ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 222 ฉวยโอกาส(ปลาย)

ตอนที่ 222 ฉวยโอกาส(ปลาย)

​“หืม​”

​คุณชาย​เว​่​ยปัด​จมูก​เบี่ยง​หน้า​หลบ​ออก​ไป​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​เอ่ย​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​สตรี​ตั้งครรภ์​มี​อาการหนัก​ ​อาจ​รู้สึก​ไม่สบาย​นัก​ ​เจ้า​อยู่​บ้าน​คนเดียว​…​ ​อู๋ส​ยา​ ​ขอโทษ​”

​หนา​นก​งมั​่​วก​้​มห​น้า​ลง​ ​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​คุณชาย​เว​่ย​ไม่มีทาง​รู้เรื่อง​เหล่านี้​อย่างแน่นอน​ ​เขา​มิใช่​หมอ​และ​ไม่เคย​สัมผัส​ใกล้ชิด​กับ​หญิง​ตั้งครรภ์​ ​รู้​ว่า​สตรี​มีลูก​นั้น​ยากลำบาก​ก็​ไม่เลว​แล้ว​ ​เรื่อง​เหล่านี้​แปด​เก้า​ส่วน​คงจะ​ไปหา​ข้อมูล​หรือ​ถาม​กับ​ใคร​หลังจากที่​นาง​ตั้งครรภ์​อย่างแน่นอน​ ​เขา​อยู่​ใน​กองทัพ​ ​แน่นอน​ว่า​มีโอกาส​ถาม​คนอื่น​มากกว่า​ ​เพียง​นึกถึง​คุณชาย​เว​่ย​ที่​ใบหน้า​นิ่งเฉย​กลั้น​ความ​กระอักกระอ่วน​ไป​ถาม​คนอื่น​เรื่อง​หญิง​ตั้งครรภ์​ ​นาง​ก็​อด​ยิ้ม​ออกมา​ไม่ได้

​“​ไม่เป็นไร​ ​ข้า​สบายดี​ ​ลูก​เชื่อฟัง​มาก​ ​อีกทั้ง​ ​ข้า​อยู่​คนเดียว​ที่ไหน​กัน​ ​หลาย​วัน​มานี​้​คนใน​จวน​เหล่านี้​รวมไปถึง​เสด็จ​แม่​แทบ​อยาก​ล้อมหน้าล้อมหลัง​ข้า​เอาไว้​อยู่​แล้ว​”

​คุณชาย​เว​่ย​ย่น​คิ้ว​มอง​นาง​ไม่​เอ่ย​สิ่งใด​ ​ใบหน้า​กลับ​เขียน​ชัดเจน​ อู๋ส​ยา​ไม่จำเป็น​ต้อง​มี​ข้า​ ​ไม่พอใจ

​“​ฮ่า​ๆ​”​ ​หนา​นก​งมั​่​วทน​ไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​ฟุบ​หน้า​ลง​กับ​อก​ของ​เขา​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา

​คุณชาย​เว​่​ยม​องค​นที​่​หัวเราะ​ฟุบ​หน้า​อยู่​กับ​อก​ของ​ตน​ ​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​จนใจ​ ​“​อู๋ส​ยา​…​”

​“​อู๋ส​ยา​ ​ข้า​คิดถึง​เจ้า​แล้ว​”​ ​กอด​นาง​เอาไว้​ใน​อ้อมอก​ ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ก้มหน้า​ลงมา​กระซิบ

​หนา​นก​งมั​่ว​สอด​มือ​เข้าไป​กอด​เอว​เขา​เอาไว้​ ​ชาย​ตรงหน้า​เพิ่ง​กลับมา​จาก​สงคราม​ยัง​หลงเหลือ​ไอ​สังหาร​จางๆ​ ​ทว่า​นาง​กลับ​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ ​“​ข้า​ก็​คิดถึง​ท่าน​”

​เมื่อ​ส่ง​เหล่า​คุณหนู​ทั้งหลาย​กลับ​ไป​แล้ว​ ​หนา​นก​งมั​่ว​และ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​กลับมา​ถึง​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง​ก็​ตรง​เข้าไป​พบ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​หนา​นก​งมั​่​วจึง​ได้​รู้​ว่า​หลังจาก​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​กลับมา​ถึง​ไม่ได้​ไป​เข้าพบ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​เพียง​กลับ​ไป​ถวายพระพร​องค์​หญิง​ฉัง​ผิง​ที่​เรือน​ชิง​มั่ว​ ​เมื่อ​รู้​ว่านา​งอยู​่​ที่ไหน​ก็​ตรง​ไปหา​นาง​ทันที

​บ่าว​เดิน​นำมา​ถึง​ประตู​ทางเข้า​เรือน​เตี​๋ย​ ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ยืน​นิ่ง​ขมวดคิ้ว​เบา​ๆ​ ​หนา​นก​งมั​่ว​หยุด​เท้า​เอ่ย​ถาม​เสียง​เบา​ ​“​มี​อัน​ใด​หรือ​”

​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ส่าย​ศีรษะ​ ​กุมมือ​นาง​เอาไว้​ ​เอ่ย​ ​“​ไป​เถิด​ ​ไป​พบ​เสด็จ​ลุง​”

​หนา​นก​งมั​่ว​เอง​ก็​เข้าใจ​ว่า​เพราะ​อัน​ใด​ ​อธิบาย​เสียง​เบา​ ​“​นับตั้งแต่​ครั้งก่อน​ที่​เสด็จ​ลุง​ป่วย​ก็​อยู่​ที่​เรือน​เตี​๋​ยมี​ชายา​รอง​กง​คอย​ดูแล​อยู่​ตลอด​ ​เสด็จ​ป้า​เอง​ก็​ยุ่ง​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่​อาจ​ตามดู​แล​เสด็จ​ลุง​ได้​ทุกที่​ทุกเวลา​”

​“​ชายา​รอง​กง​หรือ​”​ ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​เอ่ย​ ​ก้มหน้า​ลง​ไป​มอง​หนา​นก​งมั​่ว​ ​หนา​นก​งมั​่ว​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ดวงตา​สีม่วง​ของ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​จม​ลึก​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​เดิน​นำทาง​รู้สึก​เย็นยะเยือก​ขึ้น​มากะ​ทัน​หัน

​“​คารวะ​ซิง​เฉิงจ​วิ​้น​จู่​”​ ​เพิ่ง​เดิน​เข้ามา​ก็​เจอ​เข้ากับ​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​ที่​เดิน​เข้ามา​หา​ ​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​คลุม​ผ้าคลุม​สีชมพู​อ่อน​ ​ดู​สวยสด​งดงาม​ไม่​คร่ำครึ​ ​ไม่​เหมือน​สตรีที​่​เป็น​ภรรยา​รอง​ของ​คนอื่น​ ​ทว่า​คล้าย​หญิงสาว​ที่​ยัง​ไม่​ออกเรือน

​หนา​นก​งมั​่ว​พยักหน้า​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​พระ​ชายา​รอง​กง​ ​วันนี้​เสด็จ​ลุง​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ทำให้จ​วิ​้น​จู่​เป็นกังวล​แล้ว​ ​อย่าง​อื่น​ท่าน​อ๋อง​นับว่า​ยังดี​ ​เพียงแต่​ไม่มีชีวิตชีวา​ก็​เท่านั้น​ ​เมื่อ​บ่าย​บอกว่า​อยาก​พักผ่อน​สักพัก​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่​ตื่น​ ​คุณชาย​ผู้​นี้​…​คงจะ​เป็นคุณ​ชาย​ใน​ต้า​จั่ง​กง​จู่​ ​คุณชาย​เว​่ย​ใช่​หรือไม่​”​ ​หนา​นก​งมั​่ว​พยักหน้า​ ​“​ใช่​แล้ว​”

​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​ยกมือ​ป้อง​ปาก​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​เอ่ย​ ​“​คุณชาย​เว​่ย​รูปลักษณ์​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​ ​ทั้งสอง​ช่าง​เป็น​คู่รัก​แห่ง​สวรรค์​จริงๆ​”

​หนา​นก​งมั​่ว​ยิ้ม​บาง​ไม่​เอ่ย​วาจา

​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ก้มลง​ไป​มอง​สำรวจ​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​เล็กน้อย​ ​จูงมือ​หนา​นก​งมั​่ว​เดินผ่าน​นาง​เข้าไป​ด้านใน​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​กง​เสี่ยว​เตี​๋​ยพ​ลัน​แข็ง​ค้าง​ ​เห็นชัด​ว่า​ไม่​คาดคิด​ว่า​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​จะ​ไม่เห็น​ตน​อยู่​ใน​สายตาต่อให้​ดูถูก​ตำแหน่ง​ชายา​รอง​ของ​นาง​ ​อย่างน้อย​เรือน​เตี​๋​ยก​็​เป็นพื้น​ที่​ของ​นาง​มิใช่​หรือ​ ดวงตา​สวย​ฉายแวว​โกรธแค้น​ ​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​หันกลับ​ไป​มอง​ทั้งสอง​พลาง​เอ่ย​เสียง​เข้ม​ขึ้น​ ​“จ​วิ​้น​จู่​ ​คุณชาย​เว​่ย​ ​ช้าก่อน​”

​หนา​นก​งมั​่ว​เลิก​คิ้ว​ ​หันกลับ​ไป​มอง​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย

​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​หลุบ​ตาลง​ ​เอ่ย​ ​“​เรือน​เตี​๋ย​แห่ง​นี้​เป็น​สถานที่​ที่​เยี​่​ยน​อ๋อง​ประทาน​เป็น​ที่อยู่​ของ​ข้า​ จ​วิ​้น​จู่​ก็ช่าง​เถิด​ ​คุณชาย​เว​่ย​เข้ามา​ไม่​คิด​จะ​ถาม​ความเห็น​ของ​เจ้าของ​เลย​หรือ​ ​เสียมารยาท​เกินไป​หรือไม่​”

​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ไม่​แม้แต่​หันหน้า​กลับมา​ ​จูงมือ​หนา​นก​งมั​่ว​เดิน​ตรง​เข้าไป​ด้านใน​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน

​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​โกรธ​จน​หน้าดำหน้าแดง​ขึ้น​มา​ ​กระทืบเท้า​กำลังจะ​เอ่ย​สิ่งใด​ทว่า​ได้ยิน​น้ำเสียง​เย็นยะเยือก​ดัง​เข้ามา​ใน​หู​ ​“​ข้า​ไม่สน​ว่า​กง​อวี​้​เฉิน​ให้​เจ้า​มาทำ​อัน​ใด​ ​หาก​ไม่​อยาก​ตาย​ ​ก็​อยู่​เฉย​ไป​เถิด​”​ ​กง​เสี่ยว​เตี​๋​ยม​อง​สาวใช้​รอบข้าง​ที่​ใบหน้า​นิ่ง​สงบ​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน​อัน​ใด​ ​ใบหน้า​พลัน​ซีดเซียว​ขึ้น​มา

​หนา​นก​งมั​่ว​เกาะ​แขน​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​ ​เดิน​เข้าไป​ด้านใน​พร้อม​เอ่ย​เสียง​เบา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เสด็จ​ลุง​บอกว่า​เก็บ​นาง​เอาไว้​ยัง​มีประโยชน์​ ​ท่าน​ไป​ขู่​นาง​ทำไม​เล่า​”​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ยัง​ฝึก​วรยุทธ์​ไม่​ถึงขั้น​ส่งเสียง​ลับ​ได้​ ​แต่​เมื่อ​ครู่​นาง​เห็น​ริมฝีปาก​ของ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ขยับ​แต่กลับ​ไม่มี​เสียงดัง​ออกมา​ ​ทว่า​สัมผัส​ได้​ถึง​พลัง​ที่​ลอย​จาก​ด้าน​ข้าง​ไป​ยัง​กง​เสี่ยว​เตี​๋ย​ นี่​คือ​วรยุทธ์​ส่งเสียง​ลับ​ใน​ตำนาน​ที่ว่า​กัน​มา​อย่างนั้น​หรือ

​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​รกหูรกตา​”

​ระยะนี้​ร่างกาย​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่ดี​จริงๆ​ ​หมอก​แดง​ของ​ดอกไม้​ปีศาจ​ที่​ทำให้​คุณชาย​เสียน​เกอ​ไม่มี​แม้วิ​ธีรั​กษา​ชั่วขณะ​กำลัง​กัดกร่อน​ชีวิต​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​แม้​ใน​ช่วง​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​ไม่​อาจมี​ผล​ต่อ​ชีวิต​ ​ทว่า​ยัง​ทำให้​คน​เป็นห่วง​ ​เพียงแต่​ ​ข่าวลือ​ถึง​อาการป่วย​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ที่​ถูก​ส่งต่อ​อยู่​ด้านนอก​ดูเหมือน​จะ​หนัก​กว่า​ความเป็นจริง​ ​ข่าว​ถูก​ส่งออก​มาจาก​เมือง​โยว​โจว​ ​แทบจะ​บอกว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​กำลัง​ป่วย​จน​หมดทาง​รักษา​แล้ว​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​เมื่อ​ข่าว​ถูก​ส่ง​ไป​ถึง​จิน​หลิง​ ​เซียว​เชียน​เยี​่ย​จะ​คิด​เช่นไร​ ​อาศัย​ตอน​เจ้า​ป่วย​ ​เอาชีวิต​ของ​เจ้า​ ​หรือว่า​คิด​ว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​กำลัง​เสแสร้ง​แกล้ง​ป่วย​ ​หนา​นก​งมั​่ว​คิด​ว่าน​่า​จะ​เป็น​อย่าง​หลัง​เสียมา​กก​ว่า​ ​คน​อย่าง​เซียว​เชียน​เยี​่ย​ ​เมื่อ​ต้อง​ตัดสินใจ​ใน​เรื่องใหญ่​ๆ​ ​ก็​ไม่เคย​คิด​อย่างตรงไปตรงมา

​“​เสด็จ​ลุง​”

​เยี​่​ยน​อ๋อง​อยู่​ใน​อาภรณ์​ที่​สวมใส่​อยู่​เป็นประจำ​สีฟ้า​อ่อน​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​ด้าน​ข้าง​จุด​เตาไฟ​เอาไว้​ ​แต่​เยี​่​ยน​อ๋อง​ยังคง​คลุม​ผ้า​หนา​ ​ใบหน้า​ซีด​ขาว

​“จ​วิน​มั่ว​กลับมา​แล้ว​หรือ​ ​นั่งลง​คุย​กัน​ก่อน​เถิด​”​ ​มองเห็น​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​ ​ใบหน้า​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ดู​มีความสุข​ขึ้น​มา​ ​ทั้งสอง​นั่งลง​ ​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​มอง​เยี​่​ยน​อ๋อง​พลัน​ขมวดคิ้ว​ ​เอ่ย​ ​“​ร่างกาย​เสด็จ​ลุง​เป็น​อย่างไร​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​เยี​่​ยน​อ๋อง​ยิ้ม​ ​เอ่ย​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​เพียง​เป็นไข้​บ้าง​ก็​เท่านั้น​ ​เซี​่​ยลี​่​ลงมือ​กับ​เจ้า​แล้ว​หรือ​”​ ​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​เยี​่​ยน​อ๋อง​เลือนหาย​ไป​ทันที​ ​มีท​่า​ที​จริงจัง​ขึ้น​มา

​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​เอ่ย​ตอบ​เสียง​เรียบ​ ​“​กระหม่อม​จัดการ​ได้​”

​เยี​่​ยน​อ๋อง​ต่อว่า​อย่าง​ไม่พอใจ​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​จัดการ​ได้​ ​จะ​ถาม​ไม่ได้​เลย​หรือ​อย่างไร​ ​เจ้า​ใช้​วิธี​ใด​ถึง​เกลี้ยกล่อม​ให้​เมิ​่ง​เท่อ​มู่​เคลื่อน​ทัพ​ได้​”

​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​เอ่ย​ ​“​กระหม่อม​รับปาก​จะ​ขอให้​ราชสำนัก​ประทาน​บรรดาศักดิ์​แก่​เขา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​เยี​่​ยน​อ๋อง​ชะงัก​ ​มอง​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​อย่าง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​“​เท่านี้​เขา​ก็​ยอม​แล้ว​หรือ​”​ เมิ​่ง​เท่อ​มู่​โง่​หรือ​ ​ต่อให้​ไม่รู้​สถานการณ์​ใน​ด่าน​กำแพง​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​ไตร่ตรอง​ว่า​เว​่ยจ​วิน​มั่ว​จะ​ทำตาม​สัญญา​ได้​หรือไม่​มิใช่​หรือ​ เยี​่​ยน​อ๋อง​พลัน​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ดูหมิ่น​หลานชาย​ผู้​นี้​เกินไป​แล้ว​ ​มองดู​ใบหน้า​เย็นชา​เย่อหยิ่ง​ ​ใช้​แผนการ​จับ​หมาป่า​มือเปล่า​ได้​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​ตอนนี้​พวกเขา​ไหน​เลย​จะ​ช่วย​เมิ​่ง​เท่อ​มู่​ขอบร​รดา​ศักดิ์​ได้​เล่า​ ​เซียว​เชียน​เยี​่ย​คง​โยน​ฎีกา​ทิ้ง​ทั้งๆ​ ​ที่​ไม่​เปิด​ดู​เลย​แม้​เพียง​นิด​น่ะ​สิ

​สัมผัส​ได้​ถึง​สายตา​ประหลาดใจ​จาก​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​คุณชาย​เว​่ย​เอ่ย​เลี่ยง​ๆ​ ​“​ครั้งนี้​พวกเรา​กำจัด​เป่ย​หยวน​ไม่สำเร็จ​”

​เยี​่​ยน​อ๋อง​พูดไม่ออก​ ดังนั้น​สัญญา​ที่​เจ้า​ว่า​ ​หมายถึง​หลังจาก​กำจัด​เป่ย​หยวน​ให้​สิ้นซาก​อย่างข่าว​การ​ตั้งครรภ์​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า​ทำให้​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ๆ​ ​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา

สีหน้า​ของ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​เผย​ให้​เห็น​ความภาคภูมิใจ

เฉียน​หมิง​ตะโกน​ว่า​ ​“​…​วันนี้​เป็น​วันที่​บุตร​เขย​อย่าง​พวกเรา​มา​เยี่ยม​พ่อตา​แม่ยาย​ ​ข้า​คิด​ว่า​ควรจะ​ฉลอง​อีก​สักวัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ปกติ​ก็​เป็น​คนพูด​น้อย​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ต่าง​ก็​เป็นผู้ใหญ่​แล้ว​ ​ทั้ง​สาม​คน​จึง​เพียงแค่​ยิ้ม​เท่านั้น

นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​ยืดตัว​ตรง​โบกมือ​ไปมา​ ​“​เจ้า​อยาก​ฉลอง​กี่​ชั่ว​ยาม​หรือ​ฉลอง​กี่​วัน​ก็ตาม​ใจ​เจ้า​ ​รับรอง​ว่า​เจ้า​ได้​ดื่ม​จน​สาสมใจ​แน่​!​”​ ​ท่าทาง​ใจใหญ่​เป็นอย่างมาก

สายตา​ของ​เฉียน​หมิง​จับจ้อง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​กำลัง​นั่ง​ตัวตรง​ ​เพียงแต่​ยิ้ม​ไม่​พูด​อะไร​ ​จึง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​เปลี่ยน​น้ำเสียง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ไม่​สามารถ​ตัดสินใจ​คนเดียว​ได้​ ​รอ​ให้​สามี​ของ​น้อง​หญิง​สิบ​มา​แล้ว​พวกเรา​ค่อย​ปรึกษา​กัน​ดี​หรือไม่​ขอรับ​”

เมื่อ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ก็​จาง​ลง

แม้ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​ค่อย​มา​ ​แต่​เขา​ก็​มี​ความเคารพ​และ​นอบน้อม​ต่อ​คนใน​จวน​สกุล​หลัว​ ​ส่วน​เฉียน​หมิง​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ​เพียงแค่​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ก็​จะ​มาที​่​จวน​สกุล​หลัว​เสมอ​ ​เป็น​คนพูด​คุย​สนุกสนาน​ ​ไม่มีใคร​ใน​สกุล​หลัว​ไม่​ชอบ​เขา​ ​มี​เพียง​หวัง​หลัง​ที่​เป็น​คน​หยิ่ง​ทะนง​ตน​และ​มีท​่า​ทาง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ผู้อื่น​ ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​รังเกียจ

พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตั้งแต่​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​ป่วย​เขา​ก็​ไม่เคย​มา​เยี่ยม​เลย​ ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​จึง​กำชับ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ว่า​ ​“​เจ้า​ไปดู​สิว​่า​บุตร​เขย​สิบ​มา​หรือยัง​ ​หาก​ยัง​ไม่​มา​พวกเรา​ก็​ไม่​รอ​แล้ว​ ​กำชับ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​เจ้า​ให้​ยก​อาหาร​มา​ได้​เลย​ ​จะ​ให้ท่าน​โหวกับ​พี่เขย​ห้า​ของ​เจ้า​รอ​อยู่​เช่นนี้​ไม่ได้​”

หลัว​เจิ​้น​เซิง​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

เฉียน​หมิง​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ควรจะ​แสดง​ความเกรงใจ​ออกมา​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยังคง​นั่ง​นิ่ง​ ​เขา​จึง​กลืน​คำพูด​ตัวเอง​ลง​ไป

ในขณะเดียวกันฮู​หยิน​ห้า​สกุล​ซุน​ก็ได้​กลับ​ไป​ถึง​ตรอก​หง​เติง​แล้ว​ ​ให้​สามี​ไป​อยู่​กับ​ท่าน​แม่​ ​ส่วนตัว​เอง​กลับ​ไป​อยู่​กับ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ที่​ห้อง​หนังสือ

“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​บอก​ความจริง​กับ​ข้ามา​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​เป็น​ของ​บุตร​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ใช่​หรือไม่​”

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​อย่างไรเล่า​”​ ​โยน​คำถาม​กลับ​ไป​ให้ฮู​หยิน​ห้า​อีกครั้ง

ฮู​หยิน​ห้า​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​พูด​อย่างจริงจัง​ว่า​ ​“​ตาน​หยาง​ ​พวกเรา​กับ​สกุล​สวี​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​ต่อกัน​ ​เจ้า​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ก็​ถือว่า​เป็น​คู่​ที่​เหมาะสม​กัน​ดั่ง​กิ่งทองใบหยก​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​เป็น​คน​แบบ​ไหน​ไม่มีใคร​รู้ดี​ไป​กว่า​เจ้า​ ​เจ้า​เป็น​คนฉลาด​มาต​ลอด​ ​หาก​เจ้า​เอาแต่​ถือสา​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​เช่นนี้​เจ้า​ก็​จะ​กลายเป็น​หลัว​หยวน​เหนียง​สอง​ ​บางครั้ง​เจ้า​ก็​ต้อง​เรียนรู้​จาก​พี่สะใภ้​สอง​แซ่​เซี่ยง​ของ​เจ้า​ ​ต้อง​เป็น​คน​มองการณ์ไกล​และ​ใจกว้าง​”

ฮู​หยิน​ห้า​หน้าซีด​เล็กน้อย

คำตอบ​ได้​ออกมา​แล้ว

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​เข้าใจ​ดี​ ​แต่​ไม่​อยาก​ปกป้อง​บุตรสาว​ใน​เรื่อง​นี้​ ​บุตรสาว​เป็น​คน​เข้มแข็ง​ ​ไม่มี​พี่น้อง​ร่วมท้อง​คอย​สนับสนุน​ ​ตอนนี้​ตัวเอง​มีชีวิต​อยู่​ ​ยัง​พอ​ช่วยเหลือ​นาง​ได้​ ​แต่​หาก​วัน​ไหน​ที่​ตัวเอง​ไม่อยู่​แล้ว​ ​บุตร​เขย​จะ​เป็น​คนเดียว​ที่นาง​จะ​พึ่งพา​ได้​ ​มีบาง​เรื่อง​ที่​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​นาง​ก่อความวุ่นวาย​ได้​ ​ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​สายตา​ของ​เขา​คมกริบ​ดุจ​เหยี่ยว​ ​“​เหตุใด​ถึง​เงียบ​ไปล่ะ​”

น้ำเสียง​ของ​เขา​น่าเกรงขาม​เป็นอย่างมาก

ฮู​หยิน​ห้าม​อง​ท่าน​พ่อ​ด้วย​สีหน้า​ซีด​เผือก

จะ​ให้​นาง​พูด​อะไร​ได้​อีก

บอกว่า​ตัวเอง​คิด​ไป​เอง​ว่า​เป็น​คนฉลาด​ ​คิด​ว่า​สามารถ​ควบคุม​สามี​ให้​อยู่​ใน​กำมือ​ได้​ ​แต่​สุดท้าย​กลับ​ถูก​สามี​ตัวเอง​ปิดบัง​จน​ไม่รู้​อะไร​เลย

บอกว่า​ตัวเอง​ไม่เคย​คิดถึง​คนอื่น​ ​แต่​ตัวเอง​ก็​กลายเป็น​คนที​่​คนอื่น​ไม่​ให้ความสำคัญ​เช่นกัน

เป็น​เพราะ​ตัวเอง​ล้มเหลว​หรือ​เป็น​เพราะ​คนอื่น​นั้น​ฉลาด​เกินไป​?

นาง​ร้อนใจ​เป็นอย่างมาก

“​ในเมื่อ​พูด​ออกมา​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​ก็​ฝัง​มัน​ไว้​ใน​ใจ​ตลอดไป​ ​จากนั้น​ก็​เทน​้ำ​ร้อน​ๆ​ ​ราด​ลง​ไป​ ​ให้​ต้นกล้า​ตาย​ไป​จนถึง​ราก​”​ ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​ค่อยๆ​ ​เล่า​ข่าวลือ​ข้างนอก​ให้ฮู​หยิน​ห้า​ฟัง​ ​“​…​ใน​ช่วงเวลา​สำคัญ​เช่นนี้​ ​ต่อให้​ไม่​สามารถ​ช่วย​อะไร​ได้​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​ไป​เพิ่ม​ปัญหา​ให้​กับ​คนใน​จวน​ ​มิเช่นนั้น​เจ้า​ก็​เทียบ​ไม่ได้​กับฮู​หยิน​ของ​หย่ง​ผิง​โหว​ที่​เป็น​บุตรสาว​ของ​อนุ​”​ ​คำพูด​แฝง​ไว้​ด้วย​คำเตือน

หาก​ถาม​ว่า​คนที​่ฮู​หยิน​ห้า​ไว้ใจ​มาก​ที่สุด​ใน​โลก​ใบ​นี้​คือ​ใคร​ ​นั่น​ก็​คือ​ติ้ง​หนาน​โหว​ท่าน​พ่อ​ของ​ตัวเอง​ ​การ​ที่อยู่​รอด​มา​ได้​ตั้งแต่​สมัย​ฮ่องเต้​คน​ก่อน​จน​มาถึง​ทุกวันนี้​ ​ไม่ใช่​ว่า​ทุกคน​จะ​สามารถ​ทำได้​ ​ดังนั้น​แม้ว่า​นาง​จะ​ถูก​คำพูด​นี้​ของ​ท่าน​พ่อ​ทำให้​พูดไม่ออก​ ​แต่​ก็​ยัง​เผย​ให้​เห็น​สีหน้า​ที่​กำลัง​ไตร่ตรอง​ตาม

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​เห็น​แล้วก็​ลอบ​พยักหน้า​ ​แนะนำ​บุตรสาว​เพิ่ม​ ​“​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​แต่​ก็​ไม่ใช่​เรื่องเล็ก​ ​สิ่ง​ที่​เจ้า​ต้อง​คิด​คือ​ท่าน​โหว​จะ​คิด​อย่างไร​ในเวลานี้​ ​ไท่ฮู​หยิน​จะ​คิด​อย่างไร​ ​ลิ่ง​ควน​จะ​คิด​อย่างไร​ ​พี่สะใภ้​สี่​ของ​เจ้า​คิด​อย่างไร​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ควรจะ​วางแผน​เดินหน้า​ต่อไป​อย่างไร​จึง​จะ​สามารถ​ยืนหยัด​อยู่​ได้​โดย​ไม่​พ่ายแพ้​”

ฮู​หยิน​ห้า​นั่ง​เหม่อลอย​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​อยู่​เงียบๆ

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ไม่​เร่งเร้า​นาง​ ​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มาดื​่ม​ช้าๆ​

ใช่​แล้ว​ ​เมื่อ​เกิดเรื่อง​อย่างนี้​ขึ้น​ท่าน​โหว​จะ​คิด​อย่างไร​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ทำให้​เรื่อง​เงียบ​ไป​ ​ดังนั้น​สิ่ง​ที่​เขา​ควร​ยอมรับ​เขา​ก็​ยอมรับ​ทั้งหมด​ ​สิ่ง​ที่​เขา​ไม่​ควร​ยอมรับ​เขา​ก็​ต้อง​ยอมรับ​มัน​ ​คนที​่​มองออก​ถึง​ความไม่ชอบมาพากล​นี้​ ​ก็ได้แต่​ชื่นชม​ท่าน​โหว​ที่​มี​จิตใจ​ดีงาม​ ​ส่วน​คนที​่​มอง​ไม่​ออก​ถึง​ความไม่ชอบมาพากล​นี้​ก็​จะ​อิจฉา​ที่​ท่าน​โหว​เป็น​บุรุษ​ที่​มี​ความสามารถ​แต่​ไม่ได้​มี​ข้อผูกมัด​ ​แต่​โดยส่วนตัว​แล้ว​เกรง​ว่า​ท่าน​โหว​เมื่อ​เห็น​เด็ก​คน​นั้นแล​้​วจะ​รู้สึก​ผิด​ต่อ​สือ​อี​เหนียง​ที่​รับ​เด็ก​ไว้​โดย​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​ส่วน​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ ​ยิ่ง​นาง​โกรธ​สวี​ลิ่ง​ควน​มาก​แค่ไหน​ก็​จะ​ยิ่ง​สงสาร​ท่าน​โหว​มาก​เท่านั้น​ ​แล้ว​มีความรู้สึก​ที่​ดี​ต่อ​สือ​อี​เหนียง​ที่​เป็น​เด็กดี​และ​เชื่อฟัง

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้ฮู​หยิน​ห้า​ก็​นั่ง​ไม่​ติด​เก้าอี้

สวี​สิ่ง​ควน​ที่​ไม่ได้เรื่อง​ ​ทำ​อะไร​ก็​ไม่เคย​ใช้​สมอง​ ​การ​ที่​เขา​ปิดบัง​ตัวเอง​เช่นนี้​ทำให้​ผู้อื่น​มอง​ตัวเอง​เป็นตัว​ตลก​ ​รู้สึก​แย่​ยิ่งกว่า​ให้​ตัวเอง​ยอมรับ​เด็ก​เสียอีก​ ​ทว่า​ตัวเอง​กลับ​หยอกล้อ​กับ​เด็ก​คน​นั้น​โดยที่​ไม่รู้​อะไร​เลย​ ​ใน​สายตา​ของ​คนที​่​รู้เรื่อง​นี้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​หัวเราะ​ตัวเอง​กัน​ท้อง​แข็ง​ไป​แล้ว​ ​แต่​ด้วย​นิสัย​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ไม่เพียงแต่​จะ​ซาบซึ้ง​บุญคุณ​ที่​ท่าน​โหว​ช่วย​เขา​จัดการ​เรื่อง​วุ่นวาย​เท่านั้น​ ​ซ้ำ​ยัง​ซาบซึ้ง​ใน​บุญคุณ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​ช่วย​เขา​เลี้ยงดู​บุตร​อีกด้วย

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​นาง​ก็​อด​โมโห​ไม่ได้

เลี้ยงเด็ก​คนเดียว​จะ​ใช้​เงิน​เท่าไร​กัน​เชียว​ ​หนึ่ง​ปีก​็​ใช้​ไม่​เกิน​หนึ่งร้อย​ตำลึง

สือ​อี​เหนียง​ตัวดี​ ​ควัก​เงิน​หนึ่งร้อย​ตำลึง​มา​เลี้ยงเด็ก​ ​เอาอกเอาใจ​ท่าน​โหว​และ​ไท่ฮู​หยิน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ทำตัว​เป็น​คนดี​ต่อหน้า​สามี​ของ​ข้า​ ​ช่าง​วางแผน​ได้ดี​เสีย​จริง​!

ข้า​แค่​แกล้งทำ​เป็น​หูหนวก​ตาบอด​ ​เจ้า​ก็​คิด​ว่า​ข้า​รังแก​ได้​ง่าย​อย่างนั้น​หรือ​ ​ครั้งนี้​หาก​ข้า​ไม่เอา​คืน​เสียบ​้าง​ ​เจ้า​คงจะ​คิด​ว่า​ข้า​กลัว​เจ้า​ไป​แล้ว​จริงๆ​

ยิ่งฮู​หยิน​ห้า​คิดมาก​เท่าไร​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​ยิ่ง​ดู​แย่​ลง​เท่านั้น

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ที่​สังเกต​สีหน้า​ของ​บุตรสาว​ของ​ตน​อยู่​ตลอด​ก็​อด​ถอนหายใจ​ไม่ได้

บุตรสาว​คน​นี้​ถูก​ตำแหน่ง​ ​‘​เซี​่​ยน​จู่​’​ ​ทำให้​เคยตัว​…​ทน​เห็น​ใคร​ได้ดี​เกินหน้า​เกิน​ตา​ไม่ได้

“​เจ้า​ลอง​นึกถึง​เซี่ยง​อี๋​เจิน​”​ ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​พยายาม​ชี้แนะ​บางอย่าง​ ​“​แล้ว​ลอง​นึกถึง​หลัว​หยวน​เหนียง​ที่​ล่วงลับ​ไป​แล้ว​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​เม้มปาก​แน่น​ไม่​พูด​อะไร

หาก​วันนี้​ไม่​ไขข้อข้องใจ​เรื่อง​นี้​ให้​เรียบร้อย​ ​ไม่แน่​เมื่อ​กลับ​ไป​บุตรสาว​อาจจะ​ก่อเรื่อง​อะไร​ขึ้น​อีก​!

ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​เกลี่ย​กล่อม​บุตรสาว​ว่า​ ​“​วันข้างหน้า​ของ​เจ้า​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​ท่าน​โหว​เป็น​คน​เข้าใจ​สถานการณ์​ได้ดี​ ​สิ่ง​ที่​สูญเสีย​ไป​จะ​ได้​กลับมา​คืน​มา​ในอนาคต​ ​ครั้งนี้​เจ้า​ยอม​ถอย​มา​หนึ่ง​ก้าว​ ​ไม่แน่​ครั้งหน้า​ก้าว​ต่อไป​อาจจะ​ขึ้นอยู่กับ​เจ้า​ก็​เป็นได้​”​ ​ขณะที่​พูด​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ก็​นึกถึง​ตอนที่​พบกัน​ครั้งนั้น​ที่​ตัวเอง​บอกว่า​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​เติมเต็ม​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​…​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​เคร่งขรึม​ขึ้น​กว่า​เดิม​เล็กน้อย​ ​“​ความกลมเกลียว​จะ​ทำให้​ตระกูล​เจริญรุ่งเรือง​ ​เจ้า​เป็น​บุตรสาว​โดยตรง​ของ​สกุล​ซุน​ของ​ข้า​ ​อย่า​ทำ​เรื่อง​เสียมารยาท​ทำให้​ข้า​ไม่​สามารถ​ไป​สู้หน้า​ท่าน​โหว​คน​ก่อน​ของ​สกุล​สวี​ได้​”

“​ท่าน​พ่อ​…​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ท่าทาง​เหมือน​ไม่ยอม​ ​พูด​ด้วย​ความโมโห​ว่า​ ​“​แต่ว่า​สือ​อี​เหนียง​…​”

“​เจ้า​หยุด​พูด​เดี๋ยวนี้​!​”​ ​สีหน้า​ของ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​เคร่งขรึม​ ​ตัดบท​บุตรสาว​โดย​ไม่​ลังเล​ ​“​สือ​อี​เหนียง​ใช่​ชื่อ​ที่​เจ้า​ควร​เรียก​หรือ​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​พูด​อะไร​ไป​ก็​เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา​เจ้า​ไป​หมด​แล้ว​หรือ​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เข้ม​ ​“​เจ้า​อย่า​ลืม​ว่า​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​สำหรับ​เจ้า​ตอนนี้​คือ​อะไร​”

ฮู​หยิน​ห้า​ถูก​ท่าน​พ่อ​ตำหนิ​ราวกับ​ถูก​ฟ้าผ่า​ ​นาง​ลูบ​ท้อง​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ความตกใจ

นาง​เริ่ม​เข้าใจ​มากยิ่งขึ้น

นาง​ช่าง​โง่เขลา​เสีย​จริง​ ​ตอนนี้​เด็ก​คือ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ ​นาง​ใกล้​จะ​คลอด​แล้ว​ ​ควรจะ​ดึง​สามี​มา​ไว้​ข้าง​กาย​ตัวเอง​ ​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​พอใจ​ใน​ตัวเอง​ ​ทำให้​ตำแหน่ง​ใน​จวน​ของ​ตัวเอง​มั่นคง​ ​นี่​จึง​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด

คนที​่​อยู่​ข้าง​กาย​ตน​นั้น​รู้ดี​ที่สุด​ ​หาก​สวี​ลิ่ง​ควน​รู้​ว่านาง​ต้อง​ทุกข์ใจ​หรือ​ได้รับ​ความลำบาก​เพราะ​เขา​ ​เขา​ก็​จะ​รู้สึก​ผิด​มาก​ ​ยอมให้​ตัวเอง​ทุกอย่าง​ ​แต่กลับ​กันหาก​เขา​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​หลอก​เขา​ ​เขา​ก็​จะ​ใจแข็ง​ดั่ง​หิน​ ​ไม่ว่า​ตัวเอง​จะ​ร้องไห้​จะ​เป็น​จะ​ตาย​อย่างไร​เขา​ก็​จะ​ไม่​เปลี่ยนความคิด​ของ​เขา​ ​ดังนั้น​สำหรับ​สวี​ลิ่ง​ควน​แล้ว​นาง​ทำได้​เพียง​ใช้​ไม้​อ่อน​เข้าหา​เขา

ต่อมา​คือ​ท่าน​โหว​ ​พูดตาม​ตรง​แล้ว​เขา​เป็น​คน​ใจกว้าง​กับ​ผู้อื่น​เสมอ​ ​ตราบใดที่​ไม่​ทำ​อะไร​ล้ำเส้น​ ​เขา​ก็​มักจะ​เอา​หู​ไป​นา​เอา​ตา​ไป​ไร่​ ​ดังนั้น​ขอ​เพียงแค่​สวี​ลิ่ง​ควน​เป็น​น้องชาย​ของ​ท่าน​โหว​ ​นาง​ก็​ไม่มี​สิ่งใด​ให้​ต้อง​กังวลใจ​ ​ในทางกลับกัน​นี่​คือ​วิธี​รับมือ​ที่​ดีที​่​สุด

ต่อมา​คือ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​เป็น​หญิง​ชรา​ที่​ผ่าน​ร้อน​ผ่าน​หนาว​มา​อย่าง​โชกโชน​ ​เป็น​คน​ผม​ขาว​ที่​ส่ง​คน​ผม​ดำ​มา​ไม่รู้​ตั้ง​กี่​ครั้ง​แล้ว​ ​เมื่อถึง​อายุ​ปูน​นี้​นาง​ย่อม​ไม่​อยาก​ให้​มีปัญหา​เพิ่มขึ้น​มา​อีก​ ​ยอม​เป็น​คนแก่​ที่​เลอะเลือน​ก็​เพื่อที่จะ​เห็น​ความสามัคคี​ของ​บุตรหลาน​ ​ไม่​ให้​บุตรหลาน​ระแวง​ซึ่งกันและกัน​ ​แต่​อย่างไร​เสียนา​งก​็​ไม่ใช่​สตรี​ธรรมดา​ ​เป็น​สตรีที​่​เด็ดเดี่ยว​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​ใน​เรือน​คงจะ​ไม่มี​เรื่อง​ไหน​ที่สามา​รถ​ปิดบัง​นาง​ได้​ ​ดังนั้น​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​นาง​ ​ทาง​ที่​ดี​คือ​ต้อง​แสดงท่าทาง​นอบน้อม​ ​อ่อนโยน​และ​ใจกว้าง

เมื่อ​เห็น​ว่า​บุตรสาว​เริ่ม​เข้าใจ​ขึ้น​มา​ ​สีหน้า​ของ​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​สบาย​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้า​ลอง​คิดดู​ให้​ดี​ๆ​ ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​จาก​ห้อง​หนังสือ​ ​กำชับ​เด็กรับใช้​ว่า​ ​“​ไป​เรียก​ป้า​สือ​มา​ให้​ข้า​”​ ​มีบาง​เรื่อง​ที่​ควรจะ​ป้องกัน​ไว้​แต่​เนิน​ๆ​ ​มี​ป้า​สือ​คอย​จับตาดู​นาง​อยู่​ข้างๆ​ ​คิด​ว่า​คงจะ​ไม่​เกิดเรื่อง​ใหญ่​ขึ้น

ส่วนฮู​หยิน​ห้า​ที่อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ๆ​ ​เพียงลำพัง​ก็ได้แต่​ถอนหายใจ

ใช่​แล้ว​ ​ตอนนี้​จะ​ทำตัว​โง่เขลา​ไม่ได้​ ​ต้อง​รู้​ว่า​บน​โลก​ใบ​นี้​ไม่​สามารถ​ย้อน​เวลา​กลับมา​แก้ไข​เรื่อง​ใน​อดีต​ได้

ดูแล​้​วที​่​สือ​อี​เหนียง​ยอมรับ​เด็ก​คน​นี้​อย่าง​เสียเปรียบ​ก็​คงจะ​เป็น​เพราะ​คำ​ว่า​ ​‘​เหตุผล​’​ ​ตัวเอง​ไม่​อาจ​ไป​ต่อกร​กับ​นาง​อย่างโจ่งแจ้ง​ได้​ ​มิเช่นนั้น​ไม่เพียงแต่​จะ​ไม่​บรรลุเป้าหมาย​ ​ซ้ำ​ยัง​ทำให้​ท่าน​โหว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​และ​สวี​ลิ่ง​ควน​ไม่พอใจ​ ​ทำให้​ตน​กลายเป็น​หลัว​หยวน​เหนียง​สอง​

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​มา​เชิญ​นาง​ไปรับ​ประทาน​อาหารกลางวัน​ที่​ห้องโถง​บุบผา​

ฮู​หยิน​ห้า​ออกมา​จาก​ห้อง​หนังสือ​ ​ระหว่างทาง​ก็​พบ​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน

“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไป​นาน​เช่นนี้​”​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความกังวล​ ​“​เจ้า​ไม่เป็นอะไร​ใช่​หรือไม่​”​ ​เข้าไป​พยุง​นาง​อย่างระมัดระวัง

“​ข้า​ไม่ได้​เจอ​ท่าน​พ่อ​มานาน​แล้ว​ ​อยาก​จะ​พูดคุย​กับ​ท่าน​พ่อ​สักหน่อย​”​ ฮู​หยิน​ห้าม​อง​ดู​สามี​อย่างละเอียด​ ​“​เจ้า​มีสิ​่ง​ใด​ให้​ต้อง​กังวล​”​ ​มี​ความนัย​บางอย่าง​แฝง​อยู่​ใน​คำพูด

“​ท้อง​ของ​เจ้า​โต​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​จะ​ให้​ข้า​ไม่​เป็นห่วง​ได้​อย่างไร​”​ ​แววตา​และ​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​สื่อ​ให้​เห็น​ถึง​ความจริงใจ​ ​เขา​ฟัง​ไม่​ออก​ว่านา​งมี​ความนัย​แฝง​อยู่

ฮู​หยิน​ห้า​ใจเต้น​ระรัว​ ​พูด​ออดอ้อน​ว่า​ ​“​ที่​บอกว่า​เป็นห่วง​ข้า​ก็​เพียงแค่​จะ​พูด​ให้​ข้า​ดีใจ​เท่านั้น​ ​หาก​เป็นห่วง​ข้า​จริงๆ​ ​ก็​ไป​ซื้อ​ทอดมัน​ปลา​จาก​ร้าน​หม่า​ซื่อ​มา​ให้​ข้า​”

สวี​ลิ่ง​ควน​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

ร้าน​ไหน​ก็​ทำ​ทอดมัน​ปลา​ได้​ทั้งนั้น​ ​แต่​ทอดมัน​ปลาร้าน​หม่า​ซื่อ​ที่ตั้ง​อยู่​ใน​ตรอก​ฉี​หม่า​ทิศตะวันตก​กลับ​ถูก​ขนานนาม​ว่า​เป็นอัน​ดับ​หนึ่ง​ของ​เยี​่​ยน​จิง​ ​มี​ขาย​แค่​วัน​ละ​หนึ่งร้อย​จาน​เท่านั้น​ ​ถ้า​หมด​นั้น​ก็​ไม่มี​แล้ว​ ​อย่า​ว่าแต่​ปกติ​อยาก​กิน​ก็​ต้อง​ให้​บ่าว​รับใช้​ไป​ต่อ​แถว​เลย​ ​วันนี้​เป็น​วันที่​สอง​ของ​ตรุษจีน​ ​ทอดมัน​ปลาร้าน​หม่า​ซื่อ​คง​ปิด​ไป​นาน​แล้ว​ ​จะ​ไปหา​ซื้อ​ได้ที่​ไหน​กัน

แต่​เมื่อม​อง​ไป​ที่​ริมฝีปาก​แดง​ของ​ภรรยา​ ​เขา​ก็​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​ปิดบัง​ภรรยา​ ​ตัดสินใจ​พูด​ออก​ไป​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​รอก​่อน​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไป​ซื้อ​ให้​”

แววตา​ของฮู​หยิน​ห้า​สื่อ​ให้​เห็น​ถึง​ความประหลาดใจ

แม้ว่า​ปกติ​สวี​ลิ่ง​ควน​จะ​ดี​กับ​นาง​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ดี​ถึง​เพียงนี้​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​หา​ซื้อ​ไม่ได้​แต่​ก็​ยัง​จะ​ไปหา​มา​…

ท่ามกลาง​แสงแดด​ที่​ตกกระ​ทบ​กับ​หิน​ ​นาง​พลัน​เข้าใจ​ในทันที​ ​จึง​ทำการ​ตัดสินใจ​อย่างกะทันหัน

บน​โลก​ใบ​นี้​ไม่มี​สิ่งใด​ที่​ได้มา​ง่ายๆ​ ​ในเมื่อ​เขา​ไม่สบายใจ​เช่นนี้​ ​แล้ว​เหตุใด​ตน​ต้อง​ทำให้​เขา​กังวลใจ​มากกว่า​เดิม​เล่า

ขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​มุม​ปาก​ก็​ยกขึ้น​โดยไม่รู้ตัว

“​คุณชาย​ห้า​หยุด​ก่อน​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​เดิน​เข้าไป​คล้อง​แขน​สามี​ ​“​ข้า​แค่​พูดเล่น​เฉยๆ​ ​คุณชาย​ห้า​จริงจัง​ไป​เสีย​ได้​ ​ตอนนี้​อากาศ​หนาว​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​เทศกาล​ตรุษจีน​ ​จะ​ไปหา​ซื้อ​ทอดมัน​ปลาร้าน​หม่า​ซื่อ​ได้ที่​ไหน​กัน​…​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ ​รอยยิ้ม​สดใส​ราวกับ​ดอกไม้​ ​คล้อง​แขน​สามี​ไป​ที่​โถง​บุปผา นั้น​หรือ​ ​สมอง​ของ​เมิ​่ง​เท่อ​มู่​จมน้ำ​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​ถึง​ได้​เชื่อ​เจ้า

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท