รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 212 บ้าอะไร? ถูกต้นหลิวและก้อนหินสั่งสอน?

บทที่ 212 บ้าอะไร? ถูกต้นหลิวและก้อนหินสั่งสอน?

บทที่ 212 บ้าอะไร? ถูกต้นหลิวและก้อนหินสั่งสอน?

หยวนอีบอกลาหลี่จิ่วเต้า โดยบอกว่านางจะนำกระถางดอกไม้กลับมาในไม่ช้า

ในลานเล็ก จอบถูกวางพิงกำแพงอย่างเงียบเชียบและไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ

จิตใจของดาบมารอมตะที่อยู่ภายในจอบได้เปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ใช่ดาบมารอมตะก่อนหน้านี้อีกต่อไป แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับทายาทของจักรพรรดิหยวน หยวนอี มันก็ไม่แสดงความเกลียดชังและสงบมาก

นอกเมืองชิงซาน ข้างแม่น้ำสายเล็ก ๆ

“เหตุใดคุณหนูยังไม่ออกมาอีก?”

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างกังวลใจ

“ไม่ต้องห่วง เจ้าอย่าทำให้งานสำคัญของคุณหนูเสียได้!”

คนข้าง ๆ เขาพูด

พวกเขาคือยอดฝีมือของตระกูลหยวน เมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาได้รับข่าวจากยอดฝีมือคนอื่น ๆ ของตระกูลจักรพรรดิว่าประมุขของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีเหมือนจะมาทางทิศตะวันออก

พวกเขาไม่กล้ารอช้าและรีบมาที่นี่ทันที โดยตั้งใจจะบอกหยวนอีเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

หยวนอีเป็นลูกสาวของผู้นำตระกูล สถานะของนางสูงกว่าพวกเขาทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย พวกเขาต้องการให้หยวนอีตัดสินใจ

หยวนอีบอกพวกเขาว่าจะไปเมืองชิงซานเพื่อเยี่ยมหลี่จิ่วเต้า สหายสนิทของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียน ดังนั้นพวกเขาจึงรออยู่ที่นี่

หลังจากมาถึงที่นี่ พวกเขาไม่กล้าเข้าไปในเมือง ด้วยกลัวว่าจะไปรบกวนหยวนอี พวกเขาจึงรออยู่นอกเมืองเพื่อรอนางออกมา

พวกเขาทั้งหมดได้เห็นความน่ากลัวของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียน ดังนั้นหากหยวนอีไปเยี่ยมเยียนสหายของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียน เรื่องนี้ย่อมสำคัญมาก… พวกเขาจึงไม่กล้าไปรบกวน

“แม้ว่าประมุขของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีจะไม่สามารถชิงดาบมารอมตะไปได้ แต่การที่คุณหนูอยู่ที่นี่ก็ยังเป็นอันตรายมาก…”

ดาบมารอมตะถูกผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนเอาไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะชิงดาบมารอมตะจากผู้อาวุโสเซี่ยเหยียน

ผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนนั้นแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าเผ่าของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีอยู่มากโข

ทว่า พวกเขากังวลว่าประมุขของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีจะลงมือกับหยวนอีหลังจากที่รู้ว่านางอยู่ที่นี่!

พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เฒ่าเผ่าอสูรโลหิตอัสนี และพวกเขาก็ไม่สามารถปกป้องคุณหนูได้

พวกเขาจึงต้องการให้คุณหนูออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

“ไม่ว่าเจ้าจะเร่งด่วนแค่ไหน ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนไป อดทนรอก่อนเถอะ อยู่ที่นี่… คุณหนูจะไม่เป็นไร”

อีกคนพูด

สหายของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนอยู่ในเมืองชิงซานและคุณหนูก็อยู่กับสหายของผู้อาวุโสเซี่ยเหยียน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าผู้อาวุโสของกลุ่มเผ่าอสูรโลหิตอัสนีจะมาฆ่าพวกเขา

ตรงกันข้าม พวกเขายังคงหวังว่าผู้นำของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีจะมาฆ่าพวกเขา

หากประมุขแห่งเผ่าอสูรโลหิตอัสนีมาฆ่าเขาจริง ๆ ผู้อาวุโสเซี่ยเหยียนจะไม่นั่งเฉย ๆ อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นแม้ว่าประมุขแห่งเผ่าอสูรโลหิตอัสนีจะมีร้อยชีวิตเขาก็ไม่พอ!

