ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 229 ยุยง(ต้น)

ตอนที่ 229 ยุยง(ต้น)

“​ท่าน​พี่​เล่า​อีก​ขอรับ​!​”​ ​เสียง​นุ่มนวล​ของ​สวี​ซื่อ​เจี้ยมี​ความ​ออดอ้อน​เล็กน้อย

“​ให้​เล่าเรื่อง​อะไร​”​ ​น้ำเสียง​ของ​จุน​เกอ​อ่อนโยน​และ​คล้อยตาม

“​เล่าเรื่อง​ย้ายบ้าน​!​”

หมายถึง​เรื่อง​ ​’​มารดา​ของ​เมิ​่ง​จื่อ​ย้ายถิ่น​ฐาน​สาม​ครั้ง​’

“​เล่าเรื่อง​ผล​สาลี่​!​”

หมายถึง​เรื่อง​ ​‘ข​่ง​หรง​สละ​ผล​สาลี่​’

“​เล่าเรื่อง​นอนหลับ​!​”

หมายถึง​เรื่อง​ ​‘​หวง​เซียง​อุ่น​ที่นอน​พัด​หมอน​’

สือ​อี​เหนียง​ร้อย​ด้าย​อยู่​ข้างๆ​ ​ฟัง​เสียง​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เด็กน้อย​ ​รู้สึก​ว่า​อารมณ์​นั้น​สงบ​และ​ผ่อนคลาย​อย่างที่​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน

“​เจี​้ย​เกอ​”​ ​นาง​เงยหน้า​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พี่ชาย​เจ้า​เหนื่อย​แล้ว​ ​เจ้า​ไปริน​ชามา​ให้​พี่ชาย​เจ้า​สักหน่อย​เถิด​”

“​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ระ​โดด​ลง​จาก​เตียง​เตา

“​ไม่ต้อง​ ​ไม่ต้อง​”​ ​จุน​เกอ​โบกมือ​ไปมา​ ​ใบหน้า​แดง​ระเรื่อ

ปินจ​วี​๋​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ด้านหน้า​เตียง​เตา​กำลัง​ทำ​ชุด​ฤดูใบไม้ผลิ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​วาง​เข็ม​กับ​ด้าย​ใน​มือ​ ​กอด​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ลาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ให้​บ่าว​ไปริน​ให้​ก็ได้​เจ้าค่ะ​”

“​ให้​เจี​้ย​เกอ​ไปริน​เอง​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เขา​เป็น​คนที​่​ทำให้​พี่ชาย​ของ​เขา​คอแห้ง​ ​ไป​ช่วย​ริน​ชา​ให้​พี่ชาย​สัก​แก้ว​จะ​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​ปินจ​วี​๋​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็ตาม​ไป​ด้วย​ ​ระวัง​อย่า​ให้​ลวก​มือ​ ​ริน​แค่น​้ำ​อุ่น​มาก​็​พอแล้ว​ ​ไม่ต้อง​ชงชา​ ​เด็ก​ดื่ม​ชามาก​เกินไป​จะ​ไม่ดี​”

ตน​แค่​อยาก​จะ​สอน​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รู้จัก​คำ​ว่า​ขอบคุณ

ปินจ​วี​๋​เคย​ได้ยิน​แต่ว่า​ที่​เรือน​ไม่มี​เงิน​เลย​ ​ดังนั้น​จึง​ต้อง​เก็บ​ใบชา​ไว้​สำหรับ​ต้อนรับ​แขก​ ​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่าการ​ดื่ม​ชานั​้น​ไม่ดี​ ​ถึงแม้ว่า​ใน​ใจ​นาง​จะ​ไม่เข้าใจ​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​ขัด​ได้​ ​ยิ้ม​พลาง​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​ไปริ​นน​้ำ

สือ​อี​เหนียง​กระซิบ​ถาม​จุน​เกอ​ว่า​ ​“​รู้​หรือไม่​ว่า​ฉิน​เกอ​กับ​คนอื่นๆ​ ​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​”

จุน​เกอ​ส่ายหน้า​ ​สีหน้า​ดู​เศร้าหมอง​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ ​พอ​เข้าไป​หา​พวกเขา​ก็​ไม่​พูด​อะไร​แล้ว​…​”

ดังนั้น​หลาย​วัน​มานี​้​จึง​วิ่ง​มาหา​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้ว​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​อีกสักครู่​เจ้า​แอบ​ไปดู​อย่าง​เงียบๆ​ ​ดี​หรือไม่​”

“​แอบดู​อย่าง​เงียบๆ​ ​…​”​ ​จุน​เกอ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ท่าทาง​ตกตะลึง​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ตกใจ​กับ​สิ่ง​ที่นาง​เสนอ​มา​เป็นอย่างมาก

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​แทนที่จะ​คิด​เรื่อยเปื่อย​ใน​ใจ​ ​ไม่​สู้​คิด​หาวิ​ธี​ทำให้​เรื่อง​กระจ่าง​จะ​ดีกว่า​ ​ไม่แน่​เรื่อง​อาจจะ​ไม่ได้​เป็น​อย่างที่​เจ้า​คาดคิด​”

คนเรา​ไม่​กลัว​ความขัดแย้ง​ ​แต่​กลัว​การ​ที่​ไม่ได้​สื่อสาร​กัน​แล้วก็​เดา​ใจ​กัน​ไป​เอง

จุน​เกอ​ลังเล​ ​แต่​สายตา​กลับ​เผย​ให้​เห็น​ความ​กระตือรือร้น​ ​พอ​เล่านิทาน​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ฟัง​ก็​ใจลอย​เล็กน้อย​ ​ทำให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่พอใจ​มาก​ ​“​…​ผิด​แล้ว​ ​ผิด​แล้ว​ ​หวง​เซียง​นอนหลับ​”

เขา​หมายถึง​คนที​่​อุ่น​ผ้าห่ม​ให้​บิดา​และ​มารดา​ก็​คือ​หวง​เซียง​ ​แต่​จุน​เกอ​พูด​ผิด​เป็นข​่ง​หรง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กอด​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​พี่ชาย​เจ้า​พูด​จน​เหนื่อย​แล้ว​ ​เจี​้ย​เกอ​เล่า​ให้​พวกเรา​ฟัง​บ้าง​สิ​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ท่าทาง​อิดออด​ ​“​ข้า​เล่า​ไม่​เป็น​ขอรับ​”

“​เล่าเรื่อง​ย้ายบ้าน​สิ​”​ ​เขา​ฟัง​เรื่อง​นี้​มาก​ที่สุด​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พวกเรา​อยาก​ฟัง​เจี​้ย​เกอ​เล่าเรื่อง​ย้ายบ้าน​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หน้าแดง​เล็กน้อย​ ​ท่าทาง​ดู​ตื่นเต้น​ ​เสียง​เล็ก​ๆ​ ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​มี​เมิ​่ง​จื่อ​ผู้​หนึ่ง​ ​เขา​ไม่เชื่อฟัง​ ​มารดา​ของ​เขา​จะ​ย้ายบ้าน​ ​เขา​ก็​ยัง​ไม่เชื่อฟัง​ ​มารดา​ของ​เขา​ก็​จะ​ย้ายบ้าน​อีก​…​”​ ​ประโยค​ที่​ยาว​ขึ้น​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​ได้​ไม่ชัด​เจน​ ​แต่​น้ำเสียง​ไพเราะ​น่าฟัง​ ​และ​พูดตาม​ความเข้าใจ​ของ​ตัวเอง​ ​เต็มไปด้วย​ความสนุก​สนาน​ ​ทุกคน​ฟัง​แล้ว​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

สือ​อี​เหนียง​มอง​ระฆัง​แล้ว​พูด​กับ​จุน​เกอ​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ต้น​ยาม​เซิน​ ​พอยาม​เซิ​นกั​บอีก​สาม​เค​่​อพ​วก​เรา​จะ​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​…​”

ความหมาย​ก็​คือ​หาก​เขา​อยาก​ไปหา​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​ก็​ยัง​มี​เวลา​อีก​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม

จุน​เกอ​ลังเล

เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​รอยยิ้ม​ใน​ดวงตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​เต็มไปด้วย​กำลังใจ​ ​เมื่อ​นึกถึง​ท่าทาง​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ทำท่า​ทาง​กระซิบกระซาบ​กัน​ ​คิดไปคิดมา​ ​สุดท้าย​ก็​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เรียก​หู่​พั่ว​เข้ามา​ ​พูด​สถานการณ์​คราว​ๆ​ ​ว่า​ ​“​…​คุณชาย​น้อย​สี่​จะ​ไปหา​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ ​เจ้า​ไปเป็นเพื่อน​เขา​ ​ระวัง​อย่า​ให้​สะดุด​ล้ม​ ​คอย​ดูแล​คุณชาย​น้อย​สี่​อย่า​ให้​เขา​โมโห​ ​เดี๋ยว​คนอื่น​จะ​หัวเราะ​เอา​ได้​”​ ​แล้ว​หันไป​กำชับ​ปินจ​วี​๋​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​ไป​ด้วย​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​เจ้า​จะ​ได้​คอย​ช่วยเหลือ​หู่​พั่ว​”

นาง​เน้น​คำ​ว่า​ ​‘​ไปเป็นเพื่อน​’​ ​ค่อนข้าง​ชัดเจน

ใน​ช่วง​เทศกาล​ตรุษจีน​ผู้คน​สัญจร​ไปมา​ ​และ​ข่าวลือ​ก็​แพร่สะพัด​ไป​ทั่ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​วางใจ​ที่จะ​ให้​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไป​อยู่​เรือน​นอก​ ​จึง​ให้​พวกเขา​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​ห้อง​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ ​ในเมื่อ​ไม่​อยาก​ให้​จุน​เกอ​รู้​ว่า​พวกเขา​กำลัง​ทำ​อะไร​ ​สาวใช้​ข้าง​กาย​จะ​ต้อง​ขวาง​จุน​เกอ​ตาม​จุดประสงค์​ของ​เจ้านาย​แน่นอน​ ​แต่ว่า​จุน​เกอ​อายุ​ยังน้อย​ ​พวกเขา​คง​ไม่ได้​ระมัดระวัง​อะไร​มาก

สือ​อี​เหนียง​พูด​ประโยค​นี้​เพื่อที่จะ​บอก​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​ประการ​แรก​คือ​ให้​นาง​หา​โอกาส​ใน​การ​ลงมือ​ ​ช่วย​จุน​เกอ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​ชัดเจน​ ​ประการ​ที่สอง​คือ​ให้​ดูแล​ความปลอดภัย​ของ​จุน​เกอ​ ​หาก​สาวใช้​เหล่านั้น​ออกมา​ขัดขวาง​ ​ทาง​ที่​ดี​อย่า​ให้​เกิด​การทะเลาะวิวาท​ ​อย่างไร​เสีย​จุน​เกอ​ก็​คือ​เจ้านาย​ ​คน​พวก​นั้น​เป็น​บ่าว​รับใช้​ ​หาก​เกิดเรื่อง​ขึ้น​จะ​ทำให้​จุน​เกอ​เสียหน้า​ ​จะ​ทำให้​คน​คิด​ว่า​จุน​เกอ​ไม่​สามารถ​ควบคุม​บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​ได้

การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำ​เช่นนี้​นั้น​มี​จุดประสงค์​แอบแฝง

จุน​เกอ​มีนิ​สัย​อ่อนโยน​และ​เชื่อฟัง​ ​เป็นนิสัย​ที่​เป็นมา​ตั้งแต่​เกิด​กับ​นิสัย​ที่​ถูก​สิ่งแวดล้อม​สร้าง​ขึ้น​ ​นิสัย​เช่นนี้​ของ​เขา​ ​หาก​เป็น​คน​ร่ำรวย​ธรรมดา​ก็​จะ​ดีมาก​ ​แต่​หาก​ต้อง​รับ​ตำแหน่ง​หย่ง​ผิง​โหวก​ลับ​รู้สึก​ว่า​เขา​อ่อนโยน​มากเกินไป​และ​ไม่มี​ความ​น่าเกรงขาม​ ​ตอนนี้​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​การพัฒนา​ความมั่นใจ​ใน​ตัวเอง​ของ​เขา​ ​ในเมื่อ​เขา​อยากรู้​ว่า​เหตุใด​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ถึง​คอย​หลีกหนี​เขา​ ​ไม่​สู้​ให้​หู่​พั่ว​ไป​ช่วย​สืบ​เป็นเพื่อน​เขา​ ​ประการ​แรก​ก็​เพื่อ​ฝึก​ความกล้า​ของ​เขา​ ​ประการ​ที่สอง​หู่​พั่ว​เป็นสาว​ใช้​ใกล้ชิด​ของ​นาง​ที่​มี​ความเฉลียวฉลาด​ ​สาวใช้​พวก​นั้น​ท่าทาง​เย่อหยิ่ง​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​ก็​ต้อง​เห็นแก่หน้า​นาง​อยู่​บ้าง​ ​สามารถ​รับประกัน​ความสำเร็จ​ใน​เรื่อง​นี้​ได้​ ​แต่​ถ้าหาก​เรื่อง​นี้​ไม่​สามารถ​ดำเนินการ​ได้​อย่างราบรื่น​ ​หู่​พั่ว​ก็​สามารถ​คิด​หาวิ​ธี​เพื่อ​รักษา​ศักดิ์ศรี​ของ​จุน​เกอ​ได้​ ​แน่นอน​ว่า​ทาง​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​ผลลัพธ์​ต้อง​เป็นไป​อย่างราบรื่น​ ​เพื่อ​เพิ่ม​ความมั่นใจ​ใน​ตัวเอง​ให้​กับ​จุน​เกอ​…

ส่วน​ที่​ให้​ปินจ​วี​๋​ไป​ด้วย​นั้น​ก็​เพื่อ​หา​ผู้ช่วย​ให้​หู่​พั่ว

หู่​พั่ว​เฉลียวฉลาด​ ​รู้ใจ​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​นางใน​ทันที​ ​ยิ้ม​พลาง​ย่อเข่า​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​ ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​มี​เจตนา​ที่จะ​ไป​ ​ก็​ย่อม​ต้อง​ทำให้​เรื่อง​ชัดเจน​และ​ไป​ด้วย​ความสุภาพ​อยู่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่านาง​เข้าใจ​แล้วจึง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​ช่วย​จุน​เกอ​สวม​เสื้อคลุม​ด้วยตัวเอง​ ​“​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​หาก​ใคร​กล้า​ไม่เชื่อฟัง​ ​เจ้า​ก็​แสดงท่าทาง​ของ​คุณชาย​น้อย​ออกมา​”

บางครั้ง​การ​ที่​คน​อยู่ร่วม​กัน​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​ใคร​มีอำนาจ​มากกว่า

แต่​สิ่ง​ที่​จุน​เกอ​ได้รับ​การอบรม​สั่งสอน​มาก​ลับ​เป็นการ​ต้อง​ทำดี​ต่อ​ผู้อื่น​ ​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​และ​สุภาพ​ ​เมื่อ​ได้​ฟัง​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนั้น​ก็​รู้สึก​ทำตัว​ไม่​ถูก

ทุกอย่าง​ย่อม​มี​ครั้งแรก​ ​เมื่อมี​ประสบการณ์​จึง​จะ​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​เพียงแต่​ยิ้ม​พลาง​ช่วย​ผูก​เสื้อคลุม​ให้​เขา​

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ดังนั้น​กลับ​โวยวาย​อยาก​จะ​ตาม​ไป​ด้วย

จุน​เกอ​ดีใจ​เป็นอย่างมาก

มี​คน​ไปเป็นเพื่อน​ ​เขา​ก็​จะ​มี​ความกล้า​มากขึ้น

มอง​สือ​อี​เหนียง​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​“​ให้​น้อง​ห้า​ไป​กับ​ข้า​เถิด​!​”

แต่​อย่างไร​ก็​ต้อง​ให้​เขา​ไป​เผชิญหน้า​คนเดียว

สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้ว​ยสี​หน้าเศร้า​หมอง​ ​“​หาก​เจ้า​ไป​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ต้อง​อยู่​คนเดียว​”

สวี​ซื่อ​เจี้ยม​อง​จุน​เกอ​ ​แล้ว​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​ค่อยๆ​ ​เอื้อมมือ​ไป​จูงมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​พี่​รีบ​กลับมา​เล่านิทาน​”

จุน​เกอ​รู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ ​เมื่อ​คิด​ว่า​จะ​ไป​แอบ​สืบ​ว่า​พวก​สวี​ซื่อ​ฉิน​กำลัง​ทำ​สิ่งใด​อยู่​ ​ก็​คิดได้​ว่า​อาจจะ​มี​ความเสี่ยง​เล็กน้อย​ ​จึง​ได้​สลัด​ความไม่สบายใจ​ทิ้ง​ไป​ ​แล้ว​ให้​หู่​พั่ว​ไปหา​สวี​ซื่อ​ฉิน​เป็นเพื่อน

สือ​อี​เหนียง​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เล่านิทาน​กันต​่อ

เขา​ฟัง​อย่างสนุกสนาน​ ​จน​ลืม​ความเหงา​ที่​จุน​เกอ​ไม่ได้​อยู่​ด้วย

******

เสียง​ระฆัง​ดัง​ขึ้น​ใน​ยาม​เซิน​ ​เท้า​ของ​จุน​เกอ​ก็ได้​ก้าว​เข้ามา

สีหน้า​ของ​เขา​ดูเบิ​กบาน​ ​เต็มไปด้วย​ความสุข​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​ข้า​รู้​แล้ว​ว่า​พวกเขา​กำลัง​ทำ​สิ่งใด​กัน​อยู่​”​ ​เขา​ตะโกน​เสียงดัง​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ถอด​เสื้อคลุม​ก็​วิ่ง​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​รู้​แล้ว​ว่า​พี่ใหญ่​กับ​พี่​รอง​จะ​ทำ​อะไร​ขอรับ​”

“​จริง​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​จุน​เกอ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​แต่​สายตา​กลับ​เหลือบ​ไป​มอง​หู่​พั่ว​กับ​ปินจ​วี​๋​ที่​ตาม​จุน​เกอ​เข้ามา

ทั้งสอง​พยักหน้า​เล็กน้อย

“​ท่าน​พี่​ ​ท่าน​พี่​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ทักทาย​จุน​เกอ​ด้วย​ความดีใจ

จุน​เกอ​จับมือ​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เขา​ไว้​ ​พลาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​เบิกบานใจ​ว่า​ ​“​พวกเขา​กำลัง​ปรึกษา​เรื่อง​ไป​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​”

เทศกาล​โคมไฟ​มี​ประเพณี​ลูบ​หมุด​ประตู​หลัง​พลบค่ำ​กับ​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​ ​ใน​ยาม​นั้น​ชาย​หญิง​จะ​เดิน​ปะปนกัน​ ​มัก​มีคุณ​หนู​ถูก​ลักพาตัว​และ​มี​เด็ก​สูญหาย​ ​อย่า​ว่าแต่​คนใน​สกุล​สวี​เลย​ ​แม้แต่​สกุล​หลัว​ ​หาก​มอง​ในแง่​ความปลอดภัย​ก็​ไม่มีทาง​ให้​คุณหนู​ ฮู​หยิน​ ​หรือ​นาย​หญิง​ไปร​่วม​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​ ​และ​แน่นอน​ว่า​ข้อจำกัด​ของ​บุรุษ​นั้น​ย่อม​น้อยกว่า​ ​ถ้าหาก​อยาก​ไป​ ​ก็​แค่​เอา​บ่าว​รับใช้​และ​องครักษ์​ไป​ด้วย​ก็​พอแล้ว

พวกเขา​จำเป็นต้อง​ปิดบัง​จุน​เกอ​ด้วย​หรือ

นอก​เสีย​จาก​ว่า​พวกเขา​คิด​ที่จะ​ทิ้ง​บ่าว​รับใช้​และ​องครักษ์​ไว้

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​จุน​เกอ​ถอด​เสื้อคลุม​ด้วย​ความ​สับสน​ ​เห็น​หน้า​เขา​แดง​ระเรื่อ​จึง​ลูบ​หลัง​ของ​เขา​ดู​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ไม่มี​เหงื่อ​จึง​ได้​วางใจ

“​พี่​หู่​พั่ว​กับ​พี่​ปินจ​วี​๋​เก่ง​มาก​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​จุน​เกอ​ยัง​รู้สึก​ดีใจ​ที่​รู้ความ​ลับ​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ปล่อย​ให้​นาง​จัดแจง​เสื้อผ้า​ให้​ ​ขณะที่​พูด​ดวงตา​ก็​เป็นประกาย​ ​“​พวกเรา​แอบ​เข้าไป​ทาง​ประตู​หลัง​ ​สาวใช้​น้อย​ที่​เฝ้า​ประตู​จะ​วิ่ง​ไปรา​ยงาน​ ​แต่​ถูก​พี่​หู่​พั่ว​เรียก​ไว้​ ​บอกว่า​นาง​มีท​่า​ทาง​ตื่นตระหนก​ ​ดู​ไม่เหมาะสม​จึง​ได้​สั่งสอน​อย่างเข้มงวด​ ​พี่​ปินจ​วี​๋​อาศัย​โอกาส​นี้​พา​ข้า​ไป​ที่​เรือน​หลัก​ ​ทันใดนั้น​สาวใช้​ที่​เฝ้า​ประตู​ก็​มองเห็น​พวกเรา​ ​ตะลึง​อยู่นาน​กว่า​จะเข้า​ไปรา​ยงาน​ ​กว่า​พี่ใหญ่​ ​พี่​สอง​ ​และ​พี่​สาม​จะ​ออกมา​ต้อนรับ​ ​พวกเรา​ก็​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​แล้ว​ ​ข้า​ถาม​พี่ใหญ่​ตรงๆ​ ​ว่า​พวกเขา​กำลัง​ปรึกษา​เรื่อง​อะไร​กัน​ ​ทำไม​ถึง​ไม่​บอก​ข้า​ ​พี่ใหญ่​อ้ำ​ๆ​ ​อึ้ง​ๆ​ ​พูดไม่ออก​ ​พี่​ปินจ​วี​๋​จึง​บอกว่า​ห้องโถง​อากาศ​เย็น​ ​ให้​เข้าไป​นั่ง​ที่​ห้อง​ด้านใน​ ​พี่ใหญ่​ลังเล​เล็กน้อย​ ​แต่​พี่​สอง​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​พา​ข้า​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จุน​เกอ​ก็​หัวเราะ​คิกคัก​ ​“​พอ​พี่​ปินจ​วี​๋​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​ก็​ถาม​พี่ใหญ่​ว่า​พวกเขา​คิด​จะ​ปลอมตัว​เป็น​บ่าว​รับใช้​แล้ว​แอบ​ออก​ไปเที่ยว​ใช่​หรือไม่​ ​พี่ใหญ่​ ​พี่​สอง​ ​และ​พี่​สาม​ต่าง​พากัน​ตกใจ​จน​พูดไม่ออก​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ตกใจ​เช่นกัน

ปินจ​วี​๋​รู้​ได้​อย่างไร

“​ข้า​เห็น​ชุด​ผ้าไหม​สีเขียว​ที่​บ่าว​รับใช้​สวมใส่​กัน​อยู่​บน​ไม้แขวนเสื้อ​ที่​ห้อง​ด้านใน​”​ ​ปินจ​วี​๋​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​“​ท่าน​ลืม​ไป​แล้ว​หรือ​ ​ตอนนั้น​ท่าน​ก็​เคย​ให้​บ่าว​หา​เสื้อผ้า​แบบนี้​มา​ให้ท่า​นนะ​เจ้า​คะ​”

ความทรงจำ​ผุด​ขึ้น​มา​เหมือน​กระแสน้ำ

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

ตอนนั้น​นาง​คิด​ว่า​ตัวเอง​จะ​สามารถ​ออก​ไป​ได้​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​แม้แต่​ขอบ​ประตู​ฉุยฮ​วาก​็​ไม่ได้​สัมผัส​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ได้โอกาส​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ถูก​คน​จับได้​ไป​แล้ว

“​แล้ว​ต่อจากนั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​วีรบุรุษ​ไม่พูดถึง​เรื่อง​ความกล้าหาญ​ที่ผ่านมา​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​ไม่​อยาก​พูดถึง​เรื่อง​ใน​ตอนนั้น​จึง​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา

“​พี่ใหญ่​ก็​อ้ำ​ๆ​ ​อึ้ง​ๆ​”​ ​จุน​เกอ​ยิ้ม​ตาหยี​ ​“​ส่วน​พี่​สอง​ยอมรับ​แล้ว​ ​บอกว่า​อยาก​ไปร​่วม​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​ตอน​เทศกาล​โคมไฟ​ ​ไม่​อยาก​ให้​มี​คน​มากมาย​มา​เดินตาม​หลัง​เขา​ ​เขา​อยาก​ไป​ด้วยตัวเอง​”

หู่​พั่ว​ยิ้ม​พลาง​อุ้ม​จุน​เกอ​มานั​่​งบน​เตียง​เตา​ ​แล้ว​ช่วย​เขา​ถอด​รองเท้า

“​มิน่าล่ะ​ ​พวกเขา​ถึง​ได้​ปิดบัง​เจ้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​อายุ​ยังน้อย​ ​พวกเขา​เกรง​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ดูแล​เจ้า​ไม่ได้​”

ถ้า​พวกเขา​อยาก​จะ​ออก​ไปเที่ยว​จริงๆ​ ​ไม่​ก็​สามารถ​พา​จุน​เกอ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​รัก​และ​หวงแหน​ไป​ด้วย​ได้​ ​คนเรา​ไม่​กลัว​เรื่อง​ที่​คาด​ว่า​จะ​เกิดขึ้น​หนึ่ง​หมื่น​ครั้ง​ ​แต่​มักจะ​กลัว​เรื่อง​ที่​คาดไม่ถึง​ที่เกิด​ขึ้น​เพียง​ครั้ง​เดียว​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​ใคร​จะ​รับผิดชอบ​ได้

“​พี่​สอง​ก็​พูด​เช่นนี้​”​ ​จุน​เกอ​ยู่​ปาก​ ​สีหน้า​เศร้าหมอง​ ​“​ยัง​บอกอี​กว่า​ปี​ที่แล้ว​มี​คน​ทำ​เด็ก​หาย​…​แต่​พวกเขา​กลับ​พา​พี่​สาม​ไป​ด้วย​!​”​ ​เขา​รู้สึก​ไม่พอใจ​เล็กน้อย

“​บ่าว​ว่า​ไม่​ไป​จะ​ดีกว่า​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​ปินจ​วี​๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​บ่าว​ได้ยิน​ว่า​มี​คน​หาย​จาก​การ​เดิน​ปัดเป่า​โรค​ภัย​”

จุน​เกอ​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป​ ​หู่​พั่ว​อุ้ม​จุน​เกอ​ที่​มีสี​หน้าเศร้า​หมอง​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ ​ใบหน้า​ยิ้มแย้มแจ่มใส​เมื่อ​ครู่​ได้​มลาย​หาย​ไป

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท