองสามครั้งและหลั่งน้ำเชื้อเข้าไปในตัวของอินซอบ

“แค่ก แค่ก…”

อินซอบไอและสูดลมหายใจเข้าไปทันทีที่อีอูยอนปล่อยเขา น้ำเชื้อที่ไม่สามารถกลืนลงไปได้กระเด็นออกมาพร้อมกับน้ำลายทุกครั้งที่ไอ

อินซอบทรุดนั่งบนพื้นและหอบหายใจอยู่พักหนึ่ง

“เสร็จหรือยังครับ”

อีอูยอนที่จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเหมือนจะถามว่าเคยทำเรื่องแบบนั้นตอนไหนเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“ครับ?”

อินซอบคิดว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่าจึงถามซ้ำ

“ผมถามว่าเสร็จหรือยังไงครับ”

“…เอ่อ ครับ”

อินซอบยังประมวลสถานการณ์ไม่ได้ และมองอีอูยอนด้วยสีหน้ามึนงง อีอูยอนหยิบกล่องบุหรี่ที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะขึ้น และหยิบบุหรี่ออกมาคาบ ควันบุหรี่ลอยตามตัวของเขาที่ค่อยๆ เดินไปทางหน้าต่าง

อีอูยอนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง และเริ่มสูบบุหรี่ กล้ามเนื้อที่อยู่ติดกับไหล่กว้างปรากฏรูปร่างของกระดูกอย่างชัดเจน หากคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงที่อีอูยอนได้พักหลังจากที่ถ่ายภาพยนตร์เสร็จ แต่ร่างกายของอีกฝ่ายกลับอยู่ในรูปร่างที่สมบูรณ์แบบมากกว่าตอนปกติเสียอีก

ถึงจะเป็นแค่ด้านข้างของผู้ชายที่สูบบุหรี่พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่ดีรางๆ แต่อินซอบก็รู้สึกละอายใจราวกับแอบดูหนังผู้ใหญ่ และรีบก้มหน้าลง

“ทำอะไรอยู่ครับ”

อีอูยอนหันหน้ามาเพราะรู้สึกถึงสายตา

“ครับ?”

“เสร็จธุระแล้วไม่กลับเหรอครับ”

แล้วภาพยนตร์ที่เริ่มโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก็จบลงแบบนั้น

***

“เฮ้อ”

อินซอบถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย

วันนี้เป็นวันที่มีการถ่ายนิตยสาร และการถ่ายทำในสตูดิโอก็ไม่ค่อยมีเรื่องให้ผู้จัดการส่วนตัวสอดมือเข้าไปยุ่งเท่าไร เขาแค่นั่งรอเงียบๆ และถ้ามีของที่ต้องการ เขาก็แค่เอามาให้อย่างรวดเร็วเท่านั้น

แต่การถ่ายทำวันนี้กลับไม่ง่ายอย่างนั้น

“ทางนี้ค่าผู้จัดการส่วนตัวของคุณซอชินอา ช่วยบอกให้คุณชินอาออกมารอทีนะคะ”

“จะเริ่มถ่ายทันทีเลยหรือเปล่าครับ”

“เรื่องนั้นพวกเราเองก็บอกได้ยากเหมือนกันค่ะ”

“…เข้าใจแล้วครับ”

ผู้จัดการส่วนตัววิ่งไปทางห้องพักรับรองด้วยสีหน้าเศร้าๆ สีหน้าของนักแสดงหญิงที่ออกมาหลังจากเตรียมตัวสำหรับถ่ายงานเสร็จแล้วไม่ดีเป็นอย่างมาก

“ถ่ายเลยไม่ได้เหรอคะ”

“ไม่ได้ค่ะ ช่วยรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ”

“อะไรเนี่ย บอกว่าจะถ่ายเลย แต่ทำไมต้องรออีกด้วยล่ะ คุณหัวหน้าทีมควรจะพูดตรงๆ สิคะ”

การคะตอกของนักแสดงหญิงทำให้ผู้จัดการส่วนตัวทำตัวไม่ถูก

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่เดิมทีกองถ่ายก็ไม่ใช่ที่ที่จะเป็นไปอย่างที่ใจคิดอยู่แล้ว”

แม้ผู้กำกับสถานที่จะขอโทษ แต่สถานการณ์ก็ยังคงรุนแรงอยู่ เพราะนี่มันก็หลายครั้งแล้วที่เธอมารอถ่าย แต่แล้วก็ต้องกลับไปที่ห้องพักรับรองใหม่ ใบหน้าของหญิงสาวที่ยิ้มหวานและรอได้ในตอนแรกเริ่มเจือด้วยความรำคาญ นักแสดงคนอื่นที่รอถ่ายก็เหมือนกัน

“แน่นะคะคราวนี้?”

“ค่ะ คุณก็รู้นี่คะว่าช่างภาพเขาเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพวกเพอร์เฟคชันนิส”

ผู้กำกับสถานที่ขอร้องอีกฝ่ายอย่างเชี่ยวชาญ

“ทราบค่ะ แต่ถ้ารอนานมากๆ ฉันจะกลับไปอีกรอบนะคะ”

หญิงสาวยืนกอดอกโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้

ผู้ผลิตผลงานที่รับหน้าที่ดูแลการถ่ายทำวันนี้คือช่างภาพระดับโลก เดวิด อัลเลน เขาที่ถูกเรียกโดยฉายา ‘นักผลิตที่ทำสัญญากับซาตาน’ มีชื่อเสียงด้วยนิสัยที่ชอบด้นสดจนพอที่จะทำให้สับสนกับความเป็นเพอร์เฟคชันนิสขั้นรุนแรงได้ และเป็นพวกที่จะกดชัตเตอร์จนกว่าจะพอใจ แม้จะมีตอนที่เขาให้ผ่านในครั้งเดียว แต่มันก็มีตอนที่เขาถ่ายไปเรื่อยๆ ถึงสองสามชั่วโมงเช่นกัน แม้พวกนางแบบนายแบบที่ได้ทำงานกับเขาสักครั้งจะกัดฟันบอกว่าจะไม่ทำงานกับช่างภาพคนนี้อีกแล้ว แต่ก็ต้องตกตะลึงจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นผลลัพธ์

การถ่ายทำวันนี้เป็นการถ่ายทำเพื่อฉลองการครบรอบ 20 ปีของนิตยสาร W ตอนที่ได้ยินข่าวว่าจะเรียกนักแสดงที่อยู่ในช่วงวัยยี่สิบที่กำลังขับเคลื่อนวงการภาพยนตร์ของเกาหลีจำนวนสิบสองคนมารวมตัวกันถ่ายภาพ ต้นสังกัดของนักแสดงทั้งหลายก็ถอนหายใจ

ถ้าหากเอานักแสดงดังไม่ใช่หนึ่งหรือสองคน แต่มีจำนวนขนาดนั้นมารวมกันถ่ายแบบ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วที่จะต้องเอาใจใส่ไปจนถึงเรื่องสงครามประสาทระหว่างนักแสดง และจะต้องเรียงลำดับการถ่ายทำ และตำแหน่งที่ยืนในตอนที่ถ่ายภาพหมู่ตามเหตุผลที่เหมาะสมด้วย

ปัญหาก็คือช่างภาพที่เชิญมาวันนี้ไม่ใช่คนที่จะคิดถึงเรื่องแบบนั้น หลังจากที่ดูรูปของทั้งสิบสองคน เขาก็เรียกชื่อตามลำดับที่ตัวเองต้องการ และไม่มีทางที่จะเรียกคนต่อไปจนกว่าตัวเองจะพอใจ

ความไม่พอใจของนักแสดงที่จะต้องเลื่อนตารางงานที่นัดไว้แล้วและรอต่อไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นสถานการณ์ที่ผู้จัดการส่วนตัวที่ต้องไปไหนมาไหนกับบรรดานักแสดงต้องเหนื่อยเป็นอย่างมาก

“เฮ้อ น่าจะถ่ายภาพหมู่ก่อนสิ ไม่ได้จะชวนไปตายด้วยกันซะหน่อย”

“นั่นสิครับ ไม่ใช่ว่าวันนี้จะต้องโต้รุ่งจนไม่ได้กลับบ้านหรอกนะ อยากจะบ้าตาย ทางนั้นก็วุ่นวายใช่ไหมล่ะ”

“มันก็แน่อยู่แล้วสิครับ ดื่มแต่น้ำอย่างเดียวมาตั้งแต่สี่วันก่อนแล้ว สภาพจะเป็นยังไงล่ะครับ”

“รุ่นพี่ที่บริษัทของผมบอกว่าห้ามสบตากับนักแสดงที่หิวล่ะครับ”

พวกผู้จัดการส่วนตัวพูดคำพูดล้อเล่นที่เจ็บไปจนถึงกระดูกให้กันฟัง และแบ่งปันความเจ็บปวดในฐานะคนที่มีหัวอกเดียวกันร่วมกัน

“ว่าแต่ทางนั้นคงจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับ เพราะคุณอีอูยอนนิสัยดีอยู่แล้ว”

ผู้จัดการส่วนตัวคนหนึ่งที่จำอินซอบได้สังเกตเห็นและเอ่ยทัก

“เอ่อ ครับ คุณอีอูยอนไม่ได้เป็นอะไรครับ”

เขาเป็นมากต่างหาก อารมณ์ของอีอูยอนไม่ดีมาตั้งแต่เช้าแล้ว แม้กระทั่งคิมคังอูที่มีชีวิตชีวาอยู่เสมอก็ยังสังเกตเห็นและขับรถด้วยสภาพที่ปิดปากเงียบ

แม้อีอูยอนจะไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ แต่บรรยากาศรอบๆ ตัวของเขากลับเยือกเย็นกว่าปกติอยู่หลายเท่า

และหลังจากที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเมื่อวานนี้ วันนี้อินซอบก็ไม่กล้าพูดกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่คำเดียว

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท