สามีข้าคือขุนนางใหญ่ – บทที่ 310 น้ำลดต่อผุด (3)

บทที่ 310 น้ำลดต่อผุด (3)

กู้​เจียว​มองดู​คนเลี้ยง​ผึ้ง​ยื่น​พู่​ให้​กับ​หนิง​อ๋อง​เฟย​ ​ทว่า​หนิง​อ๋อง​เฟ​ยก​ลับ​ส่ายหน้า​ ​สีหน้า​ไม่​เหมือน​เสแสร้ง​แต่อย่างใด

“​แม่นาง​ ​หนิง​อ๋อง​เฟย​บอกว่า​ไม่ใช่​ของ​นาง​น่ะ​”​ ​คนเลี้ยง​ผึ้ง​คืน​พู่​ให้​กับ​กู้​เจียว

กู้​เจียว​ไม่ได้​แต่งตัว​เหมือน​พระสนม​หรือ​นางกำนัล​ ​แต่​นาง​มาจาก​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ ​คนเลี้ยง​ผึ้ง​จึง​ไม่กล้า​ดูแคลน

กู้​เจียว​รับ​พู่​มา​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​ยัง​มี​คนอื่น​มาที​่​นี่​อีก​หรือไม่​”

คนเลี้ยง​ผึ้ง​ยิ้มแหย​พลาง​เอ่ย​ ​“​ที่นี่​ผึ้ง​เยอะ​ ​มักจะ​ต่อย​คน​เอา​ได้​ง่ายๆ​ ​ปกติ​แล้ว​ไม่มีใคร​มา​หรอก​”

หรือว่า​นาง​คณิกา​จาก​หอ​เซียน​เล่อ​ผู้​นั้น​จะ​หลอก​นาง​เข้าให้​แล้ว

ใน​หัว​ของ​กู้​เจียว​มี​แต่​คำ​ว่า​ ​‘​วัง​หลวง​ ​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​’​ ​ลอย​วน​ไปมา

ที่​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​นอกจาก​สวน​ผึ้ง​แล้วก็​มี​เพียง​สวนดอกไม้​ ​นาง​เอง​ก็​จับตาดู​สวนดอกไม้​อยู่​ตลอด​ ​แต่​ก็​ไม่มี​ความเคลื่อนไหว​ใด

กู้​เจียว​ลูบ​คาง​ไปมา

คิดทบทวน​เป็น​ร้อย​กว่า​หนก​็​ยัง​ไข​ปริศนา​ไม่​ออก​เสียที​ ​แต่​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​มี​ใครคนหนึ่ง​มา​เยือน

ผู้มาเยือน​ครั้งนี้​คือ​ไท่​จื่อ​เฟย

หลังจากที่​ไท่​จื่อ​เฟย​ถูก​กู้​เจียว​คลุม​กระสอบ​แล้ว​อัด​จน​น่วม​ก็​พักฟื้น​อยู่​ที่​ตำหนัก​บูรพา​มาต​ลอด​ ​เมื่อวาน​บาดแผล​เพิ่งจะ​หายสนิท​ ​วัน​ถึง​ได้​ออกมา​จาก​วัง​บูรพา

คนเลี้ยง​ผึ้ง​ตื่นตกใจ​ ​หนิง​อ๋อง​เฟย​เสด็จ​ยัง​ไม่เท่าไหร่​ ​แต่​เหตุใด​ไท่​จื่อ​เฟย​ถึง​เสด็จ​มาที​่​นี่​ได้​เล่า

คนเลี้ยง​ผึ้ง​ลนลาน​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ ​“​ถวายบังคม​ไท่​จื่อ​เฟ​ยพ​่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

ไท่​จื่อ​เฟ​ยพ​ยัก​หน้า​ให้​เพียง​เล็กน้อย

กู้​เจียว​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​สวน​ผึ้ง​ ​ยัง​ไม่ทัน​กลับ​เข้าไป​ใน​บ้าน​ไม้​ ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​เห็น​นาง​เข้า​เสียก่อน

ไท่​จื่อ​เฟย​รู้​ว่า​เป็น​กู้​เจียว​ ​เพราะ​นาง​เคย​เห็น​กู้​เจียว​มาก​่อน​แม้​จะ​อยู่​ไกล​ออก​ไป​ก็​เถอะ

ส่วน​กู้​เจียว​เอง​ก็​รู้​ว่า​เป็นไท​่​จื่อ​เฟย​ ​เพราะ​นาง​ก็​คง​อัด​ไท่​จื่อ​เฟย​จน​น่วม​มาก​่อน

ทว่า​ใน​ความทรงจำ​ของ​ทั้งสอง​คน​ ​อีก​ฝ่าย​ไม่น่า​จะ​รู้จัก​ตนเอง

ครั้งนี้​นับว่า​เป็นการ​พบ​หน้า​กัน​อย่างเป็นทางการ​ครั้งแรก

ไท่​จื่อ​เฟย​เป็น​ถึง​หญิง​งาม​ที่​ทำให้​ไท่​จื่อ​หลงไหล​ ​ดวง​หน้า​นั้น​ไร้​ตำหนิ​ ​เรียกว่า​หญิง​งาม​ล่ม​เมือง​หรือ​จะ​เรียกว่า​ล่ม​แคว้น​ก็​ย่อม​ได้

เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​กู้​เจียว​ที่​ดวง​แก้ม​มี​ปานแดง​ผืน​ใหญ่​นั้น​เทียบ​ไม่​ติด​เลย​ก็​ว่า​ได้

เอาเป็นว่า​ใน​สายตา​ของ​คน​ทั่วไป​เป็น​เช่นนั้น

ไท่​จื่อ​เฟย​เป็น​ดั่ง​ดวง​จันทรา​บน​ท้อง​นภา​ ​ไม่ว่า​สาวงาม​แห่ง​วังหลัง​นาง​ใด​ก็​เป็น​ต้อง​หม่นหมอง​ยาม​อยู่​ต่อหน้า​นาง​ ​นับประสา​อะไร​กับ​เด็กสาว​ที่​ใบหน้า​มีตำหนิ​คน​นี้

“​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​ ​พบ​ไท่​จื่อ​เฟย​แล้ว​เหตุใด​ถึง​ไม่​คุกเข่า​อีก​”​ ​ขันที​ข้าง​กาย​ไท่​จื่อ​เฟย​เอ่ย

หาก​เป็น​นางกำนัล​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ย่อม​จำ​ไท่​จื่อ​เฟย​ได้​แน่นอน

แต่​น่าเสียดาย​ที่​ขันที​ใหญ่​ผู้​นี้​ไม่เคย​พบ​เจอ​กู้​เจียว​มาก​่อน

คนเลี้ยง​ผึ้ง​รีบ​กระซิบ​เอ่ย​ ​“​กง​กง​ ​แม่นาง​ผู้​นี้​เป็น​คน​ของ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​”

สีหน้า​ของ​ขันที​ใหญ่​พลัน​เปลี่ยน​ ​แต่กลับ​ทำได้​เพียง​ตะเบ็งเสียง​ให้​สูง​ขึ้น​ ​“​คน​ของ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​เคร่งครัด​กฎระเบียบ​นัก​ ​แม้แต่​คุณหนู​จวง​เมื่อ​พบ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​ถวาย​บังคับ​อย่างนอบน้อม​เช่นกัน​!​”

ทุก​พยางค์​ทุก​คำพูด​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​กำลัง​บอก​กับ​กู้​เจียว​ว่า​แม้แต่​หลานสาว​คนโต​ของ​จวง​ไท​เฮา​ยัง​คำนับ​ให้​กับ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​นาง​เป็น​ใคร​มาจาก​ไหน​กัน​ ​ยศ​ถา​บรรดาศักดิ์​เหนือกว่า​จวง​เย​่ว​์​ซี​อย่างนั้น​หรือ

ไท่​จื่อ​เฟ​ยม​อง​กู้​เจียว

จู่ๆ​ ​นาง​ก็​อยาก​เห็น​หญิง​ตรงหน้า​ถวายบังคม​ต่อหน้า​นาง​เหลือเกิน

ทว่า​กู้​เจียว​กลับ​ไม่​คำนับ​นาง​แต่อย่างใด

ในเมื่อ​ขันที​ใหญ่​เป็น​คน​ของ​ตำหนัก​บูรพา​ ​ย่อม​ไม่​ถูก​กับ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​เป็นธรรมดา​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่​อาจ​ลงโทษ​กู้​เจียว​ได้​ ​หากแต่​ทำได้​เพียง​ใช้​กฎระเบียบ​บีบบังคับ​นาง​ ​“​ไท​เฮา​รู้​หรือไม่​ว่า​เจ้า​ไร้มารยาท​เช่นนี้​”

“​ไท​เฮา​จะ​รู้​หรือไม่​แล้ว​เกี่ยว​อะไร​กับ​เจ้า​”

เป็น​ฉิน​กง​กง​ที่​เดิน​เข้ามา

ขันที​ใหญ่​สีหน้า​พลัน​เปลี่ยน​ก้มหน้า​งุด​ใน​ทันใด

ทั้งที่​เป็น​ขันที​ผู้ติดตาม​ข้าง​กาย​เจ้านาย​เหมือนกัน​แท้ๆ​ ​แต่​เข้า​กลับ​ไม่กล้า​เทียบ​ชั้น​กับ​ฉิน​กง​กง​ ​เพียง​คนเดียว​ที่​ฐานะ​พอ​จะ​สูสี​กับ​ฉิน​กง​กง​คงจะ​เป็น​เว​่​ยก​งก​งก​ระ​มัง

ไท่​จื่อ​เฟย​เห็น​ฉิน​กง​กง​ก็​เผย​สีหน้า​มึนงง​ออกมา

นาง​มอง​ฉิน​กง​กง​เดิน​มา​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​กู้​เจียว​พร้อมทั้ง​คำนับ​ให้​นาง​อย่างนอบน้อม​ ​“​แม่นาง​กู้​ ​ไท​เฮา​ประชุม​ราชสำนัก​เสร็จ​แล้ว​ ​ถาม​ว่า​ท่าน​อยาก​จะ​กลับ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ไป​กินข้าว​หรือไม่​”

พูด​จบ​เขา​ก็​หันหลัง​ไป​คำนับ​ให้​กับ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​“​ข้า​น้อย​ถวายบังคม​ไท่​จื่อ​เฟ​ยพ​่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ทั้ง​รอยยิ้ม​และ​กิริยา​ของ​เขา​ไม่มี​จุด​ใด​บกพร่อง​ ​ทว่า​เขา​คำนับ​กู้​เจียว​ก่อน​ถวายบังคม​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​เช่นนี้​ก็​เท่ากับ​หักหน้า​ไท่​จื่อ​เฟย​ชัดๆ

ประกาย​บางอย่าง​แวบ​ขึ้น​ใน​แววตา​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​เพียงแต่​สีหน้า​ยังคง​เรียบ​เฉย​ ​“​มิต​้​อง​พิธีรีตอง​หรอก​ฉิน​กง​กง​”

“​แม่นาง​กู้​เก็บ​น้ำผึ้ง​ได้​หรือยัง​ขอรับ​”

“​ได้​แล้ว​”​ ​กู้​เจียว​พยักหน้า​ ​“​อยู่​ใน​ห้อง​น่ะ​”

ฉิน​กง​กง​เดิน​ไป​หอบ​น้ำผึ้ง​สอง​กระปุก​ด้วย​ตนเอง​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ด้วย​เสียงหัวเราะ​ ​“​แม่นาง​กู้​ต้องการ​อะไร​อีก​หรือไม่​ ​ใน​สวน​มีด​อก​ไม้​มากมาย​ ​แม่นาง​กู้​ถูกใจ​ดอกไม้​ใด​บ้าง​หรือไม่​”

กู้​เจียว​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​ไม่​ปลูก​ดอกไม้​น่ะ​”

ฉิน​กง​กง​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ขอรับ​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​กลับกัน​เถิด​ ​หาก​ยัง​ไม่​กลับ​ไป​อีก​ไท​เฮา​คง​ร้อนใจ​แย่​”

ไท่​จื่อ​เฟ​ยปิ​ดบั​งค​วาม​เกลียดชัง​ใน​แววตา​ไว้​ไม่​มิด

นาง​รู้จัก​ฉิน​กง​กง​มานาน​ ​แต่​ไม่เคย​เห็น​เขา​เคารพ​นบนอบ​ผู้ใด​เช่นนี้​มาก​่อน

ยิ่ง​ต่อหน้า​เซียว​ฮองเฮา​และ​จวง​กุ้ย​เฟย​แล้ว​ ​เขา​แค่​ทำ​ไป​ตามหน้าที่​ ​แต่​ที่​เขา​นอบน้อม​ต่อ​กู้​เจียว​นั้น​ไม่ใช่​เพียงแต่​นอบน้อม​ทั่วไป

ใน​ความเคารพ​นั้น​แฝง​ไป​ด้วย​ความรักใคร่​และ​เอ็นดู

ฉิน​กง​กง​เห็น​ไท​จื่อ​เฟย​เป็น​อากาศธาตุ​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​ ​เอาแต่​ถาม​นู่น​ถาม​นี่​กู้​เจียว​ ​ราวกับ​เป็นห่วง​เสีย​เหลือเกิน

ฉิน​กง​กง​ไม่เคย​พูดมาก​เช่นนี้​มาก​่อน

ไท่​จื่อ​เฟย​ขมวดคิ้ว

ทั้งสอง​เดิน​จากไป​ทั้งอย่างนั้น

วินาที​ที่​เดินผ่าน​นาง​ ​จู่ๆ​ ​กู้​เจียว​ก็​ชี้​ไป​ที่​พู่​บน​พื้น​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​พู่​เจ้า​ตก​น่ะ​”

ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​้​มห​น้า​มอง​ ​“​ไม่ใช่​ของ​ข้า​”

กู้​เจียว​ ​“​อ๋อ​”

ไม่ใช่​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​เช่นกัน​อย่างนั้น​รึ

วันนี้​คนที​่​ปรากฏตัว​ใน​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​ของ​วัง​หลวง​ล้วนแต่​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​กับ​พู่​นี้​เลย

เหตุใด​ถึง​เป็น​เช่นนี้​ได้

กู้​เจียว​จากไป​พร้อมกับ​ความสงสัย

ใน​ใจ​ของ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​สงสัย​ไม่​แพ้​กู้​เจียว​ ​นาง​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​กู้​เจียว​ก็​รู้สึก​ว่า​มีบา​งอย​่าง​ไม่ชอบมาพากล​ ​“​นาง​มิใช่​ภรรยา​ของ​จอ​หงวน​คน​ใหม่​หรอก​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ได้​สนิทสนม​กับ​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ได้​”

“​ไท่​จื่อ​เฟย​!​”​ ​จู่ๆ​ ​นางกำนัล​ก็​นึก​บาง​ขึ้น​ได้​พลาง​เอ่ย​ ​“​ท่าน​จำ​เรื่อง​ที่​องค์​ชาย​ห้า​ถูก​ผลัก​ตกน้ำ​เมื่อ​สอง​วันก่อน​หรือไม่​เพ​คะ​ ​ซู​เฟ​ยลง​โทษ​คน​ผู้​นั้น​ ​แต่กลับ​กลายเป็น​ว่า​ถูก​ไท​เฮา​รับ​ตัว​ไป​ ​แถม​คน​ผู้​นั้น​ยัง​นั่ง​บน​เกี้ยว​หงส์​ของ​ไท​เฮา​ด้วย​เพ​คะ​”

เรื่อง​นี้​แพร่​ไป​ทั่วทั้ง​วัง​หลวง​ ​แม้​แต้​ไท่​จื่อ​เฟย​ที่​ไม่ได้​ออกจาก​ตำหนัก​ยัง​ได้ยิน​ข่าว

คน​ผู้​นั้น​คือ​หลานสาว​คนโต​ของ​ซู​เฟย​ ​คุณหนู​ใหญ่​ตัวจริง​ของ​จวน​ติ้ง​อัน​โหว

ได้ข่าว​มา​ว่า​ฝีมือ​การแพทย์​สูงส่ง​ ​ไท​เฮา​จึง​เชิญ​เป็น​แขกประจำ

สีหน้า​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ตกตะลึง​ไม่น้อย​ ​“​คือ​นาง​อย่างนั้น​หรือ​”

เซียว​ลิ่ว​หลัง​ไม่ได้​แต่งงาน​หญิง​บ้าน​นาสา​มัญ​ชน​ ​แต่กลับ​เป็น​ลูกสาว​ตัวจริง​ของ​จวน​โหว​อย่างนั้น​หรือ

วินาที​นั้น​ ​หัวใจ​ของ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​รู้สึก​บางอย่าง​ยาก​จะ​อธิบาย

นางกำนัล​พึมพำ​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ลูกสาว​จวน​โหว​ผู้​นั้น​เป็นบ้า​หรือ​อย่างไร​ ​จวน​อัน​ติ้ง​โหว​ใกล้ชิด​กับ​ฝ่า​บาท​ ​เซียว​ลิ่ว​หลัง​ก็​เป็น​จอ​หงวน​คน​ใหม่​ที่​ฝ่า​บาท​เลือก​เอง​ ​ทั้ง​พ่อ​ ​พี่ชาย​ ​และ​สามี​ล้วนแต่​เป็น​คน​ของ​ฝ่า​บาท​ ​นาง​กลับ​เข้าพวก​กับ​ไท​เฮา​เสีย​อย่างนั้น​!​ ​นาง​ไม่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​พ่อ​ไล่ออก​จาก​ตระกูล​ ​ไม่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​สามี​ทอดทิ้ง​หรือ​อย่างไร​”

นั่นสิ​นะ​ ​นาง​ไม่​กลัว​เลย​หรือ

เหตุใด​นาง​ถึง​…​ใช้ชีวิต​อย่างไร​้​ความกลัว​ ​ไร้ค​วาม​กังวล​เช่นนี้

กู้​เจียว​กลับมา​ถึง​ตำหนัก​เห​ริน​โซ่ว​ ​ก็​ลงมือทำ​เป็ด​กรอบ​อบ​น้ำผึ้ง​ให้​หญิง​ชรา​ ​รส​สัมผัส​คล้าย​กับ​หนัง​เป็ด​เคลือบ​น้ำตาล​ ​แต่​ไม่​หวาน​ขนาด​นั้น​ ​ทั้ง​ยัง​มีรส​อม​เปรี้ยว​เล็กน้อย​จาก​น้ำผึ้ง​ ​รสชาติ​แปลกใหม่​ขึ้น​กว่า​เดิม

ไม่​เหมือน​ฮ่องเต้​ที่​ต้อง​กังวล​ว่า​ลูก​จะ​แย่ง​ข้าว​กิน​ ​จวง​ไท​เฮา​กิน​อย่าง​มีความสุข

หลังจาก​กินข้าว​เสร็จ​ ​กู้​เจียว​ก็​หยิบ​พู่​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​เคย​เห็น​ผู้ใด​ประดับ​พู่​เช่นนี้​หรือไม่​”

จวง​ไท​เฮา​มอง​พู่​แล้วก็​ขมวดคิ้ว​ ​“​พู่​อัปลักษณ์​เช่นนี้​ ​ไม่เคย​เห็น​หรอก​!​”

ก็​ไม่ได้​น่าเกลียด​เสียหน่อย​ ​กู้​เจียว​คิดในใจ

“​เดี๋ยวก่อน​ ​เหมือน​จะ​เคย​เห็น​นะ​”​ ​จวง​ไท​เฮา​แหงนหน้า​มอง​ฟ้า​ ​พลาง​นึกย้อน​ความทรงจำ​อยู่​พัก​หนึ่ง​แล้ว​โบกมือ​ปัด​ ​“​นึกไม่ออก​แล้ว​”

เอาเถอะ​ ​เบาะแส​ที่​เพิ่ง​ได้มา​อยู่​ใน​มือ​กลับ​เจอ​ทางตัน​เสีย​ได้

“​เจ้า​เอา​พู่​นั่น​มาจาก​ไหน​”​ ​จวง​ไท​เฮา​ถาม

“​เก็บ​ได้​น่ะ​”​ ​กู้​เจียว​เอ่ย​หน้า​นิ่ง​ ​“​พู่​นี้​น่าจะ​มี​ความเกี่ยวข้อง​กับ​มือสังหาร​ที่​ลอบฆ่า​ฝ่า​บาท​”

“​เหอะ​”​ ​จวง​ไท​เฮา​ส่งเสียง​ฮึดฮัด​ ​สีหน้า​ไม่พอใจ​ ​“​ฆ่า​คน​ทั้งที​ยัง​ทิ้งร่องรอย​ไว้​อีก​!​”

กู้​เจียว​ ​“​…​”

ช่วง​บ่าย​กู้​เจียว​ไป​ที่​สวน​ผึ้ง​อีก​หน​ ​แต่​ก็​คว้าน้ำเหลว​เช่น​เดิม

ยาม​ย่ำค่ำ​ ​นาง​ถึง​ออกจาก​วัง​หลวง

นาง​สะพาย​ตะกร้า​ใบ​น้อย​ ​ร่าง​เล็ก​บาง​เดิน​ไป​ตาม​ถนนใหญ่​ที่​ผู้คน​พลุกพล่าน

ใน​หัว​ของ​นาง​ยังคง​คิดถึง​เรื่อง​ของ​มือสังหาร​ ​ทัน​ใน​นั้น​ก็​มีเสียง​โครมคราม​ดัง​ออกมา​จาก​ใน​ตรอก​ ​นาง​บังเอิญ​เหลือบ​ไป​เห็น​พอดี

ภาพ​ที่​เห็น​คือ​ชายฉกรรจ์​สี่​ห้า​คน​กำลัง​รุม​กระทืบ​ชาย​ผอม​กะหร่อง​คน​หนึ่ง

ชาย​คน​นั้น​กำลัง​กอด​บางอย่าง​ใน​อ้อมอก​ไว้​แน่น​ ​ ​แม้​จะ​ถูก​ทุบตี​อย่างไร​ก็​ไม่ยอม​ปล่อย

กู้​เจียว​เดิน​เข้าไป​ใกล้​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​กระชาย​ชายฉกรรจ์​ ​พริบตาเดียว​ก็​นอน​หมอบ​ราบ​ไป​กับ​พื้น

เมื่อ​คนที​่​เหลือ​เห็น​ว่า​ของ​กู้​เจียว​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​ตัวเอง​ ​ก็​พากั​นวิ​่ง​หนี​ฉี่​แทบ​เล็ด

กู้​เจียว​นั่ง​ย่อ​ตัว​ลง​ข้าง​ชาย​คน​นั้น​ ​ชาย​ผู้​นั้น​ไม่รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ ​นึก​ว่า​จะ​ถูก​ทุบตี​อีกครั้ง​ ​เขา​ยกมือ​ขึ้น​กุม​ศีรษะ​ ​มือ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​กอด​ห่อ​ผ้า​ไว้​แน่น

กู้​เจียว​ยื่น​นิ้วชี้​ออกมา​แล้ว​สะกิด​ไหล่เขา​ ​“​ข้า​เอง​”

หลิ่ว​อี​เซิง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ลด​มือ​ที่​กุม​หัว​ลง​ ​ก่อน​จะ​มอง​นาง​อย่าง​สงสัย

กู้​เจียว​ทอดถอนใจ​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ปล่อย​ให้​คน​รังแก​อีกแล้ว​”

หลิ่ว​อี​เซิง​พยุง​ร่าง​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​มาด​้ว​ยสี​หน้า​ชอกช้ำ​ ​พลาง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ก็​ปกติ​ไม่ใช่​หรอก​หรือ​ ​ใช่​ว่า​เจ้า​เพิ่งจะ​เคย​เห็น​ครั้งแรก​เสียหน่อย​”

คนพูด​เรื่อง​ถูก​ทุบตี​ได้​อย่าง​เฉยชา​เช่นนี้​จะ​มี​ผู้ใด​อีก

กู้​เจียว​มอง​ห่อ​ผ้า​ใน​อ้อมอก​ของ​เขา​ ​ก่อน​จะ​ร้อง​อ๋อ​ออกมา​ ​“​สุดท้าย​เจ้า​ก็​ตัดสินใจ​เรียนหนังสือ​แล้ว​อย่างนั้น​รึ​”

หลิ่ว​อี​เซิง​เอ่ย​เสียง​นิ่ง​ ​“​ก็​แค่​อ่าน​ไป​อย่างนั้น​”

กู้​เจียว​ ​“​อ๋อ​”

หลิ่ว​อี​เซิง​ ​“​…​”

หลิ่ว​อี​เซิง​อ้า​ปาก​เอ่ย​ ​“​หาก​ไม่มี​อะไร​ข้า​ไป​ก่อน​ล่ะ​”

“​ให้​เจ้า​”​ ​กู้​เจียว​ยื่น​ยาทา​แผล​ขวด​หนึ่ง​ให้​เขา

หลิ่ว​อี​เซิง​รับ​มาตาม​สัญชาตญาณ​ ​ก่อน​จะ​ชะงัก​ไป​แล้ว​คืนให้​นาง​ ​“​ข้า​ไม่มี​เงินติดตัว​แล้ว​”

กู้​เจียว​ตอบ​ ​“​ข้า​ให้​ ​ไม่​คิดเงิน​”

หลิ่ว​อี​เซิง​ยังคง​ไม่ยอมรับ​ยา​ของ​นาง​พลาง​ครุ่นคิด​ ​เขา​เลือก​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ออกมา​จาก​กอง​ราวกับ​สมบัติ​ล้ำค่า​แล้ว​ยื่น​ให้​นาง​ ​“​ค่ายา​”

กู้​เจียว​เอ่ย​ ​“​ทายา​แผล​ไม่ได้​แพง​ขนาด​นั้น​”

หลิ่ว​อี​เซิง​ตอบ​ ​“​คิด​รวม​กับ​ของ​เมื่อก่อน​ด้วย​”

คน​ผู้​นี้​หยิ่งในศักดิ์ศรี​ของ​ตน​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่ยอมรับ​ของ​จาก​ใคร​มา​โดย​ไม่​ให้​ค่าตอบแทน​ ​ไม่เช่นนั้น​ป่านนี้​เขา​คง​กลับ​ไป​แคว้น​เฉิน​แล้ว​เกาะ​ท่าน​ปู่​กิน​ไป​แล้ว

“​เช่นนั้น​ก็ได้​”​ ​กู้​เจียว​รับ​หนังสือ​จาก​เขา

ทั้งสอง​บอกลา​กัน​ทั้งอย่างนั้น

ฝีเท้า​ของ​กู้​เจียว​ชะงัก​ลง​ ​แล้ว​หยิบ​พู่​ใน​เสื้อ​ขึ้น​มาก​่อน​จะ​เอ่ย​รั้ง​เขา​ ​“​สิ่ง​นี้​ ​เจ้า​เคย​เห็น​หรือไม่​…​”

“​เอ๊ะ​ ​นี่​มัน​พู่​ของ​ข้า​…​”​ ​หลิ่ว​อี​เซิง​เอ่ย​ ​ก้มหน้า​ลูบ​ป้าย​หยก​ใน​เสื้อ​ของ​ตัวเอง

เมื่อ​เขา​ล้วง​ป้าย​หยก​ออกมา​แล้ว​เห็น​พู่​ที่​เหมือนกัน​ไม่มี​ผิดเพี้ยน​ห้อย​อยู่​ ​เขา​จึง​เอ่ย​ขอโทษ​ขอ​โพย​ ​“​จำ​ผิด​น่ะ​ ​ไม่ใช่​ของ​ข้า​ ​ของ​ข้า​ยังอยู่​”

กู้​เจียว​ชี้​ไป​ที่​พู่​ของ​เขา​ ​“​เจ้า​ห้อย​พู่​นี้​มาต​ลอด​เลย​หรือ​”

หลิ่ว​อี​เซิง​พยักหน้า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ท่าน​แม่​ทิ้ง​ไว้​ให้​ข้า​ ​ห้อย​ไว้​กับ​ป้าย​หยก​มาโดยตลอด​”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม!

จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้เจียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล

แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เซียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ

เพราะบุญคุณเซียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ

แต่เพราะ ‘ฝันบอกเหตุ’ ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนใหม่ได้รู้ว่าเซียวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในอนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก

เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ายทั้งหลายเพื่อประคองเขาขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท