ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 174 ปิดผนึกแคว้นเซียน กลับสู่ราชวงศ์เทพขนนก!

ตอนที่ 174 ปิดผนึกแคว้นเซียน กลับสู่ราชวงศ์เทพขนนก!

“หนิงฝาน!”

“ไม่ใช่ว่าเขาพาสำนักเซียนกระบี่ไปที่แคว้นรกร้างแล้วหรือ!”

“หืม? ไม่สิ นี่เป็นเพียงร่างจำแลงของเขา!”

“ฮ่า ๆ! เขาจะส่งร่างจำแลงของตัวเองมาขัดขวางพวกเรางั้นหรือ?”

“…”

ทันทีที่มองเห็นร่างจำแลงของหนิงฝาน เหล่ากึ่งเซียนก็ยิ้มออกมาด้วยความเย้ยหยัน!

ผู้นำอย่างเยี่ยฉิงชางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หนิงฝาน เจ้าส่งร่างกึ่งเซียนของตนเองมาเพื่อเหตุใดกัน?”

หนิงฝานที่ถือกล่องสมบัติเซียนอยู่นั้นยิ้มออกมา “ฮ่า ๆ ไม่ได้มีเหตุอันใด ที่ทิ้งร่างจำแลงเอาไว้ก็เพียงเพื่อต้องการเตือนให้พวกเจ้ารู้ว่า ข้าคือผู้พิทักษ์เทพแห่งราชวงศ์เทพขนนกที่ปกครองแคว้นรกร้าง และข้าคงทนไม่ได้หากจะปล่อยให้พวกเจ้าเข้าไปวุ่นวายในแคว้นรกร้าง!”

“หืม? เป็นเช่นนี้นี่เอง!”

ได้ยินเช่นนั้นแล้ว ผู้คนต่างก็ตกตะลึง มิน่าเล่า หนิงฝานถึงได้พาสำนักเซียนล่วงหน้าไปที่แคว้นรกร้างก่อน ที่แท้ก็ไม่ได้ไปเพื่อทำสงคราม แต่มันคือการกลับไป!

เพียงลมหายใจถัดมา สีหน้าของผู้คนก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน และเยี่ยฉิงชางก็พูดขึ้นด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “อย่าว่าแต่ร่างจำแลงของเจ้าเลย ต่อให้เป็นร่างจริงของเจ้าแล้วจะสามารถขัดขวางพวกข้าได้หรือ?”

“จะขัดขวางได้หรือไม่ แค่ลองดูก็รู้แล้ว!” หนิงฝานว่า

“หึ! ช่างหยิ่งยโสเสียจริง!”

“เจ้านี่แสนโง่เขลายิ่งนัก!”

“เป็นเพียงแค่ร่างจำแลง กลับกล้ามาขัดขวางพวกข้า!”

“อย่าเสียเวลาพูดมากอีกเลย ฆ่ามัน และบุกไปแคว้นรกร้างเถอะ!”

“…”

ได้ยินเช่นนั้นแล้ว เหล่ากึ่งเซียนก็ร้องตะโกนออกมา ทันใดนั้นก็มีคนลงมือในทันที!

ครืน ครืน ครืน!

ในขณะนั้น เหล่ากึ่งเซียนเจ็ดถึงแปดคนร่วมมือกันเพื่อลงมือ พลังอันน่าเกรงขามเปรียบได้กับมังกรที่กำลังโกรธเกรี้ยวคำรามออกมา ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่ร่างจำแลงของหนิงฝานในบัดดล!

แม้จะเห็นเช่นนั้นแล้ว ทว่าร่างจำแลงของหนิงฝานหาได้ขยับไม่ จนกระทั่งพลังโกรธาของมังกรกำลังจะระเบิดออกใกล้ ๆ นั่นจึงสามารถทำให้กล่องสมบัติเซียนกระบี่ในมือของเขาสั่น!

ชิ้ง!

ทันใดนั้น เสียงกระบี่บาดแก้วหูก็ดังขึ้น!

กระบี่เล่มยาวพลันโผล่ออกมาจากท้องฟ้า ในขณะเดียวกันนั้นก็บังเกิดการก่อตัวของค่ายกลผนึกสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ซึ่งเปลี่ยนแปลงรูปร่างของกระบี่ไป สกัดกั้นพลังงานมังกรที่โกรธเกรี้ยว!

“หืม?!”

เห็นเช่นนั้นแล้ว ผู้คนได้แต่ตกตะลึง!

แล้วในขณะที่ผู้คนกำลังตกตะลึกอยู่นั้น หนิงฝานก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า พลางหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “วันนี้มาดูกันว่า ข้าหนิงฝานผู้นี้ จะใช้กระบี่ทั้งหนึ่งแสนแปดพันเล่มปิดผนึกแคว้นเซียนได้เช่นไร!”

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

ชั่วพริบตานั้น กล่องสมบัติเซียนกระบี่ในมือของหนิงฝานสั่น แล้วกระบี่เล่มที่สองก็ส่งเสียงดังกึกก้องออกมาจากที่ห่างไกลออกไปอีกกว่าพันลี้ ตามมาด้วยกระบี่เล่มที่สาม เล่มที่สี่ เล่มที่ห้า เล่มที่หก…

ตอนนั้นเอง ณ ชายแดนแคว้นเซียนที่กว้างใหญ่ กระบี่ทั้งหนึ่งแสนแปดพันเล่มเริ่มก่อค่ายกลผนึกสวรรค์ขึ้น แต่ละผนึกครอบคลุมไปถึงหลายพันลี้ กระบี่ต่อกระบี่ ผนึกต่อผนึก เพียงไม่กี่อึดลมหายใจ รูปแบบค่ายกลผนึกสวรรค์ขนาดมหึมาก็ก่อตัวขึ้น และแสงต้องห้ามก็ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ครอบคลุมไปทั้งแคว้นเซียน!

“นี่มัน…ค่ายกลผนึก!”

“หืม! นี่มันค่ายกลการผนึกอันใด เหตุใดจึงสามารถครอบคลุมไปทั้งแคว้นเซียนได้!”

“สมควรตาย! หนิงฝาน เจ้าทำอะไรกับแคว้นเซียน!?”

“บ้าไปแล้ว! ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถปิดผนึกแคว้นเซียนได้!”

“เร็วเข้า ร่วมมือกัน ทำลายการผนึกนี้!”

“…”

ได้ยินเช่นนั้นแล้ว ผู้คนก็ร่วมมือกัน ลงมือทันที!

บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

ในเวลานี้ เพื่อที่จะทำลายค่ายกลผนึก พวกเขาต่างใช้พลังทั้งหมดที่ตนเองมี ระดมพลังกึ่งเซียนโจมตีเข้าใส่ค่ายกลผนึกสวรรค์ขนาดใหญ่!

แต่หลังจากเสียงกึกก้องพวกนี้ ค่ายกลผนึกสวรรค์กลับสามารถขัดขวางพลังทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย และไม่มีแม้แต่ระลอกคลื่นพลังที่ผันผวนปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่นิด!

“หึ ๆ! อย่าได้เสียแรงเปล่าเลย ค่ายกลผนึกสวรรค์นี้สร้างขึ้นมาจากกระบี่ทั้งหนึ่งแสนแปดพันเล่ม และกระบี่ทุกเล่มก็ถูกแกะสลักด้วยค่ายกลผนึกสวรรค์ขนาดใหญ่ รวมกันแล้วกลายเป็นค่ายกลผนึกสวรรค์หนึ่งแสนแปดพันชิ้น สามารถสยบศัตรูที่ขอบเขตต่ำกว่าเซียนธุลีสีชาดได้ทั้งหมด!” หนิงฝานอธิบายออกมาด้วยสีหน้าแย้มยิ้มเล็ก ๆ

“บัดซบ!”

ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของผู้คนก็ซีดลง!

ต่อมาผู้คนต่างไม่เต็มใจที่จะถูกขังเอาไว้ และเริ่มพยายามคิดหาวิธีเพื่อทำลายค่ายกลผนึกนี้อีกครั้ง!

ทว่าหนิงฝานหาได้สนใจไม่ เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนท้องฟ้า และมองข้ามทะเลไปยังทิศของแคว้นรกร้าง!

ร่างจริงของเขาควรจะกลับไปถึงแคว้นรกร้างแล้ว!

…

ณ แคว้นรกร้าง

หลังจากการเดินทางอันยาวนาน หนิงฝานก็พาคนของสำนักเซียนกระบี่นับล้านกลับมาถึงแคว้นรกร้างแล้ว!

“หืม ที่นี่คือแคว้นรกร้างงั้นหรือ! คือแดนดินที่พลังจิตวิญญาณระดับสุริยันได้ฟื้นฟูเต็มที่แล้ว!”

เพียงแค่เหยียบเข้ามาในแคว้นรกร้าง ผู้คนของสำนักเซียนกระบี่ก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา!

แคว้นรกร้างในวันนี้กับแคว้นรกร้างในวันที่หนิงฝานจากไป นับว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก!

พลังปราณฟ้าดินในอากาศหนาแน่น ไม่ว่าจะมองไปทางใด ก็มีแต่พืชพรรณที่เป็นโอสถวิเศษและหญ้าศักดิ์สิทธิ์เจริญเติบโต ทอดเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา ภูเขารกร้างที่เคยแห้งแล้งกลายเป็นภูเขาแห่งจิตวิญญาณ แม่น้ำที่เคยไหลผ่านกลายเป็นแม่น้ำแห่งจิตวิญญาณ!

มองไปก็ราวกับแดนสวรรค์บนดิน!

“เฮือก!”

ในเวลานี้ หนิงฝานเองยังอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก ๆ!

แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่า หากพลังจิตวิญญาณระดับสุริยันถูกฟื้นฟูจนเต็มที่ แคว้นรกร้างจะต้องเปลี่ยนไปแน่นอน ทว่าสภาพฟ้าดินในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากความคาดหมายของเขาอย่างเหนือจินตนาการอยู่ดี!

นี่หาใช่การเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่มันคือโลกใบใหม่ต่างหาก!

“ไปเถอะ กลับไปที่เมืองหลวงของราชวงศ์เทพขนนก!”

หลังจากได้สติกลับคืนมา หนิงฝานก็พาคนของสำนักเซียนกระบี่กลับไปยังเมืองหลวงราชวงศ์เทพขนนก!

ในระหว่างทางนั้น สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์แห่งแคว้นรกร้างได้!

เมื่อก่อนปราชญ์ยุทธ์แห่งแคว้นรกร้างนั้นมีน้อยมาก แต่ในวันนี้ไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็พบเจอได้ แม้แต่เทพยุทธ์ก็มีอยู่เต็มไปหมด ในบางครั้งยังสามารถพบเห็นเทพปฐพีและเทพสวรรค์ได้อีกด้วย!

หลังจากตื่นตามาตลอดเส้นทาง หนิงฝานก็กลับมาถึงเมืองหลวงแห่งราชวงศ์เทพขนนกเป็นที่เรียบร้อย!

เมืองหลวงแห่งราชวงศ์เทพขนนกในวันนี้ แม้ว่าจะมีขนาดเท่ากับเมื่อก่อน ทว่าภายในกลับมีพลังปราณที่ไร้สิ้นสุด และยังมีมนต์เสน่ห์แห่งเมืองเซียนอยู่ด้วย!

“ท่านผู้พิทักษ์เทพกลับมาแล้ว!”

“ท่านผู้พิทักษ์เทพกลับมาแล้ว!”

“ท่านผู้พิทักษ์เทพกลับมาแล้ว!”

“…”

ทันทีที่หนิงฝานกลับมา ผู้คนภายในเมืองหลวงแห่งราชวงศ์เทพขนนกต่างโห่ร้องบอกต่อกัน ทำให้เกิดความครึกครื้นขึ้นในทันที!

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ไม่นานนัก ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากพระราชวังเทพขนนก คนผู้นั้นอยู่ในอาภรณ์สีขาวราวหิมะ รูปร่างพิลาสล้ำ และนั่นย่อมต้องเป็นจักรพรรดินีหลัวชิงเซียน!

ด้านหลังของนางตามมาด้วยขันทีเว่ย เว่ยเสวียน อวี้เฉิง หลินชิงอวี่ ปราชญ์ผู้นำทั้งเจ็ด บรรพชนทั้งสิบ ผู้พิทักษ์สุสาน ผู้ฝึกยุทธ์อิสระเหลียงอิ้นหยวน เทียนจวินและคนอื่น ๆ!

“สามีข้า!”

หลัวชิงเซียนอดไม่ได้ที่จะเรียกเขามาแต่ไกล ใบหน้างดงามนั้นเต็มไปด้วยความคิดถึงอย่างยิ่งยวด!

เห็นเช่นนั้นแล้ว หนิงฝานก็พาผู้อาวุโสของสำนักเซียนกระบี่เข้าไปใกล้ ๆ เขายิ้มออกมาในที่สุด “ภรรยา ข้ากลับมาแล้ว!”

“กลับมาก็ดีแล้ว!”

หนิงฝานจากไปนานถึงหลายสิบปี หลัวชิงเซียนอดรนทนความโหยหานี้ นางแทบรอไม่ไหวที่จะกลับเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของสามีอีกครั้ง แต่เพราะตำแหน่งจักรพรรดินีของนาง ทำให้นางต้องยับยั้งตนเองเอาไว้!

หลังจากนั้น นางก็มองไปยังคนของสำนักเซียนกระบี่ และพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “สามีข้า คนพวกนี้คือ…?”

“เคารพท่านผู้นำ!”

โดยไม่รอให้หนิงฝานแนะนำ คนของสำนักเซียนกระบี่ก้าวไปข้างหน้าและเคารพหลัวชิงเซียนในทันที!

หลัวชิงเซียนที่เป็นจักรพรรดินีเกิดอาการมึนงง!

ทว่าในตอนนี้เอง หนิงฝานพลันพูดขึ้น “ภรรยาข้า กลับไปยังพระราชวังก่อนเถิด ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังเอง!”

“ได้!”

หลัวชิงเซียนทราบดีว่า ประสบการณ์ต่าง ๆ ของหนิงฝานกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้หมดด้วยเพียงคำพูดไม่กี่ประโยค จึงได้พาทุกคนกลับไปที่พระราชวังเทพขนนก!

…

ณ พระราชวังเทพขนนก

เมื่อนั่งฟังหนิงฝานเล่าเรื่องราว บรรดาขุนนางของราชวงศ์ซึ่งนำโดยจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนก็เปลี่ยนจากความความกังวลใจเป็นตกใจ อารมณ์แปรปรวนยิ่งนัก!

ในที่สุด หลังจากหนิงฝานเล่าจบ ผู้คนก็ต้องตกตะลึง!

แต่หลังจากความตกใจหายไป หลัวชิงเซียนก็พูดขึ้นว่า “สามีข้า แม้ว่าท่านจะใช้ค่ายกลผนึกสวรรค์ปิดผนึกทั้งแคว้นเซียน แต่หากเซียนธุลีสีชาดผู้นั้นจุติอีกครั้งแล้ว ข้าเกรงว่านี่อาจจะเป็นแค่การรับมือเพียงชั่วคราว! ”

หนิงฝานพยักหน้า  “มิผิดหรอก แม้ว่าค่ายกลผนึกสวรรค์จะสามารถขัดขวางกึ่งเซียนเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางเซียนธุลีสีชาดได้ ทว่าผู้ฝึกยุทธ์แคว้นเซียนก็ไม่อาจเปิดค่ายกลผนึกสวรรค์ออกได้เช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขามีแต่เพียงต้องไปที่ตำหนักเซียน รอให้เซียนธุลีสีชาดผู้นั้นจุติอีกครั้ง และแม้ร่างกายของเซียนธุลีสีชาดจะถูกข้าทำลายทิ้งไปแล้ว ทว่าหากมีการสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ การเกิดใหม่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้!  ”

“เช่นนั้นควรทำเยี่ยงไรดี?” ผู้คนต่างจริงจังกันมาก!

อีกฝ่ายเป็นถึงเซียนธุลีสีชาด เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งมากที่สุด หากว่าฟื้นคืนชีพมาได้ ผู้ใดจะสามารถสู้กับเขาได้!

หนิงฝานส่ายหัวและพูดว่า “ในตอนนี้ยังไม่มีวิธีใด ทำได้เพียงแค่พยายามฝึกฝนพลังต่อไป แน่นอนว่าการกลับมาในครั้งนี้ ข้าจะลองทะลวงขอบเขตเซียนธุลีสีชาดดู ส่วนพวกเจ้าก็ต้องเร่งเตรียมการรับมือกับแคว้นเซียนให้ดี!”

พรึ่บ!

พูดจบ ชายหนุ่มก็หยิบแหวนเก็บของออกมามอบให้หลัวชิงเซียน ในนั้นมีสมบัติเซียนที่เป็นสุดยอดพลังเทพ ซึ่งหลายปีมานี้ หนิงฝานได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ มิหนำซ้ำ ในนั้นยังมีแม้กระทั่งเคล็ดวิชาเซียน!

“อืม คงทำได้เพียงเท่านี้แล!”

หลัวชิงเซียนรับแหวนเก็บของไป จากนั้นก็เริ่มการประชุมราชวงศ์เทพขนนก เพื่อเตรียมการเรื่องทำสงครามกับแคว้นเซียน

ส่วนหนิงฝานนั้น เขากลับไปยังวังจักรพรรดินีเพื่อเริ่มวางแผนทะลวงขอบเขตเซียนธุลีสีชาด!