“ใช่แล้ว”

ชายวัยกลางคนยิ้มและพูดว่า “ที่นี่ปลอดภัยที่สุด”

เขาเห็นก้อนหินอยู่ข้าง ๆ และวางแผนที่จะนั่งลง

แต่ใครจะรู้ ก่อนที่บั้นท้ายของเขาจะนั่งลง เขาก็ต้องตะโกนออกมา

“มารดาข้า มันร้อนยิ่ง!”

เขาแยกเขี้ยว ก้นของเขาเกือบจะสุกแล้ว!

หินก้อนนั้นเหมือนหินร้อน และทันทีที่ก้นของเขาเข้าใกล้มัน เขารู้สึกถึงอุณหภูมิสูงอันไร้ขีดจำกัดที่แทบลวกเขาจนตาย!

“ร้อนหรือ?”

คนข้าง ๆ เขาอึ้ง แล้วพูดอย่างขบขันว่า “เป็นบ้าอะไรของเจ้า?”

เขาอยู่ไม่ไกลจากหินก้อนนั้น ถ้าหินก้อนนั้นร้อนขนาดนั้นจริง ๆ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้สึกอุณหภูมิเลย

และเขาก็ไม่ได้รู้สึกร้อน

“ใครบ้า! หินนี่ร้อนจริง ๆ เมื่อครู่มันแทบเผาก้นข้า!”

เจ้าตัวตะโกนลั่น

สิ่งนี้สามารถเป็นของปลอมได้หรือ?

อ๊า!! ยังเจ็บก้นอยู่เลย มันคงไม่ได้สุกจริง ๆ ใช่ไหม?

คนข้างกายสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?

เขาเปิดใช้ประสาทสัมผัสญาณและตรวจสอบหินก้อนนั้น

“เรียกร้องความสนใจรึ? น่าเบื่อ!”

คนตรวจสอบพูดอย่างโกรธจัด

ภายใต้การตรวจสอบของประสาทสัมผัสญาณของเขา ไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับหินก้อนนั้นเลย มันเป็นเพียงหินธรรมดา

“ข้าไม่ได้โกหกเจ้า!”

ชายวัยกลางคนที่ถูกไฟคลอกแทบจะร้องไห้

ก้นของเขายังร้อนระอุ ทั้งยังได้กลิ่นไหม้อีกด้วย!

“พูดเรื่องไร้สาระอีก ข้าจะโยนเจ้าลงแม่น้ำ!”

คนข้าง ๆ ไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย

ก่อนจะใช้ประสาทสัมผัสญาณเพื่อตรวจสอบ เจาจะทำผิดพลาดได้อย่างไร?

เป็นไปไม่ได้!

นั่นคือหินธรรมดา

“ข้า…!”

ผู้ถูกไฟลวกก้นอึดอัดตันใจ

นี่พี่น้องร่วมตระกูลเดียวกันของเขาจริงรึ!?

ก้นเขาใกล้จะสุกแล้วกลับไม่เชื่องั้นหรือ?

“พอที อย่ามาล้อเล่นกับข้าที่นี่! ข้าไม่อยู่ในอารมณ์จะเล่นด้วย! ข้าตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัสญาณ และมันเป็นหินธรรมดา” คนข้าง ๆ พูด

หินธรรมดา?

เป็นไปได้ยังไง!

คนที่เกือบถูกลวกตายไม่เชื่อว่ามันเป็นหินธรรมดา!

ทว่า ชายวัยกลางคนมีรอยไหม้จากการถูกเผาก้นจนไม่กล้าไปที่หินนั้นอีก เขาปล่อยประสาทสัมผัสญาณออกไป และตรวจสอบหินเพื่อดูว่ามันเป็นหินอะไร

“ฮะ?”

ในไม่ช้าเขาก็ตัวแข็ง

หลังจากตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัสญาณ เขาก็ไม่พบสิ่งใด มันเป็นเพียงหินธรรมดา!

มันแปลก ๆ

เป็นไปได้ไหมที่เมื่อครู่นี้เขาจินตนาการถึงประสบการณ์การถูกไฟลวกก้นไปเอง?

“ข้าล่ะ… คร้านจะพูดกับเจ้าจริง ๆ!”

คนข้าง ๆ พูดไม่ออก อีกฝ่ายอายุเท่าไหร่แล้ว ยังจะชอบเล่นตลกแบบนี้อีก?

เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก!

เขาไม่สนใจชายคนนั้น และเดินไปที่ต้นหลิวข้าง ๆ โดยพยายามเอนพิงต้นหลิว

โดยไม่คาดคิด ด้วยเสียง ‘ฟึ่บ’ เขาไม่ได้พิงโดนต้นหลิว แต่ร่วงลงไปกองกับพื้นในทันที!

“อะไรกัน?”

เขาเผยสีหน้าแปลกใจ ต้นหลิวอยู่ข้าง ๆ เขาอย่างเห็นได้ชัด เขาจะพลาดเอนหลังล้มลงกับพื้นได้ยังไง?

“ภาพลวงตางั้นหรือ? มันต้องเป็นภาพลวงตาแน่ ๆ ข้าถูกเจ้าทำสับสนนัก!”

เขาตะโกนใส่คนที่ถูกไฟลวก โดยคิดว่าเมื่อครู่นี้เขาอาจมองผิด จึงเอนตัวคลาดกับต้นหลิวไป

“เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!”

ชายที่ถูกไฟลวกตะโกน

เขายังคงเสียใจกับเรื่องก่อนหน้า เรื่องถูกหาว่าเล่นตลกทั้ง ๆ ที่ก้นของเขาถูกไฟลวก!

ช่างไร้เหตุผลนัก!

ประเด็นคือเขาไม่พบสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับหินก้อนนั้น…

ความเจ็บปวดที่ก้นสามารถเป็นของปลอมได้หรือ?

เขาไม่เชื่อ!

หลังจากนั้น เขาเดินไปที่หินอย่างระมัดระวังและตรวจสอบอีกครั้ง

ชายที่ล้มลงยืนขึ้นและเดินไปที่ต้นหลิวอีกครั้ง คราวนี้ หลังจากยืนยันแล้วเขาก็เอนหลังไปทางต้นหลิว

“ยังไม่จบอีก ไอ้เฒ่านี่ เจ้าจะพิงหาอะไร!”

เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้น จากนั้นชายคนนั้นก็ถูกโยนลงไปในแม่น้ำราวกับว่าเขาถูกอะไรบางลากไป!

ชายคนนั้นตกตะลึงทันที เขาถูกต้นหลิวด่าหรือ?

แล้วยังถูกต้นหลิวซัดออกไป…?

“ให้ตายสิ เจ้ายังอยู่ที่นี่อีกหรือ? เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! เจ้ายังต้องการที่จะนั่งบนท่านปู่หินอีก!”

ในอีกด้านหนึ่งก็มีเสียงตะโกนออกมาจากก้อนหิน และจากนั้นคนที่โดนลวกก่อนหน้านี้ก็รู้สึกถึงอุณหภูมิสูงระเบิดใส่!

หลังจากนั้น ชายคนนั้นพลันไหม้เกรียมทั้งข้างในและข้างนอก โดยควันดำก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา!

“ฟังสิ ข้าไม่ได้โกหกเจ้า!”

ชายคนนั้นยิ้มอย่างโง่เขลา ในที่สุดก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้!

“จะมาโกหกอะไรอีก! เจ้าถูกเผาจนเป็นถ่านดำแล้ว!”

คนที่อยู่ในแม่น้ำตวาดใส่อย่างพูดไม่ออก ใช่เวลามาพูดเรื่องโกหกหรือไม่โกหกรึ?

เขาโกรธมาก เขามาจากตระกูลหยวน ทั้งเขายังเป็นขอบเขตราชันย์ผู้เกริกไกร เขาเคยต้องเสียท่าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?

“ข้าจะระเบิดเจ้าให้แหลกเป็นชิ้น ๆ!”

ชายผู้นั้นก็ตอบสนองเช่นกัน เขากัดฟันและพูดกับก้อนหิน

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท